คำถามคาใจมาช้านาน จาก แนวจอมยุทธกำลังภายใน

[gaiar33]

ในยุคที่ ไม่มี หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต และการสื่อสารไร้พรหมแดนต่างๆ


พี่ท่านรู้กันได้ยังไงว่า  จอมยุทธ นักพรต หลวงจีน คนไหน  หรือ วิทยายุทธ อะไร ที่เจ๋งที่สุดในใต้หล้า???


..ยิ่ง บางคนไปหมกตัวอยู่ในกลางหุบเขา ตั้งแต่เกิด พร้อมค่ายกล เกือบร้อยปี ด้วยเอา


เผลอๆดองเค็มจนตายไปซะก่อน ไปเจออีกทีเป็นปุ๋ยไปแล้ว

• Tweet

[pol]

ศึกชิงเจ้ายุทธภพครับท่าน    หรือไม่ก็จะมีจอมเผือกแห่งบู๊ลิ้มมาจัดอันดับให้เองโดยไม่มีคนขอให้ทำ

[daily]

ยุคนั้นสิ่งบันเทิงต่างๆไม่มี  กีฬาหรือการละเล่นก็แทบไม่มี  นานๆทีอาจมีจัดเล็กน้อย
เพราะงั้น  ก็มีสองอย่างที่ผู้คนจะทำ  ถ้าเป็นกลางคืนก็ปั๊มลูก (เพราะไม่มีอะไรจะทำ)
ส่วนกลางวัน  ถ้ามีเวลาว่างก็จับเข่าซุบซิบนินทา  หรือเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟัง


ยิ่งถ้ามีคนต่างแดน  อย่างในโรงเตี้ยมเนี่ย  ตัวอย่างชั้นดีของการเมาท์มอย  เป็นแหล่ง
ข้อมูลข่าวสาร  การนินทา  การอวดอ้าง  เพราะงั้นโรงเตี้ยมเลยพังบ่อยเพราะทะเลาะกัน
หล่ะมั้ง


สมัยก่อน  ข้อมูลจากปากต่อปาก  ลือกันไปลือกันมา  ก็มันไม่มีอะไรทำไง  พอว่างก็
หาเรื่องคุยกัน  เดินทางแต่ละทีก็อาศัยการถามการคุย  คุยไปคุยมาก็ได้ข่าวโคมลอยเยอะ
เจ้าขุนมูลนายหรือพ่อค้าวาณิชย์ที่รวยๆก็ชอบให้คนมาเล่าเกี่ยวกับสิ่งต่างๆในต่างแดน
เพราะการเดินทางมันไม่สะดวก  วิทยาการมันก็ไม่ดีก็ต้องอาศัยคำอวดอ้าง  คำเล่าลือ
ว่าใครเก่ง  ใครอยู่ตรงไหน  วิชาแปลกพิศดารอย่างไร  เหาะเหินเดินอากาศ  หรือ
กำลังบำเพ็ญตน  หรือจอมยุทธคนไหนหลบลี้หนีหน้าซ่อนตัว  การเมาท์เป็นสิ่งบันเทิง

[gundam666]

ก็ ถ้าไม่เพราะขี้ปากชาวบ้าน ก็ไปถล่มสำนัก หรือไม่ก็แรงอวยจากเหล่าเจ้าสำนัก

[Rumia]

ไอ้ข่าวที่ว่ามันก็ไม่จริงเสมอไปอีกด้วยเอาตามจริงเเทนที่ว่าจะมีข่าวจากโรงเตี้ยมเอาตามจริง น่าจะเป็นข่าวหลุดจากสำนักยุทย์หลายๆสำนักมารวมกันที่โรงเตี้ยมมากกว่า เพราะจะอย่างไรแต่ละสำนักมันก็ต้องสืบข่าวสำนักข้างเคียงคู่แข่งและจอมยุทย์ละแวกตัวเองอยู่แล้ว และข่าวคาวพวกนี้ย่อมแพร่ในสำนักและพวกลูกศิษย์ย่อมเมามอยอยู่แล้ว ข่าวมันจึงไหลมารวมกันตามโรงเตี้ยมขายเหล้าสำนักนางโลม

[zeadragon]

พวกสำนักใหญ่ๆ มันก็มีพบปะกันบ้างอยู่แล้วครับ
บางสำนักก็ชอบสร้างชื่อ
มีกิจกรรมใหญ่คนทั้งเมืองก็รู้
แล้วเรื่องเล่าเกี่ยวกับพวกนี้ก็เป็นที่นิยม

ที่แปลกคือแนวสมัยใหม่ที่มีเนต  แต่คนดันไม่รู้ ทั้งๆที่แต่ละคนก็วางก้ามใหญ่โต ปล่อยพลังกลางที่สาธารณะ ถล่มเมืองเป็นว่าเล่น

[deaddy]

สมัยก่อนมีสำนักคุ้มภัยครับ
พวกสำนักต่างๆได้เดินทางไปเขตต่างๆ
ได้ตีโจร รึประลองกันบ้างอยู่ อาจจะไม่เป๊ะ


