รัฐบาลลดแรงดันไฟจาก 220V เหลือ 100V แก้ปัญหานี้ได้ไหม

[Alice-chan]

ไฟไหม้จากปลั๊กไม่ได้มาตรฐานซึ่งขายตามตลาดชายแดน ตลาดนัด หรือแอพขายของต่างๆ

แล้วก็การเปลี่ยนจาก 2 ขา เป็น 3 ขาก็ถ้าปรับลดแรงดันไฟก็น่าจะลดความจำเป็นลงได้ ตอนนี้มีบ้านหลังเก่าไม่น้อยที่เป็น 2 ขา แต่มาตรฐานความปลอดภัยบังคับเป็น 3 ขา

แล้วก็ลดแรงดันไฟเสาจาก 22,24,33Kv เป็น 6.6Kv ทั้งประเทศ เพราะปัญหาหม้อแปลงระเบิดแล้วเกิดไฟไหม้

อุปกรณ์ลูกถ้วยมีขนาดใหญ่ เว้นระยะห่างระหว่างเฟสค่อนข้างมาก สายไฟหนา ทำให้รู้สึกคับแคบอึดอัดเวลาพบเห็น

• Tweet

[sechan]

การลดแรงไฟจะทำให้ระบบอุปกรณ์มาตราฐานทั้งประเทศเปลี่ยน อุปกรณ์ตรงๆที่ไม่มีหม้อแปลงรองรับส่วนมากจะใช้ไม่ได้  แล้วอุปกรณ์มาตราฐานที่ติดตั้งทั้งประเทศต้องเปลียนทั้งระบบพร้อมกัน   ไอ้ห้าแสนล้านที่จะจ่ายไม่รู้พอค่ายกระบบไหมแถมเถียงกันตาย  ยังไม่รวมที่ห่างจากแหล่งจ่ายไฟที่ไฟตกเพราะแรงดันไฟตกจากเดิมจุดจ่ายไฟระยะทางจะสี้นลง  ญี่ปุ่นเขาเจอแผ่นดินไหวบ่อยมันคือความจำเป็นแต่บ้านเรานอกจากน้ำท่วมแล้วไม่มีไร  แล้วถ้าปลั๊กมันช็อตแรงดันเท่าไหร่ไฟก็ไหม้อยู่ดีแค่ช้าหรือเร็ว   หลักๆคือระบบไฟจะป็อกไปทั้งประเทศเลยเพราะต้องมีหม้อแปลงถี่ขึ้น  ปัจจุบันไฟยังไม่ทั่วถึงตกอยู่บ่อยๆเลย

[Black7nos]

ไฟไหม้จากปลั๊กไม่ได้มาตรฐานซึ่งขายตามตลาดชายแดน ตลาดนัด หรือแอพขายของต่างๆ

แล้วก็การเปลี่ยนจาก 2 ขา เป็น 3 ขาก็ถ้าปรับลดแรงดันไฟก็น่าจะลดความจำเป็นลงได้ ตอนนี้มีบ้านหลังเก่าไม่น้อยที่เป็น 2 ขา แต่มาตรฐานความปลอดภัยบังคับเป็น 3 ขา

แล้วก็ลดแรงดันไฟเสาจาก 22,24,33Kv เป็น 6.6Kv ทั้งประเทศ เพราะปัญหาหม้อแปลงระเบิดแล้วเกิดไฟไหม้

อุปกรณ์ลูกถ้วยมีขนาดใหญ่ เว้นระยะห่างระหว่างเฟสค่อนข้างมาก สายไฟหนา ทำให้รู้สึกคับแคบอึดอัดเวลาพบเห็น

เยอรมันเคยค้นพบว่า การใช้ไฟ 220V ใช้ต้นทุนของสายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าถูกกว่าแบบ 110V ครับ
- แบบ 110V สายไฟจะค่อนข้างใหญ่ครับ และต้นทุนการเดินไฟค่อนข้างแพงครับ แต่ข้อดีคือปลอดภัยกว่าเวลาคนโดนไฟช็อต
- แบบ 220V สายไฟจะเล็กกว่า มีการสูญเสียพลังงานระหว่างทางน้อยกว่าครับ


มีแค่ประเทศเมกา เนื่องจากเมกาเดิน 110V ไปเยอะมากแล้วจนเปลี่ยนได้ยากครับ

[ichamkung]

ก็ต้องแก้ตรงที่ชุมชนนี่แหล่ะ ให้เขาเดินตามบ้าน เปลี่ยนสายไฟให้ไม่ดีกว่าเปลี่ยนโวลต์หรอ

