แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อสร้าววิทยการ หรือ นวัฒกรรมใหม่ แต่ำม่มีใครยอมรับ  (อ่าน 2429 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlackLucky

  • จอมทัพหมี
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,258
  • ถูกใจแล้ว: 10163 ครั้ง
  • ความนิยม: +213/-130
  • เพศ: ชาย
  • มังกรเงินผู้คอยบินเคียงข้างมังกรทองเสมอ
คิดค้นพัฒนามาตั้งแต่ปี 1873 เกินร้อยปีแล้วยังไม่แพร่หลาย ก็แปลว่าไม่ได้ดีอย่างที่โชว์กันแค่นั้นแหละ
แล้วเติมน้ำเปล่าเฉยๆเครื่องไม่ทำงานนะเอ่อ ต้องน้ำผสมสารละลายอิเล็กโทรไลต์ให้นำไฟฟ้าได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2023, 03:38:18 AM โดย BlackLucky »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
คิดค้นพัฒนามาตั้งแต่ปี 1873 เกินร้อยปีแล้วยังไม่แพร่หลาย ก็แปลว่าไม่ได้ดีอย่างที่โชว์กันแค่นั้นแหละ
แล้วเติมน้ำเปล่าเฉยๆเครื่องไม่ทำงานนะเอ่อ ต้องน้ำผสมสารละลายอิเล็กโทรไลต์ให้นำไฟฟ้าได้

[youtube/]
[youtube/]

ไม่ไช่ไม่แพร่หลายครับแค่มันไม่คุ้มที่จะจ่ายแค่นั้นเองและเอาตรงๆว่าบ.ขายรถในไทยรู้เทคโนโลยี่นี้มานาน แค่มันไม่คุ้มที่จะนำเข้ามาขายแค่นั้นดังนั้นไอ้ดร.ที่หัวมู้ว่ามาจึงหลอกขายไม่ได้ อย่างที่ผมบอกครับเทคโนโลยี่นี้มันคือความรู้ทัวไปที่ใครก็หยิบนำไปไช้ได้ แต่มันไม่คุ้มแค่นั้นที่ไช้จริงจังมีแค่สถานีอวกาศครับเพราะมันหาเชื้อเพลิงไม่ง่ายเหมือนโลก แพงแค่ไหนก็คุ้มแต่บนโลกยังไงก็สู้น้ำมันที่ราคาถูกไช้งานง่ายไม่ได้ ตอนนี้เลยมีรถไร้มลภาวะอย่างรถไฮโดรเจนมาไงครับแม้จะลดต้นทุนแล้วแต่ก็ราแพงเป็นสิบเท่าของรถปกติอยู่ดี

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,079
  • ถูกใจแล้ว: 4963 ครั้ง
  • ความนิยม: +388/-441
[size=78%]มีสาระ[/size]


ถ้าอย่างนั้นผม ก็มองได้ว่า ขอวที่ทำมาพวกนี้ คือมัน อย่างน้อยๆ คืออาจทำงานได้ระดับนึง   แต่ไม่ถึงขั้นใช้งานจริงได้สินะ


เอาจริงๆแล้วรถไฮโดรเจน ที่อันตรายสุดๆจริงๆคือแก๊สไฮโดรเจนเองนี่แหละ
อย่างที่เรารู้กันว่าไฮโดรเจนเป็นก๊าซที่ไม่เสถียรอย่างมาก
ดังนั้นมันไวไฟสุดๆเลยแหละ เพราะอย่างนั้นมาคิดกันจริงๆแล้ว
เอามาใช้หนี้อันตรายกว่า LPG หลายเท่า
ไม่ว่าตัวถังบรรจุต้องระวังทั้งอุณหภูมิความดัน
เพราะอย่างนั้นรถ LPG หรือรถแก๊สจึงได้เป็นที่นิยมมากกว่ารถไฮโดรเจน
ปัญหามันก็เริ่มตั้งแต่ที่บรรจุเชื้อเพลิง ยันไปถึงการขนส่งเชื้อเพลิงไปยังห้องเครื่อง
พลังงานมันสะอาดจริงแต่ค่อนข้างอันตรายเลยแหละ 8)  