แต่สมมุติสำนักช้วนจิน คืออันดับ 1
มันก็มีศิษลำดับที่ .... ไปตีกับ ศิษลำดับที่... ของสำนัก ...
มีคนมาท้าประลองมั่ง มันก็เปรียบเทียบได้บ้างอยู่


ยังไงวงการนี้มันไม่ชัดเจนอยู่ละ
ถ้าไม่ฝีมือห่างกันจริงๆ โจมตีผิดจังหว่ะทีเดียว
ต่อยหมัดฟลุก โดนปลายคางอีกฝั่งมึนแล้วโดนคอมโบจบเกมได้เลย
หรือสู้ๆไปเจอพื้นลื่นล้มหัวฟาด

[providence_gundam]

ปากต่อปากล้วนๆครับ


ตลาด ร้านค้า ร้านเหล้า โรงเตี๊ยม โรงน้ำชา = โซเชียลในยุคปัจจุบันครับ


และข้อมูลข่าวสารสมัยก่อนคือสินค้าที่ซื้อขายได้ครับ คนมันก็อยากรู้เยอะๆเพื่อเอาไปขายต่อได้

สมัยนี้ความอยากรู้มันก็ลดลงหน่อย เพราะความรู้หลายอย่าง อากู๋เอา หรือบางอย่างไม่ได้อยากรู้ แต่มันโผล่มาใน newsfeed เอง

[Kopyor]

เรามาดูยอดยุทธประลองกันเถอะ  (หกนาทีแรก)

[sariora123]

[quote/]
ถึงได้ต้องจัดงานประลองยุทธไงครับ ไม่งั้นก็อย่างท่านว่า จนตายก็ไม่ได้เจอหน้าแลกเปลี่ยนความเก่งกาจ

ปัญหาคือไอ้พวก ที่แบบว่าลือว่าเก่งเทพ นี่แทบไม่เคยเจอหน้าจริงๆ


มีแต่ แบบว่า ผู้อาวุโส หรือจอมยุทธมีชื่อพอจะเชื่อถือได้ ว่าเคยไปเจอไปประมือมาด้วย แบบนี้ล่ะมั้ง  มุกนี้ ชอบใช้ นิ

[Wannabe]

#9#10  อยากเห็นพวกเขาประลองยุทธของจริงกันมั๊ยหล่ะ  มีวีดีโออัดเอาไว้ด้วยนะ
เป็นการประลองของยอดยุทธในยุคนั้น  จัดขึ้นที่ไต้หวัน  ราคาตั๋ว5-10หยวน  ราคา
ตั๋วใต้ดิน100หยวน


ลองดูในคลิป#8 ถ้าขี้เกียจเสียเวลาก็ดูแบบข้ามๆก็ได้  ดูแบบสคิปข้าม  จะเห็นว่า
ของจริงเป็นอย่างไร  โผบินขึ้นฟ้า?  เหาะเหินเดินอากาศ  ใช้กระบวนท่าอัดกระแทก
ไร้นวม  ไร้อุปกรณ์ป้องกัน  ฟันฝ่าประลองกันถึงตาย  สักขีพยานหลายหมื่น  เมื่อเหล่า
จอมยุทธมาชุมนุมกัน

[samuison]

จากการเล่าเลือปากต่อปากครับและน่าจะมีการนัดประลองบนยอดหลังคาวังหลวงแบบที่เล็กเซี่ยวหงส์ต้องจำกัดจำนวนคนเข้าชมการประลอง
ว่าในบางการประลอง แบบที่มกทท่านดกวเล้งจะใช้คนทีป่ระลองอาจจะตายไปหนึ่งคนแต่จะมีคนหนึ่งที่เหลืออยู่ด้านข้างเอาออกมาเล่าขานต่อไป
อย่างเคสลี้คิมฮวงกับเซี่งกัวกิมฮ้ง
คนเห็นเหตุกาณรืคือจิ้นบ่อเมี่ย
ทุกคนก็เชือ่จิ้นบ่อเมี่ยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคือคนเห็นเหตุกาณณืและนิสัยไม่ใช่คนโกหก

[gaiar33]

พวกจัดประลองนี่พอว่าไงครับ  แต่พวกอาวุโสที่ซุ่มโป่ง กลางหุบเขา ในป่าลึก นี่สิ  จีน มันใหญ่กว่าไทยตั้งไม่รู้กี่เท่า...ไปเจอตัวยังไงให้ได้ก่อน 

รึต้อง "ตกหน้าผา"  กันก่อนถึงจะเจอตัวคนเก่งๆที่ว่า   

[deaddy]

#9#10  อยากเห็นพวกเขาประลองยุทธของจริงกันมั๊ยหล่ะ  มีวีดีโออัดเอาไว้ด้วยนะ
เป็นการประลองของยอดยุทธในยุคนั้น  จัดขึ้นที่ไต้หวัน  ราคาตั๋ว5-10หยวน  ราคา
ตั๋วใต้ดิน100หยวน