[Rumia]

เอิ่มเหมือนจะเข้าใจผิดไปหน่อยนะครับ110กับ220โดนดูดคนตายต่างก็ไม่กี่วินะครับ แถมความร้อนจากไฟฟ้าช็อดก็แทบไม่มีความต่างความต่างมีแค่110ไฟมันสเถียนกว่า ทำไห้เครื่องไช้ไฟฟ้าอายุการไช้งานนานกว่าแต่แลกมาด้วยระยะการจ่ายไฟที่สั้น ส่วนความปลอดภัยแทบไม่มีความต่างสำหรับไทยนะผมว่าหน้วยงานซ่อมบำรุงต่างหากที่จำเป็น ไม่ไช่เปรี่ยนระบบไฟฟ้าคุณรู้ไหมว่าไทยเราเคยเปรี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อหมดอายุหรือถึงเวลาซ่อมบำรุงไหมคำตอบคือไม่มีครับรอมันพังค่อยเปรี่ยน ดังนั้นไช้ระบบไหนมาไช้งานแต่การไช้งานแบบรอมันพังผลก็เท่าเดิม
ปล.ผมจะบอกไห้นะที่น้ำประปาไทยกินไม่ได้ทังๆที่ก็ไช้ระบบเดียวกับเมืองนอก เพราะระบบการทำงานของไทยรอไห้พังค่อยเปรี่ยนไงครับ ผลที่ได้ก็คือท่อเก่าขึ้นสนิมมีตระไคร่ เพราะไม่มีการซ่อมบำรุงและเปรี่ยนเมื่อหมดอายุการใช้งาน  ิ

[Black7nos]

เอิ่มเหมือนจะเข้าใจผิดไปหน่อยนะครับ110กับ220โดนดูดคนตายต่างก็ไม่กี่วินะครับ แถมความร้อนจากไฟฟ้าช็อดก็แทบไม่มีความต่างความต่างมีแค่110ไฟมันสเถียนกว่า ทำไห้เครื่องไช้ไฟฟ้าอายุการไช้งานนานกว่าแต่แลกมาด้วยระยะการจ่ายไฟที่สั้น ส่วนความปลอดภัยแทบไม่มีความต่างสำหรับไทยนะผมว่าหน้วยงานซ่อมบำรุงต่างหากที่จำเป็น ไม่ไช่เปรี่ยนระบบไฟฟ้าคุณรู้ไหมว่าไทยเราเคยเปรี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อหมดอายุหรือถึงเวลาซ่อมบำรุงไหมคำตอบคือไม่มีครับรอมันพังค่อยเปรี่ยน ดังนั้นไช้ระบบไหนมาไช้งานแต่การไช้งานแบบรอมันพังผลก็เท่าเดิม
ปล.ผมจะบอกไห้นะที่น้ำประปาไทยกินไม่ได้ทังๆที่ก็ไช้ระบบเดียวกับเมืองนอก เพราะระบบการทำงานของไทยรอไห้พังค่อยเปรี่ยนไงครับ ผลที่ได้ก็คือท่อเก่าขึ้นสนิมมีตระไคร่ เพราะไม่มีการซ่อมบำรุงและเปรี่ยนเมื่อหมดอายุการใช้งาน  ิ

เมื่อก่อนไทยใช้ 110V ครับ แต่ก็เปลี่ยนเป็น 220V ในภายหลังครับ เหตุผลมาจากเรื่องงานวิจัยของเยอรมันเลยครับ
220V มันทำให้เกิดการ Loss ระหว่างเดินไฟน้อยกว่าครับ ต้นทุนจ่ายน้อยกว่า

ส่วนเรื่องไฟดูดตาย 220V ตายเร็วกว่าครับ ตามสูตร I = V/R ยิ่งกระแส(I)แอมป์มากๆ ยิ่งดูดแรง
ซึ่งมันจะแปรผันตรงกับ V ศักย์ไฟฟ้า และแปรผกผันกับ R ความต้านทาน
ถ้าเรียนฟิสิกต์ไฟฟ้า เขาจะเปรียบเรื่องไฟฟ้าเหมือนน้ำตกครับ
V = ความต่างศักย์ หรือก็คือความสูงของน้ำตก ยิ่งสูงมันก็ยิ่งตกลงมาแรง เหมือนกับ ศักย์ไฟฟ้ายิ่งสูง มันก็ก่อให้เกิดกระแสได้แรงตามครับ
R = ความต้านทาน ก็เหมือนแรงเสียดทานที่ทำให้น้ำตกไหลลงมาช้าลง
V/R ก็จะได้ความแรงของกระแสไฟ ซึ่งก็เสมือนกระแสน้ำตกที่ไหลตกลงมา