ช่องเคมี ที่ผมเคยดู เขาทำเจเนอเรเตอร์ ไฮโดรเจน ยังต้องทำวาว กันย้อน 2ชั้นเลยนะ  คือ ถ้า แยก แบบ ไม่แบ่งฝั่ง ออกซิเจนไปทาง ไฮโดรเจ้นไปทาง มาผสมที่ปลายทาง เวลามันย้อนเข้าสาย กันย้อนนี่สั่นเลยแหละ


ที่ผมจะสื่อก็คือถ้าสิ่งประดิษฐ์อะไรทั้งหลายแหล่มันใช้ได้จริงๆแล้วละก็ผู้มีอำนาจวิ่งเข้าหาแล้วครับไม่ปล่อยให้ชาวบ้านได้ออกมาเร่ขายหรอก  เคยมีไอ้เวรตัวนึงเอาน้ำหมักเห็ดหลินจืออะไรสักอย่างของมันจะมาหลอกขายคนที่บ้าน  ผมก็เลยด่ามันไปว่าถ้ามันใช้ได้จริงๆแล้วละก็ CP  นี่วิ่งเข้าใส่แล้วไม่ปล่อยให้เอ็งมาเร่ขายหรอกเฟ้ย  ???


จริงครับ ไอ้อาหารเสริมหลายตัว นี่ผมนังเคยบอกเลยว่า ถ้าได้จริง ระดับรางวัลโนเบล นะเธอ ???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2023, 07:43:02 AM โดย sariora123 »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,863
  • ถูกใจแล้ว: 2920 ครั้ง
  • ความนิยม: +205/-1
[size=78%]มีสาระ[/size]


ถ้าอย่างนั้นผม ก็มองได้ว่า ขอวที่ทำมาพวกนี้ คือมัน อย่างน้อยๆ คืออาจทำงานได้ระดับนึง   แต่ไม่ถึงขั้นใช้งานจริงได้สินะ


[quote/]
 
ช่องเคมี ที่ผมเคยดู เขาทำเจเนอเรเตอร์ ไฮโดรเจน ยังต้องทำวาว กันย้อน 2ชั้นเลยนะ  คือ ถ้า แยก แบบ ไม่แบ่งฝั่ง ออกซิเจนไปทาง ไฮโดรเจ้นไปทาง มาผสมที่ปลายทาง เวลามันย้อนเข้าสาย กันย้อนนี่สั่นเลยแหละ


[quote/]


จริงครับ ไอ้อาหารเสริมหลายตัว นี่ผมนังเคยบอกเลยว่า ถ้าได้จริง ระดับรางวัลโนเบล นะเธอ ???


ของบางอย่างมันจริงนะแต่มันผิดที่ตัวเลข


เช่น สมมุติกิน สมุนไพร x ช่วยรักษามะเร็งได้


คือได้แหล่ะ แต่คนกินต้องกิน ปริมาณ xx ตัน ใน x ปี
ซึ่งมันกินไม่ไหว หรือถึงไหว ก็เป็นโรคอื่นต่อแทน


คือหลายเทคโนโลยี ถ้าถามแค่ yes/no คำตอบคือ yes


แต่ถ้าถามว่าตัวเลขเท่าไหร่ ผลข้างเคียงนู่นนี่นั่น
ถ้าเกิน 20 ปี แล้วยังไม่มีวี่แววจะออกสู่ตลาด
แปลว่ามันมีปัญหานั่นแหล่ะ


เพราะส่วนใหญ่มันไม่มีการกระโดดของเทคโนโลยี
มันมีแต่ต่อยอด
แปลว่าแทบทุกเทคโนโลยี มันต่างกันแค่ ใครนึกวิธีใหม่ๆได้


พอคนที่คิดได้เอามาพรีเซ้นต์ แค่นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ
คนที่รับฟังก็สามารถเอาไปต่อยอดหรือทำตามได้ในไม่กี่ปี


