เว็บติดตามสถานการณ์ในยูเครนแบบ Live Map

[pol]

[quote/]


น้ำมันซื้อจากตะวันออกกลางก็ได้ ซาอุก็ลูกไล่เมกาดีๆนี่แหละ
เศรษฐกิจเยอรมัน = 3.806 ล้านล้าน USD
งบกลาโหม = 108 พันล้าน USD
เศรษฐกิจรัสเซีย = 1.483 ล้านล้าน USD
งบกลาโหมรัสเซีย = 48.2 พันล้าน USD


ห่างกันกว่าเท่าตัวจะเอาอะไรมาสู้ครับ แถมเทคโนโลยีเยอรมันนี่ไปไกลติด Top3 ของโลก
ดูความเป็นจริงเสียก่อนครับ อย่าอวยรัสเซียให้มากครับ แถมกองทัพรัสเซียมีทุจริตภายในมากนะครับ

นี่หมายถึงเยอรมันเจอโซเวียตหรือเยอรมันเจอรัสเซียครับ?  เท่าที่อ่านดูคุยกันเรื่องเยอรมันเจอโซเวียตไม่ใช่เรอะท่าน

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 145 ของสงคราม

1. เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นเล็กน้อยภายในยูเครน โดยเมื่อวานนี้ ปธน.เซเลนสกี้ได้ออกคำสั่งปลดนายอีวาน บาคานอฟ (Ivan Bakanov) ผู้อำนวยการหน่วย SBU หน่วยข่าวกรองลับของรัฐบาลยูเครน และนางไอรีนา เวเนดิคโตวา (Iryna Venediktova) อัยการสูงสุดยูเครน ออกจากตำแหน่ง

สำหรับเหตุผลในการปลดบุคคลทั้งสองลงจากตำแหน่ง เซเลนสกี้ได้กล่าวผ่านคลิปวิดีโอว่าหน่วยงานของทั้งสอง นั่นคือบรรดาอัยการและผู้ช่วย กับสมาชิกหน่วยข่าวกรอง SBU นั้นเต็มไปด้วยสายลับรัสเซีย เช่นในกรณีของสำนักงานอัยการสูงสุด มีรายงานเหตุการณ์ที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าเป็นการร่วมมือกับรัสเซียมากถึง 651 ครั้ง จากสมาชิกของสำนักงานอัยการกว่า 60 ราย ซึ่งเซเลนสกี้กล่าวว่าเขาได้แต่งตั้งให้นายโอเล็กซีย์ ซีโมเนนโก (Oleksiy Symonenko) รองอัยการสูงสุด ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการอัยการสูงสุดเป็นการชั่วคราว

ทางด้านการปลดนายบาคานอฟ ผ.อ.หน่วย SBU อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเซเลนสกี้ และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอละครโทรทัศน์ Kvartal 95 Studio ร่วมกับเซเลนสกี้สมัยก่อนที่ทั้งสองจะหันมาเล่นการเมือง ตัวเซเลนสกี้ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องการปลดเขาออกจากตำแหน่งมากนัก แต่ในรายงานของสำนักข่าว Politico ได้รายงานว่าตัวเซเลนสกี้เองมีความต้องการจะปลดนายบาคานอฟออกจากตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายรายของยูเครน (ไม่แน่ใจว่ารวมถึงตัวเซเลนสกี้เองด้วยหรือไม่) ไม่ประทับใจกับฝีมือการทำงานของบาคานอฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการที่สมาชิกระดับสูงหลายรายของ SBU ถูกพบว่าทำงานเป็นไส้ศึกให้รัสเซีย ไม่ว่าจะเป็น
1.1 นายอังดรีย์ เนามอฟ (Andriy Naumov) ผอ.ฝ่ายความมั่นคงภายในของ SBU ซึ่งถูกจับกุมได้ขณะกำลังหลบหนีอยู่ในประเทศเซอร์เบียเมื่อต้นเดือนมิถุนายน
1.2 นายเซอร์ฮีย์ ครีโวรุชโก (Serhiy Kryvoruchko) ผอ. สำนักงานสาขาจังหวัดเคอร์สันของ SBU
1.3 นายอิฮอร์ ซาโดกิน (Ihor Sadokhin) ผอ.ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายในเคอร์สัน หนึ่งในผู้ช่วยของครีโวรุชโก
1.4 นายโอเล็ก คูลินิค (Oleg Kulinich) อดีต ผอ. สำนักงานสาขาสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียของ SBU ซึ่งเป็นรายล่าสุดที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา หรือ 1 วันก่อนที่เซเลนสกี้จะมีคำสั่งปลดนายบาคานอฟ

ทั้งนี้ ปธน.เซเลนสกี้กล่าวว่าเขาได้สั่งการให้นายกรัฐมนตรีเตรียมการค้นหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็น ผ.อ. คนใหม่ของ SBU แล้ว


2. ในอีกด้านหนึ่ง ณ กรุงริกา ประเทศลัตเวีย ได้มีการจัดงาน “การประชุมผู้นำความยุติธรรม ณ กรุงริกา 2022” (Riga Justice Leaders’ Forum 2022) เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานกฎหมายจากหลายประเทศและองค์การนานาชาติต่างๆ เพื่อหารือเรื่องอาชญากรรมสงครามและการรักษากฎหมายในภาวะสงคราม ซึ่งในที่ประชุมดังกล่าว นายเดนิส มาลิอุสกา (Denys Maliuska) รมว.ยุติธรรมยูเครน และนายยานิส บอร์ดันส์ (Jānis Bordāns) รมว.ยุติธรรมลัตเวีย ได้เข้าร่วมการประชุมด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ทั้งสองได้แถลงข่าวร่วมกันเรื่องความเคลื่อนไหวในประเด็นเรื่องความเป็นไปได้ในการยึดทรัพย์สินของทางการรัสเซีย เพื่อนำไปมอบให้แก่รัฐบาลยูเครน โดยทั้งสองกล่าวว่าทั้งยูเครนและลัตเวียกำลังดำเนินงานร่วมกันเพื่อสร้างข้อตกลงทวิภาคี โดยมีจุดหมายเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลลัตเวียสามารถนำทรัพย์สินที่ยึดจากทางการรัสเซีย ส่งมอบให้แก่รัฐบาลยูเครนได้ผ่านช่องทางที่โปร่งใส ก่อนนำไปมอบเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม หากว่าข้อตกลงดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้ลัตเวียกลายเป็นประเทศแรกที่ทำการส่งมอบเงินช่วยเหลือที่มาจากการยึดทรัพย์สินของทางการรัสเซียให้แก่ยูเครน ซึ่งอาจเป็นการเปิดช่องทางให้ชาติพันธมิตรยูเครนรายอื่นๆ ทำตามได้


3. ทางด้านสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศร่างแผนงานสำหรับการทำอนุสัญญาว่าด้วยพิธีการผ่านแดนร่วมกันหรือ CTC (Common Transit Conventions) กับประเทศยูเครน โดยร่าง CTC จะช่วยให้การค้าขายและการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศนอกสหภาพ (ในที่นี้คือยูเครน) สามารถทำได้โดยง่าย ซึ่งจะช่วยลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่ายทางภาษีสำหรับการค้าขายระหว่างทั้งสอง

สำหรับขั้นตอนต่อไป ทางคณะกรรมาธิการยุโรปจะต้องยื่นร่างดังกล่าวให้คณะมนตรียุโรป (European Council) ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทำการพิจารณา หากผ่านการรับรอง ร่างแผนงานจะถูกเสนอต่อไปยังคณะกรรมการร่วมอียู-ซีทีซี (EU-CTC Joint Committees) ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากสหภาพยุโรปและประเทศในกลุ่ม CTC อื่นๆ คือตุรกี นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์ธมาซิโดเนีย เซอร์เบีย และสหราชอาณาจักร และเมื่อผ่านการรับรองแล้ว จึงจะสามารถเรียกเชิญยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิก CTC ได้อย่างเป็นทางการ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่าพวกเขาสามารถเรียกเชิญยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ภายในไม่เกินวันที่ 1 ต.ค.นี้

[samuison]

ที่ผมว่าคือจะไดัไม่มีคนเล่นมุกว่า


"ทุกฝ่ายก็เลวกันหมด"


หลังเหตุการณ์


เยอรมันทำตัวเป็นพระเอกถึงที่สุดแล้วแต่โดนคนหัวเราะเยาะและเอาเปรียบแบบนางเอกหนังไทย




