แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คิดอย่างไรเรื่องความทะเยอทะยานครับ?แฮร์รี่พอตเตอร์ ไลท์โนเวล  (อ่าน 1734 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,402
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ช่วงนี้ผมเจอเล่นเควสต์ เจอบอกเรื่องราวของความหมายของชื่อของพ่อมดมาน่ะครับว่าชื่อส่งผลต่อชีวิต

โดยแฮร์รี่ มาจากสองคำผสมกันคือคำว่า "บ้าน"กับ"อำนาจ"

ว่าชื่อของพ่อมดจะกำหนดชะตาของเรา

แต่แฮร์รี่เลือก"บ้าน" มากกว่า"พลัง"นั่นเอง
เรียกว่าเป็นผู้ชนะในแบบของตนเอง หากว่ากันถึงที่สุดว่าหากเรามองว่าชัยชนะคือการที่ได้ในสิ่งที่เราต้องการและมีความสุขกับมัน


ดัมเบิ้ลดอร์ก็เคยเป็นคนทะเยอทะยาน แต่ความจริงก็มาเคาะประตูว่าเราต้องดูแลน้องสาวที่เสียสติ และสูญเสียครอบครัวไป :'(

ทุกท่านมองว่าอย่างไรครับ เรื่องความทะเยอทะยานกับอำนาจในนิยายเหล่านี้?
หรือไลท์โนเวลที่พยายามจะออกแนวสโลไลฟ์ต่างๆ
ผมว่าแนวคิดคล้ายๆกันคือ เราหาความสุขใจให้ตนเองก็พอแล้ว

ปัญหาคือ ผมเจอวิเคราะห์อีกอย่างหนึ่ง

"การหาความสุขให้ตนเอง" ที่แท้จริงแล้วมันเป็นอะไรที่เป็นกระแสหลักอยู่เหมือนกัน

แต่ที่ผมเจอคนวิเคราะห์อีกยอ่างคือ

คนมองว่า ตัวร้ายน่าสนใจ เพราะทางเทคนิค พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงโลก

แต่พวกฝ่ายดีต้อกงารทำให้โลกยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ไม่เปลี่ยนแปลงมันล่ะดีแล้ว

เพราะกลัวว่าเปลี่ยนแปลงแล้วจะแย่กว่าเดิม?
มองว่าอย่างไรกันบ้างครับในแง่นี้?

เจเคพยายามอ้างว่า แฮร์รี่กับพวกเปลี่ยนแปลงโลกเวทมนตร์ตอนที่มีอำนาจแล้ว แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างอีท่าไหนกัน

แนวสตาวอส์คนก็วิจารณ์ว่า

ภาคหลังๆติดนิสัยว่าต้องการทำให้ฝ่ายพระเอกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่เสมอ

แม้ทางเทคนิคฝ่ายนางเอก เป็นรัฐบาลมาหลายสิบปีแล้ว

เหมือนกันเรื่องแนวเกิดใหม่เป็นนางร้าย ตัวร้าย ที่คนเขียนไม่สามารถยอมรับการเป็นฝ่ายได้เปรียบของตัวร้ายได้ ต้องเขียนเหตุผลสารพัด ให้ไม่ได้เปรียบกว่าคนอื่นนั่นเอง

ว่านิยายแนวนี้หรือแม้แต่ไลท์โนเวล พยายามสื่อว่าความทะเยอทะยานคือเรื่องไม่ดี


นารุโตะที่เหมือนจะทะเยอทะเยานเป็นโฮคาเงะ คนเขียนก็ลงเอยด้วยการหน้าตาห่อเหี่ยวไม่มีความสุขกับการเป็นโฮคาเงะว่างั้น

อย่างกับจะล้อเลียนว่าความทะเยอทะยานมันก็แค่นี้
ทั้งที่เป็นธีมของเรื่องมาตลอด

อ.โอดะ มองอาการล่วงหน้าได้โดยการทำให้ลูฟี่มองว่าการผจญภัยสำคัญกว่าตัววันพีซเอง

ว่าให้เราทำอะไรสักอย่างน่ะ สำคัญกว่าเป้าหมาย

ผมว่าแนวคิดคล้ายๆกับแนวหัวหน้ากองกำลัง ตู้ฝูเว่ยในมังกรคู่สู้สิบทิศน่ะครับ

ที่บอกว่า

"ข้าร่วมชิงแผ่นดิน เพราะไม่ต้องการอยู่อย่างเงียบเหงาเท่านั้น"

พุดง่ายๆคือสำเร็จหรือล้มเหลวไม่สนใจ ขอเพียงได้ต่อสู้ก็พอใจแล้ว

มันอาจจะเป็นเรื่องจริงของความทะเยอทะยานว่าคนละอย่างกับแนวสโลไลฟ์

ว่าคนหนึ่งต้องการต่อสู้ คนหนึ่งต้องการอยุ่แบบเดิมไม่เสียความสุขไป

มองว่าอย่างไรกันบ้างครับในแง่นี้?

มีคนบอกว่าการมองคนมีความทะเยอทะยานนั้นที่จริงมีความรู้สึกยิ่งใหญ่กว่า
วันพีซ โฮคาเงะเลยเป็นเป้าหมายที่สะท้อนจิตใจของผู้คนจนเป็นที่นิยมมากกว่าสโลไลฟ์หากเรานับกันจริงๆ

หรือแม้แต่บลีช ตอนหลังๆก็พยายามเฉลยว่าตัวร้ายอย่างไอเซ็น หรือยูฮาบัค ก็พยายามเปลี่ยนแปลงโลกที่เป็นอยู่นั่นเอง

มันคือเรื่องของความทะเยอทะยาน ที่ทำให้คนอ่านชอบ แม้จะล้มเหลวก็ตามหรือเปล่าครับ?
บางครั้งผลลัพธ์มันก็ไม่สำคัญเท่ากับการต่อสู้

