[quote/]
@samuison นอนๆ เดี๋ยวเบียวใหม่ตอนเย็นๆดึกๆ
ได้ครับท่านไร้นาม
ผมมองว่ามันเกี่ยวกับผลกระทบของรอบข้างในระหว่างทางจากการกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมายจากความทะเยอทะยานนั้นมากกว่า ตัวความทะเยอทะยานเองไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายในตัวของมันเอง (ในคนปกตินะ ไม่ใช่พวกสติแตกวิปลาศ เช่นแบบอยากทำลายโลก) เพราะมันเป็นแค่การกำหนดเป้าหมายหรือป้ายบอกทางในการใช้ชีวิตของตัวเอง
สังเกตุว่าพวกตัวร้ายส่วนใหญ่จะไม่สนว่า ผู้คนรอบข้างจะซวยหรือชีวิตเลวร้ายลงแค่ไหนตราบใดที่ตัวเองบรรลุเป้าหมาย ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะมีคนลุกขึ้นมาต่อต้านเพื่อรักษาวิถีชีวิต โลก หรือความเชื่อของตัวเองไว้ เช่น เคลย์แมนในเรื่องจอมมารสไลม์
ในขณะที่ถ้าเป็นพวกฝ่ายดีก็จะพยายามจำกัดและลดผลกระทบด้านร้ายที่จะเกิดกับรอบข้างให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่ามากถ้าความทะเยอทะยานนั้นเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก เช่น จักรพรรดิ์นีมาเรีย ในเรื่องราชาโซมะ
แต่ถ้าเป็นฝ่ายกลางๆ ก็จะออกแนวก่ำกึ่ง โดยพยายามเลี่ยงผลกระทบแย่ๆกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องมากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็จะทำตัวเหมือนเป็นพิษร้ายกับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าตัวเองต้องกำจัดแบบไม่มีออมมือ เช่น ตัวราชาโซมะ
ความทะเยอทะยาน บวกกับพลัง มันไม่สามารถเลี่ยงความขัดแย้งได้น่ะครับ
ผมไปเจอแนวคิดเรือ่งว่า คนที่มีสติปัญยาเนหือกว่าคนอื่น จะไม่อยมรับโลกในลักษณะที่ีมีอยู่เดิม
ประวัติผู้ก่อการร้ายคนหนึ่ีงของอเมริกา คืออัจฉริอยะ ทางคณิตศาสตร์เข้ามหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุสิบหกปีแต่ไปก่อการวางระเบิดมาตลอดหลายปีน่ะครับ
คือเรื่องราวชีวิต ทำให้เราทึ่งในความเ่กงของคนที่มีความทะเยอทะยาน แต่รู้สึกไม่สนุกเท่าไรหากต้องเป็นคนอยู่ในเหตุการณ์ก็อย่างที่ท่านว่าไว้
ต่อหน้าคนที่มีพลังและความทะเยอทะยาน
ชีวิตของคนธรรมดาก็อยู่ในมือของคนที่มีความทะเยอทะยานนั่นล่ะ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเลือกวิธีทางไหนและมองเราเป็นหนามตำตาหรือเปล่า?
กระบี่เย้ยยุทธจักรหรือนิยายต่างๆสังเกตดีดีว่าพยายามที่จะสื่อของการอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจไม่ค่อยมีนักเขียนที่ไหนเขียนว่าต้องสู้เพื่ออำนาจสักเท่าไร..ยกเว้นแนวสร้างเมืองที่สมับนี้มีมากขึ้นกว่าเดิม
อาจจะเป็นตัวบอกเรื่องราวความคิดของยุคสมัอย่างหนึ่งก้ว่าได้
[quote/] ผมว่าเฮอไมโอนี่อาจจะไปทางสายอาชีพผู้ลบความทรงจำมากกว่า อ.สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนะครับ
เป้นเรื่องราวอีกไทม์ไลน์หนึ่งน่ะครับ
ที่รอนไปแต่งงานกับสาวอินเดีย
เฮอร์ไมโอนี่เลยกลายเป้นคนโสด คอยปกครองเด็กอย่างดหดร้ายในวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแทนที่ศาสตรราจารย์สเนป
ผมว่ามันแสดงเรื่องสถานการรืเปลี่ยนไป คนเปลี่ยนไปก็ได้ดีเหมือนกันครับ
แม้หลายคนจะงงว่า ทำไมเฮอร์ไมโอนี่เป็นรมต.แทนที่จะเป็นแฮร์รี่ในไทม์ไลน์หลักก็ตาม
ก็อาจจะเป็นมุกว่าแฮร์รี่ไม่มีความทะเยอทะยาน แค่ต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นก็ว่ากันไป
มีคนบอกว่าการไม่ใช้พลังหรือความสามารถที่มีเป็นการเสียเปล่า
แต่ผมมองว่าเรื่องนี้ดัมเบิ้ลดอร์ตอบไว้ดีแล้วในโลกความคิดในตอนสุดท้าย
ว่าเขาต้องการเป็นอิสระจากน้องสาว และกลายเป็นพ่อมดที่แข้งแกร่งที่สุด...และเขาก็ได้อย่างนั้นจริงๆ
ว่าคนเราต้องการอะไรจริงๆนั้นสำคัญมากกว่า ว่าความสามารถของเราทำอะไรได้แน่นอน เจเคอาจจะไม่คิดอย่างนั้น คนอ่านอาจจะแค่วิเคราะห์มากไปเอง ฮา