[Rumia]

[quote/]


เมื่อก่อนไทยใช้ 110V ครับ แต่ก็เปลี่ยนเป็น 220V ในภายหลังครับ เหตุผลมาจากเรื่องงานวิจัยของเยอรมันเลยครับ
220V มันทำให้เกิดการ Loss ระหว่างเดินไฟน้อยกว่าครับ ต้นทุนจ่ายน้อยกว่า

ส่วนเรื่องไฟดูดตาย 220V ตายเร็วกว่าครับ ตามสูตร I = V/R ยิ่งกระแส(I)แอมป์มากๆ ยิ่งดูดแรง
ซึ่งมันจะแปรผันตรงกับ V ศักย์ไฟฟ้า และแปรผกผันกับ R ความต้านทาน
ถ้าเรียนฟิสิกต์ไฟฟ้า เขาจะเปรียบเรื่องไฟฟ้าเหมือนน้ำตกครับ
V = ความต่างศักย์ หรือก็คือความสูงของน้ำตก ยิ่งสูงมันก็ยิ่งตกลงมาแรง เหมือนกับ ศักย์ไฟฟ้ายิ่งสูง มันก็ก่อให้เกิดกระแสได้แรงตามครับ
R = ความต้านทาน ก็เหมือนแรงเสียดทานที่ทำให้น้ำตกไหลลงมาช้าลง
V/R ก็จะได้ความแรงของกระแสไฟ ซึ่งก็เสมือนกระแสน้ำตกที่ไหลตกลงมา

นี่แหละที่เข้าใจผิดกันโวลกับแอมป์มันไม่ไช่หน่วยเดียวกันคนละตัวเลย โวลคือกระแสแอมคือแรงดันแต่ไฟฟ้า110vแอมนะมันไช้แรงดันสูงกว่า220vครับในความเป็นจริง ที่ไช้จ่ายไฟฟ้าดังนั้นผลลัพจึงเท่ากัน มันไม่ไช่110vแล้วส่งแรงดันน้อยครับไฟฟ้าที่จ่ายไห้บ้านนะ 110vต้องเพิ่มกระแสแรงดันอีกหลายเท่าตัวเพื่อไห้จ่ายไปตามบ้านเรือนได้ โดยรวมแล้วกระแสมันก็ไม่ต่างจาก220vเท่าไหร่หรอกครับ และ110มันก็ช็อตคนตายไฟลัดวงจรไฟไหม้ได้เหมือนๆกัน ความต่างมันแทบไม่มีครับสำหรับความอันตรายนะ จริงอยู่ว่า110อาจปลอดภัยกว่าแต่ความต่างมันน้อยนิดมากครับ และสิ่งที่ไทยชอบหม้อระเบิดนะไม่ไช่เกิดจากการใช้ระบบ220ครับ แต่เป็นเพราะไม่มีการซ่อมแซมบำรุงรักษาและเปรี่ยนเมื่อหมดอายุต่างหาก ผมถามคำเดียวเกิดมาเคยมีใครเห็นเจ้าหน้าที่มาบำรุงรักษาหม้อจ่ายไฟไหม มีใครเคยเห็นคนมาเปรี่ยนสายไฟหมดอายุบ้าง มันไม่มีเลยครับไทยเราเน้นไช้จนกว่ามันจะพัง มันถึงมีเหตุหม้อไฟระเบิดเกิดขึ้นบ่อยเหตุผลคือมันติดตังพร้อมๆกันดังนั้น มันจึงหมดอายุไกล้เคียงกันเราจึงเจอหม้อระเบิดในเวลาไกล้เคียงกันง่ายๆ

[Black7nos]