ต่อให้จดสิทธิบัตร มันก็มีอายุไม่กี่ปี


แปลว่าทุกเทคโนโลยี แค่มีคนทำได้คนแรก
เดี๋ยวก็มีคนที่ 2 ในเวลาไม่กี่ปี


แต่ถ้ามีคนแรกทำได้ มีคนต่อๆไปทำได้
แล้วมันก็เงียบหายไป แปลว่ามันติดปัญหานั่นแหล่ะ


เหมือนรถยนต์ไฟฟ้ามีมาตั้ง 100 ปีละ เพิ่งมาบูม
เพราะเทคโนโลยีแบตเตอรี่มันพัฒนาถึง
แถมมีกระแสพลังงานสะอาด


ถ้าไม่มีการผลักดันของ รบ.จีน บางที รถ ev อาจจะบูมช้ากว่านี้ 10 ปีก็ได้
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,079
  • ถูกใจแล้ว: 4963 ครั้ง
  • ความนิยม: +388/-441
เรื่อง เทคโน  ผมมองว่า บาง อย่าง


มันอยู่ที่ความในค่า ในการลงทุน ทำ หรือ ความจำ[size=78%]กัด ด้านวัสดุ[/size]
[size=78%]หรือขีดจำกัด ทาง เทคนิค หรือ การตลาด[/size]


เเบตแบบชาร์ด เร็วยังกับเติมน้ำ ทำได้มาจะ20 ปี ล่ะ แต่ เพิ่งจะเอามีตอนนี้ เห็นว่าเพราะเทคโนเเบตเดิมดันต่อ ไม่ไป กับเริ่มคุ้มค่าทางการตลาด


หรือ cpu แบบ phase ที่เดิมทีแล้วหวุงกันว่าจะมาแทนที่x64
เพราะในทางเทคนิค มันเร็วกว่าเป็นพันท่า


ปัญหาคือ ถ้าจะทำจริง ต้องทำ  OS  โปรแกรม แบบ phase ออกมาอีก ซึ่ง ก็ไม่รผุ้ว่าทำมาจะขายได้ไหม Dev. จะมาร่วมด้วยไหม มันเลยไม่ไปต่อ
 cpu  ของ ps2 เป็นแบบ phase  นะมีแค่รุ่นเดียว นี่แหละ


ผรือล่าสุด มีข่าวว่าไปขุดเอาจรวดพลังนิวเคลียร์ มาพัฒนาต่อ เพราะจะใช้สำรวจ อวกาศห้วงลึกได้สะดวก ว่ากว่าจรวดแบบเดิม  อพราะตอนนี้คิดค้นวัสดุทน อุณหภูิมสูง ได้ล่ะ
 

ออนไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,159
  • ถูกใจแล้ว: 19894 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-1
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
บางทีแนวคิดดีๆก็ใช้ไม่ได้ถ้าเทคโนโลยีไม่ถึงนะครับ  เมื่อหลายปีก่อนโน้น resident evil outbreak  เป็นเกมส์ที่จะสนุกถ้าเล่นแบบออนไลน์แต่ความเร็วอินเตอร์เน็ตมันไม่ถึง  ก็เลยกากอย่างที่เห็นลองเอามาสร้างใหม่ตอนนี้สิผมว่าดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ
 

ออฟไลน์ BlackLucky

  • จอมทัพหมี
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,258
  • ถูกใจแล้ว: 10163 ครั้ง
  • ความนิยม: +213/-130
  • เพศ: ชาย
  • มังกรเงินผู้คอยบินเคียงข้างมังกรทองเสมอ

ใช้งานจริงเฉพาะทางน่ะได้ แต่พวกเอามาโชว์ใช้คู่กับเครื่องยนต์ปัจจุบัน โม้แน่นอน
เครื่องยนต์ทั่วไปไม่ได้ออกแบบมารองรับไฮโดรเจน เพราะงั้นไฮโดรเจนที่ผลิตมาคือเสียพลังงานฟรี แถมอันตรายด้วย