ที่ทำให้คนเราชอบตัวร้ายมาตลอด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2021, 11:09:01 AM โดย samuison »
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ในกรณีแฮรี่อำนาจเป็นเรื่องเกินตัวแม้พ่อมดตัวร้ายจะมีพลังแต่พ่อมดคนอื่นก็มีที่เกินตัวคือตัวร้ายไม่ได้เก่งหรือมีอำนาจอะไร จะไปเปรี่ยนอะไรได้ในแฮรี่วอเดอมอมันเหมือนโจรชื่อดังที่ปล้นฆ่าหลายคดีในสองสามเมืองแค่นั้น แต่ในสตาร์วอตัวร้ายมีพลังมากพอจะเปรี่ยนโลกมีพลังจึงทำสิ่งต่างๆที่่ตัวเองคิดได้สองเรื่องนี้ผิดกันลิบลับ สุดท้ายวอเดอร์มอต้องการอะไรแทบไม่มีเหตุผลเป็นรูปประธรรมจะบอกว่าเกลียดเลือดสีโคลนแต่ตัวเองก็เป็น ในแฮรี่ตัวร้ายมันคือตัวร้ายแบบโจรไร้เหตุผลไร้อุดมการ์ณเลยมันจึงเป็นเหตุผลที่เรื่องมีพล็อดโฮลเยอะ แต่สตาร์วอมันมีเหตุผลที่ต้องการเปรี่ยนแปลงด้วยกฏที่ไม่มีเหตุผลของเจไดทำไห้เข้าร่วมกับซิต หรือการวางหมากมาอย่างยาวนานความทะเยอทะยานมีได้แต่ต้องมีพลังที่จะทำครับ ท่านคิดว่าตัวร้ายแฮรี่กับตัวร้ายสตาร์วออันไหนดูมีน้ำหนักน่าจดจำกว่าแม้สุดท้ายจะแพ้ตายทังคู่ แต่ฝ่ายหนึ่งมีอิมแพคเยอะกว่ามากแม้ว่าเอฟเฟกสมัยก่อนจะง่อยกว่ามาก

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
ผมมองว่ามันต้องมีจุดสายกลางนะ ถ้าสถานะการณ์สงคราม หรือเลวร้าย ทางที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมมันต้องทะเยอทะยานเพื่อได้อำนาจ เหมือน เฮอไมโอนี่สุดที่รัก ที่พยายามดันตัวเองให้ได้ตำแหน่งสูงๆ เพื่อปกป้องสิทธิพวกเลือดโคลนและพวกเอลฟ์ แฮรี่ ดัมเบิ้ลดอร์ และเพื่อนๆ ก็ต้องช่วยกันหาไม้เอลเดอร์ เพื่อสู้ กับผู้ไม่อาจเอ่ยนาม


ส่วนถ้าจุดประสงค์คือความสุข ก็ต้องมีอำนาจนิดหน่อย คือมีเสรีภาพตามสมควร มีเงินในระดับชนชั้นกลางไม่ต้องรวยก็ได้แต่อย่าจนเป็นหนี้เกินตัว ยกเว้นผ่อนบ้าน มีทัศนคติที่ดี มีผลการวิจัยว่ารายได้ก็แปรผันตรงกับความสุขเหมือนกัน
 

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 21,216
  • ถูกใจแล้ว: 7163 ครั้ง
  • ความนิยม: +588/-548
ผมมองว่าความทะเยอะทะยานมันเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความดีหรือความชั่วนะเเต่เป็นแรงกระตุ้นเราพัฒนาหรือหาวิธีการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายในกรณีที่มีแต่พอสมควรนะซึ่งในกรณีนี้เป้าหมายและเครื่องมือที่ต้องการคืออำนาจ  ดังนั้นในเรื่องที่ท่านยกมาทั้งหมดทั้ง2ฝ่ายถ้ามองในแง่เหตุเป็นแรงกระตุ้นของการกระทำจึงไม่ถือว่ามีฝ่ายไหนหรือฝ่ายไหนชั่วเพียงแต่โดยวิธีการและผลลัพธ์ทำให้สังคมแบ่งแยกเป็นฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: 29Forever

ออฟไลน์ 29Forever

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 517
  • ถูกใจแล้ว: 256 ครั้ง
  • ความนิยม: +12/-53
เชื่อเช่นกันว่า  ชื่อมีผลต่อกำรดำเนินชีวิต  มีผลต่อชะตะ  อย่างน้อย  ถ้าดันตั้งชื่อพิเรนท์ 
ก็อ่านยาก  ยุ่งยากในชีวิต   :P



ตัวร้ายต้องการเปลี่ยนโลก  ตัวดีก็ต้องการเปลี่ยนโลกเช่นกัน  ส่วนตัวเอกก็ไม่หมายถึง
อยากให้โลกไร้การเปลี่ยนแปลงสักหน่อย  ทั้งตัวดีตัวร้าย  เราต้องดูว่า  พวกเขาต้องการ
เปลี่ยนโลกในทิศทางไหนต่างหากหล่ะ  ระบบการปกครองมันจึงสมควรมีฝ่ายค้านหรือ
ที่ในจีนจะเรียกว่า  คันฉ่อง  แบบในสมัยถังไท่จงไง  ^^



ส่วนตัวร้าย  นางร้ายในนิยาย  ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำให้เสียเปรียบสักหน่อย  มันอยู่ที่
การเล่าเรื่อง  ยิ่งถ้าเป็นแนวไปเป็นตัวร้ายในโอโตเมะ  ยิ่งจะมีอะไรๆให้ได้เปรียบเยอะ
แถมถ้ายิ่งเป็นนิยายแนวตลก  หรือแนวโรแมนติกจ๋า  นางเอกที่เป็นตัวร้าย  จะยิ่งมี
อะไรๆที่ได้เปรียบเยอะมาก  ทุกอย่างอยู่ที่คนแต่งนิยายจะทำอย่างไรให้สนุกน่าติดตาม



ความทะเยอทะยาน  ไม่ใช่ความไม่ดี  ความไม่ดีที่มีเหตุมาจากความทะเยอทะยานนั้น
มันมีเหตุมาจากทะเยอทะยานไม่รอบคอบ  ทะเยอทะยานในสิ่งที่ไม่ดี  มันจึงไม่ดี  ^^



นารุโตะทะเยอทะยานเป็นโฮคาเงะ  แล้วในที่สุดนารุโตะก็ได้ทำงานอย่างที่ตัวเองใฝ่ฝัน
มันก็เหมือนเราๆท่านๆทะเยอทะยานอยากทำงานที่อยากทำ  ฝันที่อยากจะเป็นจะทำ
ความสนุกในตอนที่ก้าวเดินในเส้นทางที่เราเลือก  มันสนุกนะ  อาจมีเปรี้ยวเผ็ดขม  แซม
อยู่บ้าง  แต่นี่หล่ะรสชาติที่อร่อย~



"ข้าร่วมชิงแผ่นดิน เพราะไม่ต้องการอยู่อย่างเงียบเหงาเท่านั้น"  ก็จริง  เพราะมันสนุกไง
^^



แนวสโลไลฟ์ไม่ได้หมายความว่าต้องการอยู่อย่างเดิม  แต่หมายถึงต้องการใช้ชีวิตไป
เรื่อยๆ  ชิวๆ  ชิคๆ  มันไม่ได้หมายถึงให้หยุดอยู่กับที่  ยกตัวอย่างก็  สโลว์ไลฟ์ไปใช้ชีวิต
เกษตรในต่างโลก  ท่านลูกสมุยเคยอ่านเรื่องนี้มั๊ย  พระเอกมีเมียเยอะมาก  ฮาเร็มที่อาจจะ
ไม่ค่อยสมจริงในเรื่องจำนวนลูก  เพราะควรมีลูกมากกว่านี้  เหล่าแม่ของลูกพระเอกควรจะ
คลอดหัวปีท้ายปี  ^^ 