[quote/]
นี่แหละที่เข้าใจผิดกันโวลกับแอมป์มันไม่ไช่หน่วยเดียวกันคนละตัวเลย โวลคือกระแสแอมคือแรงดันแต่ไฟฟ้า110vแอมนะมันไช้แรงดันสูงกว่า220vครับในความเป็นจริง ที่ไช้จ่ายไฟฟ้าดังนั้นผลลัพจึงเท่ากัน มันไม่ไช่110vแล้วส่งแรงดันน้อยครับไฟฟ้าที่จ่ายไห้บ้านนะ 110vต้องเพิ่มกระแสแรงดันอีกหลายเท่าตัวเพื่อไห้จ่ายไปตามบ้านเรือนได้ โดยรวมแล้วกระแสมันก็ไม่ต่างจาก220vเท่าไหร่หรอกครับ และ110มันก็ช็อตคนตายไฟลัดวงจรไฟไหม้ได้เหมือนๆกัน ความต่างมันแทบไม่มีครับสำหรับความอันตรายนะ จริงอยู่ว่า110อาจปลอดภัยกว่าแต่ความต่างมันน้อยนิดมากครับ และสิ่งที่ไทยชอบหม้อระเบิดนะไม่ไช่เกิดจากการใช้ระบบ220ครับ แต่เป็นเพราะไม่มีการซ่อมแซมบำรุงรักษาและเปรี่ยนเมื่อหมดอายุต่างหาก ผมถามคำเดียวเกิดมาเคยมีใครเห็นเจ้าหน้าที่มาบำรุงรักษาหม้อจ่ายไฟไหม มีใครเคยเห็นคนมาเปรี่ยนสายไฟหมดอายุบ้าง มันไม่มีเลยครับไทยเราเน้นไช้จนกว่ามันจะพัง มันถึงมีเหตุหม้อไฟระเบิดเกิดขึ้นบ่อยเหตุผลคือมันติดตังพร้อมๆกันดังนั้น มันจึงหมดอายุไกล้เคียงกันเราจึงเจอหม้อระเบิดในเวลาไกล้เคียงกันง่ายๆ

I คือ กระแสครับ มีหน่วยเป็นแอมป์
V คือ ความต่างศักย์ มีหน่วยเป็นโวลท์
R คือ ความต้านทาน มีหน่วยเป็นโอมห์


ช็อตตายเหมือนกัน แต่ระยะเวลาที่ทำให้ตายมันต่างกันครับ








ดังนั้นมันก็เป็นไปตามสูตรคำนวนเลยครับ คนที่ตายเพราะไฟช็อตส่วนใหญ่เพราะผิวหนังเราเปียกครับ หรือมือเรามีเหงื่อพอดี
I = V/R
I = 220/1,000
I = 0.22 แอมป์ หรือ 220 มิลลิแอมป์ = หัวใจล้มเหลว ผิวหนังไหม้ และมีโอกาสตายสูงมาก


ขณะที่แบบ 110V จะเบากว่าก็ตามสูตรเลย
I = V/R
I = 110/1,000
I = 0.11 แอมป์ หรือ 110 มืลลิแอมป์ = หัวใจล้มเหลวชั่วขณะ มีโอกาสตาย

[humandroy]

1. แรงดัน 220 Vrms จริงคือ -310 Volt ถึง +310 Volt
ไฟฟ้ากระแสสลับ หมายถึงแรงดันมันจะ เปลี่ยนยกลับไปกลับมา ระหว่า 2 ค่าข้างบนนี้
มันไม่เหมือนถ่านไฟฉายที่บอกว่า 1.5 Volt คือ +1.5 เลย


2. เหตุผลที่ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ เพราะ หม้อแปลง จะทำงานได้ต้องไฟฟ้ากระแสสลับเท่านั้น


3. ทำไมต้องใช้หม้อแปลง เพราะไฟฟ้า 3 Volt , 5 Volt และ 12 Volt เป็นแรงดันโดยทั่วไปที่มักจะใช้งานในเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น
มันสิ้นเปลืองสายไฟเป็นอย่างมาก
เตารีด 1200 W ถ้าใช้ไฟ 12 V แปลว่ากระแสจะมากถึง 100 A
ยิ่งจำนวนกระแส มาก สายไฟก็จะยิ่งร้อนและลุกไหม้ เพื่อไม่ให้สายลุกไหม้ ก็เลยต้องใช้สายเส้นใหญ่ขึ้น


*** ยิ่งลดแรงดันไฟฟ้าลงโอกาสไฟไหม้ยิ่งสูงขึ้น ***


*** ในทางกลับกัน ยิ่งเพิ่มแรงดันให้สูงขึ้น โอกาศไฟดูดยิ่งสูงขึ้น ***


เพราะงั้น ในบ้านเรือนจึงเลือกใช้ 220 Vrms ซึ่งเป็นระดับที่ ผู้ใหญ่เผลอไปจับเข้าแล้วยังสะบันมือหลุดได้
ส่วนนอกบ้าน ก็จะใช้เป้นแรงดัน 1,000 และ 10,000 และ 100,000 Vrms เพื่อการส่งพลังงานในระยะทางไกล
โดยติดตั้งให้ห่างไกลจากผู้คนทั่วไป(ยกเว้นพวกที่ปีนไปลักขโมยสาย)

------------------------------------------

สาเหตุหลักที่ไฟฟ้าลัดวงจรตามบ้าน
1. ขั้วไฟฟ้าหลวม อาทิเช่น ปลั๊กหลวม ขั้วไฟฟ้าเข้าอุปกรณ์หลวม : ปัญหานี้โดยมากจะพบกับ ปลั๊กหลวมเป็นหลัก
2. สายไฟฟ้าหักใน เกิดจากการพับหรืองอ จนทำให้สายไฟฟ้าเสียหาย เกิดความร้อนสูง ณ ที่เสียหายจนฉนวนไฟฟ้าละลาย แล้วจึงกลายเป้นการลัดวงจร
3. ความร้อนสะสม เกิดจากการเลือกใช้สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในสภาพที่ ไม่เหมาะสมเช่นอากาศร้อนสูง


   

[Black7nos]

1. แรงดัน 220 Vrms จริงคือ -310 Volt ถึง +310 Volt
ไฟฟ้ากระแสสลับ หมายถึงแรงดันมันจะ เปลี่ยนยกลับไปกลับมา ระหว่า 2 ค่าข้างบนนี้
มันไม่เหมือนถ่านไฟฉายที่บอกว่า 1.5 Volt คือ +1.5 เลย


2. เหตุผลที่ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ เพราะ หม้อแปลง จะทำงานได้ต้องไฟฟ้ากระแสสลับเท่านั้น


3. ทำไมต้องใช้หม้อแปลง เพราะไฟฟ้า 3 Volt , 5 Volt และ 12 Volt เป็นแรงดันโดยทั่วไปที่มักจะใช้งานในเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น
มันสิ้นเปลืองสายไฟเป็นอย่างมาก
เตารีด 1200 W ถ้าใช้ไฟ 12 V แปลว่ากระแสจะมากถึง 100 A
ยิ่งจำนวนกระแส มาก สายไฟก็จะยิ่งร้อนและลุกไหม้ เพื่อไม่ให้สายลุกไหม้ ก็เลยต้องใช้สายเส้นใหญ่ขึ้น


*** ยิ่งลดแรงดันไฟฟ้าลงโอกาสไฟไหม้ยิ่งสูงขึ้น ***


*** ในทางกลับกัน ยิ่งเพิ่มแรงดันให้สูงขึ้น โอกาศไฟดูดยิ่งสูงขึ้น ***


เพราะงั้น ในบ้านเรือนจึงเลือกใช้ 220 Vrms ซึ่งเป็นระดับที่ ผู้ใหญ่เผลอไปจับเข้าแล้วยังสะบันมือหลุดได้
ส่วนนอกบ้าน ก็จะใช้เป้นแรงดัน 1,000 และ 10,000 และ 100,000 Vrms เพื่อการส่งพลังงานในระยะทางไกล
โดยติดตั้งให้ห่างไกลจากผู้คนทั่วไป(ยกเว้นพวกที่ปีนไปลักขโมยสาย)

------------------------------------------

สาเหตุหลักที่ไฟฟ้าลัดวงจรตามบ้าน
1. ขั้วไฟฟ้าหลวม อาทิเช่น ปลั๊กหลวม ขั้วไฟฟ้าเข้าอุปกรณ์หลวม : ปัญหานี้โดยมากจะพบกับ ปลั๊กหลวมเป็นหลัก
2. สายไฟฟ้าหักใน เกิดจากการพับหรืองอ จนทำให้สายไฟฟ้าเสียหาย เกิดความร้อนสูง ณ ที่เสียหายจนฉนวนไฟฟ้าละลาย แล้วจึงกลายเป้นการลัดวงจร
3. ความร้อนสะสม เกิดจากการเลือกใช้สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในสภาพที่ ไม่เหมาะสมเช่นอากาศร้อนสูง


   

ปกติพูดถึงไฟฟ้ากระแสสลับ มันจะมี 2 แบบ คือ แบบ 1 เฟส กับ แบบ 3 เฟส
แบบ 1 เฟสคือ 220V ใช้ในบ้านเรือนทั่วไป หรือ Office ทั่วไป
แบบ 3 เฟส คือ 380V ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม


ซึ่ง 380V จะต่างเกิดจากการคูณรากที่สองของสาม หรือ sqrt(3) หรือ 1.731 กับ 220V เพราะมุมของแรงดันไฟฟ้าของตัวกำเนิดไฟฟ้ามันจะห่างกัน 120 องศา


ส่วนเหตุผลในการใช้ 3 เฟส คือ เมื่อใช้งานเยอะๆ มากๆ มันประหยัดกว่าแบบ 1 เฟส ครับ เพราะมันจะเฉลี่ยการใช้ไฟในแต่ละเฟส

[humandroy]

[quote/]


ปกติพูดถึงไฟฟ้ากระแสสลับ มันจะมี 2 แบบ คือ แบบ 1 เฟส กับ แบบ 3 เฟส
แบบ 1 เฟสคือ 220V ใช้ในบ้านเรือนทั่วไป หรือ Office ทั่วไป
แบบ 3 เฟส คือ 380V ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม


ซึ่ง 380V จะต่างเกิดจากการคูณรากที่สองของสาม หรือ sqrt(3) หรือ 1.731 กับ 220V เพราะมุมของแรงดันไฟฟ้าของตัวกำเนิดไฟฟ้ามันจะห่างกัน 120 องศา
[img/]

ส่วนเหตุผลในการใช้ 3 เฟส คือ เมื่อใช้งานเยอะๆ มากๆ มันประหยัดกว่าแบบ 1 เฟส ครับ เพราะมันจะเฉลี่ยการใช้ไฟในแต่ละเฟส

555 ถ้าพูดถึง เพาเวอร์แฟคเตอร์ มันจะยิ่งออกนอกกรอบตวามรู้คนทั่วไปครับ


เหตุผลหลักของ ไฟ 3 เฟส คือเรื่องของ เพาเวอร์แฟคเตอร์ (ว่าด้วยเรื่อง เวฟฟอร์ม ของ แรงดันและกระแส)
สรุปใจความเอาแค่ "ทำไม" โดยไม่พูดถึง "อย่างไร"


ทำไมต้องไฟ 3 เฟส คำตอบคือ มันให้กำลังกับมอเตอร์ ดีกว่า 1 เฟส ครับ


แต่ความจริงที่มักจะถูกละไว้คือ มันก็ยังสู้ DC มอเตอร์ไม่ไ่ด้อยู่ดี


 

[Black7nos]

[quote/]
555 ถ้าพูดถึง เพาเวอร์แฟคเตอร์ มันจะยิ่งออกนอกกรอบตวามรู้คนทั่วไปครับ


เหตุผลหลักของ ไฟ 3 เฟส คือเรื่องของ เพาเวอร์แฟคเตอร์ (ว่าด้วยเรื่อง เวฟฟอร์ม ของ แรงดันและกระแส)
สรุปใจความเอาแค่ "ทำไม" โดยไม่พูดถึง "อย่างไร"


ทำไมต้องไฟ 3 เฟส คำตอบคือ มันให้กำลังกับมอเตอร์ ดีกว่า 1 เฟส ครับ


แต่ความจริงที่มักจะถูกละไว้คือ มันก็ยังสู้ DC มอเตอร์ไม่ไ่ด้อยู่ดี


 

ผมว่าผมเขียนสรุปข้างล่างว่า การใช้ไฟแบบ 3 เฟสในระยะยาวประหยัดกว่า 1 เฟสครับ กรณีที่ใช้ไฟเท่ากันครับ
ซึ่งมันเหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมครับ เพราะมันทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำลง เหตุผลเพราะการคิดค่าไฟบ้านเราเป็นแบบก้าวหน้า
ถ้าใช้เฟสเดียว ค่าไฟพุ่งครับ แต่ 3 เฟส จะช่วยให้เฉลี่ยการใช้ไฟแต่ละเฟสพอๆกัน

[Rumia]

[quote/]


I คือ กระแสครับ มีหน่วยเป็นแอมป์
V คือ ความต่างศักย์ มีหน่วยเป็นโวลท์
R คือ ความต้านทาน มีหน่วยเป็นโอมห์


ช็อตตายเหมือนกัน แต่ระยะเวลาที่ทำให้ตายมันต่างกันครับ


[img/]


[img/]


ดังนั้นมันก็เป็นไปตามสูตรคำนวนเลยครับ คนที่ตายเพราะไฟช็อตส่วนใหญ่เพราะผิวหนังเราเปียกครับ หรือมือเรามีเหงื่อพอดี
I = V/R
I = 220/1,000
I = 0.22 แอมป์ หรือ 220 มิลลิแอมป์ = หัวใจล้มเหลว ผิวหนังไหม้ และมีโอกาสตายสูงมาก


ขณะที่แบบ 110V จะเบากว่าก็ตามสูตรเลย
I = V/R
I = 110/1,000
I = 0.11 แอมป์ หรือ 110 มืลลิแอมป์ = หัวใจล้มเหลวชั่วขณะ มีโอกาสตาย

ผมบอกไปแล้วว่ามันปลอดภัยกว่าแต่มันไม่ได้มากขนาดนั้นคำถามคือ45วิตายกับกนึ่งนาทีตายต่างกันแค่ไหน มันแทบไม่มีความต่างครับถ้าโดนไฟดูดไม่มีคนอยู่ข้างๆ ช่วยในทันที่ผลคือตายเหมือนกันและความปลอดภัยไม่กีวิไม่กี่นาทีนี้ไม่เกี่ยวกับ สาเหตุที่หม้อไฟบ้านเราระเบิดครับอย่าว่าแต่ความปลอดภัยที่ว่ามันแทบไม่มีความต่าง เมื่อเราโดนไฟดูดไม่ว่าจะ110หรือ220เราช่วยตัวเองไม่ได้ทังนั้นครับ และ110ปลอดภัยกว่าแค่ไหนมันก็โดนดูดตายอยู่ดี เราไม่สามารถรอห้านาทีสิบนาทีไห้คนมาช่วยได้หรอกครับ ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยของไฟฟ้า110กับ220มันไม่ต่างกับ โดนปืน.45ยิงกับ9มมมันต่างกันยังไงครับมันแทบไม่ต่างกันเลย จริงอยู่ว่าโอกาศรอด110จะมากกว่าแต่มันก็ไม่มากขนาดเรียกว่าปลอดภัยได้ และความจริงคือต่อไห้เปรี่ยนระบบไฟเป็น110หม้อไฟในไทยก็ยังจะระเบิดเหมือนเดิม ไม่มีความต่างไม่สิมันอาจจะระเบิดเยอะขึ้นเพราะความทนทานของหม้อ110มันน้อยกว่า เหตุผลเพราะไทยไม่มีการซ่อมบำรุงครับไม่เกี่ยวกับระบบไฟ

[pol]

[quote/]
ผมบอกไปแล้วว่ามันปลอดภัยกว่าแต่มันไม่ได้มากขนาดนั้นคำถามคือ45วิตายกับกนึ่งนาทีตายต่างกันแค่ไหน มันแทบไม่มีความต่างครับถ้าโดนไฟดูดไม่มีคนอยู่ข้างๆ ช่วยในทันที่ผลคือตายเหมือนกันและความปลอดภัยไม่กีวิไม่กี่นาทีนี้ไม่เกี่ยวกับ สาเหตุที่หม้อไฟบ้านเราระเบิดครับอย่าว่าแต่ความปลอดภัยที่ว่ามันแทบไม่มีความต่าง เมื่อเราโดนไฟดูดไม่ว่าจะ110หรือ220เราช่วยตัวเองไม่ได้ทังนั้นครับ และ110ปลอดภัยกว่าแค่ไหนมันก็โดนดูดตายอยู่ดี เราไม่สามารถรอห้านาทีสิบนาทีไห้คนมาช่วยได้หรอกครับ ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยของไฟฟ้า110กับ220มันไม่ต่างกับ โดนปืน.45ยิงกับ9มมมันต่างกันยังไงครับมันแทบไม่ต่างกันเลย จริงอยู่ว่าโอกาศรอด110จะมากกว่าแต่มันก็ไม่มากขนาดเรียกว่าปลอดภัยได้ และความจริงคือต่อไห้เปรี่ยนระบบไฟเป็น110หม้อไฟในไทยก็ยังจะระเบิดเหมือนเดิม ไม่มีความต่างไม่สิมันอาจจะระเบิดเยอะขึ้นเพราะความทนทานของหม้อ110มันน้อยกว่า เหตุผลเพราะไทยไม่มีการซ่อมบำรุงครับไม่เกี่ยวกับระบบไฟ

ผมเห็นด้วยกับท่านนะ เปรียบเทียบได้เห็นภาพดี 11 กับ 9 โดนไปก็ตายทั้งคู่ 
ป.ล แล้วเห็นด้วยกับการเอาสายไฟลงดินของไทยไหมครับ? สำหรับผมนี่ไม่เห็นด้วยแฮะ

[Black7nos]

[quote/] ผมเห็นด้วยกับท่านนะ เปรียบเทียบได้เห็นภาพดี 11 กับ 9 โดนไปก็ตายทั้งคู่ 
ป.ล แล้วเห็นด้วยกับการเอาสายไฟลงดินของไทยไหมครับ? สำหรับผมนี่ไม่เห็นด้วยแฮะ

ภาพอุโมงค์นำสายไฟลงดิน


สายไฟลงดินมันง่ายต่อการจัดการมากกว่าครับ คุณ pol ลองนึกถึงสายไฟรุงรังบนเสาไฟฟ้าก็ได้ครับ
แล้วสำคัญอีกอย่างหนึ่ง บางทีพวกสัตว์มันปีนเสาไฟได้ ถ้าเกิดตัวสัตว์บังเอิญมันพลาด ตัวมันไปแตะระหว่างสายที่มีไฟ กับ สาย N ขึ้นมา
ก็บึ้มเลยนะครับ ถ้าน่ากลัวสุดก็ถึงขั้นหม้อแปลงระเบิดได้เลย
ตอนผมจบใหม่ๆทำงานวิศวกร เคยเห็นหม้อแปลงระเบิดด้วยตาตัวเองมาแล้ว น่ากลัวมาก

[pol]

[quote/]


[img/]
ภาพอุโมงค์นำสายไฟลงดิน


สายไฟลงดินมันง่ายต่อการจัดการมากกว่าครับ คุณ pol ลองนึกถึงสายไฟรุงรังบนเสาไฟฟ้าก็ได้ครับ
แล้วสำคัญอีกอย่างหนึ่ง บางทีพวกสัตว์มันปีนเสาไฟได้ ถ้าเกิดตัวสัตว์บังเอิญมันพลาด ตัวมันไปแตะระหว่างสายที่มีไฟ กับ สาย N ขึ้นมา
ก็บึ้มเลยนะครับ ถ้าน่ากลัวสุดก็ถึงขั้นหม้อแปลงระเบิดได้เลย
ตอนผมจบใหม่ๆทำงานวิศวกร เคยเห็นหม้อแปลงระเบิดด้วยตาตัวเองมาแล้ว น่ากลัวมาก


[youtube/]


[youtube/]

คือในทางปฏิบัติมันก็ดีกว่าอยู่หรอกครับท่านแต่ท่านก็รู้ "ที่นี่เมืองไทย"  บนดินยังกินกันจนบรรลัย ถ้าลงดินนี่ไม่กินจนหายนะเลยเหรอครับ?

[Black7nos]

[quote/] คือในทางปฏิบัติมันก็ดีกว่าอยู่หรอกครับท่านแต่ท่านก็รู้ "ที่นี่เมืองไทย"  บนดินยังกินกันจนบรรลัย ถ้าลงดินนี่ไม่กินจนหายนะเลยเหรอครับ?

Project เอาสายไฟลงอุโมงค์ใต้ดิน มันทำโดยการไฟฟ้านครหลวง เอาจริงๆก็เป็นรัฐวิสาหกิจที่พอใช้ได้ และก็มีคะแนนความโปร่งใสดีระดับนึงเลย
ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าอุโมงใต้ดินเส้นสีลมจะทำโดยอิตาเลียน-ไทย รู้สึกน่าจะทำเสร็จไปแล้วมั้ง แต่ไม่รู้ว่าทำสายไหนต่อนะ

[ichamkung]

ใช่โครงการนี้ไหม

[Rumia]

[quote/]


Project เอาสายไฟลงอุโมงค์ใต้ดิน มันทำโดยการไฟฟ้านครหลวง เอาจริงๆก็เป็นรัฐวิสาหกิจที่พอใช้ได้ และก็มีคะแนนความโปร่งใสดีระดับนึงเลย
ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าอุโมงใต้ดินเส้นสีลมจะทำโดยอิตาเลียน-ไทย รู้สึกน่าจะทำเสร็จไปแล้วมั้ง แต่ไม่รู้ว่าทำสายไหนต่อนะ

ถ้าทำได้ดีจริงก็ดีไปครับแต่ผมจำได้ว่ายังไม่ทันเริมก็จมบ้านชาวบ้านไปสองสามหลังแล้วนิ ไม่แปลกที่จะมีคนกังวลครับแต่สุดท้ายมันก็เหมือนเดิมผมไม่คิดว่สาการเอาสายไฟลงดินแล้วบำรุงรักษาง่ายจะมีคนไปบำรุงรักษา ผมว่ามันต่อไห้ทำเสร็จไช้งานได้จริงสุดท้ายก็อีรอบเดิมรอมันพังค่อยไปซ่อมพนันร้อยเอาบาทเดียวเลย

[Black7nos]

[youtube/]

ใช่โครงการนี้ไหม

น่าจะใช่ครับ แต่เบื้องลึกโครงการนี้ผมไม่ได้รู้รายละเอียดมากนักว่าเรื่องการ Management กับชาวบ้านมันดีหรือแย่อย่างไร
แต่เรื่องไปดีลกับชาวบ้าน อันนี้เป็นเรื่องของรัฐวิสาหกิจกับรัฐล้วนๆเลย