[quote/]
ถึงจะเป็นโลกแห่งกำปั้น แต่อย่าลืมว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่กำปั้นใหญ่ไง คุณคิดว่า คนอื่น หรือพวกองค์กร ทั้งหลายมันจะตัวเปล่า ให้คนไปปล้นได้ง่าย ๆ เหรอ
วันนี้ คุณเป็นราชาเซียน มั่นใจมาก โลกนี้วัดที่กำปั้น ชั้นไม่ซื้อ-ขาย กับใคร บุกปล้นแม่ม สุดท้ายไปเจอ จักรพรรดิเซียน เข้า ถามว่าจะทำไง ? จะบุกปล้นต่อ หรือ ใช้เงินซื้อ ? นี่ยังไม่รวมพวก อาเรย์ป้องกันทั้งหลายอีกนะ
ผมยังยืนยัน ว่า ตราบเท่าที่คุณยังไม่ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด เงินและความมั่งคั่ง ยังมีความจำเป็น อยู่เสมอ
เพราะ ถึงจะเป็นโลกแห่งกำปั้น แต่ปกติถ้าไม่มั่นใจ จริงๆ เขาก็ไม่ใช้กำปั้นหรอกครับ เพราะมันมีความเสี่ยง ในทางกลับกันเขาก็ใช้เงินซื้อ หรือใช้ของวิเศษแลกเปลี่ยน กันทั้งนั้น เมื่อการเจรจาแลกเปลี่ยนล้มเหลว นั่นแหละ ถึงค่อยมาเสี่ยงใช้กำปั้น
ส่วนที่ว่าทำไมโรงประมูล เอาของดีมาขาย ทำไมไม่เอาไว้ใช้เอง เพราะ ของที่ใช้ประมูล ส่วนใหญ่เลยคือ คนอื่นเอามาฝากขาย ไงครับ เป็นหลักการพื้นฐานโรงประมูลอยู่แล้ว ครับ ส่วนใหญ่ โรงประมูล จะทำหน้าที่เป็นแค่นายหน้า ในการขายของให้ โดยหัก เปอร์เซนต์ ตามราคาที่ตกลงกันเอาไว้
รวมถึงของบางอย่างเขาไม่มีคนที่ใช้ได้ ก็เอามาขายสร้างเส้นสาย ดีกว่าดองเอาไว้ในโกดัง อย่าหม้อหลอม เนี่ย ถ้าไม่มี ช่างหลอมระดับสูง อยู่ จะเก็บเอาไว้ทำไม สู้เอาไปประมูลขายให้พวก หุบเขาโอสถ หรือ ช่างเทวะ ทั้งหลาย ไม่ดีกว่ารึ ได้เงินด้วย ได้เส้นสาย อีกต่างหาก สุดท้ายแล้ว คนของโรงประมูล พวกเขาคือ พ่อค้า ครับ อาชีพที่ยึดถือหลักการ ที่ว่า "ขอแค่มีเงินมากพอ แม้แต่ผีก็จ้างมาโม่แป้งได้" มุมอง มันจะต่างกับพวก ผู้ฝึกตนประเภทนักสู้
นั่นมันต้องคำนวณจากสมการว่า
"ขั้นย่อยของขั้นสูงกว่าต่างชั้นกับขั้นใหญ่ของขั้นต่ำกว่าราวกับสวรรคืและพิภพ"ด้วยนะครับ
ว่าเราไม่ต้องสุงกว่าคนที่คุ้มครองหอประมูลระดับหนึ่งขั้นใหย่หากเป็นระดับสุงเท่ากันเนหือวก่าเจ้าของหอประมูลหนึ่งขั้นย่อยก็พอที่จะฆ่าล้างตระกูลหอประมูลแล้วครับ
หากมีการฆ่าฟันกัน
ท่านคาดหวังให้ไอ้พวกเสียสติในแดนปราณยุทธเกรงใจกันด้วยคำพูดหรือครับมใมันเล่นมุกมาตลอดว่า
"หากเจ้าสำนักเทียมเมฆต้องการแก้แค้นให้มาคิดบัญชีกับช้าเอง"
มันเล่นมุกนี้กันทั้งนั้นเวลาจะกระทืบพระเอกเอาชื่อมาอ้างไม่เคยเห็นช่วยอะไรได้แม้แต่น้อยหากเป้นฝ่ายพระเอกอ้าง ฮา
