ฮา พูดคุยวิจารณ์กันสนุกดีไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ
ผมไม่ได้โจมตี ลัทธิปัจเจคบุคคลขาดนั้นนะครับ ตามความคิดของผม ผมมองว่าระบบคือการที่อย่างน้อยต้องมีคนมากพอมารวมกันเห็นด้วยกับหลักการพื้นฐาน หรืออุดมการณ์บางประการ
การที่ขัดคนไม่ดีออกคือการมองว่า คนนั้นทำให้ผลประโยชน์ของส่วนรวมเสียหายเป็นผู้นำที่คอรัปชั่น
เคยมีคนกล่าวงว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ถูกรักษาไว้ได้โดยวีรบุรุษแต่โดยเลือดของคนธรรมดาจำนวนนับไม่ถ้วน
ในความคิดของผม ระบบก็คือคนที่สร้างนั่นล่ะครับ แต่มันมีกติกา และแนวทางร่วมกัน เช่นอาจจะเป็นหลักการประมาณว่า ข้าอาจไม่เห็นด้วยกับที่ท่านพูด แต่ข้าจะปกป้องสิทธิในการพูดของท่านด้วยชีวิตของข้าพเจ้า...และอาจจมีคนตอบต่อไปว่า แม้ในลมหายใจสุดท้ายของข้าพเจ้าจะด่าว่าความคิดของท่านงี่เง่าสิ้นดี...
นั่นคือความเลวร้าย และสวยงามของประชาธิปไตยที่คนมองล่ะครับ ถ้าคนเรามีเป้าหมายเหมือนกันเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องโกรธกันแม้ความเห็นจะขัดแย้งกันก็ตาม แม้แต่ในสิ่งที่ไม่เห็นพ้องต้องกันก็ยังมีอุดมการณืเดียวกัน
ที่เปรียบเปรยเรื่อง ทรัพยากรบุคคลอย่างนักแตะนั้นถูกต้องแล้วครับ มีผู้จัดการกองกลาง กองหน้าผุ้รักษาประตู ทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ ระบบที่สามารถสร้างคนที่มีความสามารถออกมาทำงานได้
..ฮืมจะยกตัวอย่างอย่างไรดี ตามความคิดของผม ถ้าจะแสดงข้อดีของประชาธิปไตย ต้องไม่ใช่ได้คนอย่างขงเบ้งหรือหยางเหวินลี่ แต่ได้คนที่ช่างเถียงอย่างกุยแก มาร้อยกว่าคน เพราะเป็นระบบที่ไม่เอาคนไปตัดคอถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่าง
ผมมองว่าสนับสนุนวีรบุรุษ อย่างหยางอาจจะไม่ตรงประเด็นนักเพราะเน้น ปัจเจคมากไป แต่หาก ให้เป็นคณะเสนาธิการ เช่น อาคิม ฝ่ายวิศวโยธา พัฒนาเทคโนโลยีการขนว่งที่มีประสิทธิภาพ และช่วยให้การส่งเสบียงเหนือกว่าจักรวรรดิ์ หรือ ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีการพัฒนามากกว่าเพราะนักวิทยาศาสตร์มากกว่าและระบบการศึกษาดีกว่าจักรวรรดิ์ ที่สนับสนุนคนที่มีเส้นสายและขุนางเป็นส่วนใหญ่
ที่ผมมองคือ จุดเด่นของประชาธิปไตย ไม่ควรจะเน้นวีรบุรุษคนเดียว แต่จะมีผู้มีความสามารถหลายด้านทำงานร่วมกันเพื่อทำงานให้บรรลุผลมากกว่าครับ เช่นต่อให้หยางเหวินลี่ตาย ก็ผลิตเสนาธิการที่อาจจะไม่ถึงขั้นหยาง แต่ก็สามารถทำงานแทนได้สบายมาก
ฆ่าผู้นำไปหนึ่งคนก็มีคนอื่นมารับตำแหน่งแทน
แต่ ไรน์ฮาร์ท ถ้าตายไปจะมีคนมาทำงานแทนได้หรือเปล่า เพราะรวมความสามารถและความดีงามไว้ที่คนคนเดียว?