ไอเซ็นหรือตัวร้ายใดๆ  ก็แค่ต้องการให้โลก  ให้สังคม  ให้ประเทศ  เป็นไปตามทิศทางที่
ตัวเองอยากให้เป็น  ไม่ต่างอะไรจากคนดี  ตัวเอก  ก็แค่เป็นทัศนคติต่างกันของอุดมคติ



มันคือความทะเยอทะยานที่ทำให้ผู้อ่านชอบ  แม้จะล้มเหลวสินะ  แล้วท่านก็คิดว่าผลลัพท์
ไม่สำคัญเท่ากับการต่อสู้  อันที่จริงผมคิดว่า  ความสนุกของมัน  ทั้งในนิยายหรือชีวิตจริง
ความสนุกของมันอยู่ในช่วงขณะที่เราก้าวเดินไปตามเส้นทางที่ฝัน  [แม้จะไปไม่ถึงดวงดาว
แต่ก็ได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า]  ทุกคนต่างก็จ้องจะจับจอยเกมซิม  โลกเรามันก็ฉะนี้เอง~
 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
อ่านทู้นี้แล้วนึกถึงบาป 7 ประการเลยแฮะ  ความทะเยอทะยาน  ลูซิเฟอร์เจ้าแห่งหนึ่งในบาปทั้งเจ็ด
ผู้ไม่เกรงกลัวซาตานและต่อกรกับพระเจ้า 
 

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 21,216
  • ถูกใจแล้ว: 7163 ครั้ง
  • ความนิยม: +588/-548
อ่านทู้นี้แล้วนึกถึงบาป 7 ประการเลยแฮะ  ความทะเยอทะยาน  ลูซิเฟอร์เจ้าแห่งหนึ่งในบาปทั้งเจ็ด
ผู้ไม่เกรงกลัวซาตานและต่อกรกับพระเจ้า 
ลูซิเฟอร์นี่บาปแห่งความหยิ่งยะโสครับ ไม่ใช่ทะเยอทะยาน
 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
[quote/]ลูซิเฟอร์นี่บาปแห่งความหยิ่งยะโสครับ ไม่ใช่ทะเยอทะยาน

ทะเยอทะยานถูกขับเคลื่อนด้วยพราวไง  ^^ 
ถ้าทะเยอทะยานถูกขับเคลื่อนด้วยบาปความโลภ  มันก็จะออกมาอีกรูปแบบนึง  แบบแย่ๆ
และยิ่งถ้าทะเยอทะยาน  ดันถูกขับเคลื่อนด้วยบาปริษยา  ยิ่งแย่ใหญ่  เพราะมันคือการทำลายผู้ที่ดีกว่าตน
 

ออฟไลน์ Handsome

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 66
  • ถูกใจแล้ว: 54 ครั้ง
  • ความนิยม: +6/-11
โอ๊ว ท่านเจ้าของกระทู้เข้ามา!!  เพื่อจะถกแล้ว  ^^  วันนี้ยอมนอนช้า  รอคคห.ท่านลูกสมุย  ^^
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ IsekaiNetwork

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 633
  • ถูกใจแล้ว: 267 ครั้ง
  • ความนิยม: +20/-14
ยังพิมพ์ไม่เสร็จอีกเหรอ??  รอนานมั๊กกก 

EDIT :  ด้นสดเลยสิ  ไม่ต้องพิมพ์โดยอะไร  พิมพ์ตามความรู้สึก  อย่างผมเนี่ย  ไม่เคยพิมพ์เกินห้านาทีหรอก
อ๊ะ!!  ไม่พิมพ์เกินแปดนาทีหล่ะกัน  หรือไม่พิมพ์เกินสิบนาทีหว่า??   ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2021, 11:25:49 AM โดย IsekaiNetwork »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,402
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ในกรณีแฮรี่อำนาจเป็นเรื่องเกินตัวแม้พ่อมดตัวร้ายจะมีพลังแต่พ่อมดคนอื่นก็มีที่เกินตัวคือตัวร้ายไม่ได้เก่งหรือมีอำนาจอะไร จะไปเปรี่ยนอะไรได้ในแฮรี่วอเดอมอมันเหมือนโจรชื่อดังที่ปล้นฆ่าหลายคดีในสองสามเมืองแค่นั้น แต่ในสตาร์วอตัวร้ายมีพลังมากพอจะเปรี่ยนโลกมีพลังจึงทำสิ่งต่างๆที่่ตัวเองคิดได้สองเรื่องนี้ผิดกันลิบลับ สุดท้ายวอเดอร์มอต้องการอะไรแทบไม่มีเหตุผลเป็นรูปประธรรมจะบอกว่าเกลียดเลือดสีโคลนแต่ตัวเองก็เป็น ในแฮรี่ตัวร้ายมันคือตัวร้ายแบบโจรไร้เหตุผลไร้อุดมการ์ณเลยมันจึงเป็นเหตุผลที่เรื่องมีพล็อดโฮลเยอะ แต่สตาร์วอมันมีเหตุผลที่ต้องการเปรี่ยนแปลงด้วยกฏที่ไม่มีเหตุผลของเจไดทำไห้เข้าร่วมกับซิต หรือการวางหมากมาอย่างยาวนานความทะเยอทะยานมีได้แต่ต้องมีพลังที่จะทำครับ ท่านคิดว่าตัวร้ายแฮรี่กับตัวร้ายสตาร์วออันไหนดูมีน้ำหนักน่าจดจำกว่าแม้สุดท้ายจะแพ้ตายทังคู่ แต่ฝ่ายหนึ่งมีอิมแพคเยอะกว่ามากแม้ว่าเอฟเฟกสมัยก่อนจะง่อยกว่ามาก
มีคนวิเคราะห์ว่าโวลเดอมอร์ในเล่มแรกๆนั้นน่ากลัวกว่าโวลเดอมอร์ในเล่มหลังๆ
ผมว่าที่ต่างกันคือ พัลพาทีนยยังพอจะเปลี่ยนใจลุคได้แบบฉิวเฉียด
แต่โวลเดอมอร์ท่าทางจะเปลี่ยนใจแฮร์รี่ไม่ได้ กลายเป็นตัวร้ายที่ดูแค่บ้าอย่างเดียว
แต่ก็กลับมาที่เดิทมล่ะครับ