ว่าชะตาของโลกอยู่ในมือของไอ้ชั่วกับไอ้โฉด


ที่มองเยอรมันที่ใฝ่หาสันติเพราะสำนึกผิดตั้งแต่ครั้งลุงหนวดจิ๋มเป็นคนโง่


เหตุการณ์อาจจะพิสูจน์ว่าเยอรมันคิดผิด โลกนี้ไม่ใช่พระศรีอาริย์


สันติไม่ใข่ทางออก


แต่เยอรมันก็พยายามทำเต็มที่แล้ว

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 146 ของสงคราม

1. ข่าวดีและข่าวร้ายเล็กน้อยสำหรับยูเครน ข่าวดีคือผลสรุปการประชุมร่วมกันของรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวานนี้ ได้ผลสรุปว่าทางสหภาพยุโรปจะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน มูลค่าราว 500 ล้านยูโร (18,590 ล้านบาท) ซึ่งจะทำให้ยอดรวมของตัวเลขความช่วยเหลือทางทหารที่สหภาพยุโรปส่งมอบให้ยูเครนทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน มีมูลค่ารวม 2,500 ล้านยูโร (93,000 ล้านบาท)

สำหรับข่าวร้าย รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ปฏิเสธข้อเรียกร้องขององค์การนาโต้และจากรัฐบาลท้องถิ่นในการให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลทหารยูเครนที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการละเมิดต่อสถานะความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดี รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กล่าวว่าพวกเขายินดีให้ความช่วยเหลือยูเครนในรูปของการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านองค์กรกลางระหว่างประเทศแทน


2. เป็นเรื่องน่ากังวลทีเดียวสำหรับเยอรมนี หลังจากเมื่อวานนี้ บริษัทแกสพรอม (PJSC Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านกิจการน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ได้ประกาศ “เหตุสุดวิสัย” ในการจ่ายก๊าซให้แก่ประเทศในยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ซึ่งอาจส่งผลให้รัสเซียทำการตัดการส่งก๊าซทั้งหมดให้แก่เยอรมนีได้ 

เท้าความก่อนว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แกสพรอมได้ทำการลดปริมาณการจ่ายก๊าซแก่เยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย และเช็กเกีย โดยอ้างเหตุผลว่ามาจากความขัดข้องของระบบการจ่ายก๊าซ และล่าสุดในวันจันทร์ แกสพรอมได้ประกาศหยุดการจ่ายก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ให้แก่เยอรมนีเป็นระยะเวลา 10 วัน ด้วยเหตุผลว่าต้องทำการซ่อมบำรุงระบบจ่ายก๊าซ กระทั่งแถลงการณ์ล่าสุดของแกสพรอมเมื่อวานนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ารัสเซียจะตัดการจ่ายก๊าซธรรมชาติให้เยอรมนีทั้งหมดในเร็ววันนี้

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ารัสเซียอาจไม่ยุติการส่งก๊าซให้แก่เยอรมนีเหมือนที่หลายฝ่ายคาดไว้ แต่เป็นไปได้ว่ารัสเซียอาจใช้ข้ออ้างเรื่อง “เหตุสุดวิสัย” เป็นข้ออ้างในการไม่ยอมเพิ่มระดับการจ่ายก๊าซให้เยอรมนีให้กลับมาคงเดิม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองในภายหลังได้


3. ในขณะที่เยอรมนีกำลังกังวลเรื่องความเสี่ยงจากการถูกตัดก๊าซโดยรัสเซีย ฮังการีก็กำลังเร่งการเจรจากับรัสเซียเพื่อหาช่องทางการนำเข้าก๊าซเส้นใหม่ในปริมาณที่มากขึ้น 

นายปีเตอร์ ซียาร์โต (Péter Szijjártó) รมว.การต่างประเทศและการค้าของฮังการี ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่ารัฐบาลฮังการีกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับรัสเซียเรื่องการเพิ่มกำลังการนำเข้าก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่งก๊าซ Turkstream (ท่อก๊าซรัสเซีย-ทะเลดำ-ตุรกี) และ South Stream Lite (ท่อก๊าซตุรกี-บัลแกเรีย-เซอร์เบีย-ฮังการี-ออสเตรีย) เนื่องจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ฮังการีได้รับผ่านท่อส่งก๊าซจากออสเตรียนั้นมีปริมาณลดลงเหลือเพียง 1/3 (อันเป็นผลจากการที่รัสเซียลดปริมาณการจ่ายก๊าซให้ออสเตรีย)

นายซียาร์โตกล่าวว่าก๊าซธรรมชาติที่ฮังการีนำเข้าจากรัสเซียผ่านท่อก๊าซ Turkstream และ South Stream Lite นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดกับท่อส่งก๊าซในชาติยุโรปอื่นๆ แต่อย่างใด จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ฮังการีจะหันมาเพิ่มปริมาณการนำเข้าก๊าซผ่านท่อก๊าซ Turkstream และ South Stream Lite ให้มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของฮังการี

ภาพประกอบ แสดงเส้นทางของท่อส่งก๊าซ Turkstream และ South Stream Lite

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[Wannabe]

^
^
^

เอ๋!?  ในข้อ2.  ข่าวเมื่อหลายวันก่อน  มีความมั่นใจว่า  หลังจากทำการซ่อมบำรุงครบตามกำหนดเวลา
จะเปิดการส่งแก๊สเช่นเดิมไม่ใช่เหรอ??  มีข่าวลงในเวปหมีมั๊ย??  หรือผมไปได้ยินมาจากที่อื่นหว่า??
ช่วงบ่ายๆง่วงจนสมองเบลออยากนอนแฮะ




ข่าวก็ประมาณว่า  เยอมันจะรับส่งมอบชิ้นส่วนที่แคนาดาซ่อมบำรุงเอง  เพราะแคนาดาส่งคืนรัสเซียไม่ได้
มันผิดกฏของเขา  เยอรมันก็เลยรับมา  เพราะงั้นหลังจากครบวาระซ่อมบำรุงก็น่าจะกลับมาส่งแก๊ส
ได้ดังเดิม  อันที่จริง  แก๊สจากทางฝั่งเมียนม่าก็มีรอบการซ่อมบำรุงเหมือนกัน  บางครั้งก็วางแผน
ล่วงหน้าไม่ดี  จนทำให้ชะงัก  โรงงานนิคมเดือดร้อน  แต่ครั้งสุดท้ายที่วางแผนไม่ดีก็เมื่อสิบกว่าปีก่อน
ตอนนี้จำพวกวางแผนล่วงหน้าเมื่อครบกำหนดรอบซ่อมบำรุง  มีประสิทธิภาพ  ทำให้ไทยเราไม่เกิด
ปัญหามากนัก 

[deaddy]

เหตุสุดวิสัยเรื่องแก๊ซ ผมได้ยินมาว่า บ.ที่รับซ่อมบางส่วน ของการส่งแก๊ซ ดันเป็น บ.ที่เข้าร่วม นโยบาย คว่ำบาตรรัสเซีย

[PeanutButter]

^
^
^

เอ๋!?  ในข้อ2.  ข่าวเมื่อหลายวันก่อน  มีความมั่นใจว่า  หลังจากทำการซ่อมบำรุงครบตามกำหนดเวลา
จะเปิดการส่งแก๊สเช่นเดิมไม่ใช่เหรอ??  มีข่าวลงในเวปหมีมั๊ย??  หรือผมไปได้ยินมาจากที่อื่นหว่า??
ช่วงบ่ายๆง่วงจนสมองเบลออยากนอนแฮะ




ข่าวก็ประมาณว่า  เยอมันจะรับส่งมอบชิ้นส่วนที่แคนาดาซ่อมบำรุงเอง  เพราะแคนาดาส่งคืนรัสเซียไม่ได้
มันผิดกฏของเขา  เยอรมันก็เลยรับมา  เพราะงั้นหลังจากครบวาระซ่อมบำรุงก็น่าจะกลับมาส่งแก๊ส
ได้ดังเดิม  อันที่จริง  แก๊สจากทางฝั่งเมียนม่าก็มีรอบการซ่อมบำรุงเหมือนกัน  บางครั้งก็วางแผน
ล่วงหน้าไม่ดี  จนทำให้ชะงัก  โรงงานนิคมเดือดร้อน  แต่ครั้งสุดท้ายที่วางแผนไม่ดีก็เมื่อสิบกว่าปีก่อน
ตอนนี้จำพวกวางแผนล่วงหน้าเมื่อครบกำหนดรอบซ่อมบำรุง  มีประสิทธิภาพ  ทำให้ไทยเราไม่เกิด
ปัญหามากนัก 

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่และรัฐบาลชาติยุโรปตะวันตกมองว่าเรื่องการซ่อมบำรุงท่อก๊าซเป็นแค่ข้ออ้างบังหน้าของรัสเซียในการตอบโต้ชาติตะวันตกครับ จะเห็นได้ว่าประเทศที่รัสเซียอ้างเรื่องการซ่อมบำรุงท่อก๊าซทำให้ต้องลดการจ่ายก๊าซให้ ล้วนเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนยูเครนทั้งนั้น (เยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย เช็กเกีย) ขณะที่ข้อ 3 จะเห็นว่าท่อก๊าซของรัสเซีย ตุรกี และฮังการีไม่ได้มีความเสียหายอะไร ซึ่งก็บังเอิญเหลือเกินว่าทั้งตุรกีและฮังการีนั้นแม้จะเป็นหนึ่งในสมาชิกนาโต้ (และสหภาพยุโรปในกรณีของฮังการี) แต่ทั้งสองยังพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซียเอาไว้อยู่ แน่นอนว่ามันก็เป็นไปได้เหมือนกันที่มันจะเกิด “เหตุสุดวิสัย” อย่างที่รัสเซียว่าจริงๆ แต่ในเมื่อรูปการของเหตุการณ์ทั้งหมดมันออกมาแบบที่กล่าวไว้ตามข้อความด้านบน มันเลยทำให้ชาติตะวันตกไม่เชื่อข้ออ้างดังกล่าวของรัสเซียแต่อย่างใด

เหตุสุดวิสัยเรื่องแก๊ซ ผมได้ยินมาว่า บ.ที่รับซ่อมบางส่วน ของการส่งแก๊ซ ดันเป็น บ.ที่เข้าร่วม นโยบาย คว่ำบาตรรัสเซีย  

ไม่เชิงซะทีเดียวครับ บริษัท Siemens AG สัญชาติเยอรมันซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์กังหันสำหรับการสูบก๊าซที่ใช้ในระบบท่อส่งก๊าซของรัสเซียนั้นถอนตัวจากการทำธุรกิจในรัสเซีย เนื่องจากเผชิญทั้งแรงกดดันจากภายในประเทศของตน อีกทั้งการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตกทำให้กำไรที่บริษัทได้รับจากการทำธุรกิจในรัสเซียลดลง Siemens เลยตัดสินใจถอนตัวออกจากรัสเซียครับ ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลสะเทือนต่อบริษัทมากมาย เพราะรายได้จากธุรกิจสาขารัสเซียคิดเป็นเพียง 1% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทเท่านั้น

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 147 ของสงคราม Part 1

1. เมื่อวันที่ 13-16 ก.ค. ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดนได้เดินทางไปยังอิสราเอลเป็นระยะเวลา 2 วัน (13-14 ก.ค.) ก่อนจะเดินทางต่อไปยังซาอุดิอาระเบียอีก 2 วัน (15-16 ก.ค.) เพื่อเข้าพบกับผู้นำของอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย รวมถึงชาติตะวันออกกลางอื่นๆ เพื่อหารือในประเด็นหลัก 2 ประการ คือโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และการเพิ่มระดับการผลิตน้ำมัน

สำหรับเนื้อหาของการเดินทางครั้งนี้ของ ปธน.ไบเดน พอจะสรุปได้ดังนี้

1.1 อิสราเอล: ปธน.ไบเดนได้แถลงการณ์ร่วมกับนายยาเอียร์ ลาปิด (Yair Lapid) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรื่องการลงนาม “ปฏิญญาเยรูซาเล็ม” (Jerusalem Declaration) หรือชื่อเต็มว่า “ปฏิญญาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สหรัฐ-อิสราเอลแห่งเยรูซาเล็ม” (The Jerusalem U.S.-Israel Strategic Partnership Joint Declaration) ใจความหลักคือการไม่ยอมรับต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน การแสวงหาสันติภาพระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ การขยายผลข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords)* และการต่อสู้กับลัทธิต่อต้านยิว

นอกจากนี้สหรัฐในฐานะคนกลางยังได้ทำการเจรจาเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย โดยซาอุดิอาระเบียประกาศให้อากาศยานของทุกประเทศสามารถเดินทางผ่านน่านฟ้าซาอุดิอาระเบียได้โดยอิสระ ซึ่งมีความหมายโดยนัยรวมถึงอิสราเอลด้วย (ก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบียประกาศห้ามไม่ให้เครื่องบินสัญชาติอิสราเอลบินผ่านน่านฟ้าของตน) นับเป็นสัญญาณเชิงบวกขั้นแรกระหว่างทั้งสองชาติ

*ข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords) เป็นข้อตกลงเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรน โดยมีสหรัฐเป็นพยานผู้รับรู้ เซ็นขึ้นครั้งแรกในปี 2020

1.2 ปาเลสไตน์: ในระหว่างการเดินทางเยือนอิสราเอล ปธน.ไบเดนยังได้เข้าพบกับนายมาห์มูด อับบาส (Mahmoud Abbas) ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ กล่าวยืนยันว่าสหรัฐสนับสนุนให้ทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติในฐานะรัฐเพื่อนบ้าน พร้อมประกาศจะมอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสาธารณสุขให้ปาเลสไตน์จำนวน 301 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (11,000 ล้านบาท)

1.3 ซาอุดิอาระเบีย: ปธน.ไบเดนได้เข้าพบเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน (Prince Mohammed bin Salman) มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียและผู้นำซาอุดิอาระเบียโดยพฤตินัย เพื่อหารือเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยที่ทั้งสองได้ทำการเซ็นข้อตกลงและบันทึกต่างๆ กว่า 18 ฉบับในหลากหลายด้าน เช่นความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ความร่วมมือด้านอวกาศ การยกระดับการท่องเที่ยว ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักของการเจรจาเช่นเรื่องอิหร่านนั้นไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาแต่อย่างใด ขณะที่ประเด็นหลักอีกเรื่องคือการเพิ่มระดับการผลิตน้ำมันนั้นก็ไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ดีจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจา กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในการประชุม OPEC+ ที่จะจัดขึ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้

1.4: อื่นๆ: นอกจากซาอุดิอาระเบีย ปธน.ไบเดนยังได้เข้าพบผู้นำชาติตะวันออกกลางอีกหลายราย หนึ่งคือนายอับเดล ฟัตตอห์ เอล-ซิซี (Abdel Fattah el-Sisi) ประธานาธิบดีอียิปต์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อีกคนหนึ่งคือนายมุสตาฟา อัล-คาดิมี (Mustafa Al-Kadhimi) นายกรัฐมนตรีอิรัก ผู้ซึ่งกำลังประสบปัญหาภายในประเทศระหว่างรัฐบาลอิรักกับกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ซึ่งนายกฯ อัล-คาดิมีเคยเกือบถูกลอบสังหารเมื่อปีที่แล้วจากมือสังหารที่คาดว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ซึ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับรัฐบาลปัจจุบัน

ผู้นำอีกรายหนึ่งคือสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดน (Abdullah II of Jordan) ซึ่ง ปธน.ไบเด็นประกาศจะยกระดับความช่วยเหลือที่สหรัฐมอบให้แก่จอร์แดนในแต่ละปี จากเดิมที่ 1,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (46,500 ล้านบาท) จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (53,200 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือจอร์แดนที่ต้องประสบปัญหาทั้งจากผู้ลี้ภัยสงครามชาวซีเรียและปาเลสไตน์ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19

นอกจากนี้ ในวันสุดท้ายของการเดินทาง ปธน.ไบเดนยังได้เป็นแขกกิตติมศักดิ์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม GCC+3 ซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำ 7 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับหรือ GCC (Gulf Cooperation Council) และสมาชิกสมทบ (Associated Member) อีก 3 ประเทศ (จอร์แดน อียิปต์ ตุรกี) ทั้งเพื่อการกระชับสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาค การหารือประเด็นเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน และการแสดงบทบาทให้เห็นว่าสหรัฐยังมีอิทธิพลในภูมิภาค นอกจากนี้ในตอนท้ายสหรัฐยังได้ประกาศเงินสนับสนุนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (36,700 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือและป้องกันปัญหาภัยอาหารขาดแคลนในภูมิภาคอีกด้วย

ทั้งนี้ สังเกตได้ว่าการพูดคุยส่วนใหญ่นั้นแทบจะเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายหลักของ ปธน.ไบเดนเลย ประเด็นเรื่องของการผลิตน้ำมันไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นทางการ แม้จะมีเสียงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสหรัฐและชาติตะวันออกกลางกล่าวว่าต้องรอให้ถึงการประชุม OPEC+ รอบใหม่ในเดือนหน้าถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็ตาม ส่วนประเด็นเรื่องอิหร่านนั้น แม้หลายฝ่ายจะค่อนข้างเงียบกริบกับประเด็นดังกล่าว แต่พอเชื่อได้ว่าน่าจะมีการพูดคุยกันในทางลับระหว่างสหรัฐและชาติอื่นๆ เช่นอิสราเอลหรือซาอุดิอาระเบีย เพื่อวางแผนการรับมือกับอิทธิพลอิหร่านอย่างแน่นอน


2. นอกจากการเดินทางเยือนอิสราเอล-ซาอุดิอาระเบียของ ปธน.ไบเดนแล้ว อีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเดินทางเยือนอิหร่านของ ปธน.ปูตินเมื่อวานนี้ นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศนอกกลุ่มอดีตสหภาพโซเวียตครั้งแรกของ ปธน.ปูตินนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนขึ้น

เมื่อวานนี้ในกรุงเตหะราน อิหร่าน ได้มีการจัดประชุมไตรภาคีระหว่างอิหร่าน ตุรกี และรัสเซียขึ้น เป้าหมายหลักคือการพูดคุยเรื่องสถานการณ์สงครามกลางเมืองซีเรีย ซึ่งไม่นานนี้ตุรกีพึ่งทำการส่งทหารเข้ารุกรานพื้นที่ทางภาคเหนือของซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อสร้างเขตกันชนไม่ให้ผู้ก่อการร้ายสามารถลักลอบเข้าไปยังตุรกีได้โดยง่าย แม้ส่วนใหญ่จะเชื่อว่าเป้าหมายหลักคือการขจัดอิทธิพลของกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดในซีเรียเหนือก็ตาม

สำหรับผลการประชุมที่ออกมานั้นไม่น่าประหลาดใจนัก ทั้งสามชาติไม่สามารถหาข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมต่อสงครามในซีเรียได้ ทั้งสามชาติเพียงออกแถลงการณ์ร่วมประณามกลุ่มบุคคลที่พยายาม “สร้างสถานการ์ใหม่” ขึ้นในซีเรีย เช่นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน (ในที่นี้หมายถึงชาวเคิร์ดที่พยายามเรียกร้องเอกราช) และกลุ่มคนที่อ้างเรื่องการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเพื่อใช้เป็นข้ออ้างแทรกแซงชาติอื่น (ในที่นี้หมายถึงสหรัฐ แต่ก็เป็นการแอบแซะตุรกีไปในตัวด้วยเช่นเดียวกัน)

นอกจากประเด็นเรื่องสงครามกลางเมืองซีเรียแล้ว รัสเซียและตุรกียังใช้โอกาสนี้เพื่อการเจรจาเพิ่มเติมเรื่องการเปิดช่องทางเดินเรือที่ปลอดภัยให้แก่เรือขนส่งธัญพืชจากยูเครน ซึ่งรัสเซีย-ตุรกี-ยูเครน-สหประชาชาติ มีกำหนดจะเซ็นสัญญารับรองเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการภายในอาทิตย์นี้ นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังได้เข้าพบกับ ปธน.เอบราฮีม แรอีซี (Ebrahim Raisi) และอายะตุลลอฮ์ อาลี ฆอเมนี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดอิหร่านและผู้นำทางศาสนาของมุสลิมนิกายชีอะห์ เพื่อกระชับสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ และเป็นไปได้ว่าอาจมีการพูดคุยเรื่องความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะส่งมอบโดรนลาดตระเวนและโดรนติดอาวุธจำนวนมากให้แก่รัสเซียด้วย

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 147 ของสงคราม Part 2

3. เพื่อรับมือกับปัญหาภาวะอาหารขาดแคลนที่เป็นผลกระทบลูกโซ่จากสงครามยูเครน สหภาพยุโรปได้เตรียมการแก้ไขมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยการอนุญาตให้ชาติสมาชิกสามารถยกเลิกการอายัดทรัพย์สินบางส่วนของธนาคารรัสเซีย เพื่อแลกกับการซื้อขายผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและการเกษตรกับรัสเซียได้

ร่างเอกสารของสหภาพยุโรปที่เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่สหภาพยุโรปจะทำการประกาศแก้ไขมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการภายในวันนี้ เนื้อหาคือการอนุญาตให้ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปสามารถยกเลิกการอายัดทรัพย์สินบางส่วนของธนาคารรัสเซียดังต่อไปนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการซื้อขายผลิตภัณฑ์อาหารและเกษตรกรรมกับรัสเซียได้
3.1 ธนาคารวีทีบี (PJSC VTB Bank)
3.2 ธนาคารซอฟคอมแบงก์ (Sovcombank)
3.3 ธนาคารโนวิคอมแบงก์ (JSCB "NOVIKOMBANK")
3.4 ธนาคารออตครีตี้ (Bank Otkrytie Financial Corporation)
3.5 ธนาคารวีอีบี (VEB.RF)
3.6 ธนาคารพรอมเวียส (Promsvyazbank)
3.7 ธนาคารรอสเซีย (Rossiya Bank)

นอกจากธนาคารตามชื่อข้างต้นแล้ว เอกสารดังกล่าวยังได้ประกาศให้ธนาคารสเบอร์แบงค์ (Sberbank) ของรัสเซีย ว่าจะได้รับการคว่ำบาตรด้วยการอายัดทรัพย์สินเช่นเดียวกับธนาคารในรายชื่อข้างต้น ยกเว้นแต่ทรัพย์สินที่ตกลงไว้สำหรับการแลกเปลี่ยนซื้อขายผลิตภัณฑ์อาหารและเกษตรกรรมเท่านั้น

นอกจากนี้ เอกสารยังกล่าวว่าสหภาพยุโรปจะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารและเกษตรกรรมจากท่าเรือรัสเซีย เนื่องจากว่าในปัจจุบัน ผลจากการคว่ำบาตรทำให้บริษัทด้านการขนส่งสินค้าทางทะเลจำนวนมากยกเลิกการทำธุรกิจกับรัสเซีย ทำให้รัสเซียส่งออกสินค้าของตนได้ลำบากมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสินค้าด้านผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านี้ด้วย


4. ในอีกด้านหนึ่ง สหภาพยุโรปกำลังมองหาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อจัดหาอาวุธร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งจะเป็นการยกระดับความร่วมมือด้านนโยบายทางทหารระหว่างประเทศสมาชิกให้สูงมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่จากรัสเซีย

ตามการเปิดเผยเมื่อวานนี้โดยนายเธียร์รี่ เบรตัน (Thierry Breton) กรรมาธิการยุโรปด้านตลาดภายในภูมิภาคของสหภาพยุโรป กล่าวว่าทางสหภาพจะจัดหางบประมาณกลางขั้นต้นจำนวน 500 ล้านยูโร (18,800 ล้านบาท) สำหรับให้ประเทศสมาชิกซึ่งยังไม่เปิดเผยรายชื่อในตอนนี้ จำนวนมากกว่า 3 ประเทศ ร่วมกันจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร ซึ่งจะช่วยยกระดับความร่วมมือทั้งด้านการทหาร นโยบายต่างประเทศ และภาคอุตสาหกรรมของประเทศสมาชิกให้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปออกมายอมรับว่าตัวเลขงบประมาณดังกล่าวนั้นน้อยเกินไป และยังเป็นเพียงแค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่ก็ยังเป็นสัญลักษณ์เชิงบวกแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านการเมืองและการวางระบบในอนาคตสำหรับสหภาพยุโรป และกล่าวว่าทางสหภาพจะต้องขยับจำนวนเงินงบประมาณให้มากกว่านี้ในครั้งถัดไป


5. แม้สหภาพยุโรปกำลังวางแผนจะลดระดับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในบางส่วน มาตรการคว่ำบาตรในส่วนอื่นๆ ก็ยังดำเนินต่อไป เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศอายัดเรือยอชต์สุดหรูจำนวนกว่า 24 ลำ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเรือดังกล่าวจะถูกส่งออกไปยังรัสเซีย

ตามการเปิดเผยของกรมศุลกากรเนเธอร์แลนด์เมื่อวานนี้ ทางกรมศุลกากรได้ทำการอายัดทรัพย์สินประเภทเรือยอชต์ซึ่งจอดเทียบท่าภายในเนเธอร์แลนด์จำนวนกว่า 24 ลำ โดย 2 ลำเป็นเรือที่ถูกจัดซื้อโดยบุคคลสัญชาติรัสเซียซึ่งอยู่ภายในรายชื่อมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป ขณะที่เรือยอชต์อีก 22 ลำนั้น แม้จะไม่มีบุคคลหรือนิติบุคคลสัญชาติรัสเซียเป็นผู้ซื้อหรือเป็นเจ้าของ แต่มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปได้กำหนดห้ามการส่งสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่ามากกว่า 300 ยูโร (11,200 บาท) ให้แก่รัสเซีย ทางการเนเธอร์แลนด์จึงได้ทำการอายัดเรือยอชต์จำนวนดังกล่าวไว้ก่อน

สำหรับมูลค่าโดยรวมของเรือยอชต์ทั้ง 24 ลำ พบว่ามีมูลค่ารวมกันมากถึง 1,600 ล้านยูโร (60,000 ล้านบาท)

[pol]

เรื่องพีต้านะอย่าไปให้ความสำคัญมันเลยท่าน ปากว่าตาขยิบชัดๆ ถ้าเรียกร้องเรื่องสัตว์จริงๆอันดับแรกไปเล่นงานกีฬาล่อวัวกระทิงก่อนเลย 

[KAGUYA]

ไอ้เรื่องพิต้ามันก็แค่พยายามหาเรื่องชาวบ้านเรียกร้องความสนใจขอเงินบริจาคแค่นั้นแหละ ไม่ต้องสนใจมันหรอก

[samuison]

พีต้าไปหาเรื่องแม้กระทั่ง game workshop ผู้สร้างเกม warhammer น่ะครับ


อันที่จริงกฌถือว่าทำหน้าที่ ngo นะ แต่คนที่ทำเรื่องที่สำคัญจริงๆอย่างค้ามนุษย์ที่ท่านเป็นห่วงนั้นต้องลี้ภัยไปออสเตรเลีย ลืมกันแลัวหรือครับ?


โสเภณีสมัยก่อนก็ถูกฆ่าตายในโรงหนัง




ประเด็นคือ ผมมองว่าเราเป็นโจร อเมริกาคือมหาโจร


จะหักหลังลูกพี่คนหนึ่งไปเข้ากับอีกคนหนึ่ง
..วงการโจรเขาจะทำอย่างไรกัน?

[sariora123]

- เพราะเราไม่สนฑูตสหรัฐที่"สั่ง"ให้ไทยตัดขาดพม่ารึเปล่านะ ตอนนี้อเมริกาเลยยกระดับการค้ามนุษย์ในไทยจากที่ต้องจับตาขึ้นเทียร์2 มาเป็นขึ้นเทียร์2หมาดๆ
- มีตัวอย่างของยูเครนและยุโรป  ส่วนลาว พม่า กัมพูชาเขาไม่คิดช่วยเราหรอก ใครว่าลาวรักไทยแบบพี่น้องแต่จริวๆคำว่าพินองอะไรของลาวหมายถึงญาติเฉยๆ ไม่ใช่คำแสดงความรักความสนิทสนมมากมาย
- แรงงานพม่ามีมากในไทยเราแบบที่แรงงานเม็กซิโกหลั่งไหลเข้าอเมริกาจนทรัมป์เคยออกนโยบายขายฝันสร้างกำแพงกั้นอเมริกาเม็กซิโกมาก่อนแต่ไม่เคยได้ทำ
- แรงงานอพยพ การละเมิดแรงงาน การลักลอบค้ายาเสพย์ติด/อาวุธข้ามแดนอเมริกามีเคสมากกว่าไทยแท้ๆ(เทียบแล้วไทยก็แค่เศษเสี้ยว) แต่มาประนาฌคนอื่นก่อน 
- ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ ว่าพอเราปฏิเสธอเมริกาทีไร(จะด้านการเมืองหรือคู่ค้ารายใหญ่)จะโดนเล่นงานทางการค้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

- ลิงเก็บมะพร้าวนี่เห็นมีคนไปค้นเจอว่าพิต้าใช้คนแค่2คนมาเก็บข้อมูลแป็บๆก่อนประนาฌเราใช้แรงงานสัตว์ พอข่าวออกแฉพิต้าก็ประนาฌไทยจะฟ้องดูหมิ่นแต่ไม่เห็นเอาความจริงมายันแต่อย่างใด
- แล้วญี่ปุ่นละ ในท้องถิ่นนึงเขายังมีประเพณีเลี้ยงนกคอยาวจับปลาให้ชาวประมง ทุก8ตัวที่นกจับปลาได้ค่อยให้นกกินปลาได้1ตัว ถึงจะไม่ค่อยมีเหลือแต่ก็ยังอนุรักษ์ไว้เป็นประเพณี ไม่ปล่อยให้สูญสิ้น ไม่เห็นพิต้าว่า เออทำยังกับกะทิส่งออก80%ของไทยใช้ลิงเก็บหมดยังงั้นแนะ? จะสนสัตว์ขนาดนั้นไปว่าพวกผลิตไส้กรอกดีกว่าไหม

คนลาวจริงๆ ยุกใหม่ จำนวนมากอิจฉาอาฆาตรคนไทย ทั้งหลาย แต่คนยุคก่อนๆ บางส่วนยังมองว่า เหมือนเพื่อนบ้าน  เพราะระบบล้างสมองแบบคอมมิวนิสลาวนั้นแหละ


ผมเคยคุยกับคนลาว บางคน 
   พวกนี้ในหัวคิด อยู่กับอุดมการณ์ ที่ว่า เราต้องให้อำนาจกับคนดี ?(พวกมึงเอาอะไรชีวัดวะ)  ให้พวกเขามาคอยคุมครองดูแลพวกเราทั้งหลาย
    จากหลังสงคราม เวียดนามมาตั้งกี่สิปปีแล้ว พวกเอ็งได้คนดีทั้งหลายช่วยดูแล ตอนนี้เป็นไงบ้างแล้ววะสัด

    เหมือนเวียดนามที่ด่า อเมริกานักหนา ตอนนี้เป็นไง ได้อเมริกาหนุนเข้า พวกเอ็งพุ่งทะยานพลวดๆ ยิ่งกว่าเกาะขารัสเซียซะอีก ทำไมเป็นแบบนี้ 
    คือไม่อยากจะด่าว่า ดักดาน แค่พวกนี้ ไม่รู้จักรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง และไม่เรียนรู้   


     พม่าที่ไทยด่านักหนา เรียกได้ว่า มองไทยค่อนข้างเป็นมิตรที่สุดในระแวก ทวีป นี้ด้วยซ้ำ   
     เพราะอะไร ?

[sariora123]

ไอ้เรื่องพิต้ามันก็แค่พยายามหาเรื่องชาวบ้านเรียกร้องความสนใจขอเงินบริจาคแค่นั้นแหละ ไม่ต้องสนใจมันหรอก

ประเด็นหลัก คือ ไอ้สมาชิกกลุ่มมันจะขายไขมันทดแทนไขมันสัตว์ ที่ผลิตจากพืช แต่อนิจา
ไอ้ที่พวกมันทำ ต้นทุนแพงกว่ามะพร้าวทางเอเชีย มันเลยออกมาโจมตีไง

พอไม่นำเข้ากระทิ ของมันจะได้ขายได้ ทั้งๆ ที่แพงกว่ากระทิกล่องเยอะ


การเป็น วีแกน มังสวิรัสแท้ๆ มันอยู่ลำบากเพราะต้องคอยคุมเรื่องสารอาหาร
โดยเฉพาะโปรตีนไขมันจากพืชนี่แหละ  พวกนี้ใช้กระทิกล่องเสริมเรื่องไขมันไง

    เหมือน รอบก่อนออกมาด่าไทยเรื่องปลากัน   ประกัดพ่องมึงเอาเลี้ยงรวมในวงเดียวกันเหรอสัด แม่งก็กัดกันตายสิวะ
    ปัญหาประกัดไทยคืออะไร ครับ ? 
    เพราะแม่งสวย
    เลี้ยงง่าย 
    ทนมือทนตีน  ปล่อยน้ำเสีย มันก็ยังทนอยู่ได้ อีกต่างหาก


แม้แต่คนเลี้ยงห่วยๆ ก็ยังเลี้ยงได้ไม่ต้องให้ออกซิเจนก็ไม่ตาย ขอแค่อากาศไม่เย็นจนน้ำกลายเป็นน้ำแข็งมันก็ไม่ตายหลอก     มูลค่าตลาด ถ้าจำไม่ผิด ถือว่าสูงมากในตลาดต่างประเทศสมัยก่อน



    พวกขายปลาสวยงามท้องถิ่นประเทศมันสู้ยาก 

[DDAvatar]

ไอ้คนที่หนีไปออสเตรเลียนะเคยเป็น หัวหน้าตำรวจภาค
ใต้ คุมเส้นทางลำเลียงโรฮิงญาเลยนะ
จำคดีโพย นาตารีได้ไหม เขาจ่ายส่วนกันแบบได้ทุกคน
ตั้งแต่ พื้นที่ ยัน ตม  คนคุมภาคไม่มีทาง ไม่เกี่ยวข้อง
เวลาเขาจ่าย เขาจ่ายแบบได้ทุกคน เส้นทางลำเลียง
ถึงปลอดภัย


จริงๆเรื่องโรฮิงญานะตอนแรกคงกะจะใช้โจมตีไทย แต่ผล
กลับชิ่งไปโดนมาเลเซียแทน


เพราะของเราแค่ตายเพราะทนความลำบากจากการเดินทาง
ไม่ไหวตายแล้วก็ฝังตามประเพณี แต่ทางนู้น ถ้าญาติไม่เอา
เงินมาจ่ายเขาฆ่าเอาศพหมกป่าเลย พอข่าวหลุมศพทาง
มาเลเซียแตกข่าวโรฮิงญา ก็ถูกลืมอย่างรวดเร็ว


อย่างพวกกะเหรี่ยงนี่ก็เด็กของอังกฤษเขา ทางความมั่นคง
เขาบอกว่าพวกะเหรี่ยงนี่เตรียมแบ่งแยกดินแดนภาคเหนือ
ไว้เหมือนกัน แต่ไอ้คนฝ่ายเรามันก็ดันไปทำเรื่อง ให้อีกฝ่าย
มีข้ออ้าง ปลุกระดมได้ตลอด

[sariora123]

ใครเป็นอิสลาม ก็ขออภัยไว้ก่อน


แต่คนรู้จักกัน ด่าเอาไว้ว่า
ไอ้พวกถลกหนัง.......
คบไม่ได้ ถึงกับบอกไว้เลยว่า ใครไปได้เมียหรือแต่งกับอิสลามกูเลิกคบ
เป็นลูกหลายญาติ ตายไม่ดูหน้าไม่ต้องเผาผี ตัดออกจากกองสมบัติในบ้าน

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 148 ของสงคราม Part 1

1. แม้จะได้รับการสนับสนุนมากขนาดไหน แต่ภาระค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม การดำเนินงานต่างๆ ของรัฐ และการบูรณะประเทศไปพร้อมกันก็ยังเกินกำลังยูเครน ทำให้เมื่อวานนี้ รัฐบาลยูเครนได้ประกาศทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ โดยการขอเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณของภาครัฐ

ทางด้านประเทศในกลุ่มปารีสคลับ (Paris Club) (กลุ่มประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ของโลก 22 ประเทศ) นำโดยสหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้ประกาศสนับสนุนแผนการเลื่อนกำหนดชำระหนี้ของยูเครน รวมถึงบริษัทและสถาบันการเงินรายใหญ่ที่ถือพันธบัตรรัฐบาลยูเครน เช่น BlackRock, Inc. (สหรัฐ), Fidelity International Ltd, (เบอร์มิวดา), Amia Capital LLP (สหราชอาณาจักร) และ Gemsstock Limited (สหราชอาณาจักร)

การเลื่อนกำหนดชำระหนี้ในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ยูเครนสามารถประหยัดงบประมาณไปได้ราว 5,000 - 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (180,000 - 220,000 ล้านบาท) เนื่องจากไม่ต้องแบ่งงบประมาณสำหรับใช้ชำระหนี้ โดยในปัจจุบัน รัฐบาลยูเครนกำลังประสบภาวะขาดดุลงบประมาณราว 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (180,000 ล้านบาท) ต่อเดือน เทียบเท่ากับ 25% ของ GDP ทั้งประเทศ


2. เมื่อวานนี้ได้มีการจัดการประชุมกลุ่มชาติพันธมิตรยูเครนครั้งที่สี่ (4th Ukraine Defense Contact Group) ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายลอยด์ ออสติน (Lloyd Austin) รมว.กลาโหมสหรัฐ ได้ทำการแถลงข่าว ประกาศว่าสหรัฐจะทำการจัดส่งแพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ให้แก่ยูเครน ซึ่งจะดำเนินการจัดหาผ่านทางงบประมาณจากอำนาจการเบิกถอนตามคำสั่งประธานาธิบดี (Presidential Drawdown Authority) ซึ่งตามการเปิดเผยคร่าวๆ ของนายออสติน แพ็กเกจชุดนี้จะประกอบไปด้วยเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ M142 HIMARS เพิ่มเติมอีก 4 คัน จากเดิมที่สหรัฐส่งมอบให้ยูเครนไปแล้ว 12 คันก่อนหน้านี้ รวมถึงจรวดนำวิถีเพิ่มเติมสำหรับใช้งานกับ HIMARS อีกจำนวนหนึ่ง โดยคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีภายในอาทิตย์นี้

ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีการจัดงานประชุมความมั่นคงแอสเพนประจำปี 2022 (2022 Aspen Security Forum) โดยสถาบันแอสเพน (Aspen Institute) ในรัฐโคโลราโด สหรัฐ ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. โดยในงาน พลอากาศเอกชาลส์ คิว. บราวน์ (General Charles Q. Brown) ประธานคณะเสนาธิการกองทัพอากาศสหรัฐ และนายแฟรงก์ เคนดัลล์ (Frank Kendall) รมว.ทบวงทหารอากาศสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่ามีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะส่งมอบอากาศยานโจมตีภาคพื้นดินรุ่น A-10 Thunderbolt II ซึ่งใกล้จะปลดจะประจำการให้แก่ยูเครน รวมถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะช่วยจัดหาเครื่องบินขับไล่สัญชาติตะวันตกแบบต่างๆ ให้แก่ยูเครน (นอกจาก F-15 และ F-16 ยังมีความเป็นไปได้ว่ายูเครนอาจจัดหา JAS 39 Gripen จากสวีเดนเพื่อมาต่อกรกับรัสเซียด้วย) แต่ทั้งสองได้เน้นย้ำว่าทั้งหมดทั้งมวลขึ้นกับความต้องการของกองทัพยูเครน


3. ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายอิสลาม เบโลเคียฟ (Islam Belokiev) โฆษกกองพันชีคมันซูร์ (Sheikh Mansur Battalion) กองพันทหารอาสาชาวเชเชนกลุ่มต่อต้านรัสเซีย สังกัดกองทัพยูเครน ได้ประกาศออกมาว่ากลุ่มนักรบอาสาชาวเชเชนในยูเครน จะทำการเปิดฉากสงครามเชเชนครั้งใหม่กับรัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลหุ่นเชิดในเชชเนีย เพื่อทวงคืนเอกราชของชาวเชเชนกลับคืนมา และยังกล่าวอีกว่า พวกเขาได้ทำการวางแผนและเตรียมการเพื่อแทรกซึมไปในเชชเนียแล้วเรียบร้อย

นอกจากนี้ในวันถัดมา กลุ่มนักรบเชเชนที่เรียกตนเองว่า “บุตรแห่งอิชเคเรีย” (Sons of Ichkeria) (อิชเคเรียเป็นชื่อประเทศเชชเนียสมัยที่ประกาศตนเป็นเอกราชจากรัสเซีย) ซึ่งอ้างว่าเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอยู่ในเชชเนีย ได้ทำการเผยแพร่วิดีโอประกาศทำสงครามศักดิ์สิทธิ์หรือญิฮาด (Jihad) กับนายรัมซาน คาดีรอฟ (Ramzan Kadyrov) ประธานสาธารณรัฐเชเชนและหนึ่งในคนสนิทของ ปธน.ปูติน

อย่างไรก็ดี ยังเร็วเกินกว่าจะบอกได้ว่าคำกล่าวอ้างของกลุ่มเชเชนต่อต้านรัฐบาลรัสเซียนั้นมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด นางรีเบ็กกาห์ คอฟฟ์เลอร์ (Rebekah Koffler) อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลาโหม (Defense Intelligence Agency) ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้เช่นกันที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลรัสเซียอาจใช้จังหวะที่กองทัพรัสเซียยังคงติดพันอยู่ในยูเครนเพื่อก่อการต่อต้านรัฐบาล แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ของฝ่ายยูเครนสำหรับเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซีย ให้เกิดความกังวลจนต้องแบ่งกำลังทหารไปเพื่อป้องกันดินแดนเชชเนียได้ด้วยเช่นกัน


4. แม้สวิตเซอร์แลนด์จะพึ่งปฏิเสธคำขอของนาโต้ไปไม่นานนี้ เรื่องการรับทหารของยูเครนที่บาดเจ็บมารักษาพยาบาลในสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เกรงว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการละเมิดต่อสถานะความเป็นกลางของตนเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสวิตเซอร์แลนด์จะปฏิเสธคำขอจากยูเครนเสียหมด โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงกิจการต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศตอบรับคำร้องขอจากสถานทูตยูเครน ในการรับประชาชนพลเมืองชาวยูเครนที่ได้รับบาดเจ็บเพราะลูกหลงจากสงคราม มาทำการรักษาพยาบาลในประเทศ โดยในชุดแรกสุดจะเป็นการนำเด็กและเยาวชนยูเครนจำนวนกว่า 155 ราย มาทำการรักษา

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 148 ของสงคราม Part 2

5. ทางด้านโปแลนด์ก็กำลังอยู่ในระหว่างการขยายกำลังพลครั้งใหญ่ โดยข่าวลือล่าสุดจากเกาหลีใต้ กล่าวว่ามีความเป็นไปได้สูงที่โปแลนด์จะเซ็นสัญญาจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งใหญ่จากเกาหลีใต้ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 7,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (280,000 ล้านบาท)

รายงานข่าวจากสำนักข่าวในเกาหลีใต้ กล่าวว่าภายในเดือนนี้จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลโปแลนด์ เรื่องโครงการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารครั้งใหญ่ มูลค่ากว่า 10 ล้านล้านวอน (7,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 280,000 ล้านบาท) โดยรายละเอียดที่หลุดออกมาประกอบไปด้วย

5.1 โครงการจัดหารถถังแบบ K2 Black Panther จำนวน 180 คัน จากบริษัท Hyundai Rotem Co. รวมมูลค่า 3 ล้านล้านวอน (2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 84,600 ล้านบาท) และคาดว่าจะมีการสั่งซื้อเพิ่มเติมในปี 2030 อีกราว 400 คัน
5.2 โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่เบาแบบ FA-50 Golden Eagle จากบริษัท Korea Aerospace Industries Ltd. จำนวน 48 ลำ รวมมูลค่า 3 ล้านล้านวอน (2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 84,600 ล้านบาท) โดยคาดว่าเครื่องบิน 8 ลำแรกจะสามารถส่งมอบให้ได้ภายในสิ้นปีนี้
5.3 โครงการอื่นๆ ที่กล่าวถึงรายละเอียดเพียงคร่าวๆ ประกอบด้วยการจัดหารถรบทหารราบรุ่น AS21 Redback และปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจรรุ่น K9 Thunder จากบริษัท Hanwha Defense รวมถึงมิสไซล์ต่อต้านอากาศยาน/ต่อต้านจรวดขีปนาวุธรุ่น KM-SAM Block 2 จากบริษัท LIG Nex1 Co., Ltd.

นับตั้งแต่รัสเซียทำการรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โปแลนด์ก็ได้ประกาศการเร่งขยายขนาดกองทัพเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากรัสเซีย โดยรัฐบัญญัติพิทักษ์แผ่นดิน (Homeland Defence Act) ได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ในอนาคตอันใกล้ กองทัพโปแลนด์จะขยายกำลังพลจากในปัจจุบันที่มีกำลังทหารทั้งหมด 160,000 นาย เป็น 400,000 นาย และเพิ่มจำนวนงบประมาณกลาโหมเป็น 3% ของ GDP ต่อปีให้ได้ภายในปี 2023 จากในปัจจุบันที่รัฐบาลโปแลนด์ใช้จ่ายงบประมาณทางทหารจำนวน 2.2% ของ GDP ต่อปี

นอกจากนี้ ไม่กี่วันผ่านมา โปแลนด์พึ่งประกาศทำการจัดซื้อรถถังมือสองรุ่น M1A1 Abrams จากสหรัฐไปกว่า 116 คัน* เพื่อมาทดแทนรถถัง T-72M1 และ T-72M1R ที่โปแลนด์ได้ทำการบริจาคให้กองทัพยูเครนไปจำนวน 236 คัน และก่อนหน้านั้นอีกในเดือนเมษายน โปแลนด์ได้ทำสัญญาจัดซื้อรถถังรุ่นใหม่ล่าสุดจากสหรัฐ M1A2 SEPv3 Abrams จำนวนกว่า 250 คัน รวมมูลค่า 4,000 ล้านยูโร (150,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ในเดือนพฤษภาคม โปแลนด์ยังได้ประกาศสั่งซื้อเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ M142 HIMARS จากสหรัฐในปริมาณมหาศาลถึง 500 ระบบ*

*โครงการดังกล่าวไม่ได้มีการระบุจำนวนเงินงบประมาณไว้ 


6. ดูเหมือนการค้าพลังงานระหว่างรัสเซียและอินเดียจะมีปัญหาเล็กน้อยเกิดขึ้น เมื่อบริษัทแกสพรอม (PJSC Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านกิจการน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย เกิดผิดนัดสัญญาตามข้อตกลงการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้แก่บริษัทเกลอินเดีย (GAIL (India) Limited) รัฐวิสาหกิจด้านการขุดเจาะและการกลั่นก๊าซธรรมชาติของอินเดีย

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวต้องเท้าความก่อนว่า เกลอินเดียได้ทำสัญญาการนำเข้าก๊าซเหลว (LNG) กับบริษัทแกสพรอมสิงคโปร์ (Gazprom Marketing & Trading Singapore Pte. Ltd.) ในปริมาณ 2.8 ล้านตัน/ปี ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นสาขาย่อยของบริษัทแกสพรอมเกอร์มาเนีย (Gazprom Germania GmbH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของแกสพรอมในเยอรมนีอีกทอดหนึ่ง แต่เนื่องจากช่วงปลายเดือนมีนาคม เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก รัสเซียได้ทำการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นภายในของบริษัทแกสพรอมเกอร์มาเนีย แต่เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนั้นทำไปโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้ทางการเยอรมนีทราบ ทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นภายในของแกสพรอมเกอร์มาเนียเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายของเยอรมนี ทำให้ในเดือนเมษายน รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นโมฆะ แล้วจึงประกาศให้รัฐบาลเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trusteeship) ของบริษัทไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. ของปีนี้ ทำให้ในทางพฤตินัย รัฐบาลเยอรมนีกลายเป็นผู้ควบคุมกิจการและทรัพย์สินทั้งหมดของแกสพรอมเกอร์มาเนียโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่ารวมถึงบริษัทลูกอย่างแกสพรอมสิงคโปร์ด้วย

ทางด้านรัสเซียย่อมไม่พอใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จึงประกาศการคว่ำบาตรแกสพรอมเกอร์มาเนียเพื่อตอบโต้รัฐบาลเยอรมนี รวมถึงแกสพรอมสาขาอื่นๆ ในสหรัฐ ยุโรป รวมถึงสิงคโปร์ แต่ว่า สัญญาการซื้อขายก๊าซเหลวระหว่างแกสพรอมกับเกลอินเดียยังคงมีผลอยู่ และแม้ว่าเกลอินเดียจะทำสัญญากับแกสพรอมสิงคโปร์ แต่บริษัทดังกล่าวถือว่าเป็นเพียงตัวแทนของแกสพรอม ซึ่งเป็นผู้จัดหาและส่งออกก๊าซเหลวเท่านั้น ทำให้ภาระการรับผิดชอบสัญญาตกไปอยู่กับแกสพรอม ไม่ใช่แกสพรอมเกอร์มาเนีย ซึ่งในช่วงแรก แกสพรอมยังคงสามารถจัดส่งก๊าซเหลวให้แก่เกลอินเดียได้อย่างไม่มีปัญหา กระทั่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แกสพรอมเริ่มประสบปัญหาในการส่งก๊าซเหลว ทำให้ไม่สามารถส่งออกก๊าซเหลวตามสัญญาให้แก่เกลอินเดียได้ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน แกสพรอมได้ผิดนัดการจัดส่งก๊าซเหลวตามสัญญาไปถึง 5 งวดแล้ว และแม้ว่าแกสพรอมจะออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสัญญาจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ทางเกลอินเดียก็ได้เตรียมการหาช่องทางใหม่กับผู้ส่งออกเจ้าอื่นไว้แล้ว หากว่าในอนาคตแกสพรอมไม่สามารถทำการจัดส่งก๊าซเหลวได้ตามสัญญาอีก

อย่างไรก็ดี ปัญหาการผิดนัดส่งมอบก๊าซเหลวของแกสพรอมยังถือว่ามีปริมาณเล็กน้อย ด้วยยอดการจัดส่งเพียง 2.8 ล้านตัน/ปี ขณะที่ยอดการนำเข้าก๊าซเหลวทั้งหมดของอินเดียอยู่ที่ 25 ล้านตัน/ปี และยอดการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในเดือนพฤษภาคมนั้นอยู่ที่ 25 ล้านบาร์เรล คิดเป็น 10% ของยอดการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมด

[samuison]

ไอ้คนที่หนีไปออสเตรเลียนะเคยเป็น หัวหน้าตำรวจภาค
ใต้ คุมเส้นทางลำเลียงโรฮิงญาเลยนะ
จำคดีโพย นาตารีได้ไหม เขาจ่ายส่วนกันแบบได้ทุกคน
ตั้งแต่ พื้นที่ ยัน ตม  คนคุมภาคไม่มีทาง ไม่เกี่ยวข้อง
เวลาเขาจ่าย เขาจ่ายแบบได้ทุกคน เส้นทางลำเลียง
ถึงปลอดภัย


จริงๆเรื่องโรฮิงญานะตอนแรกคงกะจะใช้โจมตีไทย แต่ผล
กลับชิ่งไปโดนมาเลเซียแทน


เพราะของเราแค่ตายเพราะทนความลำบากจากการเดินทาง
ไม่ไหวตายแล้วก็ฝังตามประเพณี แต่ทางนู้น ถ้าญาติไม่เอา
เงินมาจ่ายเขาฆ่าเอาศพหมกป่าเลย พอข่าวหลุมศพทาง
มาเลเซียแตกข่าวโรฮิงญา ก็ถูกลืมอย่างรวดเร็ว


อย่างพวกกะเหรี่ยงนี่ก็เด็กของอังกฤษเขา ทางความมั่นคง
เขาบอกว่าพวกะเหรี่ยงนี่เตรียมแบ่งแยกดินแดนภาคเหนือ
ไว้เหมือนกัน แต่ไอ้คนฝ่ายเรามันก็ดันไปทำเรื่อง ให้อีกฝ่าย
มีข้ออ้าง ปลุกระดมได้ตลอด

ปัญหาก้คือผมว่ามันมีการฆ่าโสเภณีที่จะแจ้งความเมือ่หลา่ยสิบปีก่อนเมหือนกัน
ภาคใต้คือแดนสนธยามากของหนีภาษี น้ำมันเถื่อน

คนที่ลี้ภัยไม่ใช่ตำรวจท้องที่ แต่คือพนักงานสอบสวนที่รับคดีมาทำครับ

ถ้าหากเราบอกว่าทุกส่วนมีส่วนเกี่ยวข้องหมด นั่นใช่ตามความเป็นจริง
แบบเดียวกับที่เคยมีคนกล่าวว่า
หากตำรวจดดนร้องเรียนเรือ่งหวยแสดงว่าผดดนกลั่นแกล้งแล้ว เพราะไม่มีที่ไหนในประเทศไทยที่ไม่มีหวยใต้ดิน

อาจจะแก้ตัวแทนผู้ทำผิดได้ว่า

"ทุกคนก็ทำผิดเหมือนกัน"
"เอ็งก็ทำผิดกฎหมายเมหือนกัน"
นั่นก้อาจจะกล่าวได้ แต่ประเด็นคือ
คดีโดนบีบแบบไม่ให้ดำเนินต่อไปจริงๆนี่ครับ?

หรือเราจะเถียงกันว่าไม่ใช่คดีผู้มีอิทธิพล และเราไม่ควรจับผู้มีอิทธิพล หรอืเราทำตัวดีกว่ามาเลเซียและพม่า?

นั่นก็อาจจะใช่ แต่ผมว่าไม่ค่อยน่าภูมิใจเท่าไรหากคิดกันอย่างนั้น

เรามักจะมีความภูมิใจว่าเราทำดีกว่าพม่ารามัญ ก็ควรจะทำให้จริงๆมากกว่า

[bhasuk]

- เพราะเราไม่สนฑูตสหรัฐที่"สั่ง"ให้ไทยตัดขาดพม่ารึเปล่านะ ตอนนี้อเมริกาเลยยกระดับการค้ามนุษย์ในไทยจากที่ต้องจับตาขึ้นเทียร์2 มาเป็นขึ้นเทียร์2หมาดๆ
- มีตัวอย่างของยูเครนและยุโรป  ส่วนลาว พม่า กัมพูชาเขาไม่คิดช่วยเราหรอก ใครว่าลาวรักไทยแบบพี่น้องแต่จริวๆคำว่าพินองอะไรของลาวหมายถึงญาติเฉยๆ ไม่ใช่คำแสดงความรักความสนิทสนมมากมาย
- แรงงานพม่ามีมากในไทยเราแบบที่แรงงานเม็กซิโกหลั่งไหลเข้าอเมริกาจนทรัมป์เคยออกนโยบายขายฝันสร้างกำแพงกั้นอเมริกาเม็กซิโกมาก่อนแต่ไม่เคยได้ทำ
- แรงงานอพยพ การละเมิดแรงงาน การลักลอบค้ายาเสพย์ติด/อาวุธข้ามแดนอเมริกามีเคสมากกว่าไทยแท้ๆ(เทียบแล้วไทยก็แค่เศษเสี้ยว) แต่มาประนาฌคนอื่นก่อน 
- ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ ว่าพอเราปฏิเสธอเมริกาทีไร(จะด้านการเมืองหรือคู่ค้ารายใหญ่)จะโดนเล่นงานทางการค้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

- ลิงเก็บมะพร้าวนี่เห็นมีคนไปค้นเจอว่าพิต้าใช้คนแค่2คนมาเก็บข้อมูลแป็บๆก่อนประนาฌเราใช้แรงงานสัตว์ พอข่าวออกแฉพิต้าก็ประนาฌไทยจะฟ้องดูหมิ่นแต่ไม่เห็นเอาความจริงมายันแต่อย่างใด
- แล้วญี่ปุ่นละ ในท้องถิ่นนึงเขายังมีประเพณีเลี้ยงนกคอยาวจับปลาให้ชาวประมง ทุก8ตัวที่นกจับปลาได้ค่อยให้นกกินปลาได้1ตัว ถึงจะไม่ค่อยมีเหลือแต่ก็ยังอนุรักษ์ไว้เป็นประเพณี ไม่ปล่อยให้สูญสิ้น ไม่เห็นพิต้าว่า เออทำยังกับกะทิส่งออก80%ของไทยใช้ลิงเก็บหมดยังงั้นแนะ? จะสนสัตว์ขนาดนั้นไปว่าพวกผลิตไส้กรอกดีกว่าไหม

ถูกใจหลายข้อความของท่าน  แล้วก็ขอเสริมความคลาดเคลื่อนข้อมูล  ^^

เทียร์2หมายถึงถูกยกระดับว่าดีขึ้น  อันดับเทียร์สองเฝ้าจับตาดูหมายถึงแย่กว่าเทียร์สอง
แล้วถ้าไม่ทำหรือปรับปรุงก็จะตกไปเทียร์สามแบบเวียดนามที่พึ่งโดน  โดยของเวียดนามเนี่ย
อาจจะเอี่ยวการเมืองระดับประเทศนิดๆ  ^^  นั่นก็เพราะเหตุผลที่เวียดนามตกไปเทียร์สาม
มันเพราะสาเหตุนึงในนอกประเทศ  เกี่ยวกับสถานฑูตเวียดนาม



ดังนั้น  จากเทียร์สองเฝ้าจับตาดู  กลายมาเป็นเทียร์สองเฉยๆ  แปลว่าเขาเห็นว่าเราดีขึ้น  ^^


ปล.เกลียดฝรั่งยุโรปในกรณีเรื่องอ้างลิงเก็บมะพร้าวเช่นกัน  พวกนี้เข้าสุภาษิต ยกตนข่มท่าน 

EDIT :  ตอบแบบยังไม่ดูคคห.อื่น  ว่ามีคนแก้ความคลาดเคลื่อนข้อมูลรึยัง  กำลังทยอยๆอ่าน
คคห.ที่ไม่ยากเกินไป  ^^