[quote/]
ไม่ไช่ไม่แพร่หลายครับแค่มันไม่คุ้มที่จะจ่ายแค่นั้นเองและเอาตรงๆว่าบ.ขายรถในไทยรู้เทคโนโลยี่นี้มานาน แค่มันไม่คุ้มที่จะนำเข้ามาขายแค่นั้นดังนั้นไอ้ดร.ที่หัวมู้ว่ามาจึงหลอกขายไม่ได้ อย่างที่ผมบอกครับเทคโนโลยี่นี้มันคือความรู้ทัวไปที่ใครก็หยิบนำไปไช้ได้ แต่มันไม่คุ้มแค่นั้นที่ไช้จริงจังมีแค่สถานีอวกาศครับเพราะมันหาเชื้อเพลิงไม่ง่ายเหมือนโลก แพงแค่ไหนก็คุ้มแต่บนโลกยังไงก็สู้น้ำมันที่ราคาถูกไช้งานง่ายไม่ได้ ตอนนี้เลยมีรถไร้มลภาวะอย่างรถไฮโดรเจนมาไงครับแม้จะลดต้นทุนแล้วแต่ก็ราแพงเป็นสิบเท่าของรถปกติอยู่ดี


มีความรู้แต่ไม่นิยมใช้ นั่นแหละที่เขาเรียกว่าไม่แพร่หลาย
แล้วสถานีอวกาศไหนใช้กัน สถานีอวกาศตอนนี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กันทั้งนั้น น้ำสำคัญกว่าเชื้อเพลิงอีก
รถไฮโดรเจนที่ไหนราคาเป็นสิบเท่าของรถปกติล่ะนั่น ในเมการาคาเฉลี่ยก็5-6หมื่นดอลลาร์ พอๆกับรถทั่วไป
รถเก๋ง4ประตูในเมการาคาก็ตั้งแต่ 3-6 หมื่นดอลลาร์เหมือนกัน

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403

ใช้งานจริงเฉพาะทางน่ะได้ แต่พวกเอามาโชว์ใช้คู่กับเครื่องยนต์ปัจจุบัน โม้แน่นอน
เครื่องยนต์ทั่วไปไม่ได้ออกแบบมารองรับไฮโดรเจน เพราะงั้นไฮโดรเจนที่ผลิตมาคือเสียพลังงานฟรี แถมอันตรายด้วย



[quote/]


มีความรู้แต่ไม่นิยมใช้ นั่นแหละที่เขาเรียกว่าไม่แพร่หลาย
แล้วสถานีอวกาศไหนใช้กัน สถานีอวกาศตอนนี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กันทั้งนั้น น้ำสำคัญกว่าเชื้อเพลิงอีก
รถไฮโดรเจนที่ไหนราคาเป็นสิบเท่าของรถปกติล่ะนั่น ในเมการาคาเฉลี่ยก็5-6หมื่นดอลลาร์ พอๆกับรถทั่วไป
รถเก๋ง4ประตูในเมการาคาก็ตั้งแต่ 3-6 หมื่นดอลลาร์เหมือนกัน
เอาง่ายๆรถไฮโดรเจนนะมีขายมาเป็น40-50ปีแล้วครับแค่ไม่มีเอเยนมาขายในไทยมันเหมือนรถสปอตที่ขายกันเกือบทุกบ. แม้แต่โตโยต้าก็ทำขายมานานที่ว่าไม่แพร่หลายเพราะคนไทยไม่รู้จักรถทุกรุ่นเหมือนบ.ขายรถต่างหาก เรื่องจริงก็แค่มันขายมานานแต่มันแพงจนไม่มีคนในไทยซื้อมาไช้แต่ในระดับโลกเค้ารู้จักมานานแล้ว เอาตรงๆแค่เทคโนโลยี่เปรี่ยนน้ำเป็นไฮโดรเจนผมว่าก็มีสอนในหลักสูตรมหาลัยนะครับ เอาตรงๆไอ้ด็อกลวงโลกที่คิดขายนวฒกรรมก็คิดเหมือนท่านว่าคนไทยไม่รู้หรอกว่า เทคโนโลยี่ไช้ไฟฟ้าทำปติกริยาเคมีกับน้ำเปรี่ยนเป็นไฮโดรเจนมีนานแล้ว ถึงหลอกขายโนฮาวไห้คนอื่นแต่บ.รถทุกเจ้าไม่สนใจซื้อเลยเพราะพวกเขารู้ว่า รถไฮโดรเจนมีขายอยู่นานแล้วไงครับไช่ครับมันคือเทคโนโลยี่เฉพาะแต่มันก็แพร่หลายในระดับหนึ่งครับ ระดับที่พวกดิลเลอร์รถเครื่องบินรู้จักชางกลระดับสูงรู้จักนศ.สาขาเคมีรู้จักในไทยอะนะ แต่ถ้าระดับสากลคนที่ไปซื้อรถส่วนมากจะรู้จักหมดเพราะมันถูกโปรโมทในฐานะรถพลังงานสะอาดมาตลอด50ปี แต่เพราะมันแพงเลยขายยากแค่นั้นแหละปัจจุบันมันก็ถูกพัตนามาโดยตลอด จนราคามันลดลงเยอะมาก