พัลพาทีนมีข้อดีคือ เรารู้ว่าเขาจะทำอะไร ฝ่ายกบฎต่อต้านในสตาวอส์ได้ครองจักรวาลมาหลายสิบปีก็ดูไม่มีอะไรต่างจากเดิม
โวลเดอมอร์เราว่างั้นงี้ แต่ก็ก็ดำเนินนโยบายอย่างเปลี่ยนแบบเรียนการศึกษา เปลี่ยนนโยบายปฏิบัติต่อเลือดสีโคลนและอื่นๆ ที่เราได้เห็นในเล่มเจ็ดน่ะครับ ???
คือมันคือการเปลี่ยนแปลง แต่จะดีไม่ดีนั้นอีกเรื่องหนึ่ง
พัลพาทีนหากมองจากภาคแรก เราก็มองออกได้เหมือนกันว่าทำไมเปลี่ยนจากสาธารณรัฐเป้นจักรวรรดิได้
โอ๊ว ท่านเจ้าของกระทู้เข้ามา!!  เพื่อจะถกแล้ว  ^^  วันนี้ยอมนอนช้า  รอคคห.ท่านลูกสมุย  ^^
ขอบคุณท่านปาร๊ณาที่คิดถึงผมแม้วันอาทิตย์ครับ
[quote/]

ทะเยอทะยานถูกขับเคลื่อนด้วยพราวไง  ^^ 
ถ้าทะเยอทะยานถูกขับเคลื่อนด้วยบาปความโลภ  มันก็จะออกมาอีกรูปแบบนึง  แบบแย่ๆ
และยิ่งถ้าทะเยอทะยาน  ดันถูกขับเคลื่อนด้วยบาปริษยา  ยิ่งแย่ใหญ่  เพราะมันคือการทำลายผู้ที่ดีกว่าตน
ท่านลุกสาวดยุกนี่ แสดงว่าเจอคนที่ต้องการบั่นทอนตำแหน่งมาเยอะสินะครับ ฮาPride คงเป็นบาปที่ท่านไม่เคยเห็นว่าเป็นบาปจริงๆนั่นล่ะ แต่กลัว envy มากกว่า
ผมไปเจอแนวคิดประมาณ It is only hubris i f I failมันจะพเป็นความหลงตนเองถ้าผมทำพลาดเท่านั้น
เชื่อเช่นกันว่า  ชื่อมีผลต่อกำรดำเนินชีวิต  มีผลต่อชะตะ  อย่างน้อย  ถ้าดันตั้งชื่อพิเรนท์ 
ก็อ่านยาก  ยุ่งยากในชีวิต   :P



ตัวร้ายต้องการเปลี่ยนโลก  ตัวดีก็ต้องการเปลี่ยนโลกเช่นกัน  ส่วนตัวเอกก็ไม่หมายถึง
อยากให้โลกไร้การเปลี่ยนแปลงสักหน่อย  ทั้งตัวดีตัวร้าย  เราต้องดูว่า  พวกเขาต้องการ
เปลี่ยนโลกในทิศทางไหนต่างหากหล่ะ  ระบบการปกครองมันจึงสมควรมีฝ่ายค้านหรือ
ที่ในจีนจะเรียกว่า  คันฉ่อง  แบบในสมัยถังไท่จงไง  ^^



ส่วนตัวร้าย  นางร้ายในนิยาย  ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำให้เสียเปรียบสักหน่อย  มันอยู่ที่
การเล่าเรื่อง  ยิ่งถ้าเป็นแนวไปเป็นตัวร้ายในโอโตเมะ  ยิ่งจะมีอะไรๆให้ได้เปรียบเยอะ
แถมถ้ายิ่งเป็นนิยายแนวตลก  หรือแนวโรแมนติกจ๋า  นางเอกที่เป็นตัวร้าย  จะยิ่งมี
อะไรๆที่ได้เปรียบเยอะมาก  ทุกอย่างอยู่ที่คนแต่งนิยายจะทำอย่างไรให้สนุกน่าติดตาม



ความทะเยอทะยาน  ไม่ใช่ความไม่ดี  ความไม่ดีที่มีเหตุมาจากความทะเยอทะยานนั้น
มันมีเหตุมาจากทะเยอทะยานไม่รอบคอบ  ทะเยอทะยานในสิ่งที่ไม่ดี  มันจึงไม่ดี  ^^



นารุโตะทะเยอทะยานเป็นโฮคาเงะ  แล้วในที่สุดนารุโตะก็ได้ทำงานอย่างที่ตัวเองใฝ่ฝัน
มันก็เหมือนเราๆท่านๆทะเยอทะยานอยากทำงานที่อยากทำ  ฝันที่อยากจะเป็นจะทำ
ความสนุกในตอนที่ก้าวเดินในเส้นทางที่เราเลือก  มันสนุกนะ  อาจมีเปรี้ยวเผ็ดขม  แซม
อยู่บ้าง  แต่นี่หล่ะรสชาติที่อร่อย~



"ข้าร่วมชิงแผ่นดิน เพราะไม่ต้องการอยู่อย่างเงียบเหงาเท่านั้น"  ก็จริง  เพราะมันสนุกไง
^^



แนวสโลไลฟ์ไม่ได้หมายความว่าต้องการอยู่อย่างเดิม  แต่หมายถึงต้องการใช้ชีวิตไป
เรื่อยๆ  ชิวๆ  ชิคๆ  มันไม่ได้หมายถึงให้หยุดอยู่กับที่  ยกตัวอย่างก็  สโลว์ไลฟ์ไปใช้ชีวิต
เกษตรในต่างโลก  ท่านลูกสมุยเคยอ่านเรื่องนี้มั๊ย  พระเอกมีเมียเยอะมาก  ฮาเร็มที่อาจจะ
ไม่ค่อยสมจริงในเรื่องจำนวนลูก  เพราะควรมีลูกมากกว่านี้  เหล่าแม่ของลูกพระเอกควรจะ
คลอดหัวปีท้ายปี  ^^ 



ไอเซ็นหรือตัวร้ายใดๆ  ก็แค่ต้องการให้โลก  ให้สังคม  ให้ประเทศ  เป็นไปตามทิศทางที่
ตัวเองอยากให้เป็น  ไม่ต่างอะไรจากคนดี  ตัวเอก  ก็แค่เป็นทัศนคติต่างกันของอุดมคติ



มันคือความทะเยอทะยานที่ทำให้ผู้อ่านชอบ  แม้จะล้มเหลวสินะ  แล้วท่านก็คิดว่าผลลัพท์
ไม่สำคัญเท่ากับการต่อสู้  อันที่จริงผมคิดว่า  ความสนุกของมัน  ทั้งในนิยายหรือชีวิตจริง
ความสนุกของมันอยู่ในช่วงขณะที่เราก้าวเดินไปตามเส้นทางที่ฝัน  [แม้จะไปไม่ถึงดวงดาว
แต่ก็ได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า]  ทุกคนต่างก็จ้องจะจับจอยเกมซิม  โลกเรามันก็ฉะนี้เอง~
หมายถึงผมมองเรื่องของคนที่พยายามเป้นตัวร้ายและบอกว่า ตัวร้ายยากจน เพื่อนไม่คบ ไม่มีลุกน้องให้ใช้งานฯลฯ
สารพัดจะเอามาอ้าง อย่างไอริส ลูกสาวดยุกผมให้เครดิตว่า ยังมีลุกกระจ๊อกให้ใช้งานอยู่นั่นล่ะครับ
นี่คือนโยบายที่ผมเสนอมาตลอดว่าให้ตัดงบประมาณบุคลาการเสีย กับตำแนห่งตัวแทนต่างๆ
ต่อให้คนคนหนึ่งเก่งแค่ไหน ก็ทำงานอะไรไม่ได้แล้ว หากไม่มีคนให้ใช้งานทำตามคำสั่ง
เพระาไม่มีใครปกครองคนเดียวได้
บางครั้งผมก็คิดเหมือนกันว่าผู้ปกครองของเรากลัวความเบื่อหรือเปล่า? เมหือนกับจงใจให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟเสียอย่างนั้น
อยู่เฉยๆบ้านเมืองก็สงบแล้วแท้ๆ เฮ้อ
พุดง่ายๆคือแบบเดียวกับลุกสาวดยุกนั่นล่ะ อยู่เฉยๆคงสภาพเดิมก้นับว่าชนะ ได้เปรียบฝ่ายสามัญชนตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่ยอมเข้าสใจกันเสียที?
.....

นารุโตะ หากปกครองโคโนฮะได้ดีก็พอเข้าใจ
แต่ไปอ่านตามนิยายคนที่พัฒนาโคโนฮะเข้าสู่ยุคใหม่มีเครือ่งจักรไฮเทคเพียบคือคาคาชิล่ะครับ
ที่ทำให้วิทยาการก้าวไกล
มองในแง่หนึ่งผมมองว่า คือมุมมองของพวกพ่อแม่เรา ที่มองเห้ฯพวกเราว่ามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมากกว่าพวกเขาและมองว่าเราเหยาะแหยะว่าอย่างนั้น
ผมมองว่าความทะเยอะทะยานมันเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความดีหรือความชั่วนะเเต่เป็นแรงกระตุ้นเราพัฒนาหรือหาวิธีการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายในกรณีที่มีแต่พอสมควรนะซึ่งในกรณีนี้เป้าหมายและเครื่องมือที่ต้องการคืออำนาจ  ดังนั้นในเรื่องที่ท่านยกมาทั้งหมดทั้ง2ฝ่ายถ้ามองในแง่เหตุเป็นแรงกระตุ้นของการกระทำจึงไม่ถือว่ามีฝ่ายไหนหรือฝ่ายไหนชั่วเพียงแต่โดยวิธีการและผลลัพธ์ทำให้สังคมแบ่งแยกเป็นฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว
"ความขัดแย้ง" คือเชือ้เพลิงที่คนเขียนใช้เขียนเรื่องล่ะครับ
เขาบอกว่าตัวร้ายที่ดีคือตัวร้ายที่แม้เราจะยอมรับไม่ได้ แตจ่เข้าใจเหตุผลได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
อย่างกรินเดลวัล เจเคก็พยายามแต่งว่าเป็นคนที่มีบุคลิกดี จูงใจชาวบ้านชาวช่องให้ร่วมก่อการต่างๆได้พัลพาทีนก็คือนักการเมืองที่เป็นที่นิยม..เอ๊ะ มองดุดีดี พวกหัวหน้าแก๊งค์ตัวร้ายนี่เป็นคนมีค่าcha สูงมากเลยล่ะครับ หากนับเป็นเกมส์แนวสามก๊กแล้วล่ะก็
ผมมองว่ามันต้องมีจุดสายกลางนะ ถ้าสถานะการณ์สงคราม หรือเลวร้าย ทางที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมมันต้องทะเยอทะยานเพื่อได้อำนาจ เหมือน เฮอไมโอนี่สุดที่รัก ที่พยายามดันตัวเองให้ได้ตำแหน่งสูงๆ เพื่อปกป้องสิทธิพวกเลือดโคลนและพวกเอลฟ์ แฮรี่ ดัมเบิ้ลดอร์ และเพื่อนๆ ก็ต้องช่วยกันหาไม้เอลเดอร์ เพื่อสู้ กับผู้ไม่อาจเอ่ยนาม


ส่วนถ้าจุดประสงค์คือความสุข ก็ต้องมีอำนาจนิดหน่อย คือมีเสรีภาพตามสมควร มีเงินในระดับชนชั้นกลางไม่ต้องรวยก็ได้แต่อย่าจนเป็นหนี้เกินตัว ยกเว้นผ่อนบ้าน มีทัศนคติที่ดี มีผลการวิจัยว่ารายได้ก็แปรผันตรงกับความสุขเหมือนกัน
นั่นล่ะครับ มีการแซวในภาคเด็กชายต้องสาป ว่าหากเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้แต่งงานกลายเป้นสาวโสด เธอจะกลายเป็นอาจารย์ปแ้องกันตัวจากสษสตร์มืด ที่เด็กไม่ชอบแบบเดียวกับศาสตราจารย์สเนป :P

มัน ฮาดีเหมือนกัน หากเรามองว่าเป้นเรือ่ง what if โลกคู่ขนานว่าแต่ละคนปกครองโลกจะกลายเป็นอย่างไร

ที่ท่านกล่าวคล้ายๆ อริสโตเติลกล่าวไว้เหมอืนกันครับ
สังคมที่มั่นคง คือสังคมที่มีชนชั้นกลางจำนวนมาก
หากคนเราไม่ยากแค้นเกินไป ใครจะอยากกบฎ
ทำให้แนวคิดเรื่องพ่อมดแปลกๆเหมือนกัน เพระาพวกนี้มีชีวิตชิลๆกันอยู่แล้ว
ความอดอยากด้านอาหาร ไม่เคยเป็นปัจจัยสำคัญของพวกพ่อมดแม่มด....
แต่ก็หากมองหลายๆอย่างในภาคหนัง
ว่าที่เราเห้นอยู่อย่างไม่ขาดแคลน คือคนที่มีครอบครัวสนับสนุนร
เด็กที่มีเวทมนตร์แต่ไม่มีครอบครัว จะทำให้ต้องอดอยากอยู่ข้างถนน :'(
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Kopyor

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 154
  • ถูกใจแล้ว: 357 ครั้ง
  • ความนิยม: +21/-38
  • .
ผมชอบท่านก็ตรงที่  ตอบทุกกระทู้เนี่ยแหละ  ^^  มันทำให้เวปบอร์ดสนุกสนาน~ 
ทำให้อยากเล่นอยากตอบ  อยากถกอยากพูดคุย  ^^
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,402
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ผมชอบท่านก็ตรงที่  ตอบทุกกระทู้เนี่ยแหละ  ^^  มันทำให้เวปบอร์ดสนุกสนาน~ 
ทำให้อยากเล่นอยากตอบ  อยากถกอยากพูดคุย  ^^
เลื่อนตำแหน่งให้ผมตอนเดือนตุลาก็พอครับ หรือบอกข่าวอินไซเดอร์หุ้นกันบ้างก็ดีครับ ฮา :P
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
[quote/]
มีคนวิเคราะห์ว่าโวลเดอมอร์ในเล่มแรกๆนั้นน่ากลัวกว่าโวลเดอมอร์ในเล่มหลังๆ
ผมว่าที่ต่างกันคือ พัลพาทีนยยังพอจะเปลี่ยนใจลุคได้แบบฉิวเฉียด
แต่โวลเดอมอร์ท่าทางจะเปลี่ยนใจแฮร์รี่ไม่ได้ กลายเป็นตัวร้ายที่ดูแค่บ้าอย่างเดียว
แต่ก็กลับมาที่เดิทมล่ะครับ

พัลพาทีนมีข้อดีคือ เรารู้ว่าเขาจะทำอะไร ฝ่ายกบฎต่อต้านในสตาวอส์ได้ครองจักรวาลมาหลายสิบปีก็ดูไม่มีอะไรต่างจากเดิม
โวลเดอมอร์เราว่างั้นงี้ แต่ก็ก็ดำเนินนโยบายอย่างเปลี่ยนแบบเรียนการศึกษา เปลี่ยนนโยบายปฏิบัติต่อเลือดสีโคลนและอื่นๆ ที่เราได้เห็นในเล่มเจ็ดน่ะครับ ???
คือมันคือการเปลี่ยนแปลง แต่จะดีไม่ดีนั้นอีกเรื่องหนึ่ง
พัลพาทีนหากมองจากภาคแรก เราก็มองออกได้เหมือนกันว่าทำไมเปลี่ยนจากสาธารณรัฐเป้นจักรวรรดิได้
[quote/]
ขอบคุณท่านปาร๊ณาที่คิดถึงผมแม้วันอาทิตย์ครับ
[quote/]
ท่านลุกสาวดยุกนี่ แสดงว่าเจอคนที่ต้องการบั่นทอนตำแหน่งมาเยอะสินะครับ ฮาPride คงเป็นบาปที่ท่านไม่เคยเห็นว่าเป็นบาปจริงๆนั่นล่ะ แต่กลัว envy มากกว่า
ผมไปเจอแนวคิดประมาณ It is only hubris i f I failมันจะพเป็นความหลงตนเองถ้าผมทำพลาดเท่านั้น
[quote/]
หมายถึงผมมองเรื่องของคนที่พยายามเป้นตัวร้ายและบอกว่า ตัวร้ายยากจน เพื่อนไม่คบ ไม่มีลุกน้องให้ใช้งานฯลฯ
สารพัดจะเอามาอ้าง อย่างไอริส ลูกสาวดยุกผมให้เครดิตว่า ยังมีลุกกระจ๊อกให้ใช้งานอยู่นั่นล่ะครับ
นี่คือนโยบายที่ผมเสนอมาตลอดว่าให้ตัดงบประมาณบุคลาการเสีย กับตำแนห่งตัวแทนต่างๆ
ต่อให้คนคนหนึ่งเก่งแค่ไหน ก็ทำงานอะไรไม่ได้แล้ว หากไม่มีคนให้ใช้งานทำตามคำสั่ง
เพระาไม่มีใครปกครองคนเดียวได้
บางครั้งผมก็คิดเหมือนกันว่าผู้ปกครองของเรากลัวความเบื่อหรือเปล่า? เมหือนกับจงใจให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟเสียอย่างนั้น
อยู่เฉยๆบ้านเมืองก็สงบแล้วแท้ๆ เฮ้อ
พุดง่ายๆคือแบบเดียวกับลุกสาวดยุกนั่นล่ะ อยู่เฉยๆคงสภาพเดิมก้นับว่าชนะ ได้เปรียบฝ่ายสามัญชนตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่ยอมเข้าสใจกันเสียที?
.....

นารุโตะ หากปกครองโคโนฮะได้ดีก็พอเข้าใจ
แต่ไปอ่านตามนิยายคนที่พัฒนาโคโนฮะเข้าสู่ยุคใหม่มีเครือ่งจักรไฮเทคเพียบคือคาคาชิล่ะครับ
ที่ทำให้วิทยาการก้าวไกล
มองในแง่หนึ่งผมมองว่า คือมุมมองของพวกพ่อแม่เรา ที่มองเห้ฯพวกเราว่ามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมากกว่าพวกเขาและมองว่าเราเหยาะแหยะว่าอย่างนั้น
[quote/]
"ความขัดแย้ง" คือเชือ้เพลิงที่คนเขียนใช้เขียนเรื่องล่ะครับ
เขาบอกว่าตัวร้ายที่ดีคือตัวร้ายที่แม้เราจะยอมรับไม่ได้ แตจ่เข้าใจเหตุผลได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
อย่างกรินเดลวัล เจเคก็พยายามแต่งว่าเป็นคนที่มีบุคลิกดี จูงใจชาวบ้านชาวช่องให้ร่วมก่อการต่างๆได้พัลพาทีนก็คือนักการเมืองที่เป็นที่นิยม..เอ๊ะ มองดุดีดี พวกหัวหน้าแก๊งค์ตัวร้ายนี่เป็นคนมีค่าcha สูงมากเลยล่ะครับ หากนับเป็นเกมส์แนวสามก๊กแล้วล่ะก็[quote/]
นั่นล่ะครับ มีการแซวในภาคเด็กชายต้องสาป ว่าหากเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้แต่งงานกลายเป้นสาวโสด เธอจะกลายเป็นอาจารย์ปแ้องกันตัวจากสษสตร์มืด ที่เด็กไม่ชอบแบบเดียวกับศาสตราจารย์สเนป :P

มัน ฮาดีเหมือนกัน หากเรามองว่าเป้นเรือ่ง what if โลกคู่ขนานว่าแต่ละคนปกครองโลกจะกลายเป็นอย่างไร

