[quote/]
ไม่จริงอ่ะครับ 5555
นิยายผมติด top ในเด็กดี ช่วงเดียวกันกับที่นิยายแปลในเด็กดีแทบจะแย่งอันดับ top ไปทั้งหมดนะ....
เขียนยาวต่อเนื่อง....ตอบทุกคอมเม้น มีเว็บ มีเพจให้ไปติดตามทวงผลงานกันได้หลายช่องทาง...
นิยายอีกเรื่องหนึ่งที่เขียน ก็ได้เขียนจบจนเรื่องไปแล้วเรียบร้อย นิยายที่ดองไม่มีเลยสักเรื่อง
แต่สุดท้าย จำนวนคนอ่านมันก็ไม่เพิ่มขึ้น มีแต่น้อยลงเรื่อยๆเท่านั้นล่ะ......ฮา
กลับกัน นิยายแต่งเองที่ ติดป้ายว่าเป็นนิยายแปลนั้นกลับมีคนเข้ามาอ่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อย่างในกลุ่มคุยเฟื่อง ยังเคยมีคนบอกเลยว่า เค้าไม่มีเวลามานั่งอ่านนิยายไทยหรอก เพราะแค่นิยายแปลที่ซื้อมายังดองอยู่เลย อะไรแบบนี้
ก็จำนวนสูงสุดของตลาดในเด็กประเทศมันก็แบบนั้นแหล่ะครับ
สมมุติคนอ่านนิยาย ในไทย 1 แสนคน
เป็นอ่านนิยายต่างประเทศแปล 9 หมื่น ไม่ได้แปลว่าจะอ่านนิยาย ไทยทั้ง แสนคนนะ
อาจจะอ่านนิยาย ไทย 2 หมื่น พอ นิยายที่คุณเขียนมีคนอ่านไปจนถึงจุดพีคแล้ว มันก็มีแต่ลดลง
ในขณะ ที่คนอ่านนิยายแปลขนาดตลาดในไทยใหญ่กว่า
นิยายที่คุณหลอกว่าเป็นนิยายแปล ก็ไปดึงกลุ่มลูกค้าจาก 9 หมื่น
ซึ่งอีกนานกว่าจะถึงจุดพีค
เอาง่ายๆ ถ้ามีค่ายมือถือ คนไทยทำ โดยจ้างจีนผลิต
กับ มือถือ เกาหลี จ้างจีนผลิตเหมือนกัน
ทั้งที่ข้างในก็เหมือนๆกัน สุดท้าย ค่ายมือถือไทยขายดีพักนึงแล้วก็ล้ม
ในขณะที่มือถือเกาหลีในไทยก็ยังอยู่ดี
รึมือถือจีนที่ขายดีสุดๆไปทั่วโลก พอมีข่าวร้ายกระทบความเชื่อมั่น
คนก็แห่ขายมือถือยี่ห้อนี้ทิ้ง
ยอดขายพวกนี้มันเกี่ยวกับความเชื่อมั่น
ซึ่งคุณอาจจะทำให้แฟนที่อ่านนิยายไทย เชื่อมั่นในตัวคุณได้
แต่คนที่ไม่เชื่อมั่นในนิยายไทยว่าสนุกคุ้มที่จะอ่าน เขาก็ไม่เชื่อว่านิยายคุณสนุกจริง
ผมบอกเลยว่าผมอ่านทั้งนิยายไทยในเด็กดี นิยายจีน เกาหลี ญี่ปุ่น
ตามความเห็นผม
นิยาย เกาหลีที่สนุกๆ สนุกจริงๆ แต่มันมีเรื่องที่แปลมาไม่เยอะ เรียกว่าโดนคัดมาแล้ว
นิยายญี่ปุ่นเรื่องที่สนุกมีเยอะมาก แต่เรื่องที่อ่านแล้วเลี่ยนก็เยอะ คืออ่านสนุกได้ซักพักก็ขี้เกียจอ่านต่อ
นิยายจีน เรื่องซ้ำซากเยอะมาก แต่ข้อดีคือถ้าสนุกในระดับนึง มันก็อ่านเรื่อยๆได้เป็นพันตอน
นิยายไทย อ่านไปเกิน 100 ตอนมีเรื่องเดียว เพราะมันหื่น
ส่วนที่เหลือ แทบจะทนอ่านได้ไม่เกิน 50 ตอนเลย
ผมเลือกจากเรื่องที่อันดับ topๆ จำนวนตอนเยอะๆ
ทั้งที่นิยายจีน ปูเรื่องไปเป็น ร้อยตอนผมก็อ่านได้
ถามว่าทำไมทนอ่านนิยายที่แทบไม่มีจุดพีคได้นานๆ
ก็เพราะการนำเสนอมันต่างกัน นิยายคนไทยหลายเรื่องที่ผมอ่านใส่ สุขนิยม มากจนเลี่ยนไม่มีปมสั้นยาวให้ตาม
อย่างนิยายจีน ซั่มสาว นึงแล้วแยกทาง กว่าจะกลับมา 100 กว่าตอนมั่ง
บางเรื่องก็สาวบทหาย เกือบพันตอน
คือเต็มไปด้วยปมที่อยากตาม แต่ไม่ปล่อยมาซักที
ในขณะที่นิยายไทยหลายเรื่องอิงแนวญี่ปุ่น คือเป้าหมายไม่ชัดเน้นชีวิตประจำวัน
พอช่วงสนุกมันก็อ่าน แต่พอไม่สนุกก็เลิกอ่านได้ทันทีไม่ค้างคา
พอลองได้เลิกอ่านไปพักนึงแล้ว โอกาสจะกลับมาอ่านต่อมันยากมาก
เพราะหยุดอ่านที เป็นปีๆกว่าจะวนมาถึงคิว
นิยายจีนบางเรื่องผมอ่านแปลอิ้งจนสุดตอนล่าสุดตอนที่พัน แปลไทยยังเพิ่ง 100 กว่าๆ
ดองจนแปลไทยตอนที่ 2-3 พัน ก็ยังไม่ได้ไปตามต่อเลย
เพราะงั้นอย่าไปคาดหวังเลย ขนาดเรื่องที่สนุกๆ แบรนด์แข็งแกร่ง พอได้หยุดอ่านที
หลักปีเลยแหล่ะกว่าจะกลับมาอ่าน
วงการนี้คู่แข่งเยอะมาก ทุกวันนี้ผมต้องทำลิสเรื่องที่อ่านว่าอ่านไปถึงไหนแล้วเลย
แค่วนอ่านเรื่องที้ดองไว้ก็หมดปีได้สบายๆ