ออฟไลน์ BlackLucky

  • จอมทัพหมี
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,258
  • ถูกใจแล้ว: 10163 ครั้ง
  • ความนิยม: +213/-130
  • เพศ: ชาย
  • มังกรเงินผู้คอยบินเคียงข้างมังกรทองเสมอ
4-50 ปีก่อนมันจะมาขายได้ยังไง ก็ในเมื่อรถไฮโดรเจนแบบผลิตขายจริงมันพึ่งมีตอนยุค2000 ก่อนหน้านั้นมีแต่ตัวทดสอบ กับต้นแบบ
แล้วรถไฮโดรเจนตอนนี้รุ่นไหนที่ว่ามันแพงกว่ารถธรรมดาสิบเท่า

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
4-50 ปีก่อนมันจะมาขายได้ยังไง ก็ในเมื่อรถไฮโดรเจนแบบผลิตขายจริงมันพึ่งมีตอนยุค2000 ก่อนหน้านั้นมีแต่ตัวทดสอบ กับต้นแบบ
แล้วรถไฮโดรเจนตอนนี้รุ่นไหนที่ว่ามันแพงกว่ารถธรรมดาสิบเท่า
มันมีขายและเจ็งไปหลายรอบแล้วไงครับไอ้รถไฟฟ้านี่ก็ไม่ไช่พึ่งมามีแต่มีมาอย่างต่ำ30-50ปีแล้วมันคือเทคโนโลยี่ที่พัตนาตามๆกันมา ไอ้ระบบabsคือเศษซากจากรถไฮโดรเจนพลังงานน้ำสังเคราะคิดว่ามันมีมานานแค่ไหนครับ จริงอยู่ว่าถ้าห้าสิบปีก่อนอาจจะเป็นรุ่นทดลองแต่ตอนนั้นมันก็มาเป็นคันรถพร้อมไช้งานแล้ว หลังจากนั้นมาช่วงสามสิบสี่สิบปีก่อนรถพลังน้ำทยอยเจ็งแล้วค่อยเริ่มขายในฐานะรถพลังงานสะอาด ที่ไช้ไฮโดรเจนผมบอกง่ายๆว่าไอ้รถที่เอาน้ำเติมแล้วไช้ไฟฟ้าทำปติกริยาเคมีนะมีมานานกว่านั้นอีก แต่กระบวนการดังกล่าวมันกินทรัพยากรมากเกินไปจนไม่มีใครซื้อและปัจจุบันรถไฮโดรเจนที่ขายนะ ตัดกระบวนการแปรรูปน้ำเป็นไฮโดรเจนแต่ไช้ไฮโดรเจนตรงๆเลย กระบวนการทำไฮโดรเจนจึงแยกออกจากรถเพื่อลดต้นทุน เข้าใจไหมครับว่ามันมีมานานแล้วแต่แพงเกินไปจนมันถูกตัดลดกระบวนการลง พวกเทคโนโลยี่รถไฟฟ้าก็เช่นกันเดิมคือไส่โซล่าเซลติดรถไปเลย แต่สุดท้ายเพราะมันสิ้นเปลืองเกินไปจึงถูกถอดออกเหลือแต่แบตเตอร์รี่ คุณคิดว่ากระบวนการเหล่านี้มันคิดแค่ปีสองปีเหรอครับผมบอกเลยไม่ต่ำกว่า30-40ปี ในระหว่างนั้นเค้าก็เข็นออกมาขายในฐานะนวฒกรรมใหม่เรื่อยๆผมถึงบอกว่ามันมีขายมานานแล้ว อย่างน้อยก็นานกว่าคนไทยที่อ้างว่าคิดคนแรกเมืองนอกขายเป็นคันคนไทยขายเป็นโครง มันเลยไม่มีบ.รถของไทยที่ไหนซื้อไงครับ