ที่ท่านกล่าวคล้ายๆ อริสโตเติลกล่าวไว้เหมอืนกันครับ
สังคมที่มั่นคง คือสังคมที่มีชนชั้นกลางจำนวนมาก
หากคนเราไม่ยากแค้นเกินไป ใครจะอยากกบฎ
ทำให้แนวคิดเรื่องพ่อมดแปลกๆเหมือนกัน เพระาพวกนี้มีชีวิตชิลๆกันอยู่แล้ว
ความอดอยากด้านอาหาร ไม่เคยเป็นปัจจัยสำคัญของพวกพ่อมดแม่มด....
แต่ก็หากมองหลายๆอย่างในภาคหนัง
ว่าที่เราเห้นอยู่อย่างไม่ขาดแคลน คือคนที่มีครอบครัวสนับสนุนร
เด็กที่มีเวทมนตร์แต่ไม่มีครอบครัว จะทำให้ต้องอดอยากอยู่ข้างถนน :'(

พราวคือแก่น  พราวคือยึดมั่น  ไม่งั้นมีชีวิตต่อไปไม่ได้  พราวคือทุกๆสิ่งอย่าง  ^^  @samuison


เพลงนี้ต้องมา!!  [Epic Music] Kingsglaive Final Fantasy XV 2016-Star Sky

.
.
.
.
.

เกียรติ  เป้าหมายสูงสุด  ดีขม  สามคำที่ผมจ้องหน้ากระจกทุกวัน  ^^
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,402
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
[quote/]

พราวคือแก่น  พราวคือยึดมั่น  ไม่งั้นมีชีวิตต่อไปไม่ได้  พราวคือทุกๆสิ่งอย่าง  ^^  @samuison


เพลงนี้ต้องมา!!  [Epic Music] Kingsglaive Final Fantasy XV 2016-Star Sky
[youtube/]

.
.
.
.
.

เกียรติ  เป้าหมายสูงสุด  ดีขม  สามคำที่ผมจ้องหน้ากระจกทุกวัน  ^^

ท่าทางท่านจะมีปัญหาในครอบครัวมากนะครับนี่

อย่าคิดมากละกันครับ จากปรัชญาจีนว่าชีวิตคนไม่สมหวังแปดเก้าส่วนนั่นล่ะ

ว่าไปแล้ว เรื่องดีขม มันแสดงว่า ทำความดีแค่ไหนก็ลบเลือนความแค้นไมไ่ด้ แบบเดียวกับที่ มีคนกล่าวไว้ในคดีพระนางเรือล่มล่ะมั้ง


เมื่ออำนาจ วาสนามาเกี่ยว อะไรก็เกิดขึ้นได้
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Zenmaster_T

ออฟไลน์ ToodZy

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 84
  • ถูกใจแล้ว: 34 ครั้ง
  • ความนิยม: +1/-1
[quote/]

ท่าทางท่านจะมีปัญหาในครอบครัวมากนะครับนี่

อย่าคิดมากละกันครับ จากปรัชญาจีนว่าชีวิตคนไม่สมหวังแปดเก้าส่วนนั่นล่ะ

ว่าไปแล้ว เรื่องดีขม มันแสดงว่า ทำความดีแค่ไหนก็ลบเลือนความแค้นไมไ่ด้ แบบเดียวกับที่ มีคนกล่าวไว้ในคดีพระนางเรือล่มล่ะมั้ง


เมื่ออำนาจ วาสนามาเกี่ยว อะไรก็เกิดขึ้นได้

สามสิบลิขิตฟ้า~  เจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน!  ต้องสู้!!  ต้องสู้จึงจะชนะ!!
สามสิบทอดพอสุก~  เจ็ดสิบยังชุ่มฉ่ำ~  ต้องย่าง!  ต้องย่างแบบเอาเชนะ 

 :P :P :P
 

ออฟไลน์ SecurityGuard

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 127
  • ถูกใจแล้ว: 71 ครั้ง
  • ความนิยม: +5/-9
กินดิบแม่ง!!
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,402
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
[quote/]

สามสิบลิขิตฟ้า~  เจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน!  ต้องสู้!!  ต้องสู้จึงจะชนะ!!
สามสิบทอดพอสุก~  เจ็ดสิบยังชุ่มฉ่ำ~  ต้องย่าง!  ต้องย่างแบบเอาเชนะ 

 :P :P :P
มาเจินเจินเลยหรือนี่ อุํยแก่ :P
กินดิบแม่ง!!
กินอะไรครับท่ายาม? เนื้อม้าหรือเปล่า?
พวกลาบเลือดต่างๆผมก็สยองเวลาเห็นคนกินทุกที จะบอกว่ามันได้รสต่างจากสุกๆคนเลยชอบก็ได้มั้ง
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Mortem

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,218
  • ถูกใจแล้ว: 744 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-45
  • เพศ: ชาย
  • ก็แค่แมวที่ผ่านทางมา
[quote/]
มีคนวิเคราะห์ว่าโวลเดอมอร์ในเล่มแรกๆนั้นน่ากลัวกว่าโวลเดอมอร์ในเล่มหลังๆ
ผมว่าที่ต่างกันคือ พัลพาทีนยยังพอจะเปลี่ยนใจลุคได้แบบฉิวเฉียด
แต่โวลเดอมอร์ท่าทางจะเปลี่ยนใจแฮร์รี่ไม่ได้ กลายเป็นตัวร้ายที่ดูแค่บ้าอย่างเดียว
แต่ก็กลับมาที่เดิทมล่ะครับ

พัลพาทีนมีข้อดีคือ เรารู้ว่าเขาจะทำอะไร ฝ่ายกบฎต่อต้านในสตาวอส์ได้ครองจักรวาลมาหลายสิบปีก็ดูไม่มีอะไรต่างจากเดิม
โวลเดอมอร์เราว่างั้นงี้ แต่ก็ก็ดำเนินนโยบายอย่างเปลี่ยนแบบเรียนการศึกษา เปลี่ยนนโยบายปฏิบัติต่อเลือดสีโคลนและอื่นๆ ที่เราได้เห็นในเล่มเจ็ดน่ะครับ ???
คือมันคือการเปลี่ยนแปลง แต่จะดีไม่ดีนั้นอีกเรื่องหนึ่ง
พัลพาทีนหากมองจากภาคแรก เราก็มองออกได้เหมือนกันว่าทำไมเปลี่ยนจากสาธารณรัฐเป้นจักรวรรดิได้
[quote/]
ขอบคุณท่านปาร๊ณาที่คิดถึงผมแม้วันอาทิตย์ครับ
[quote/]
ท่านลุกสาวดยุกนี่ แสดงว่าเจอคนที่ต้องการบั่นทอนตำแหน่งมาเยอะสินะครับ ฮาPride คงเป็นบาปที่ท่านไม่เคยเห็นว่าเป็นบาปจริงๆนั่นล่ะ แต่กลัว envy มากกว่า
ผมไปเจอแนวคิดประมาณ It is only hubris i f I failมันจะพเป็นความหลงตนเองถ้าผมทำพลาดเท่านั้น
[quote/]
หมายถึงผมมองเรื่องของคนที่พยายามเป้นตัวร้ายและบอกว่า ตัวร้ายยากจน เพื่อนไม่คบ ไม่มีลุกน้องให้ใช้งานฯลฯ
สารพัดจะเอามาอ้าง อย่างไอริส ลูกสาวดยุกผมให้เครดิตว่า ยังมีลุกกระจ๊อกให้ใช้งานอยู่นั่นล่ะครับ
นี่คือนโยบายที่ผมเสนอมาตลอดว่าให้ตัดงบประมาณบุคลาการเสีย กับตำแนห่งตัวแทนต่างๆ
ต่อให้คนคนหนึ่งเก่งแค่ไหน ก็ทำงานอะไรไม่ได้แล้ว หากไม่มีคนให้ใช้งานทำตามคำสั่ง
เพระาไม่มีใครปกครองคนเดียวได้
บางครั้งผมก็คิดเหมือนกันว่าผู้ปกครองของเรากลัวความเบื่อหรือเปล่า? เมหือนกับจงใจให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟเสียอย่างนั้น
อยู่เฉยๆบ้านเมืองก็สงบแล้วแท้ๆ เฮ้อ
พุดง่ายๆคือแบบเดียวกับลุกสาวดยุกนั่นล่ะ อยู่เฉยๆคงสภาพเดิมก้นับว่าชนะ ได้เปรียบฝ่ายสามัญชนตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่ยอมเข้าสใจกันเสียที?
.....

นารุโตะ หากปกครองโคโนฮะได้ดีก็พอเข้าใจ
แต่ไปอ่านตามนิยายคนที่พัฒนาโคโนฮะเข้าสู่ยุคใหม่มีเครือ่งจักรไฮเทคเพียบคือคาคาชิล่ะครับ
ที่ทำให้วิทยาการก้าวไกล
มองในแง่หนึ่งผมมองว่า คือมุมมองของพวกพ่อแม่เรา ที่มองเห้ฯพวกเราว่ามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมากกว่าพวกเขาและมองว่าเราเหยาะแหยะว่าอย่างนั้น
[quote/]
"ความขัดแย้ง" คือเชือ้เพลิงที่คนเขียนใช้เขียนเรื่องล่ะครับ
เขาบอกว่าตัวร้ายที่ดีคือตัวร้ายที่แม้เราจะยอมรับไม่ได้ แตจ่เข้าใจเหตุผลได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
อย่างกรินเดลวัล เจเคก็พยายามแต่งว่าเป็นคนที่มีบุคลิกดี จูงใจชาวบ้านชาวช่องให้ร่วมก่อการต่างๆได้พัลพาทีนก็คือนักการเมืองที่เป็นที่นิยม..เอ๊ะ มองดุดีดี พวกหัวหน้าแก๊งค์ตัวร้ายนี่เป็นคนมีค่าcha สูงมากเลยล่ะครับ หากนับเป็นเกมส์แนวสามก๊กแล้วล่ะก็[quote/]
นั่นล่ะครับ มีการแซวในภาคเด็กชายต้องสาป ว่าหากเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้แต่งงานกลายเป้นสาวโสด เธอจะกลายเป็นอาจารย์ปแ้องกันตัวจากสษสตร์มืด ที่เด็กไม่ชอบแบบเดียวกับศาสตราจารย์สเนป :P

มัน ฮาดีเหมือนกัน หากเรามองว่าเป้นเรือ่ง what if โลกคู่ขนานว่าแต่ละคนปกครองโลกจะกลายเป็นอย่างไร

ที่ท่านกล่าวคล้ายๆ อริสโตเติลกล่าวไว้เหมอืนกันครับ
สังคมที่มั่นคง คือสังคมที่มีชนชั้นกลางจำนวนมาก
หากคนเราไม่ยากแค้นเกินไป ใครจะอยากกบฎ
ทำให้แนวคิดเรื่องพ่อมดแปลกๆเหมือนกัน เพระาพวกนี้มีชีวิตชิลๆกันอยู่แล้ว
ความอดอยากด้านอาหาร ไม่เคยเป็นปัจจัยสำคัญของพวกพ่อมดแม่มด....
แต่ก็หากมองหลายๆอย่างในภาคหนัง
ว่าที่เราเห้นอยู่อย่างไม่ขาดแคลน คือคนที่มีครอบครัวสนับสนุนร
เด็กที่มีเวทมนตร์แต่ไม่มีครอบครัว จะทำให้ต้องอดอยากอยู่ข้างถนน :'(
ผมว่าเฮอไมโอนี่อาจจะไปทางสายอาชีพผู้ลบความทรงจำมากกว่า อ.สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนะครับ
 

ออฟไลน์ AlexW

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 324
  • ถูกใจแล้ว: 139 ครั้ง
  • ความนิยม: +16/-30
ผมมองว่ามันเกี่ยวกับผลกระทบของรอบข้างในระหว่างทางจากการกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมายจากความทะเยอทะยานนั้นมากกว่า ตัวความทะเยอทะยานเองไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายในตัวของมันเอง (ในคนปกตินะ ไม่ใช่พวกสติแตกวิปลาศ เช่นแบบอยากทำลายโลก) เพราะมันเป็นแค่การกำหนดเป้าหมายหรือป้ายบอกทางในการใช้ชีวิตของตัวเอง


สังเกตุว่าพวกตัวร้ายส่วนใหญ่จะไม่สนว่า ผู้คนรอบข้างจะซวยหรือชีวิตเลวร้ายลงแค่ไหนตราบใดที่ตัวเองบรรลุเป้าหมาย ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะมีคนลุกขึ้นมาต่อต้านเพื่อรักษาวิถีชีวิต โลก หรือความเชื่อของตัวเองไว้ เช่น เคลย์แมนในเรื่องจอมมารสไลม์


ในขณะที่ถ้าเป็นพวกฝ่ายดีก็จะพยายามจำกัดและลดผลกระทบด้านร้ายที่จะเกิดกับรอบข้างให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่ามากถ้าความทะเยอทะยานนั้นเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก เช่น จักรพรรดิ์นีมาเรีย ในเรื่องราชาโซมะ

แต่ถ้าเป็นฝ่ายกลางๆ ก็จะออกแนวก่ำกึ่ง โดยพยายามเลี่ยงผลกระทบแย่ๆกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องมากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็จะทำตัวเหมือนเป็นพิษร้ายกับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าตัวเองต้องกำจัดแบบไม่มีออมมือ เช่น ตัวราชาโซมะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2021, 08:35:40 PM โดย AlexW »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Zenmaster_T

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก