[size=78%]มีสาระ[/size]
ถ้าอย่างนั้นผม ก็มองได้ว่า ขอวที่ทำมาพวกนี้ คือมัน อย่างน้อยๆ คืออาจทำงานได้ระดับนึง แต่ไม่ถึงขั้นใช้งานจริงได้สินะ
[quote/]
ช่องเคมี ที่ผมเคยดู เขาทำเจเนอเรเตอร์ ไฮโดรเจน ยังต้องทำวาว กันย้อน 2ชั้นเลยนะ คือ ถ้า แยก แบบ ไม่แบ่งฝั่ง ออกซิเจนไปทาง ไฮโดรเจ้นไปทาง มาผสมที่ปลายทาง เวลามันย้อนเข้าสาย กันย้อนนี่สั่นเลยแหละ
[quote/]
จริงครับ ไอ้อาหารเสริมหลายตัว นี่ผมนังเคยบอกเลยว่า ถ้าได้จริง ระดับรางวัลโนเบล นะเธอ
ของบางอย่างมันจริงนะแต่มันผิดที่ตัวเลข
เช่น สมมุติกิน สมุนไพร x ช่วยรักษามะเร็งได้
คือได้แหล่ะ แต่คนกินต้องกิน ปริมาณ xx ตัน ใน x ปี
ซึ่งมันกินไม่ไหว หรือถึงไหว ก็เป็นโรคอื่นต่อแทน
คือหลายเทคโนโลยี ถ้าถามแค่ yes/no คำตอบคือ yes
แต่ถ้าถามว่าตัวเลขเท่าไหร่ ผลข้างเคียงนู่นนี่นั่น
ถ้าเกิน 20 ปี แล้วยังไม่มีวี่แววจะออกสู่ตลาด
แปลว่ามันมีปัญหานั่นแหล่ะ
เพราะส่วนใหญ่มันไม่มีการกระโดดของเทคโนโลยี
มันมีแต่ต่อยอด
แปลว่าแทบทุกเทคโนโลยี มันต่างกันแค่ ใครนึกวิธีใหม่ๆได้
พอคนที่คิดได้เอามาพรีเซ้นต์ แค่นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ
คนที่รับฟังก็สามารถเอาไปต่อยอดหรือทำตามได้ในไม่กี่ปี
ต่อให้จดสิทธิบัตร มันก็มีอายุไม่กี่ปี
แปลว่าทุกเทคโนโลยี แค่มีคนทำได้คนแรก
เดี๋ยวก็มีคนที่ 2 ในเวลาไม่กี่ปี
แต่ถ้ามีคนแรกทำได้ มีคนต่อๆไปทำได้
แล้วมันก็เงียบหายไป แปลว่ามันติดปัญหานั่นแหล่ะ
เหมือนรถยนต์ไฟฟ้ามีมาตั้ง 100 ปีละ เพิ่งมาบูม
เพราะเทคโนโลยีแบตเตอรี่มันพัฒนาถึง
แถมมีกระแสพลังงานสะอาด
ถ้าไม่มีการผลักดันของ รบ.จีน บางที รถ ev อาจจะบูมช้ากว่านี้ 10 ปีก็ได้