ผมว่าอย่าเอาแนวคิดกำลังภายในแบบกิมย้งมาปน กับกำลังภายในแบบเทพเซียนในยุคปัจจุบันดีกว่านะครับ
แบบกิมย้ง นี่ เด็กกำพร้าไม่ต้องมีเงินขอแค่เจออาจารย์เก่งๆ หรือตกเขาเจอเทพวิชาก็เทพได้ไม่ต้องการเงินมากนัก
ยิ่งของโกวเล้ง แท่งเหล็กแท่งเดียว ฝึกแทงมันซ้ำๆ ก็เป็นยอดเทพกระบี่ได้
แต่แบบเทพเซียน นี่ ต้องกินยาเป็นตันๆ เพื่อบรรลุขั้นพลัง ไม่ปล้นเอาก็ต้อง มีอาชีพเสริมหาเงิน
วิธ๊ฝึกฝนมันต่างกัน แบบกำลังภายในสมัยก่อนมันเน้นฝึกด้วยตัวเองเป็นหลัก ทรัพยากรมีก็ดีไม่มีก็ได้อยู่ในหุบเขาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ก็เก่งได้
ในขณะที่แบบเทพเซียนนี่เติมเงินเทพทรูชัดๆ
ส่วนเรื่องทำไมเอาเตาเทพเซียนมาขาย เพราะพ่อค้าฝึกเต๋าสายการค้าไง เราบรรลุเต๋าด้วยการสร้างผลประกอบการไม่ใช่บรรลุเต๋าด้วยการปรุงยา
มันเป็นรากฐานของหลายๆอย่สงในนิยายปัจจุบันครับผมแววว่านิยายหลายเรื่องจะเกียดอะไรไซมึ้งชวยเสาะของท่านโกวเล้งนักหนา
อ้างว่าคนชุดขาว ทานเจน ฝึกกระบี่ตายเพราะมือศัตรูทำว่าคนที่เตรียมตัวให้พลังจิตสูงที่สดุก่อนจะสุ้เป้ฯคนโง่เขลาไปได้
เป้นการแสดงออกว่าด้านความคิดคนแผ่นดินใหญ่ค่อนข้างแตกต่างกัยคนฮ่องกงอย่างอ.โกวเล้งหรือคนเขียนกำลังภายในยุคก่อนพอสมควร
[quote/]
ผมถึงไม่ได้บอกว่ามีเงินไม่ดีไงแต่รู้เนื้อเรื่องมีระบบมีโอกาศทำไห้ตัวเองเก่งได้มากกว่า ถึงจะบอกว่ามีคนแบบเดอะร็อกแต่คนที่ไม่ไช่เดอะร็อกมันมีมากกว่าไง ระหว่างพวกรู้ว่าต้องออกกำลังกายแต่อ้างว่าจะทำมันในวันพรุ่งนี้แล้วไม่ทำสักวันมันเยอะ กว่าคนอดทนยอมลำบากมากแถมตังต้นที่มีเงินเยอะอยู่สบายอีก ผมไม่ได้บอกว่ามีเงินแล้วเก่งไม่ได้แต่แค่มีเงินโอกาศที่จะฝึกจนเก่งมันน้อยเพราะความสบาย ระหว่างมีเงินแล้วต้องไปแย่งของเทพในการไช้เงินกับรู้ว่าของเทพอยู่ตรงไหน ไปเอามาแบบลับๆโอกาศเติบโตสร้างศัตรูมันก็ผิดกันแล้วไม่ไช่มีเงินไม่ดีแต่ระดับ ความโกงมันต่ำกว่ารู้เนื้อเรื่องหรือมีระบบแค่นั้น
ความโกงที่เห้นได้ชัดเอาจากมุกสัปประยุทธทะลุฟ้าเลยคือการฝึกก่อนคนอื่นและการมีสมาธิมากกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันน่ะครับ
ว่าเด็กรุ่นเดียวกันอาจจะชอบเที่ยวเล่นมากกว่ากว่าจะโตพอที่จะเข้าใจอาจจะเกเรบ้างฝึกบ้างแต่หากเราฝึกล่วงหน้าตั้งแต่ห้าขวบก็เท่ากับว่าปราณเรานำหน้าคนรุ่นเีดยวกันสองสามปีแม้เราจะพรสวรร๕์ธรรมดาก็ตาม
มีความเป็นไปได้ที่พวกอัจฉริยะจตะตามเราทันและแซงหน้าเราไปแต่อย่างน้อยเราก็ได้เรปียบหากฝึกมาตั้งแต่เด็ก