ลองดูในคลิป#8 ถ้าขี้เกียจเสียเวลาก็ดูแบบข้ามๆก็ได้  ดูแบบสคิปข้าม  จะเห็นว่า
ของจริงเป็นอย่างไร  โผบินขึ้นฟ้า?  เหาะเหินเดินอากาศ  ใช้กระบวนท่าอัดกระแทก
ไร้นวม  ไร้อุปกรณ์ป้องกัน  ฟันฝ่าประลองกันถึงตาย  สักขีพยานหลายหมื่น  เมื่อเหล่า
จอมยุทธมาชุมนุมกัน

ไอ้มวยในต้นคลิปสู้เด็กวัดเส้าหลินยังไม่ได้เลยมั้ง


แทนที่จะไปดูพวกมวยใหม่ๆ ไปดูเส้าหลินจบละ มาตรฐานเส้าหลินราวๆไหน ก็ตามๆนั้น เพราะเส้าหลินน่าจะอยู่ยืนนานสุดละ

[unknown001]

เป้น  [พระ]  แต่ใช้อาวุธประหัตประหารได้เก่งโคตร     (นึกว่าพระเส้าหลินจะใช้แต่กระบอง)

[deaddy]

เป้น  [พระ]  แต่ใช้อาวุธประหัตประหารได้เก่งโคตร     (นึกว่าพระเส้าหลินจะใช้แต่กระบอง)

ต้องนี่สิ รอดูอยู่จะรุ่งไหม

[samuison]

ลองนึกดูดีดี ทางเทคนิค ไม่มีใครเติบโตมาได้โดยไม่มีเทือกเถาเหล่ากอนายขนมต้ม ที่เรียนกับชายพเนจร ก้สันนิษฐานว่าชายพเนจรน่าจะเป็นครูฝึกทหารเก่าที่ออกจากราชการ
"โอ้ เจ้าเด็กหนุ่มนี่ฝีมือไม่เลว ท่าทางเบือ้งหลังจะไม่ธรรมดา"ซึ่งก้จริงแม้แต่ชอลิ้วเฮียง เล็กเซี่ยงหง อาฮุย ท่านดกวเล้งก้ใบ้ว่าคือพวกลูกหลานของยอดคนยุคก่อน
ไม่มีใครเติบโตมาได้แบบมีฝีมือเอาชนะได้ทุกคนเลย ต้องมีต้นสังกัดอาจารย์กันทั้งนั้นยิ่งคนแก่ ยิ่งต้องเคยคบหากับยอดคนรุ่นก่อนด้วยเป็นเรือ่งธรรมดาหากเราไม่ลืม เฒ่าทารกก็นับว่าเป็นเพื่อนกับมารบูรพา พ่อของอึ้งย้งนะครับห้ายอดฝีมือมันออกจะเพื่อนๆกันทั้งนั้น

[wanit000]

[quote/]


ต้องนี่สิ รอดูอยู่จะรุ่งไหม


[youtube/]

ผ่านมา 11 ปีแล้วนะ เด็กๆ อายุ 12 น่าจะ อายุ 23 แล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ พวกนั้น

[deaddy]

[quote/] ผ่านมา 11 ปีแล้วนะ เด็กๆ อายุ 12 น่าจะ อายุ 23 แล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ พวกนั้น

ข่าวล่าสุดที่เจอ ราวๆปี 58 ก็เหมือนทำมาโชว์มากกว่า


คือลีลาท่าเตะบอลน่ะได้ แต่ไม่รู้ใช้ในการแข่งได้ไหม
เพราะในข่าวเขาโชว์แต่กระบวนท่า ไม่เห็นตอนแข่งจริง

[Rumia]

เอาตรงๆนะถ้าจะปันนักเตะก็ปันไปในระบบของฟุตบอลไปอย่างเดียวดีกว่าจับปลาสองมือมันไม่รุ่งหรอกครับ ที่เอเชียเรากีฟาพวกฟุตบอลไม่เก่งเท่าแถบยุโรปเพราะสามสาเหตุครับอันแรกเวลาในการฝึกเริ่มช้ากว่ามาก เด็กๆแถบยุโรปเตะบอลตังแต่เด็กเล็กๆแล้วอันที่สองระบบการฝึกเราไม่สามารถเทียบชั้นได้เรียกว่า ครูฝึกเค้ามีระดับชั้นในการฝึกเป็นเกรดๆเลยอย่างสุดท้ายคือการแข่งขันยุโรปมีการจัดแข่งทุกระดับจริงๆตังแต่รุ่นเล็กยันลีกใหณ่ๆ การจะก้าวตามไห้ทันสามอย่างนี่ยากมากแล้วเอ็งยังจะทะลึ่งไปฝึกสองอย่าง ที่เอามาไช้ร่วมกันไม่ได้นอกจากท่าเตะอะนะผมบอกเลยไม่เวิกไทยลองมาแล้วในวิชาที่ไกล้เคียงกว่ากังฟู+บอล ไทยได้ลองฝึกเซปักตระกร้อกับฟุตบอลผลคือเละสู้ฝึกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถ้าสถาวะและวิชาไม่เทียบเท่าแต่ดันจะไปฝึกหลายอย่างมันไม่มีทางเก่งเท่าหรอกครับ