แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: Isekai-ทำไมต้องเอาความเจริญที่ทำให้ตนเองลำบากไปในต่างโลกด้วย?  (อ่าน 5579 ครั้ง)

ออนไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,383
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ผมเจอคำวิจารณ์มาครับว่า

พวก OL ลุงวัยทำงานหนักจนตายหรือไม่มีคู่ต้องเล่นเกมส์จีบหนุ่ม/สาวไปจนตายไม่มีเวลาหาแฟน


ทำไมต้องเอาความเจริญยุคปัจจุบันที่ทำให้ตนเองเหน็ดเหนื่อยจนตายไปในต่างโลกอีก?

หรือพวกเขามองไม่ออกว่าความเจริญที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ในการแข่งขันแบบการค้าเสรีนั่นล่ะ


ที่ทำให้เกิดบริษัทมืดที่พยายามเน้นการผลิตสูงสุด จากทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ จนต้องเอาเปรียบพนักงาน


มันไม่ใช่วงจรที่ผิดแปลกแต่ประการใด แต่คือปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วโลก

เริ่มจากประเทศพัฒนา อเมริกา ยุโรป สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มองโกลเลีย....ทุกที่ผู้หญิงบ่นเหมือนกันหมดว่าหาผู้ชายที่ฐานะดีกว่าแต่งงานไม่ได้


มันคือปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นเสมอจากกติกาของทุนนิยม ที่เป็นเกมส์ที่ต้องใข้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และมันเป็นที่มาของบริษัทมืด ที่จะพยายามรีดเวลาทำงานของพนักงานออกมาให้มากที่สุด




ทำไมพวกเธอ/เขา เดินซ้ำรอยเดิม?

ไม่ได้ตำหนิทุนนิยม ผมอยู่แนวคิดสาย  growing pain  หากต้องการเติบโตนั้นจะตัองเจ็บปวด


มองในภาพรวมอาจจะดีในการที่ทำให้มีความต้องการในการพัฒนาเทคโนโลยี

แต่ผมออกจะหลุดโลกอยู่หน่อยๆ เพราะ growing pain คือการมองในภาพรวม

หากมองในด้านปัจดจคบุคคล มันไม่ใช่แนวทางที่ควรใช้ชีวิตเลย
ชีวิตเราไม่ควรเป็นแค่ตัวเลขหนึ่งที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีในภาพรวม

สุภาษิตญี่ปุ่น มีว่าขอพรจากมือลิง ได้อย่างที่ขอ


หนีความลำบากมาจากโลกปัจจุบัน ก็สร้างความลำบากแก่คนยุคหลังในโลกใหม่อีก

นึกถึงเมดพี่สาวในเรื่องจอมมารเศรษฐศาสตร์ ดีที่ได้รับความรู้ ไม่ตกเป็นทาส

สามาระทำมาหากินได้ มีความอิสระทางการเงิน

แต่แลกมากับการแต่งงานช้าหรือไม่ได้แต่งงานเพราะไม่อยากแต่งกับคนฐานะต่ำกว่าหรือคนที่หารายได้น้อยกว่า


นึกถึงการ์ตูน  ที่เขียนเรื่องจากแนวคิดมาร์ก

ประมาณว่าโรงงานผลิตเนยแข็ง เปลี่ยนเป็นระบบแบบสายพาน ทำขนาดเล็กลงให้ใช้ง่าย ลดต้นทุน ให้รางวัลคนขยัน ลงโทษคนขี้เกียจ ฯลฯ

เรียกว่าทำเป็นระบบดีกว่าพระ/นางเอก  isekai หลายๆคนอีก แต่ถูกสร้างให้เป็นตัวร้ายในการ์ตูนของมาร์ก

ตามความเห็นของผม ทุนนิยมมันเป็นแนว no other way but forward

ไม่มีทางอื่นนอกจากมุ่งไปข้างหน้า

เพราะคนที่ไม่พัฒนาก็จะตายอยู่ด้านหลัง

แน่นอน ไม่มีใครเถียงว่ามันคือระบบที่ก้าวหน้าไวที่สุด

แค่ผมคิดว่า พระ/นางเอก isekai ไม่น่าจะใช่คนที่อยากให้คนอื่นในต่างโลกโดนอย่างตนเองในอนาคต

ที่มีการแข่งขันอย่างมหาศาล ทำงานหนักจนตาย...เรียกว่าปัจจุบันยังดีกว่า

หากโลก isekai พัฒนาขึ้นมา น่าจะใกล้เคียงกับปฏิวัติรัสเซีย ที่มาร์กดังๆนั่นล่ะ สภาพการทำงานจะเลวร้ายกว่าบริษัทมืดปัจจุบันอีก
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ According to

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,549
  • ถูกใจแล้ว: 436 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-29
สงสัยอยากเปลี่ยนสถานะ จากพนักงานมาเป็นเจ้าของ จากทาสมาเป็นนายทาส
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ง่ายๆครับแนวคิดโลกปัจจุบันคนริเริ่มและเริ่มก่อนได้เปรียบในทุกๆแง่ อย่างคนคิดค้นคอมได้ก่อต่อไห้มีคนอีกหลายร้อยทำตามคนแรกก็ยังได้เปรีียบ ยิ่งยุคที่ไม่มีอะไรเลยเทคโนฯที่ไปทางเวทมากกว่าวิทยิ่งกินหมูทุกอย่่างที่คิดค้นและสร้างมาใหม่หมดและคนยังไงก็ชินต่อความเป็นอยููู่่เดิมๆไม่มีทางปรับเปรี่ยนกันง่ายๆครับ ยิ่งมีพลังมากพอจะปรับเปรี่ยนได้ก็ยิ่งจะทำเหมือนเดิมผมว่าไอ้พวกต่างโลกถ้าเขียนมังงะทำอนิเมะได้มันทำแน่นอน
ปล.แต่เอาจริงๆคนเขียนมันก็ยังเห็นว่าระบบนี้ดีที่สุดอยู่ดีครับมันเลยลงเอยที่สุดท้ายคนที่หนีจากระบบทำงานจนตายก็ยังจะทำระบบเดิม ยังไงการทำงานหนักได้ผลตอบแทนตามงานหรือการแข่งขันเสรีมันก็ยังดีกว่่าระบบอื่นๆที่คุณเป็นหมอมือเทพทำงานรักษาคนปีละหลายหมื่นคนได้ค่าแรงเท่าคนกวาดถนน หรือไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนยังไลก็ต้องแบ่งผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งไห้กลุ่มอำนาจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2019, 10:36:40 PM โดย Rumia »
 

ออฟไลน์ chin

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 924
  • ถูกใจแล้ว: 426 ครั้ง
  • ความนิยม: +26/-22
ช่วยสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ได้ไหมครับว่าอะไรคือ ความเจริญที่ตัวเอกนำไปต่างโลก แล้วทำให้ลำบาก
เขียนออกมา วกไปวนมา แถมยาวจนผมจับที่ต้องการพูดไม่ถูกเลย


สำหรับผมคิดว่า ถ้าไม่นับพระเอกสายปกครองประเทศ แต่ละคนก็แค่เผยแพร่อาหารใหม่ๆ เทคโนโลยี เช่นพวกสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกเดิม ซึ่งจะผลิตออกมาตามแบบเดิม ใช้เวทสร้าง โกเลม หรืออะไรก็แล้วแต่
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่คิดว่าจะทำให้ลำบากอะไร


ส่วนที่คุณยกตัวอย่าง เมดพี่สาวที่ได้รับการศึกษา แล้วทำให้แต่งช้า (ซึ่งจะแต่งช้าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) อันนั้นไม่เห็นเกี่ยวกับความรู้ที่ได้รับเลย
มันขึ้นอยู่กับรายบุคคล ไม่ใช่ว่าคนเรียนสูง ต้องแต่งช้า หรือต้องเล่นเกมจีบหญิง ไม่มีโอกาสแต่งงาน (อยากรู้จริง คุณไปเอาคำวิจารณ์มาจากไหน คนที่ทำงานหนัก จนไม่แต่งงาน ไม่จำเป็นต้องโยงให้เกี่ยวกับเกมก็ได้ บางคนอาจทำงานจนไม่มีเวลา หรือมองว่ายังไม่มีเงินพอที่จะจุนเจือครอบครับ เลยไม่อยากแต่ง)


ที่ผมอยากบอกคือ คนเราพัฒนาเทคโนโลยีขึ้น เพราะอยากสบาย
แต่ที่ทำให้ชีวิตลำบาก คือระบบ แนวคิดของสังคมมากกว่า
เช่น ญี่ปุ่นมองว่าทุกคนควรทำเพื่อองค์กร หรือส่วนรวม ทำให้ต้องทำงานงกๆ โอทีบ้าง โอฟรีบ้าง เพื่อให้บริษัทอยู่รอด (ส่วนเจ้าตัวจะทำงานจนตาย ก็อีกเรื่อง)
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: NyoronXD, gintamaben, Put1996 และมีอีก 1 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ gintamaben

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 788
  • ถูกใจแล้ว: 237 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-11
ช่วยสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ได้ไหมครับว่าอะไรคือ ความเจริญที่ตัวเอกนำไปต่างโลก แล้วทำให้ลำบาก
เขียนออกมา วกไปวนมา แถมยาวจนผมจับที่ต้องการพูดไม่ถูกเลย


สำหรับผมคิดว่า ถ้าไม่นับพระเอกสายปกครองประเทศ แต่ละคนก็แค่เผยแพร่อาหารใหม่ๆ เทคโนโลยี เช่นพวกสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกเดิม ซึ่งจะผลิตออกมาตามแบบเดิม ใช้เวทสร้าง โกเลม หรืออะไรก็แล้วแต่
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่คิดว่าจะทำให้ลำบากอะไร


ส่วนที่คุณยกตัวอย่าง เมดพี่สาวที่ได้รับการศึกษา แล้วทำให้แต่งช้า (ซึ่งจะแต่งช้าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) อันนั้นไม่เห็นเกี่ยวกับความรู้ที่ได้รับเลย
มันขึ้นอยู่กับรายบุคคล ไม่ใช่ว่าคนเรียนสูง ต้องแต่งช้า หรือต้องเล่นเกมจีบหญิง ไม่มีโอกาสแต่งงาน (อยากรู้จริง คุณไปเอาคำวิจารณ์มาจากไหน คนที่ทำงานหนัก จนไม่แต่งงาน ไม่จำเป็นต้องโยงให้เกี่ยวกับเกมก็ได้ บางคนอาจทำงานจนไม่มีเวลา หรือมองว่ายังไม่มีเงินพอที่จะจุนเจือครอบครับ เลยไม่อยากแต่ง)


ที่ผมอยากบอกคือ คนเราพัฒนาเทคโนโลยีขึ้น เพราะอยากสบาย
แต่ที่ทำให้ชีวิตลำบาก คือระบบ แนวคิดของสังคมมากกว่า
เช่น ญี่ปุ่นมองว่าทุกคนควรทำเพื่อองค์กร หรือส่วนรวม ทำให้ต้องทำงานงกๆ โอทีบ้าง โอฟรีบ้าง เพื่อให้บริษัทอยู่รอด (ส่วนเจ้าตัวจะทำงานจนตาย ก็อีกเรื่อง)


ถูกผิดยังไงไม่รู้นะครับ ทำไมผมอ่านแล้วจับใจความว่าความเจริญที่เขาพูดถึง = ทุนนิยมหรือระบบการทำงานแบบญี่ปุ่น
ซึ่งพูดตามความหมายนั้น ผมไม่เคยเห็นต่างโลกเรื่องไหนเอาแนวคิดนี้ไปเผยแพร่เลยนะ
ส่วนมากเอาไปแค่ความรู้,เทคโนโลยีแถมใมีช้ในกลุ่มคนจำกัด (ที่ส่วนใหญ่เป็นพวกพระเอก) อีกตังหาก ไม่ได้ทำ Mass Production ถึงคนทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2019, 10:49:58 PM โดย gintamaben »
 

ออนไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,383
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
สงสัยอยากเปลี่ยนสถานะ จากพนักงานมาเป็นเจ้าของ จากทาสมาเป็นนายทาส


นึกถึงเรื่องเล่าของการขายทาสของอเมริกา ว่ามีคนหนึ่งพ้นจากการเป็นทาส ก็ได้กลับบ้านเกิด กลานเป็นนายทาส ทำการซื้อขายร่ำรวย มีเรือค้าทาสของตนเองฝ..อเมริกันดรีมจริงๆ




ง่ายๆครับแนวคิดโลกปัจจุบันคนริเริ่มและเริ่มก่อนได้เปรียบในทุกๆแง่ อย่างคนคิดค้นคอมได้ก่อต่อไห้มีคนอีกหลายร้อยทำตามคนแรกก็ยังได้เปรีียบ ยิ่งยุคที่ไม่มีอะไรเลยเทคโนฯที่ไปทางเวทมากกว่าวิทยิ่งกินหมูทุกอย่่างที่คิดค้นและสร้างมาใหม่หมดและคนยังไงก็ชินต่อความเป็นอยููู่่เดิมๆไม่มีทางปรับเปรี่ยนกันง่ายๆครับ ยิ่งมีพลังมากพอจะปรับเปรี่ยนได้ก็ยิ่งจะทำเหมือนเดิมผมว่าไอ้พวกต่างโลกถ้าเขียนมังงะทำอนิเมะได้มันทำแน่นอน
ปล.แต่เอาจริงๆคนเขียนมันก็ยังเห็นว่าระบบนี้ดีที่สุดอยู่ดีครับมันเลยลงเอยที่สุดท้ายคนที่หนีจากระบบทำงานจนตายก็ยังจะทำระบบเดิม ยังไงการทำงานหนักได้ผลตอบแทนตามงานหรือการแข่งขันเสรีมันก็ยังดีกว่่าระบบอื่นๆที่คุณเป็นหมอมือเทพทำงานรักษาคนปีละหลายหมื่นคนได้ค่าแรงเท่าคนกวาดถนน หรือไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนยังไลก็ต้องแบ่งผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งไห้กลุ่มอำนาจ


เข้าใจว่าได้เปรียบครับ


แต่ต้องเจอคนเลียนแบบแน่นอนจะมากหรือน้อย


อย่างน้อยผมนึกภาพเรื่อง dust bowl




กานผลิตอาหารที่มากขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สองจนสินค้าล้นตลาด


จะเกิดอะไรขึ้นหากคนปลูกพืชหมุนเวียนไปตามๆกันจนสินค้าล้นตลาด?


เทคโนโลยีทำให้ได้เปรียบ แต่ทุนนิยมมันจะก่อให้เกิดฮีโร่ยูนิทขึ้นมาเสมอน่ะครับ


หากพระเอกไม่ใช้วิธีลอบสังหารคนอย่างหลี่ปู้เหว่ยในต่างโลกเสียก่อนล่ะนะ


ช่วยสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ได้ไหมครับว่าอะไรคือ ความเจริญที่ตัวเอกนำไปต่างโลก แล้วทำให้ลำบาก
เขียนออกมา วกไปวนมา แถมยาวจนผมจับที่ต้องการพูดไม่ถูกเลย


สำหรับผมคิดว่า ถ้าไม่นับพระเอกสายปกครองประเทศ แต่ละคนก็แค่เผยแพร่อาหารใหม่ๆ เทคโนโลยี เช่นพวกสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกเดิม ซึ่งจะผลิตออกมาตามแบบเดิม ใช้เวทสร้าง โกเลม หรืออะไรก็แล้วแต่
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่คิดว่าจะทำให้ลำบากอะไร


ส่วนที่คุณยกตัวอย่าง เมดพี่สาวที่ได้รับการศึกษา แล้วทำให้แต่งช้า (ซึ่งจะแต่งช้าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) อันนั้นไม่เห็นเกี่ยวกับความรู้ที่ได้รับเลย
มันขึ้นอยู่กับรายบุคคล ไม่ใช่ว่าคนเรียนสูง ต้องแต่งช้า หรือต้องเล่นเกมจีบหญิง ไม่มีโอกาสแต่งงาน (อยากรู้จริง คุณไปเอาคำวิจารณ์มาจากไหน คนที่ทำงานหนัก จนไม่แต่งงาน ไม่จำเป็นต้องโยงให้เกี่ยวกับเกมก็ได้ บางคนอาจทำงานจนไม่มีเวลา หรือมองว่ายังไม่มีเงินพอที่จะจุนเจือครอบครับ เลยไม่อยากแต่ง)


ที่ผมอยากบอกคือ คนเราพัฒนาเทคโนโลยีขึ้น เพราะอยากสบาย
แต่ที่ทำให้ชีวิตลำบาก คือระบบ แนวคิดของสังคมมากกว่า
เช่น ญี่ปุ่นมองว่าทุกคนควรทำเพื่อองค์กร หรือส่วนรวม ทำให้ต้องทำงานงกๆ โอทีบ้าง โอฟรีบ้าง เพื่อให้บริษัทอยู่รอด (ส่วนเจ้าตัวจะทำงานจนตาย ก็อีกเรื่อง)


แนวคิด,วิทยาการ,การบริหารและสิ่งต่างๆที่สนับสนุนแนวทางทุนนิยม


ที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด


เรื่องการแต่งงานช้าลง คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากสถิติของประเทศพัฒนาแล้ว ที่ผู้หญิงออกไปทำงานมากขึ้น


https://www.theguardian.com/world/2018/jun/24/mongolia-reverse-gender-gap-marriage-rate-decline-career-women


แม้กระทั่งมองโกลก็แต่งงานช้าแล้วในปัจจุบัน




เมดพี่สาว"ออกไปผจญภัย" แล้วแต่ท่านจะตีความล่ะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณเธอ


ไม่เกี่ยวกับเกมส์


เกมส์เป็นแค่สิ่งที่ทดแทนความเหงา รากเหง้าของปัญหามาจากการรีดผลผลิตจากแรงงานต่างหาก


อะไรที่ทำให้ท่านคิดว่าท่านจะเป็นคนพิเศษต่างจากคนอื่น ในเมื่อประเทศทุนนิยมทุกประเทศเจอผลกระทบจากทุนนิยมแบบเดียวกัน?


ที่ผมยกตัวอย่างการแต่งงานช้า มีบุตรน้อย ไม่ใช่เรื่องล้อเล้ยนะครับ


ไม่เชื่อผม ลองไปอำเภอหรือหน่วยงานทางสังคมที่ไหนก็ได้ ไปถามเรื่องประชากรและอัตราการเกิดดู




ถ้าไม่เชื่อผม ไปถามหน่วยงานต่างๆได้เลย




กราฟประชากรคือการทำนายอนาคต


เมื่อระบบทุนนิยมทั่วโลกผลกระทบเกิดขึ้นเหมือนกัน ผมไม่คิดว่าใครจะเป็นคนพิเศษทำให้หลุดบ่วงทุนนิยมไปได้...ถ้ายังแต่งให้ไม่มีเวทย์หรือเทคโนโลยีเว่อๆอย่างสตาเทรกล่ะนะ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
      ปัญหามันไม่ได้เกิดจากระบบทุนนิยม แต่เป็นการเลือกใช้ชีวิตของแต่ละคน คนที่ไม่เอาอะไรเลยชิวเกินจนเป็นนีท ก็ทุกข์ แบบรูดี้ พอไปต่างโลกก็มักจะขยันขึ้น กระทั่งจอมขี้เกียจอย่างคาซึมะก็ขยันพอจะเก็บเงินให้ตัวเองรอด อย่างน้อยก็ไม่เป็นนีทแบบเดิม ส่วนอีกสายที่ตรงข้าม ทุ่มเทให้งานจนเกินไป สุดขั้วอีกด้านก็ทุกข์เหมือนกัน พวกนี้พอไปต่างโลก ก็จะไม่ทุ่มเทให้งานทั้งชีวิตแบบเดิม แต่จะชิวขึ้นไม่ถึงขนาดขี้เกียจแต่ก็หาความสุขใส่ตัวบ้าง
        ทุนนิยมไม่ได้ทำให้ทุกข์นะ แต่ละคนมีเสรีภาพในการเลือก ถ้ารู้จักเลือกใช้ชีวิตก็อยู่ได้สบาย ตรงข้าม คอมมิวนิสต์ ถ้าเกิดเป็นชาวบ้านหมดโอกาสหาเงินสร้างตัวต้องจนไปตลอด
        ทุนนิยมตอบแทนตามการกระทำมากกว่า ยิ่งทำผลผลิตที่ดีสนองความต้องการก็ยิ่งได้เงินเยอะ
         คนที่ไปต่างโลกไม่ได้เกลียดทุนนิยม แต่อยากใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ก็มีทางของตัวเอง
         แต่ถ้ามีคนเกลียดทุนนิยมก็น่าจะสนุกดี เช่นสตาลินไปต่างโลก เจอจอมมาร ก็ค่อยๆปลุกระดมชนชั้นกรรมมาชีพ ปฎิวัติคอมมิวนิสต์ แบบนี้ก็น่าสนใจดีนะ 55
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: NyoronXD, gintamaben, dino2094 และมีอีก 4 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ yojinboo

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 360
  • ถูกใจแล้ว: 111 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-7
แต่ก็ยังไม่บอกอยู่ดีนี่ครับว่าอะไรคือความเจริญที่ทำให้ลำบากอย่างที่ท่านต้องการบอก แต่ถ้าจะตอบสิ่งที่ท่านถามมันก็ง่ายๆครับ นั่นก้คือเพื่อความสะดวกและสุขสบายของตัวเราไงละครับ เช่นเดียวกับพระเอกเรื่องโชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซีมันต้องการไงละครับ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: gintamaben

ออฟไลน์ gintamaben

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 788
  • ถูกใจแล้ว: 237 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-11
วิทยาการที่สนับสนุนทุนนิยมนี่เช่นอะไรครับ พวกเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแบบจักรกลการผลิตหรือสายพานโรงงาน Assembly Line อะไรพวกนี้เหรอครับ
ผมไม่เคยเห็นพระเอกเรื่องไหนนอกจาก Release That Witch ที่เอาเทคโนโลยีพวกนี้ไปเผยแพร่แล้วปฎิวัติอุตสาหกรรมแบบจริงจังเลยนะ
ซึ่งเอาจริงๆแล้วเทคโนโลยีมันก็เป็นแค่ปัจจัยใหญ่ปัจจจัยหนึ่ง มันต้องอาศัยทั้งทรัพยากรดั้งเดิม,จำนวนประชากร,ระบบการปกครองฯลฯ นอกจากจะมีปัจจัยเหนือธรรมชาติอย่างเวทย์มนต์มาผสมอ่ะนะ



 

ออนไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,383
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
      ปัญหามันไม่ได้เกิดจากระบบทุนนิยม แต่เป็นการเลือกใช้ชีวิตของแต่ละคน คนที่ไม่เอาอะไรเลยชิวเกินจนเป็นนีท ก็ทุกข์ แบบรูดี้ พอไปต่างโลกก็มักจะขยันขึ้น กระทั่งจอมขี้เกียจอย่างคาซึมะก็ขยันพอจะเก็บเงินให้ตัวเองรอด อย่างน้อยก็ไม่เป็นนีทแบบเดิม ส่วนอีกสายที่ตรงข้าม ทุ่มเทให้งานจนเกินไป สุดขั้วอีกด้านก็ทุกข์เหมือนกัน พวกนี้พอไปต่างโลก ก็จะไม่ทุ่มเทให้งานทั้งชีวิตแบบเดิม แต่จะชิวขึ้นไม่ถึงขนาดขี้เกียจแต่ก็หาความสุขใส่ตัวบ้าง
        ทุนนิยมไม่ได้ทำให้ทุกข์นะ แต่ละคนมีเสรีภาพในการเลือก ถ้ารู้จักเลือกใช้ชีวิตก็อยู่ได้สบาย ตรงข้าม คอมมิวนิสต์ ถ้าเกิดเป็นชาวบ้านหมดโอกาสหาเงินสร้างตัวต้องจนไปตลอด
        ทุนนิยมตอบแทนตามการกระทำมากกว่า ยิ่งทำผลผลิตที่ดีสนองความต้องการก็ยิ่งได้เงินเยอะ
         คนที่ไปต่างโลกไม่ได้เกลียดทุนนิยม แต่อยากใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ก็มีทางของตัวเอง
         แต่ถ้ามีคนเกลียดทุนนิยมก็น่าจะสนุกดี เช่นสตาลินไปต่างโลก เจอจอมมาร ก็ค่อยๆปลุกระดมชนชั้นกรรมมาชีพ ปฎิวัติคอมมิวนิสต์ แบบนี้ก็น่าสนใจดีนะ 55
ส่วนหนึ่งที่ผมตั้งกระทูนี้ก็มาจากแนวคิดเรื่องทาเนียที่เกลียดคอมมิวนิสม์ สานทุนนิยมแต่ไม่ชอบพระเจ้านั่นล่ะครับ :P
เจอแฟนฟิคแล้วคิดีดี ทาเนียน่าจะหาจุดร่วมกับ X /พระเจ้าได้ ในการกำจัดพวกคอมมี่
อย่างน้อยพระเจ้ากับทาเนียก็น่าจะเห็นตรงกันว่าคอมมิวนิสม์เป็นศัตรูร่วมกันของทั้งทุนนิยมและศาสนา
..
กลับมาที่การเลือก อืม..
อย่างที่บอกครับผมสายแนวคิด เติบโตจึงเจ็บปวด

แต่ปรกติแนวคิดว่า ให้คนทุกข์ทนส่วนหนึ่งเพื่อการพัฒนาที่ดีกว่านั้นมันมักจะเป็นแนวคิดของตัวร้ายในนิยายน่ะครับ
พอมาในโลกความจริง มันกลับดูเป็นวิธีทืี่ประนีประนอมที่สุดนั่นล่ะนะ
แต่ก็ยังไม่บอกอยู่ดีนี่ครับว่าอะไรคือความเจริญที่ทำให้ลำบากอย่างที่ท่านต้องการบอก แต่ถ้าจะตอบสิ่งที่ท่านถามมันก็ง่ายๆครับ นั่นก้คือเพื่อความสะดวกและสุขสบายของตัวเราไงละครับ เช่นเดียวกับพระเอกเรื่องโชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซีมันต้องการไงละครับ
พวกพระเอกที่เอาเทคโนโลยีต่างๆไปในโลกอื่นน่ะครับ

หรือแนวแบบตรงตัวที่สุดคือแนวคิดทัุนนิยมสมัยใหม่ของแท้ อย่างเรื่องนายแบงก์แก้พิษเศรษฐกิจ
เท่าที่ผมฟังมามีการแก้ปัญหาอย่างที่ว่า
มีคนอ่านชมว่าไม่เหมือนพระเอกแนวต่างโลก เมื่อกิจการไปไม่ดีแทนที่จะช่วยแบบพระเอกเรื่องอื่นๆก็แนะนำให้เลิกกิจการตัดการขาดทุนอะไรไป
มันคือการมองแบบทุนนิยมของแท้น่ะครับ
อ่อนแอก็แพ้ไป ไม่อยากแพ้ก็ต้องปรับตัว
นรั่นคือแนวทางของทุนนิยม
ของพระเอกคนอื่นๆ ออกแนวตั้งร้านค้าขาย นำสินค้าจากต่างโลก จ้างแรงงานมากขึ้น แนวคิดเรื่องสวัสดิการพนักงาน ฯลฯ
บางส่วนก็ถือว่าดีมากๆ
แต่มันจะตามมาด้วย ดารืกคอมปานี่อย่างเลี่ยงไม่ได้น่ะครับหากระบบทุนนิยมพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง


วิทยาการที่สนับสนุนทุนนิยมนี่เช่นอะไรครับ พวกเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแบบจักรกลการผลิตหรือสายพานโรงงาน Assembly Line อะไรพวกนี้เหรอครับ
ผมไม่เคยเห็นพระเอกเรื่องไหนนอกจาก Release That Witch ที่เอาเทคโนโลยีพวกนี้ไปเผยแพร่แล้วปฎิวัติอุตสาหกรรมแบบจริงจังเลยนะ
ซึ่งเอาจริงๆแล้วเทคโนโลยีมันก็เป็นแค่ปัจจัยใหญ่ปัจจจัยหนึ่ง มันต้องอาศัยทั้งทรัพยากรดั้งเดิม,จำนวนประชากร,ระบบการปกครองฯลฯ นอกจากจะมีปัจจัยเหนือธรรมชาติอย่างเวทย์มนต์มาผสมอ่ะนะ




assembly line เอามาจาก Das Kapital ฉบับการ์ตูน เกี่ยวกับแนวคิดของมาร์กน่ะครับ
ผมเห็นภาพสะท้อนกับแนว isekai น่ะ
แต่ของการ์ตูนของมาร์ก มองในแง่ร้ายกว่า
พระเอกอิอิเซไคส่วนมากก็พัฒนาบ่อน้ำหมู่บ้าน พัฒนาการผลิตต่างๆ การเกษตรเป็นอย่างต่ำใช่ไหมล่ะครับ?
การผลิตมากขึ้นผลที่ตามมาคืออะไร?
กงล้่อประวัติศาสตร์มันหมุนไปไม่หยุดน่ะครับ

จะว่าไปผมก็ไม่ได้โทษพวกพระ/นางเอกเสียทีเดียว
ในโลกแฟนตาซีในอนาคตอาจมทีคนพัฒนาให้เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมเต็มตัวก็ได้

เรื่องพระเอกเอาแนวคิดไป มันก็มีสไตล์สร้างเมืองเป้นการทั่วไปนี่ครับ?
สร้างกังหัน ระหัดวิดน้ำ สบู่ เครื่องสำอางค์ ช้อคโกแลตฯลฯ
ตามประวัติศาสตร์ ช็อคโกแลตนี่ก็ตัวแรงงานเลย และกล้วย สมุนไพรนี่คนเราก่อสงครามมานักต่อนักแล้วเรื่องของพวกนี้เพราะมันเกี่ยวพันกับเงินมหาศาล
ซึ่งอย่างน้อยท่านยอมรับหรือเปล่าล่ะครับว่า ของพวกนี้ทำเงินให้กับพระ/นางเอกอย่างมหาศาล?
แน่นอน ตามหลักความโลภของมนุษย์ จะเกิดการเลียนแบบ ตัดราคาและอื่นๆ คือกงล้อที่หมุนไปไม่สิ้นสุด
ลุกสาวดยุกหนักสุด มีธนาคารด้วย เรียกว่าไม่ช้าไม่นานได้เกิดเหตุการใน Das Kapital ของมาร์กแน่ๆ


http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ gintamaben

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 788
  • ถูกใจแล้ว: 237 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-11
ดูเหมือนท่านจะเอาแนวคิดมาร์กซ์มาอ้างอิงเยอะไปนะ
ช็อคโกแลต,กล้วยหรือสมันไพรอะไรเถือกนั้น ทำไมมันถึงทำเงินมหาศาลแล้วคนฆ่ากันเพื่อยังมันน่ะเหรอ เพราะมันเป็นของหายากในยุคสมัยก่อนโดยเฉพาะอาณานิคมไงล่ะครับ
1.มันมีอยู่และปลูกได้ในเฉพาะ "โลกใหม่" แล้วส่วนใหญ่มีเฉพาะถื่นแบบต้นโกโก้ตอนแรกๆมีเฉพาะในแถบอเมริกาใต้  2.เทคโนโลยีการเดินทางการขนส่งยุคนั้นมันยังไม่ดีพอ เดินเรือข้ามโลกต้องใช้เวลาเป็นหลายเดือน,อาจจะปี 3.เทคโนโลยีการเกษตรมันยังไม่ดีพอ เอาไปต้นเพาะที่อื่นยาก
ของพวกนั้นหลังจากเกิดปฎิวัติอุตสาหกรรมก็ไม่มีตีแย่งกันแล้วครับ เพราะ มีการผลิตได้แบบจำนวนมากจากกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่แถมยังพืชพวกนั้นยังเอาไปปลูกที่อื่นได้ ไม่ได้หาได้อย่างที่เดียวในแถบ "โลกใหม่" อีกแล้ว
แล้วลองมาดูในยุคนี้ ที่เกิดโลกาภิวัฒน์แล้วเทคโนโลยีด้านต่างๆพัฒนาไปไกลกว่ายุคที่แล้วสิครับ คนยังตีกันแย่งของพวกนั้นอยู่มั้ยครับ มันเกี่ยวข้องกับความ Scarce ของสินค้าล้วนๆในยุคนั้น
ไอ่การผลิตได้จำนวนมากซะอีกที่หยุดความขัดแย้งกับไอ่เรื่องพวกนี้ได้ อย่างน้ำมันในอนาคตถ้าสังเคราะห์ได้หรือมีพลังงานใหม่มาทดแทนเดี๋ยวคนก็เลิกตีกันเพราะมันนั่นแหละ
แถมตอนแรกๆติดอยู่ตรงที่ ตัวเอกไปพัฒนาเทคโนโลยีมันไม่ดียังไงครับ? การผลิต Mass Production มันไม่ดีตรงไหนครับ?
ปล.อย่าเอา Das Kapital หรือแนวคิดมาร์กซ์มาอ้างอิงหมดสิครับ เคยเห็นแนวคิดมาร์กซ์สุดโต่งตามหนังสือเป๊ะๆ สำเร็จในโลกจริงมั้ยล่ะ แล้วลองหาข้อมูลอายุเฉลี่ยของประชากรในอังกฤษก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรมกับหลังปฎิวัติอุตสาหกรรมเทียบกันสิครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 01, 2019, 12:57:39 AM โดย gintamaben »
 

ออนไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,383
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ดูเหมือนท่านจะเอาแนวคิดมาร์กซ์มาอ้างอิงเยอะไปนะ
ช็อคโกแลต,กล้วยหรือสมันไพรอะไรเถือกนั้น ทำไมมันถึงทำเงินมหาศาลแล้วคนฆ่ากันเพื่อยังมันน่ะเหรอ เพราะมันเป็นของหายากในยุคสมัยก่อนโดยเฉพาะอาณานิคมไงล่ะครับ
1.มันมีอยู่และปลูกได้ในเฉพาะ "โลกใหม่" แล้วส่วนใหญ่มีเฉพาะถื่นแบบต้นโกโก้ตอนแรกๆมีเฉพาะในแถบอเมริกาใต้  2.เทคโนโลยีการเดินทางการขนส่งยุคนั้นมันยังไม่ดีพอ เดินเรือข้ามโลกต้องใช้เวลาเป็นหลายเดือน,อาจจะปี 3.เทคโนโลยีการเกษตรมันยังไม่ดีพอ เอาไปต้นเพาะที่อื่นยาก
ของพวกนั้นหลังจากเกิดปฎิวัติอุตสาหกรรมก็ไม่มีตีแย่งกันแล้วครับ เพราะ มีการผลิตได้แบบจำนวนมากจากกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่แถมยังพืชพวกนั้นยังเอาไปปลูกที่อื่นได้ ไม่ได้หาได้อย่างที่เดียวในแถบ "โลกใหม่" อีกแล้ว
แล้วลองมาดูในยุคนี้ ที่เกิดโลกาภิวัฒน์แล้วเทคโนโลยีด้านต่างๆพัฒนาไปไกลกว่ายุคที่แล้วสิครับ คนยังตีกันแย่งของพวกนั้นอยู่มั้ยครับ มันเกี่ยวข้องกับความ Scarce ของสินค้าล้วนๆในยุคนั้น
ไอ่การผลิตได้จำนวนมากซะอีกที่หยุดความขัดแย้งกับไอ่เรื่องพวกนี้ได้ อย่างน้ำมันในอนาคตถ้าสังเคราะห์ได้หรือมีพลังงานใหม่มาทดแทนเดี๋ยวคนก็เลิกตีกันเพราะมันนั่นแหละ
แถมตอนแรกๆติดอยู่ตรงที่ ตัวเอกไปพัฒนาเทคโนโลยีมันไม่ดียังไงครับ? การผลิต Mass Production มันไม่ดีตรงไหนครับ?
ปล.อย่าเอา Das Kapital หรือแนวคิดมาร์กซ์มาอ้างอิงหมดสิครับ เคยเห็นแนวคิดมาร์กซ์สุดโต่งตามหนังสือเป๊ะๆ สำเร็จในโลกจริงมั้ยล่ะ แล้วลองหาข้อมูลอายุเฉลี่ยของประชากรในอังกฤษก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรมกับหลังปฎิวัติอุตสาหกรรมเทียบกันสิครับ
เข้าใจว่าทุนนิยมมีข้อดีกว่าคอมมี่ครับ
แนวความคิดผมก็ประมาณทาเนียนั่นล่ะ
คอมมี่เป็นอุดมคติเกินไป ไม่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์
ทุนนิยมนั้นชั่วสารพัด แต่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้
ปัญหาคือ แนวความคิดของทุนนิยมที่ก่อให้เกิดแบล็กคอมปานี่และผลกระทบต่อสังคมแบบที่พวกพระเอกต่างโลกจากมาล่ะครับ
ผมไม่แปลกใจถ้าคนอย่างทาเนียหรือคนที่ประสบความสำเร็จจากระบบทุนนิยมจะนำการพัฒนาต่างๆมาไว้ในต่างโลก
หรือคนสไตล์อเมริกัน ที่มักเขียนแนวไปต่างโลกก็ชอบจะสร้างเขื่อนหรือเมกะโปรเจคต่างๆ

แต่ปรกติพระเอก isekai จะเป็นลุงหรือป้า OL ที่ทำงานหนักจนตายและเล่นเกมส์จีบหนุ่มหรืออะไรเทือกนั้นน่ะครับ
ไม่น่าใช่คนที่หายใจเข้าออกก็เป็นสำนักชิคาโก้อย่างทาเนีย
..
ที่ว่าช็อคโกแลกหรือกล้วยเพราะลูกสาวดยุกเอาของพวกนั้นมาขายและสร้างะนาคารประกอบด้วยน่ะครับผม
อ่านจากบทความ โก้โก้นั้นขาดแคลนอย่างมากเพราะคนบริโภคช็อคโกแลกเพิ่มอย่างไม่หยุดยั้งใฝนโลกปัจจุบันเพราะมันอร่้อยนั่นล่ะ :P
ซึ่งที่ตามมาคือปัญหาการเพาะปลุกและการแข่งขันกันนั่นล่ะครับ ประเด็นที่ผมต้องการจะกล่าวถึง
ว่าขอเพียงแบ่งส่วนแบ่งการตลาดมาได้สักเล็กน้อย ก็นับว่าเป็นเงินมหาศาลแล้ว
ผมจำได้ว่าอเมริกาเคยส่งทหารไปจัดการพวกรัฐฐต่างๆเพราะกบล้วยก็ทำมาแล้ว
คำว่า banana republic ที่เรียกผู้เผด็จการรัฐต่างๆก็มาจากสินค้าส่งออกที่เป็นกล้วยนั่นล่ะ
แต่เรียกเหมือนตลกว่าคนฆ่ากันตายได้เพราะกล้วยหรือช้อคโกแลต..ที่จริงควรจะพูดว่าคนฆ่ากันตายได้เพราะเงินจำนวนมหาศาลต่างหาก
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ลูกสาวดยุกเร่งกาลเวลาให้มาถึงเร็วขึ้นโดยการแนะนำวิทยาการที่ก้าวหน้าล่ะครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ gintamaben

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 788
  • ถูกใจแล้ว: 237 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-11
[quote/]
เข้าใจว่าทุนนิยมมีข้อดีกว่าคอมมี่ครับ
แนวความคิดผมก็ประมาณทาเนียนั่นล่ะ
คอมมี่เป็นอุดมคติเกินไป ไม่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์
ทุนนิยมนั้นชั่วสารพัด แต่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้
ปัญหาคือ แนวความคิดของทุนนิยมที่ก่อให้เกิดแบล็กคอมปานี่และผลกระทบต่อสังคมแบบที่พวกพระเอกต่างโลกจากมาล่ะครับ
ผมไม่แปลกใจถ้าคนอย่างทาเนียหรือคนที่ประสบความสำเร็จจากระบบทุนนิยมจะนำการพัฒนาต่างๆมาไว้ในต่างโลก
หรือคนสไตล์อเมริกัน ที่มักเขียนแนวไปต่างโลกก็ชอบจะสร้างเขื่อนหรือเมกะโปรเจคต่างๆ

แต่ปรกติพระเอก isekai จะเป็นลุงหรือป้า OL ที่ทำงานหนักจนตายและเล่นเกมส์จีบหนุ่มหรืออะไรเทือกนั้นน่ะครับ
ไม่น่าใช่คนที่หายใจเข้าออกก็เป็นสำนักชิคาโก้อย่างทาเนีย
..
ที่ว่าช็อคโกแลกหรือกล้วยเพราะลูกสาวดยุกเอาของพวกนั้นมาขายและสร้างะนาคารประกอบด้วยน่ะครับผม
อ่านจากบทความ โก้โก้นั้นขาดแคลนอย่างมากเพราะคนบริโภคช็อคโกแลกเพิ่มอย่างไม่หยุดยั้งใฝนโลกปัจจุบันเพราะมันอร่้อยนั่นล่ะ :P
ซึ่งที่ตามมาคือปัญหาการเพาะปลุกและการแข่งขันกันนั่นล่ะครับ ประเด็นที่ผมต้องการจะกล่าวถึง
ว่าขอเพียงแบ่งส่วนแบ่งการตลาดมาได้สักเล็กน้อย ก็นับว่าเป็นเงินมหาศาลแล้ว
ผมจำได้ว่าอเมริกาเคยส่งทหารไปจัดการพวกรัฐฐต่างๆเพราะกบล้วยก็ทำมาแล้ว
คำว่า banana republic ที่เรียกผู้เผด็จการรัฐต่างๆก็มาจากสินค้าส่งออกที่เป็นกล้วยนั่นล่ะ
แต่เรียกเหมือนตลกว่าคนฆ่ากันตายได้เพราะกล้วยหรือช้อคโกแลต..ที่จริงควรจะพูดว่าคนฆ่ากันตายได้เพราะเงินจำนวนมหาศาลต่างหาก
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ลูกสาวดยุกเร่งกาลเวลาให้มาถึงเร็วขึ้นโดยการแนะนำวิทยาการที่ก้าวหน้าล่ะครับ



หมายถึง Banana Wars น่ะเหรอครับ สาเหตุไม่ได้เกิดจากกล้วยเลยแม้แต่น้อยเลยครับ
อเมริกาต้องการรักษาอำนาจเหนืออาณานิคมที่มีอยู่ในประเทศแถบนั้นตามหลักมอนโร ที่มีบริษัทขายผลไม้ "united Fruit Company" เป็นตัวหน้าฉากต่างหากล่ะครับ
แล้วข่าวโกโก้ "จะ" ขาดตลาด ถ้าไปอ่านข่าวจะพบว่าเป็นเหตุผลทางด้านสิงแวดล้อมเป็นปัจจัยใหญ่ๆเลยล่ะครับ แถมมี Article ใหม่ออกมา Debunked แล้วล่ะครับแต่มันต้องสมัครเพื่ออ่านน่ะครับเลยไม่รู้ว่าจริงๆพูดว่ายังไง
ได้แต่เดาหัวข้อเอา
https://www.wsj.com/articles/what-chocolate-shortage-cocoa-steadies-as-record-output-projected-11559649601

 

ออฟไลน์ ลายทาง

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,091
  • ถูกใจแล้ว: 261 ครั้ง
  • ความนิยม: +26/-7
  • เพศ: ชาย
แบ่งเป็น สองส่วนละกัน
ส่วนแรก (เหมือนกับที่ท่านอื่นพูดนั่นละ) เป็นเจ้าของบริษัท กับเป็นลูกจ้างมันต่างกัน

ส่วนที่สอง อาการโฮมซิก(คิดถึงบ้านเกิด) ยกตัวอย่าง(ที่นึกออกทันทีเลย)ก็Honzuki no Gekokujouที่ต้องไปอยู่ในยุคที่ไม่มีส้วม ขับถ่ายลงกระโถน(แล้วโยนทิ้งทางหน้าต่าง?!)เป็นผมเจออย่างนั้นก็อยากสร้างส้วมขึ้นมาเลยละ(ถึงนางจะสนใจแต่สร้างหนังสือก็เหอะ)

ป.ล.จริงๆถ้าอ้างอิงเรื่องไหนเป็นหลัก ก็น่าจะบอกชื่อเรื่องมาเลยนะครับ ไม่ใช่พูดกว้างๆทำนองนี้ (คือผมไม่ได้อ่านหลายแนวนะครับ เดาไม่ถูกหรอกว่าท่านยกจากเรื่องไหนมาพูด)
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
แบ่งเป็น สองส่วนละกัน
ส่วนแรก (เหมือนกับที่ท่านอื่นพูดนั่นละ) เป็นเจ้าของบริษัท กับเป็นลูกจ้างมันต่างกัน

ส่วนที่สอง อาการโฮมซิก(คิดถึงบ้านเกิด) ยกตัวอย่าง(ที่นึกออกทันทีเลย)ก็Honzuki no Gekokujouที่ต้องไปอยู่ในยุคที่ไม่มีส้วม ขับถ่ายลงกระโถน(แล้วโยนทิ้งทางหน้าต่าง?!)เป็นผมเจออย่างนั้นก็อยากสร้างส้วมขึ้นมาเลยละ(ถึงนางจะสนใจแต่สร้างหนังสือก็เหอะ)

ป.ล.จริงๆถ้าอ้างอิงเรื่องไหนเป็นหลัก ก็น่าจะบอกชื่อเรื่องมาเลยนะครับ ไม่ใช่พูดกว้างๆทำนองนี้ (คือผมไม่ได้อ่านหลายแนวนะครับ เดาไม่ถูกหรอกว่าท่านยกจากเรื่องไหนมาพูด)
ไช่ครับต่างโลกมักอิงยุคกลางที่อำนาจรวมศูนย์พวกตัวเอกที่เอาไฮเทคฯหรือแนวคิดทุนนิยมผมก็ไม่เห็นเรื่องไหนมีปันหานะเพราะเหล่าตัวเอกมันopเหลือเกิน ไอ้ที่มีปัณหามาจากตัวเองล้วนๆเช่นไปอับเกรดโลลิจากคนจนหรือทาสไปเป็็นโลลิไฮเทคฯเป็นต้น

ออฟไลน์ Nobitanian

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,776
  • ถูกใจแล้ว: 3030 ครั้ง
  • ความนิยม: +151/-150
[quote/]
เข้าใจว่าทุนนิยมมีข้อดีกว่าคอมมี่ครับ
แนวความคิดผมก็ประมาณทาเนียนั่นล่ะ
คอมมี่เป็นอุดมคติเกินไป ไม่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์
ทุนนิยมนั้นชั่วสารพัด แต่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้
ปัญหาคือ แนวความคิดของทุนนิยมที่ก่อให้เกิดแบล็กคอมปานี่และผลกระทบต่อสังคมแบบที่พวกพระเอกต่างโลกจากมาล่ะครับ
ผมไม่แปลกใจถ้าคนอย่างทาเนียหรือคนที่ประสบความสำเร็จจากระบบทุนนิยมจะนำการพัฒนาต่างๆมาไว้ในต่างโลก
หรือคนสไตล์อเมริกัน ที่มักเขียนแนวไปต่างโลกก็ชอบจะสร้างเขื่อนหรือเมกะโปรเจคต่างๆ

แต่ปรกติพระเอก isekai จะเป็นลุงหรือป้า OL ที่ทำงานหนักจนตายและเล่นเกมส์จีบหนุ่มหรืออะไรเทือกนั้นน่ะครับ
ไม่น่าใช่คนที่หายใจเข้าออกก็เป็นสำนักชิคาโก้อย่างทาเนีย
..
ที่ว่าช็อคโกแลกหรือกล้วยเพราะลูกสาวดยุกเอาของพวกนั้นมาขายและสร้างะนาคารประกอบด้วยน่ะครับผม
อ่านจากบทความ โก้โก้นั้นขาดแคลนอย่างมากเพราะคนบริโภคช็อคโกแลกเพิ่มอย่างไม่หยุดยั้งใฝนโลกปัจจุบันเพราะมันอร่้อยนั่นล่ะ :P
ซึ่งที่ตามมาคือปัญหาการเพาะปลุกและการแข่งขันกันนั่นล่ะครับ ประเด็นที่ผมต้องการจะกล่าวถึง
ว่าขอเพียงแบ่งส่วนแบ่งการตลาดมาได้สักเล็กน้อย ก็นับว่าเป็นเงินมหาศาลแล้ว
ผมจำได้ว่าอเมริกาเคยส่งทหารไปจัดการพวกรัฐฐต่างๆเพราะกบล้วยก็ทำมาแล้ว
คำว่า banana republic ที่เรียกผู้เผด็จการรัฐต่างๆก็มาจากสินค้าส่งออกที่เป็นกล้วยนั่นล่ะ
แต่เรียกเหมือนตลกว่าคนฆ่ากันตายได้เพราะกล้วยหรือช้อคโกแลต..ที่จริงควรจะพูดว่าคนฆ่ากันตายได้เพราะเงินจำนวนมหาศาลต่างหาก
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ลูกสาวดยุกเร่งกาลเวลาให้มาถึงเร็วขึ้นโดยการแนะนำวิทยาการที่ก้าวหน้าล่ะครับ

ทุนนิยม ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิด Black Company นะครับ จริง ๆ Black Company มันมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในทางกลับกัน ระบบทุนนิยมต่างหาก ที่เข้ามาทำลายการมีอยู่ของ Black Company เพราะระบอบทุนนิยม ทำให้การใช้แรงงานทาส กลายเป็นสิ่งผิดกฏหมาย


แต่สิ่งที่ทำให้ Black Company มันยังมีตัวตนอยู่ได้ เพราะ สภาวะทางสังคม ครับ คนเรียนจบ ปี ๆ นึงเป็นแสน แต่ บริษัท ที่เปิดแต่ละปี มีแค่หลักพัน ตำแหน่งงาน มันไม่สัมพันธ์ กับความต้องการ คนก็เลยมักจะทนทำงานไป เพราะถ้าออกตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหางานใหม่ได้ไหม บางคนก็กลัวจะถูกด่าว่าไม่มีความอดทน





 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol, MellyTH, nosta และมีอีก 2 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ chin

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 924
  • ถูกใจแล้ว: 426 ครั้ง
  • ความนิยม: +26/-22
เหมือนเจ้าของกระทู้จะมีธงอยู่แล้วว่าการนำเข้าแนวคิด หรือเทคโนโลยีไปยังต่างโลกจะทำให้เกิดความลำบาก
ผมต้องขอถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าจะลำบาก อย่างที่บอกไปแล้วว่าเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ นั้นเกิดมาจากความขี้เกียจของมนุษย์ ที่อยากสบาย
ดังนั้นสิ่งที่ตัวเอกสร้างขึ้นก็เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้


ท่านอาจจะแย้งว่า ก็เพราะสิ่งนี้ทำให้ตอนอยู่โลกเก่าต้องทำงานดุจทาส
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพอมาอยู่โลกนี้แล้วจะต้องเป็นเหมือนกันนะครับ
คนเปลี่ยน สถานที่เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน สุดท้ายผลลัพธ์ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้
ตัวเอก (อย่างที่หลายๆ ท่านว่าไว้) เป็นคนนำเข้าสิ่งใหม่ๆ ก็เปรียบเสมือนเจ้าของ หรือนายจ้าง ความลำบากตอนเป็นลูกจ้างก็จะไม่มี
แถมยังเป็นคนที่เคยเจอจุดที่เป็นปัญหามาแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะแก้ปัญหาไม่ให้คนอื่นตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับตน
เช่น หนูหมียูนะ จากฮิกกี้เกลียดพ่อแม่ ก็พยายามสอนให้เด็กกำพร้าทำงาน
หรือเรียวมะ ในเรื่อง The Man Picked up by the Gods ที่ถึงจะตั้งร้านซักรีดขึ้นมา ก็พยายามให้ลูกจ้างได้รับสวัสดิการที่ดี ไม่ถูกกดขี่เหมือนตอนที่ตนทำงานในโลกเดิม

สรุปคือผมยังคงตอบคำเดิมว่านวัตกรรมที่นำไปต่างโลกไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คนลำบาก
อย่างเมดพี่สาว ท่านรู้ได้ไงว่านางลำบาก นางเสียใจที่มีความรู้ ท่านอาจจะมองว่าผู้หญิงที่มีความรู้ จะทำให้แต่งงานช้า หรือขึ้นคาน และนั้นคือนรกในความคิดของท่าน
แต่นั้นแหละ เมดพี่สาวอาจจะไม่ได้คิดอย่างนี้ นางอาจจะมีความสุขที่ได้ทำงานเพื่อผู้อื่น และไม่ได้มองว่าผู้หญิงต้องแต่งงาน แล้วเฝ้าบ้าน เลี้ยงลูก ตามทัศนคติของสังคมที่ยัดเยียดมาให้

นี่เป็นความคิดส่วนตัวของผม ซึ่งก็ไม่คิดจะยัดเยียดให้ท่านคิดเหมือนผม เพราะคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ชีวิตที่ผ่านมาก็เจออะไรที่ต่างกันไป มุมมองสิ่งต่างๆ ก็ย่อมต่างกันไปด้วย
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,728
  • ถูกใจแล้ว: 20681 ครั้ง
  • ความนิยม: +363/-6
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
ผมว่ามันอยู่ที่นิสัยกับความจำเป็นของตัวเอกล้วนๆนะครับ เช่นโลลิค้ายากับเทพธิดาโรงแรม(พื้นที่โฆษณาฮา) นางสองคนนี่ทั้งฉลาดและโคตรจะOP แต่เห็นพวกนางถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรบ้าง? ก็ไม่มีเพราะว่าไม่อยากทำ อย่างเจ้าแม่นี่โคตรจะหวงความรู้เลยด้วยซ้ำไป. ส่วนโครโน่ที่ท่านดาบม่วงแปลนี่มันไม่ค่อยจะมีความรู้ด้วยซ้ำแต่เพราะมันอยากจะทำกับจำเป็นต้องทำมันถึงถ่ายทอดความรู้ก็เท่านั้นเอง
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,229
  • ถูกใจแล้ว: 6563 ครั้ง
  • ความนิยม: +295/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
รึท่านชอบไปอยแบบ หนูไมล์หนอนหนังสือช่วงแรกๆล่ะ แค่ค่าข้าวแต่ละมื้อยังแทบไม่พอกิน แชมพูไม่มีสระ ไม่มีสบู่    ชุดก็ใสซ้ำไปวันๆ
 

ออนไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,383
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
[quote/]


หมายถึง Banana Wars น่ะเหรอครับ สาเหตุไม่ได้เกิดจากกล้วยเลยแม้แต่น้อยเลยครับ
อเมริกาต้องการรักษาอำนาจเหนืออาณานิคมที่มีอยู่ในประเทศแถบนั้นตามหลักมอนโร ที่มีบริษัทขายผลไม้ "united Fruit Company" เป็นตัวหน้าฉากต่างหากล่ะครับ
แล้วข่าวโกโก้ "จะ" ขาดตลาด ถ้าไปอ่านข่าวจะพบว่าเป็นเหตุผลทางด้านสิงแวดล้อมเป็นปัจจัยใหญ่ๆเลยล่ะครับ แถมมี Article ใหม่ออกมา Debunked แล้วล่ะครับแต่มันต้องสมัครเพื่ออ่านน่ะครับเลยไม่รู้ว่าจริงๆพูดว่ายังไง
ได้แต่เดาหัวข้อเอา
https://www.wsj.com/articles/what-chocolate-shortage-cocoa-steadies-as-record-output-projected-11559649601


ใช่แล้วล่ะครับ การเมืองจะเข้ามาเกี่ยวเสมอ
ไปเจอบรรยายมาว่า คนที่ครองพื้นที่ก็คือเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่
ซึ่งก็ไม่แปลกการทำพื้นที่ขนาดใหย่มในหมู่พวกเศรษฐีเจ้าของที่ดินมีมาตั้งแต่สมัยโรมันน่ะครับ

ที่ผมมองคือมันเกิดปัญหาแน่ๆ เช่นยกตัวอย่างใมห้เฉพาะเจาะจงลงก็ลูกสาวดยุก ที่พัฒนาด้านระบบการเงินและการผลิตสินค้าสฟุ่มเฟือยครับ
น่าจะเพราะเป็นผู้หญิงเลยคิดไปในเรื่องสินค้าฟุ่มเฟือย น้ำหอมเครื่องสำอางค์

ไม่ได้ตำหนิว่าเป็นของไม่ดี มันคือการพัฒนาการของมนุษย์
แต่สินค้าฟุถ่มเฟือยมันคือที่มาของสังคมผู้บริโภคและเศรษฐกืิจอย่างทุกวันนี้ล่ะครับ
ว่าคุณเธอจะสร้างสาว OL mี่ทำงานหนักทั้งวันอย่างตัวเธอขึ้นมาอีกในไม่ช้าในอนาคต
ในช่วงระยะใกล้ๆนี้ก็น่าจะเกิดการใช้แรงงานและโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กในการผลิตน้ำหอม เครื่องสำอางค์และอื่นๆ
เป็นสังคมแรงงานเร็วขึ้นว่าอย่างนั้น
รึท่านชอบไปอยแบบ หนูไมล์หนอนหนังสือช่วงแรกๆล่ะ แค่ค่าข้าวแต่ละมื้อยังแทบไม่พอกิน แชมพูไม่มีสระ ไม่มีสบู่    ชุดก็ใสซ้ำไปวันๆ
นั่นก็น่าสนใจไปอีกแบบล่ะครับ
วว่าไปแล้วผมมองในแง่ที่ว่า หากเป็นคนแบบทาเนีย ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจาะระบบทุนนิยม
ผมจะไม่แปลกใจถ้าเป้นคนที่เชื่อเรื่องตลาดเสรี พัฒนาทุนนิยมอย่างรวดเร็ว
แต่หากเป็นคนที่ทำงานหนักเป็นสาว OL หรือคุณลุงพนักงานไม่มีแฟนมาเพราะทำงานหนักอย่างเดียว..มันแปลกๆที่จะอยากพัฒนาอุตสาหกรรมและทุนนิยมน่ะครับ
หากใช้เพื่อส่วนตัวก็อา่จจะพอเข้าใจ แต่ปรับบใช้ทั้งสังคมก็เหมือนกับจะดูไม่นึกถึงผลที่ตามมาข้างหน้าพอสมควร
หรืออาจจะเป็นคนที่คิดแต่มองในแง่ดีซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอะไร
แค่เป็นประเด็นที่ผมว่าน่าจะมีการฉุกใจคิดกันมาบ้าง ว่าหนีการทำงานแบบนั้นมาต่างโลกแล้วยังพัฒนาระบบห้างสรรพสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรมอีก
ผมว่ามันอยู่ที่นิสัยกับความจำเป็นของตัวเอกล้วนๆนะครับ เช่นโลลิค้ายากับเทพธิดาโรงแรม(พื้นที่โฆษณาฮา) นางสองคนนี่ทั้งฉลาดและโคตรจะOP แต่เห็นพวกนางถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรบ้าง? ก็ไม่มีเพราะว่าไม่อยากทำ อย่างเจ้าแม่นี่โคตรจะหวงความรู้เลยด้วยซ้ำไป. ส่วนโครโน่ที่ท่านดาบม่วงแปลนี่มันไม่ค่อยจะมีความรู้ด้วยซ้ำแต่เพราะมันอยากจะทำกับจำเป็นต้องทำมันถึงถ่ายทอดความรู้ก็เท่านั้นเอง
อันนั้นพอเข้าใจในเคสที่อาละวาดไปทั้งยุทธภพครับ
ว่าขขายมาใช้ไป อยู่แค่ในระยะใกล้ๆ
มันมีเคสอย่างเดสมาร์ชมั้ง?ที่ตอนหลังก็สร้างร้านสรรพสินค้าขึ้น
โครโน่ คงออกแนวสุ้ด้วยความจำเป็นนั่้นล่ะ เพราะต้องการความได้เปรียบในด้านสงครามและดินแดน
อย่างปล่อยแม่มด ผมไม่ตำหนิอะไรเพราะเป็นชาวจีน ที่มีแนวคิดพัฒนาแบบอเมริกาว่าไม่พัฒนตาก็โนปีศาจหรือไม่ก็พี่น้องฆ่าแน่นอน
เหมือนเจ้าของกระทู้จะมีธงอยู่แล้วว่าการนำเข้าแนวคิด หรือเทคโนโลยีไปยังต่างโลกจะทำให้เกิดความลำบาก
ผมต้องขอถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าจะลำบาก อย่างที่บอกไปแล้วว่าเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ นั้นเกิดมาจากความขี้เกียจของมนุษย์ ที่อยากสบาย
ดังนั้นสิ่งที่ตัวเอกสร้างขึ้นก็เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้


ท่านอาจจะแย้งว่า ก็เพราะสิ่งนี้ทำให้ตอนอยู่โลกเก่าต้องทำงานดุจทาส
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพอมาอยู่โลกนี้แล้วจะต้องเป็นเหมือนกันนะครับ
คนเปลี่ยน สถานที่เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน สุดท้ายผลลัพธ์ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้
ตัวเอก (อย่างที่หลายๆ ท่านว่าไว้) เป็นคนนำเข้าสิ่งใหม่ๆ ก็เปรียบเสมือนเจ้าของ หรือนายจ้าง ความลำบากตอนเป็นลูกจ้างก็จะไม่มี
แถมยังเป็นคนที่เคยเจอจุดที่เป็นปัญหามาแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะแก้ปัญหาไม่ให้คนอื่นตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับตน
เช่น หนูหมียูนะ จากฮิกกี้เกลียดพ่อแม่ ก็พยายามสอนให้เด็กกำพร้าทำงาน
หรือเรียวมะ ในเรื่อง The Man Picked up by the Gods ที่ถึงจะตั้งร้านซักรีดขึ้นมา ก็พยายามให้ลูกจ้างได้รับสวัสดิการที่ดี ไม่ถูกกดขี่เหมือนตอนที่ตนทำงานในโลกเดิม

สรุปคือผมยังคงตอบคำเดิมว่านวัตกรรมที่นำไปต่างโลกไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คนลำบาก
อย่างเมดพี่สาว ท่านรู้ได้ไงว่านางลำบาก นางเสียใจที่มีความรู้ ท่านอาจจะมองว่าผู้หญิงที่มีความรู้ จะทำให้แต่งงานช้า หรือขึ้นคาน และนั้นคือนรกในความคิดของท่าน
แต่นั้นแหละ เมดพี่สาวอาจจะไม่ได้คิดอย่างนี้ นางอาจจะมีความสุขที่ได้ทำงานเพื่อผู้อื่น และไม่ได้มองว่าผู้หญิงต้องแต่งงาน แล้วเฝ้าบ้าน เลี้ยงลูก ตามทัศนคติของสังคมที่ยัดเยียดมาให้

นี่เป็นความคิดส่วนตัวของผม ซึ่งก็ไม่คิดจะยัดเยียดให้ท่านคิดเหมือนผม เพราะคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ชีวิตที่ผ่านมาก็เจออะไรที่ต่างกันไป มุมมองสิ่งต่างๆ ก็ย่อมต่างกันไปด้วย
อะไรที่ทำให้ท่านไม่พอใจความคิดผมก็ขออภัยบ
ผมแค่บรรยายพัฒ?นาการประวัติศาสตรืเท่านั้น
ว่าสิ่งที่พวกเขาทำจะทำให้เกิดเหตุการณืที่พวกเขาเจอในอนาคตเท่านั้นเอง ไม่มีทางเลี่ยง

การมีความสุขที่มีเงิน อิสระ ใช้จ่ายอย่างมีความสุข child free life แบบที่กำกลังโฆษณากันจะมีความสุขหรือไม่ก็เป็นแนวคิดส่วนบุคคล คงไม่อาจจะเปลี่ยนใจใครได้ เห็นด้วยในจุดนั้นครับ
อิสรภาพมาพร้อมกับความรับผิดชอบนั่นล่ะหากเลือกทางเดินทางนั้น ผลลัพธ์ที่ตามมาเราจะค่อยๆเห็นพร้อมกันในอีกสักสิบยี่สิบปีขข้างหน้าเองครับ
กาลเวลาจะพิสูจน์แนวคิดของเราเอง


ส่วนที่ผมไม่เห็นด้วยคือการที่ท่านคาดการณ์ว่าจะมีอะไรที่พิเศษออกไป จากความที่มนุษย์เป็นมนุษย์นั่นล่ะ
อะไรที่เป็นสิ่งพิเศษที่ทำให้ท่านคิดว่าพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ จะไม่หมุนไปตามที่มันเป็นล่ะครับ?

แนวต่างโลกอาจจะโอเคที่มีเทพเจ้าแปละจอมมารในการทำให้อาจเกิดแนวคิดศาสนาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่อาชีพพ่อค้าก็คือพ่อค้าและคนเรายังต้องกินต้องใช้
หากจะเปลี่ยนสังคมมนุษย์ เราก้จำต้องเปลี่ยนพื้นฐานของมนุษย์เองล่ะครับ

กล่าวถึงต่างโลกอาจจะเกินเลยไป

ท่านสังเกตุ อเมริกา ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น..เทียบกับไทยหรือเปล่าครับ?
ท่านบอกได้อย่างมั่นใจไหมว่าเรากำลังเดินไปคนละทาง ไม่ใช่ในเส้นทางที่เป็นทุนนิยม?

อย่าเข้าใจผิด ผมบอกจุดยืนของผมตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นสาย growing pain เติบโตจึงเจ็บปวด
เมื่อจะต้องเกิดความเจ็บปวดในสังคมก็ให้มันเติบโตเร็วที่สุดยังจะดีเสียกว่า
ทุนนิยมและอารยธรรม ทำให้สบายขึ้นในภาพรวม ..แค่ต้องมีชนชั้นที่ทำงานเยี่ยงทาสมากขึ้นเพื่อให้คนโดยรวมสบายมากขึ้นเท่านั้นเองเราอาจะแก้ปัญหานี้ได้ใมในอนาคตโดยเทคโนโลยีเอไอ
แต่การไปถึงจุดนั้นก็ต้องใช้เงินทุนมหาศาลแะระยะเวลา


ผมคิดว่า การพัฒนาการของประวัติศาสตรื ไม่ใช่เรื่องที่สามารถโต้เถียงกันได้น่ะครับ เหมือนกับท่านจะบอกว่าจะสามารถหยุดไม่ให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกน่ะ
ถามว่าทำได้ไหม?
ก็บอกว่าได้ทางทฤษฎี สร้างเครื่องที่ปรับวงโคจรของโลกให้ได้
ถามได้ว่าทำได้ไหมในทางปฏิบัติ?
คงเกลี้ยกล่อมใฝห้ชาวบ้านเอางบประมาณมาทำอย่างนั้นยากและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังมีไม่พอ
การที่ท่านคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงพัฒนาการของประวัติศาสตร์ก็เหมือนกันล่ะครับ
[quote/]
ทุนนิยม ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิด Black Company นะครับ จริง ๆ Black Company มันมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในทางกลับกัน ระบบทุนนิยมต่างหาก ที่เข้ามาทำลายการมีอยู่ของ Black Company เพราะระบอบทุนนิยม ทำให้การใช้แรงงานทาส กลายเป็นสิ่งผิดกฏหมาย


แต่สิ่งที่ทำให้ Black Company มันยังมีตัวตนอยู่ได้ เพราะ สภาวะทางสังคม ครับ คนเรียนจบ ปี ๆ นึงเป็นแสน แต่ บริษัท ที่เปิดแต่ละปี มีแค่หลักพัน ตำแหน่งงาน มันไม่สัมพันธ์ กับความต้องการ คนก็เลยมักจะทนทำงานไป เพราะถ้าออกตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหางานใหม่ได้ไหม บางคนก็กลัวจะถูกด่าว่าไม่มีความอดทน






เรื่องสวัสดิการเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะแนวคิดสังคมนิยมน่ะครับ
คนด่าว่าคอมมิวนิสม์สารพัดแต่มาร์กก็เป็นหนึ่งในพวกแรกๆที่ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวการรวมกลุ่มและสิทธิแรงงาน
จากการพัฒนาที่ผมว่ามันจะเริ่มมาจากการที่เจ้าของโรงงานเอาเปรียบชาวบ้านและการนองเลือดที่ตามมาจึงจะทำให้มีมาตรการอย่างเป็นรุปร่้างในภายหลังน่ะครับ

ท่านลองนึกภาพความแย่ของดารืกคอมปานีสมัยนี้
แล้วลบองจินตนาการโรงงานอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นในโลกแหนตาซี ที่ขุนนางยังมองว่าประชาชนเป็นแค่ไพร่ติดที่ดินสิครับ?มันจะเลวร้ายได้แค่ไหนหากเทียบกับปัจจุบัน?
ไม่เถียงเลยครับว่าปัจจุบัน บริษัทมมืดอาจจะยังดีกว่าในภาพรวม
ผมแค่บอกว่าในแฟนตาซี การพัฒนาจะมทำให้เกิดสถานการณ์ประมาณรัสเซียน่ะครับ
[quote/]
ไช่ครับต่างโลกมักอิงยุคกลางที่อำนาจรวมศูนย์พวกตัวเอกที่เอาไฮเทคฯหรือแนวคิดทุนนิยมผมก็ไม่เห็นเรื่องไหนมีปันหานะเพราะเหล่าตัวเอกมันopเหลือเกิน ไอ้ที่มีปัณหามาจากตัวเองล้วนๆเช่นไปอับเกรดโลลิจากคนจนหรือทาสไปเป็็นโลลิไฮเทคฯเป็นต้น
เรื่องนี่น่าสนใจ
ผมว่าอาจจะเป็นเคสที่ต่างไปก็ได้
โลกจริงคนคิดวส่า ราชามันก็คนเหมือนเรา ทำไมเราต้องเอาเงินไปให้พวกนั้นเสวยสุข? รัสเซียเล่ยล่ม
แฟนตาซีหากพิสูจนืได้ว่าเราเก่งกว่าราชาที่มีพรของพระเจ้า ชาวบ้านคงจะเอาชนะลำบาก
หากนึกภาพว่าขุนนางคือคนที่มีเวทยืประมาณหลุยศูนย์สนิท
แน่นอนสถานการณ์จะต่างไปหากคนต่างดลกอย่างไซโตะ จะเผลอติดอาวุธให้กับชาวบ้านด้วยปืนอาก้าหรือบาซูก้าหรือเครื่องบินรบอื่นๆ
นั่นคือประเด็นที่ผมคิดล่ะครับตราบใดที่ขุนนางยังคงคุมกำลัง monopoly of force ทุกอย่างก็โอเคถ้าไซโตะหรือใครไม่มอบอาวุธให้กับชาวบ้านมาฆ่าเมจขุนนางล่ะก็นะ

แบ่งเป็น สองส่วนละกัน
ส่วนแรก (เหมือนกับที่ท่านอื่นพูดนั่นละ) เป็นเจ้าของบริษัท กับเป็นลูกจ้างมันต่างกัน

ส่วนที่สอง อาการโฮมซิก(คิดถึงบ้านเกิด) ยกตัวอย่าง(ที่นึกออกทันทีเลย)ก็Honzuki no Gekokujouที่ต้องไปอยู่ในยุคที่ไม่มีส้วม ขับถ่ายลงกระโถน(แล้วโยนทิ้งทางหน้าต่าง?!)เป็นผมเจออย่างนั้นก็อยากสร้างส้วมขึ้นมาเลยละ(ถึงนางจะสนใจแต่สร้างหนังสือก็เหอะ)

ป.ล.จริงๆถ้าอ้างอิงเรื่องไหนเป็นหลัก ก็น่าจะบอกชื่อเรื่องมาเลยนะครับ ไม่ใช่พูดกว้างๆทำนองนี้ (คือผมไม่ได้อ่านหลายแนวนะครับ เดาไม่ถูกหรอกว่าท่านยกจากเรื่องไหนมาพูด)
เรื่องที่สเกลพลังต่ำๆอย่างลูกสาวดยุกหรือยนายแบงก์จะมีปัยหามากกว่าตามที่ผมคิดน่ะครับ
หลุยศูนย์สนิท หากเมจยังคงอำนาจอยู่หรือมีเทพเจ้ารองรับการปกครองอาจจะปัญหาน้อยกว่า
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก