อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 149 ของสงคราม Part 1
1. ข่าวดีสำหรับยูเครน นอกจากสหรัฐที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ประกาศจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ M142 HIMARS เพิ่มเติมให้ยูเครนจำนวน 4 ระบบแล้ว เมื่อวานนี้สหราชอาณาจักรก็ประกาศจะทำการจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมให้แก่ยูเครนอีกชุดใหญ่ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้
สำหรับรายละเอียดของอาวุธยุทโธปกรณ์ชุดใหม่ที่สหราชอาณาจักรจะจัดส่งให้ยูเครน ประกอบไปด้วย
1.1 ปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจรขนาด 155 ม.ม. รุ่น M109 Paladin จำนวน 20 คัน (คาดว่าน่าจะเป็นปืนใหญ่อัตตาจรรุ่น M109A4BE ที่สหราชอาณาจักรเคยประกาศไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยสหราชอาณาจักรได้ทำการสั่งซื้อปืนใหญ่แบบมือสองมาจากนายหน้าในเบลเยียม เพื่อนำมาปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยขึ้น)
1.2 ปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 105 ม.ม. รุ่น L119 จำนวน 36 กระบอก (น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่สหราชอาณาจักรเคยประกาศจะมอบให้ยูเครนก่อนหน้านี้)
1.3 กระสุนปืนใหญ่มาตรฐานโซเวียต จำนวน 50,000 นัด (คาดว่าจะเป็นกระสุนปืนใหญ่ขนาด 152 ม.ม. ที่ใช้งานร่วมกับปืนใหญ่จากยุคสหภาพโซเวียตของยูเครน เป็นไปได้ว่าสหราชอาณาจักรอาจสั่งซื้อจากมือที่สามเพื่อนำมามอบให้ยูเครน)
1.4 ระบบเรดาร์ต่อต้านปืนใหญ่ (Counter-Battery Radar) ไม่ระบุจำนวน
1.5 อาวุธต่อต้านรถถังจำนวน 1,600 ชิ้น (อาจเป็นได้ตั้งแต่กับระเบิดต่อต้านรถถัง มิสไซล์ หรือปืนต่อต้านรถถังธรรมดา)
1.6 อากาศยานไร้นักบิน (โดรน) จำนวนหลายร้อยระบบ โดยรวมทั้งโดรนลาดตระเวนและระเบิดบินวน (Loitering Munitions เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโดรนกามิกาเซ (Kamikaze Drone) คือโดรนติดตั้งระเบิดและเซนเซอร์ค้นหาเป้าหมาย เพื่อเจอเป้าหมายจะทำการพุ่งเข้าใส่เป้าหมายแล้วทำการระเบิดตัวเองไปพร้อมกับเป้าหมาย)
2. แม้ว่ากองทัพรัสเซียจะพึ่งเริ่มการรุกครั้งใหม่ในภูมิภาคดอนบาสได้ไม่กี่วัน แต่จากการประเมินของหน่วยข่าวกรองสหราชอาณาจักร กล่าวว่ากองทัพรัสเซียในตอนนี้เริ่มอ่อนแรงลงมาก และเชื่อว่าภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า กองทัพรัสเซียจะต้องทำการหยุดปฏิบัติการทางทหารในยูเครนอีกครั้งหนึ่ง
นายริชาร์ด มัวร์ (Richard Moore) ประธานหน่วยข่าวกรองลับแห่งสหราชอาณาจักร หรือที่รู้จักกันในชื่อเก่าว่า MI6 ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวระหว่างปรากฏตัวในงานประชุมความมั่นคงแอสเพนประจำปี 2022 (2022 Aspen Security Forum) โดยสถาบันแอสเพน (Aspen Institute) ในรัฐโคโลราโด สหรัฐ ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายมัวร์ได้กล่าวไว้ว่าการรุกคืบครั้งใหม่ของรัสเซียนั้น “เล็กน้อย” มาก และจะ “หมดไฟในไม่ช้านี้” “ตามการประเมินของเรา รัสเซียจะประสบความยากลำบากมากขึ้นในการหากำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ชุดใหม่(มาทดแทนส่วนที่สูญเสียไปในการรบ) ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ พวกเขาจะต้องชะลอปฏิบัติการทางทหารบางส่วนลง และนั่นจะเปิดโอกาสให้ยูเครนสามารถทำการตอบโต้ได้”
เมื่อถูกถามถึงข่าวลือเรื่องปัญหาสุขภาพของ ปธน.ปูติน นายมัวร์ได้กล่าวยืนยันว่าปูตินนั้นยังมีสุขภาพแข็งแรงดี ตรงกับคำกล่าวของนายวิลเลียม เบิร์นส์ (William Burns) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้หนึ่งวันภายในงาน
สำหรับความสูญเสียของกองทัพรัสเซีย ตามข้อมูลของนายเบิร์นส์ กล่าวว่าตามการประเมินของ CIA รัสเซียสูญเสียทหารไปแล้วกว่า 60,000 นาย (เสียชีวิต 15,000 นาย บาดเจ็บ 45,000 นาย) ใกล้เคียงกันกับตัวเลขที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้โดยพณท่านพลเรือเอกโทนี ราดากิน (Admiral Sir Tony Radakin) ประธานคณะเสนาธิการกลาโหมของสหราชอาณาจักร (Chief of the Defence Staff - ตัวแทนสูงสุดของกองทัพสหราชอาณาจักร ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางทหารให้แก่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม) ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าว BBC ว่าตามการประเมินของกองทัพสหราชอาณาจักร รัสเซียสูญเสียทหารไปแล้วกว่า 50,000 นาย โดยรวมทั้งทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ และยังสูญเสียรถถังไปอีกราว 1,700 คัน อย่างไรก็ดี ฯพณฯ ราดากิน ได้กล่าวว่าอำนาจของ ปธน.ปูตินในตอนนี้ยังมั่นคงอยู่และยังมีสุขภาพแข็งแรงดี เหมือนกันกับคำกล่าวของ MI6 และ CIA
3. อีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเยอรมนีและรัสเซีย หลังจากที่หลายฝ่ายกังวลว่ารัสเซียจะทำการยุติการจัดส่งก๊าซให้เยอรมนีโดยอาศัยข้ออ้างเรื่องการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์กังหันสำหรับสูบก๊าซ กระทั่งเมื่อวานนี้รัสเซียได้ประกาศเพิ่มกำลังการส่งก๊าซให้เยอรมนีกลับมาดังเดิมอีกครั้ง แม้จะยังไม่เต็มประสิทธิภาพก็ตาม
ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัสเซียได้ทำการเพิ่มกำลังการส่งก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 อีกครั้ง หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว รัสเซียได้ยุติการจัดส่งก๊าซให้เยอรมนีเป็นการชั่วคราว เนื่องจากต้องทำการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์กังหันสำหรับสูบก๊าซตัวใหม่ อย่างไรก็ดี กำลังการส่งก๊าซยังคงไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันการจัดส่งก๊าซยังมีปริมาณอยู่แค่ 67 ล้าน ลบ.ม./วัน เท่านั้น เมื่อเทียบกับปริมาณ 167 ล้าน ลบ.ม./วัน ในช่วงก่อนการซ่อมบำรุงจะเริ่มขึ้น
ทางด้านรัสเซียนำโดยนายอเล็กซานเดอร์ โนวัก (Alexander Novak) รองนายกรัฐมนตรี และนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergei Lavrov) รมว.ต่างประเทศ ได้เปิดบ้านต้อนรับนายปีเตอร์ ซียาร์โต (Péter Szijjártó) รมว.การต่างประเทศและการค้าของฮังการี ซึ่งได้เดินทางเยือนกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเรื่องการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากรัสเซียตามที่เคยกล่าวไว้ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี การเจรจาขั้นต้นระหว่างทั้งสองฝ่ายยังไม่มีข้อยุติที่แน่ชัด แต่นายลาฟรอฟก็รับปากว่าจะพิจารณาข้อเสนอของฮังการีอย่างเต็มที่
เมื่อปีที่แล้ว ฮังการีได้เซ็นข้อตกลงการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นระยะเวลา 15 ปี (หมายความว่าสัญญาจะหมดอายุภายในปี 2036) รายละเอียดของสัญญาระบุไว้ว่าฮังการีจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียผ่านท่อก๊าซจากออสเตรียจำนวน 1,000 ล้าน ลบ.ม./ปี และผ่านทางท่อก๊าซ South Stream Lite (ผ่านประเทศตุรกี-บัลแกเรีย-เซอร์เบีย-ฮังการี) จำนวน 3,500 ล้าน ลบ.ม./ปี แต่เนื่องจากรัสเซียได้ทำการลดปริมาณก๊าซที่ส่งมอบให้ออสเตรีย ส่งผลให้ฮังการีได้รับก๊าซผ่านท่อส่งจากออสเตรียเพียง 1/3 ของปริมาณปกติ (300 ล้าน ลบ.ม.) เพื่อรักษาระดับการบริโภคพลังงานภายในฮังการี ทำให้ฮังการีต้องหาก๊าซทดแทนจากส่วนที่หายไปจำนวน 700 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นายซียาร์โตเดินทางไปยังรัสเซียเพื่อหาช่องทางในการนำเข้าก๊าซเพิ่มเติมจากรัสเซีย