ออฟไลน์ BlackLucky

  • จอมทัพหมี
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,258
  • ถูกใจแล้ว: 10163 ครั้ง
  • ความนิยม: +213/-130
  • เพศ: ชาย
  • มังกรเงินผู้คอยบินเคียงข้างมังกรทองเสมอ
บอกว่ามีเนี่ย ยกมาสักยี่ห้อสักรุ่นที่ออกขายแบบผลิตจำนวนมากมาทีสิ แล้วรถไฟฟ้ามันมีเกิน100ปีแล้วต่างหาก แถมถ้านับจริงๆอีก5ปีก็ครบ200ปีของการเริ่มทดลองรถไฟฟ้าด้วย
แล้วตรงไหนที่ผมบอกทำให้คิดว่าพัฒนากันปีสองปี ก็บอกอยู่ว่าตอน4-50ปีก่อนมันมีแค่ต้นแบบกับรุ่นทดลองกัน แต่พึ่งมาเปิดผลิตขายจำนวนมากได้หลังยุค2000

ระบบabsก็ไม่เกี่ยวอะไรกับรถไฮโดรเจนเลย มันเริ่มต้นพัฒนาในเทคโนโลยีเครื่องบินนู่น

แล้วก็ตอบด้วยว่ารถไฮโดรเจนตอนนี้รุ่นไหนที่แพงกว่ารถธรรมดา10เท่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2023, 06:00:10 PM โดย BlackLucky »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,863
  • ถูกใจแล้ว: 2920 ครั้ง
  • ความนิยม: +205/-1
รถแบบ แบตนี่มีตั้งแต่สมัยรถม้าเลยนะ


ส่วนแบบไฮโดรเจนมีมาไม่น่าถึง 50 ปีนะ


แล้วรถไฮโดรเจนสมัยก่อนถ้าจำไม่ผิดคนละเทคโนโลยีกับปัจจุบันนะ


คือไฮโดรเจนสมัยก่อนจะใช้เผาไหม้


แต่สมัยปัจจุบันจะใช้รวม ไฮโดรเจน +ออกซิเจน
โดยจะให้วิ่งผ่านแผงกั้น แล้วมันจะเกิดการแลกประจุทำให้เกิดไฟฟ้า


คือไฮโดรเจนที่เอาไปใส่เครื่องยนต์แบบลูกสูบ
กับเอาไปปั่นไฟหมุนมอเตอร์


มันคือคนละเทคโนโลยีเลยนะ


แต่รถแบต มันหลักการเดียวกันมา 100+ ปี
ต่างแค่ส่วนประกอบมันพัฒนาขึ้น
 

ออฟไลน์ BlackLucky

  • จอมทัพหมี
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,258
  • ถูกใจแล้ว: 10163 ครั้ง
  • ความนิยม: +213/-130
  • เพศ: ชาย
  • มังกรเงินผู้คอยบินเคียงข้างมังกรทองเสมอ
ถ้าfuel cell electric vehiclesนี่เกิน50ปีอยู่นะ General Motors ปล่อยรถมาตอน1966 57ปี เกินมา7ปีได้ ฮา :P
ถ้าเครื่องยนต์เผาไฮโดรเจนที่วิ่งได้จริงนี่มีตอน 1860 ขายได้3-400คันอีกต่างหาก แต่ถ้าfuel cellสร้างไฟฟ้าได้นี่ตอน 1939

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,229
  • ถูกใจแล้ว: 6562 ครั้ง
  • ความนิยม: +295/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ


เพียงแค่พวกเจ้ายอมรับ "วิวัฒนาการรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร"
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
รถแบบ แบตนี่มีตั้งแต่สมัยรถม้าเลยนะ


ส่วนแบบไฮโดรเจนมีมาไม่น่าถึง 50 ปีนะ


แล้วรถไฮโดรเจนสมัยก่อนถ้าจำไม่ผิดคนละเทคโนโลยีกับปัจจุบันนะ


คือไฮโดรเจนสมัยก่อนจะใช้เผาไหม้


แต่สมัยปัจจุบันจะใช้รวม ไฮโดรเจน +ออกซิเจน
โดยจะให้วิ่งผ่านแผงกั้น แล้วมันจะเกิดการแลกประจุทำให้เกิดไฟฟ้า


คือไฮโดรเจนที่เอาไปใส่เครื่องยนต์แบบลูกสูบ
กับเอาไปปั่นไฟหมุนมอเตอร์


มันคือคนละเทคโนโลยีเลยนะ


แต่รถแบต มันหลักการเดียวกันมา 100+ ปี
ต่างแค่ส่วนประกอบมันพัฒนาขึ้น
นับแบบไหนต่างหากครับที่ผมบอกคือเทคโนโลยี่เก่าที่หัวมู้ตังขึ้นมาครับที่บอกว่าคนไทยสร้างรถพลังงานน้ำแล้วไม่มีใครยอมรับวิทยาการหรือนวฒกรรมใหม่ แน่นอนว่าเทคโนโลยี่ที่ว่ามันถูกพัตนาจนเป็นรถไฮโดรเจนปัจจุบันแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ผมถึงบอกว่ามันเจ็งไปตังแต่แรกๆแล้วไงครับมันเปิดตัวรถพลังงานน้ำที่่ไช้การเผาไหม้นั้นคือเทคโนโลยี่ ที่หัวมู้ตังขึ้นมามันคือเทคโนโลยี่เก่าเป็นร้อยปีเลยครับเก่าจนหมดอายุเก่าจนใครนำมาไช้งานก็ได้ ไม่ไช่เทคโนโลยี่รถไฮโดรเจนปัจจุบันแม้มันจะถูกพัตนาจากจุดนั้นขึ้นมาก็ตาม ที่ผมจะบอกคือไอ้คนไทยที่อ้างว่าตัวเองคิดค้นรถพลังงานน้ำเปรี่ยนเป็นไฮไดรเจนมาเป็นพลังงานนะ ไม่ได้สร้างหรือคิดของใหม่อะไรเลยและไม่ไช่ไม่มีใครไม่ยอมรับเทคโนโลยี่นั้นด้วย แต่ไม่ยอมรับคำโกหกที่ว่าคนไทยคนนั้นสร้างและคิดขึ้นมาเองแล้วเอามาหลอกขายแต่ไม่มีใครซื้อต่างหากครับ เพราะความจริงไม่มีใครหรือคนส่วนมากก็ยอมรับนวฒกรรมและเทคโนโลยี่ใหม่อยู่แล้ว แค่ไอ้ของใหม่ที่ว่ามีราคายอมรับได้แค่ไหนเท่านั้นอย่างรถพลังน้ำที่หัวมู้ยกตัวอย่างมาขายราคาแปลนการผลิต ที่ไช้งานไม่ได้ต้องวิจัยเพิ่มแถมเมืองนอกมีตัวอย่างที่ไช้งานได้แล้วใครจะซื้อของที่ไช้งานไม่ได้ในราคาหลายสิบหลายร้อยล้านครับ แถมไอ้รถพลังน้ำมันก็มีตัวอย่างเจ็งในเมืองนอกคาตาอีกต่างหากแล้วยังมาขายเศษเหล็กที่มีแต่โครงแบบโคตรแพงอีก ส่วนยี่ห้อผมจำไม่ได้แต่บ.ยี่ห้อชั้นนำหลายๆเจ้าก็ทำออกมาแข่งกันอยู่นะครับ ถึงสุดท้ายมันจะมีฐานะเป็นได้แค่ตัวอย่างก็ตาม

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก