อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 169 ของสงคราม Part 1
1. ต่อเนื่องกับข่าวเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศกองเรือซากี้ (Saky Naval Air Station) ภายในสาธารณรัฐไครเมียของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากสนามรบในแนวหน้าถึง 200 กม. ล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงสภาพของฐานทัพหลังการระเบิดออกแล้วเรียบร้อย
ภาพถ่ายดาวเทียมของฐานทัพอากาศซากี้ แสดงให้เห็นชัดเจนถึงสภาพฐานทัพที่ยับเยินจากการระเบิดขนาดใหญ่ทั่วสนามบิน โดยพบว่าอาคารโกดังเก็บสรรพาวุธจำนวนอย่างน้อย 3 แห่งถูกทำลายย่อยยับจนกลายเป็นหลุมใหญ่ ส่วนเครื่องบินรบของฝั่งรัสเซียนั้น อย่างน้อยที่สุดที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านภาพถ่ายดาวเทียม “โอริกซ์” (Oryx) เครือข่ายนักข่าวสงครามผู้อัพเดตข้อมูลความสูญเสียของกองทัพยูเครนและรัสเซียในสงครามครั้งนี้ พบว่าฝั่งรัสเซียสูญเสียเครื่องบินขับไล่ไปอย่างน้อย 9 ลำ คือเครื่องบินขับไล่ Su-30SM จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินขับไล่ Su-24 จำนวน 5 ลำ และได้รับความเสียหายอีก 1 ลำ ขณะที่กองบัญชาการกองทัพยูเครนนั้น แม้จะยังแสดงท่าทีปฏิเสธไม่รู้เห็นต่อการโจมตีดังกล่าว แต่ก็ได้ทำการอัพเดตข้อมูลว่าในวันเดียวกับที่เกิดเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศซากี้ ยูเครนสามารถทำลายอากาศยานของรัสเซียได้เพิ่มเติมอีก 9 ลำ ซึ่งดูจะสัมพันธ์กับตัวเลขประมาณการในข้างต้นของ “โอริกซ์”
ทั้งนี้ กรมการบินกองเรือโจมตีอิสระที่ 43 (43rd Independent Naval Attack Aviation Regiment) สังกัดกองเรือทะเลดำ (Black Sea Fleet) ของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ใช้งานหลักของฐานทัพอากาศซากี้ มีเครื่องบินขับไล่เพียง 24 ลำในฝูงบินใต้สังกัด ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ Su-30SM จำนวน 12 ลำ เครื่องบินขับไล่ Su-24M2 จำนวน 6 ลำ และเครื่องบินขับไล่ Su-24MR จำนวน 6 ลำ เท่ากับว่าจากหลักฐานที่ยืนยันได้ รัสเซียจะสูญเสียเครื่องบินขับไล่ไปในการระเบิดครั้งเดียว 9 ลำเป็นอย่างน้อย และอย่างน้อยอีก 1 ลำได้รับความเสียหาย พร้อมกับฐานทัพอากาศที่ไม่สามารถใช้งานได้ไปอีกพักใหญ่
ขณะที่สำนักข่าว “ยูเครนออนไลน์” (Ukraine Online) ของยูเครน อ้างว่าพวกเขาสามารถตรวจสอบได้ว่ารัสเซียสูญเสียเครื่องบินไปทั้งหมด 24 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินลำเลียง Il-20RT จำนวน 1 ลำ เครื่องบินขับไล่ Su-30 จำนวน 4 ลำ เครื่องบินขับไล่ Su-24 จำนวน 5 ลำ เฮลิคอปเตอร์ Mi-8 หรือ Mi-17 จำนวน 6 ลำ และเครื่องบินขับไล่ Su-27 จำนวน 8 ลำ อย่างไรก็ดีข้อมูลดังกล่าวยังขาดหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอ เพราะในภาพถ่ายดาวเทียมไม่พบว่ามีเครื่องบินขับไล่ Su-27 ปรากฏในภาพถ่ายแต่อย่างใด ขณะที่เครื่องบิน Il-20RT นั้นเป็นเครื่องบินจากยุคสงครามโลกครั้งที่สอง คาดว่าทางสำนักข่าวจะเข้าใจคลาดเคลื่อนกับเครื่องบินลำเลียง Il-76 ซึ่งปรากฏตัวที่ฐานทัพอากาศซากี้ในภาพถ่ายดาวเทียมก่อนเกิดเหตุระเบิดไม่กี่ชั่วโมง
ภาพประกอบ 1 ก่อนเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศซากี้
ภาพประกอบ 2 หลังเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศซากี้
ภาพประกอบ 3 ก่อนเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศซากี้
ภาพประกอบ 4 หลังเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศซากี้
แม้ภาพถ่ายที่ออกมาจะแสดงให้เห็นถึงภาพความเสียหายของเครื่องบินรบและฐานทัพของรัสเซียจากการระเบิดได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ได้แน่ชัด ทางสำนักข่าวท้องถิ่นในไครเมียของรัสเซียระบุว่าเหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 13 ราย อย่างไรก็ดีภาพถ่ายที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงภาพความเสียหายที่รุ่นแรงมหาศาล มากเกินกว่าจะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพียงแค่สิบกว่าราย ทั้งนี้ นายแอนตัน เฮอร์ราชเชนโก (Anton Herashchenko) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ประสานงานสำนักงานคุ้มครองภาคธุรกิจของกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมากล่าวว่าเหตุระเบิดในฐานทัพอากาศซากี้ทำให้มีทหารและนักบินรัสเซียเสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 60 ราย บาดเจ็บมากกว่า 100 ราย อย่างไรก็ตามคำกล่าวของนายเฮอร์ราชเชนโกนั้นยังไม่มีหลักฐานรองรับที่หนักแน่นเพียงพอ แม้จะมีความเป็นไปได้ใกล้เคียงกับตัวเลขจริงมากกว่าของตัวเลขของฝั่งรัสเซียก็ตาม
2. เป็นอีกข่าวดีสำหรับยูเครน ภายในวันนี้จะมีการจัดงาน “การประชุมพันธมิตรยุโรปเหนือ ณ กรุงโคเปนเฮเกน” (Copenhagen Conference for Northern European Defence Allies) หรือเรียกสั้นๆ ว่างาน “โคเปนเฮเกนยูเครน” (Copenhagen Ukraine) โดยมีเดนมาร์ค สหราชอาณาจักร และยูเครนร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือร่วมกันในเรื่องการส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารจากประเทศในกลุ่มยุโรปเหนือและยุโรปตะวันออกให้แก่ยูเครน โดยจะมีประเทศผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 17 ประเทศ คือ เดนมาร์ค สหราชอาณาจักร ยูเครน สหรัฐ แคนาดา เช็กเกีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิธัวเนีย ฟินแลนด์ จอร์เจีย เยอรมนี ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ และสโลวาเกีย
ก่อนหน้าการประชุมหนึ่งวัน นายมอร์เต็น เบิร์ดสกอฟ (Morten Bødskov) รมว.กลาโหมเดนมาร์ค หนึ่งในเจ้าภาพผู้จัดการประชุม ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) เมื่อวานนี้ ว่าทางการเดนมาร์คสำหรับเตรียมการส่งครูฝึกทหารจำนวน 130 นาย ให้เดินทางไปยังสหราชอาณาจักรเพื่อร่วมการฝึกทหารยูเครนนับพันนับหมื่นนายที่กำลังเข้ารับการฝึกทหารอยู่ในสหราชอาณาจักรตอนนี้ ทำให้เดนมาร์คกลายเป็นชาติที่หกต่อจากสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แคนาดา และสวีเดนที่ประกาศเข้าร่วมการฝึกทหารยูเครนเพื่อสนับสนุนในการสู้รบกับรัสเซีย