[quote/]
มันไม่มีอะไรที่เป็น The Best ในโลกนี้ครับ ซักวันมันก็จะมีอะไรที่ Better กว่าและเหมาะสมกับบริบททางสังคมมากกว่าก็แค่นั้นเองครับ
ซึ่งเราทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวตามบริบทสังคมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ปัญหาก็มักจะเกิดจากการที่คนบางกลุ่มหรือบางคนเลือกที่จะไม่อยากเปลี่ยนแปลงตนเองให้สอดคล้องกับบริบทของสังคม
แถมหนักข้อยิ่งไปกว่านั้นนอกจากตนเองยังไม่คิดเปลี่ยนแปลง ยังฉุดรั้งไม่ให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงอีกด้วยทุกวิถีทางที่ตนเองจะกระทำได้
เพื่อที่ตนเองจะยังรักษาสถานะเดิมให้คงอยู่ต่อไปได้ ซึ่งในความเป็นจริงของโลกมันเป็นไปได้ซะที่ไหนกันละ
มันก็ทั้งถูกและไม่ถูกครับ คือจริงอยู่ว่าเราควรพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
แต่อะไรล่ะคือสิ่งที่ดีกว่า
ในการเปลี่ยนไปสู่สิ่งใหม่มันไม่ได้มีแต่สิ่งที่ดี มันมีข้อเสียด้วย
จากประสพการณ์ที่ผมเริ่มมีอายุระดับนึงที่สัมผัสมาทั้งมุมมองคนแก่และคนหนุ่ม
คำพูดของทั้ง 2 ฝั่งมันถูกทั้งคู่ครับ แต่คำว่าถูกมันขึ้นกับว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน
มุมมองคนหนุ่มผมคงไม่ต้องพูดถึงนะครับเพราะคาดว่าคงทราบแล้ว
แต่ลองมองในมุมมมองคนมีอายุนะครับ
อย่างระบบอาวุโส ที่คนหนุ่มชอบต่อต้าน
ในการบริหารหลายๆอย่างทำไมเลือกให้พวกอาวุโสมากๆตัดสินใจ
ลองไปดูในตลาดทุนได้ครับ คนจบใหม่เรียนวิชามาสูงแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่รอดมาเยอะแยะครับ
แต่คนที่อยู่ในตลาดทุนมานานๆ ถึงเค้าจะไม่ได้เรียนวิชาใหม่ๆใช้สูตรเดิมๆมา 30-40 ปี
แต่คนที่เอาตัวรอดจนมาเป็นเจ้าสัวได้เค้าก็รวยเพิ่มขึ้นอยู่ดีครับ ในขณะที่ 80% ของมือใหม่ขาดทุนแทบเลิกเล่นเลยครับ
ส่วนที่รอดไปเป็นคนที่ประสพผลสำเร็จ
สรุปง่ายๆคือ คนที่ประสพผลสำเร็จ และมีประสพการณ์ยาวนาน ไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่เค้าก็ใช้วิชาที่สะสมมาชนะการเปลี่ยนแปลงได้สบายๆ
แต่คนรุ่นใหม่ที่ชอบการเปลี่ยนแปลง กลับเอาตัวไม่รอดกัน เกือบหมด ส่วนคนที่รอดก็นับเป็นคนเก่ง
ที่อาจจะชนะคนแก่ๆได้ในตอนนั้น แต่ก็เป็นแค่ ไม่กี่คนที่รอดมาจากการสังเวยนับร้อยๆคน
แต่การสร้างระบบเพื่อใช้กับคนนับสิบๆล้านจะใช้วิธีที่คน 80% เจ๊งหรอครับ
เพราะงั้นจะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีข้อเสียที่ความเสี่ยง จึงไม่แปลกที่คนกลุ่มนึงไม่ชอบให้เปลี่ยนแปลง
ดูอย่างพม่าได้ครับ ในใจประชาชนคงอยากได้ผู้นำใหม่ ที่มาจากระบบประชาธิปไตย
แต่ผลลัพธ์ แนวโน้มที่กำลังจะเกิด จะกลายเป็นระบบ ประชาธิปไตยรึเปล่ายังไม่รู้เลย
เผลอๆกลายเป็นแบ่งแยกการปกครองครองแทน เผลอๆอาจจะกลายเป็น 3-4 ประเทศ
ไม่ก็เผลอๆ โดนจีนยึดครองประเทศแทน
นี่แหล่ะครับการเปลี่ยนแปลง มันมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ
ในใจของนักเรียกร้องประชาธิปไตยอาจจะแค่เอาคนลงถนนขับไล่กดดันให้ผู้นำออกไป
แต่สิ่งที่เกิดจริงคือสงคราม มีทั้งรถถัง เฮลิ เครื่องบินทิ้งระเบิด
เห็นข่าววันก่อน ค่ายทหารพม่าโดนเก็บเรียบไป 2-3 แห่งละ
ให้ผมเดา อาจจะเป็นความเห็นชอบจาก รบ.จีน ที่จะแทรกแทรง เพื่อผลักดันให้เกิดรบ.ใหม่ที่นำโดยคนจีนแทน
จากตอนแรก รบ.จีนคงวางแผนแค่ประสานผลประโยชน์กับ รบ.พม่า
แต่พอรบ.พม่าเริ่มเสียเปรียบ การที่ซูจีที่เข้าทางฝั่งตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด
อาจจะทำให้ จีนเสียประโยชน์ ทำให้แทนที่จะปล่อยให้พม่ากลายเป็นนอมินีตะวันตก
ก็เข้าแทรกแทรงส่งอาวุธให้เกิดการปฏิวัติแม่มเลย