ถ้าจะว่ากันจริงๆพวกต่างโลกส่วนใหณ่มันกากครับเกือบ100%เป็นพวกสิ้นหวังและเด็กกระโปกที่มีความรู้ครึ่งๆกลางๆ(ซึ่งก็สมกับคนเขียนที่ไม่ได้เก่งในด้านนั้นมากจะเขียนคนโคตรเก่งมามันจะมีจุดบอดเยอะแบบ7เทพม.ปลาย) ดังนั้นการจะเขียนไห้คิดถึงอนาคตเกินปีนี่คงเป็นไปไม่ได้และพวกโคตรเก่งอีก1%ที่เหลือ คือผู้ชนะบนโลกปัจจุบันมันไม่กลัวที่จะเปรี่ยนแปลงระบบยิ่งเป็นทุนนิยมยิ่งเข้าทางตัวเองอย่างทาเนียถ้าเปรี่ยนโลกเป็นทุนนิยมยิ่งเร็วยิ่งสบายยิ่งตัวเองเริ่มก่อนยิ่งเข้าทาง ดังนั้นพวกต่างโลกมันจะมีแค่สองพวกคือเด็กกระโปกที่ไม่มีความรู้มากนักกับยอดมนุษย์ที่พร้อมควมคุมโลกได้ด้วยตัวเอง เเละพลังโกงที่จะมีเท่านั้น พวกเด็กฯมันก็จะทำตามความเคยชินส่วนยอดมนุษย์ก็จะทำด้วยความตังใจแค่นั้นแหละครับ
ฮืมก็ใช่ล่ะครับ
หากเอาทาเนีบยมาในดลกช่วงไม่มีสงคราม ผมว่าเธอคงใช้ความรู้ด้านการบริหารและศาสตรืต่างๆของสำนักชิคาโก้คงกลายเป็นเจ้าของร้านค้าและพออยู่ได้อย่างสบายนั่นล่ะ
[quote/]
เเต่คนแต่งมันก็ถูกตรงที่ถ้าทำดีกับทาสที่ทังชิวีตไม่เคยได้อะไรดีๆเลยทาสจะยอมแทบทุกอย่าง
และแรงงานทาสที่หลายท่านกล่าวไม่ไช่ทาสจริงๆเเต่เป็นแรงงานในระบบนายทุนครับส่วนใหณ่พวกต่างโลกมักจะทำงานหนักจนตายหรือเด็กเกรียนที่เกลียดระบบนี้เมื่อไปต่างโลกยังจะไช้ระบบนี้อยู่เพราะคนเขียนจะเกลียดระบบนี้ยังไงก็ตาม แต่มันก็ไม่มีระบบไหนดีกว่านี้ถ้าต้องการหาเงินอย่างรวดเร็วและกระจายรายได้ไห้คนรู้จัก และพวกยอดคนที่ชนะในโลกอย่างทาเนียถ้าเกิดช้าสักสิบปีและโลกเริ่มอยู่ในระบบทุนนิยม บอกตามตรงผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงไห้คนแบบนี้จน
อยู่ในช่วงอดีตก็ยิ่งสบายครับ
แผนการหนึ่งที่ผมคิดไว้คือรวบรวมเงินทุนและไปหาทำเลขุดเจาะน้ำมันที่ผมพอจำได้จากโลกปัจจุบัน เป็นเศรษฐีน้ำมันสบายไป
หรือคิดค้นโคคา โคล่า จากผลโคคาและยาเสพติดชนิดต่างๆในยุคนั้นที่ยังไม่ต้องห้ามตามกฎหมายสารพัดที่จะทำได้
ผมเห็นด้วยครับว่าขอเพียงใจดีสักหน่อยย ทาสก็จะจงรักภักดีเพราะมักจะให้เหตุผลที่ว่าทิ้งทาสไม่ได้ก็เพราะว่าเป็นทาสหลบหนีไม่มีเจ้าของจะอันตรายกว่ามาก
อืม อืม... มุมมองแล้วก็ข้อมูลที่แต่ละคนเสนอมาก็น่าสนใจดีอยู่นะ แต่สิ่งที่เราพยายามจะสื่อในตอนแรกก็คือการซื้อขายทาสในนิยายน่ะไม่ใช่เรื่องสวยหรู
ต่อให้ดูแลดีขนาดไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องที่งดงามเหมือนอย่างที่พยายามจะนำเสนอหรอก ที่มันดูเป็นเรื่องที่ดูดีก็เพราะว่าคนแต่งอยากให้เป็นอย่างนั้นหรือไม่ก็ไม่เคนหยุดคิดว่า
กำลังทำอะไรอยู่ ผลสุดท้ายก็คือคำตอบของคำถามในตอนแรก ทำไมเรื่องแนวต่างโลกถึงได้มีแต่ปัญหาในระยะยาวกัน? (จุดที่คนแต่งไม่แสดงให้เห็นเพราะตัวเอกอยู่ไปไม่ถึง)
เสริมให้อีกอย่างหนึ่ง ทาสคือคนที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความไร้เหตุผลของโลก จะมากจะน้อยก็การข้ามตรงนั้นมาแล้ว สำหรับเด็กวัยรุ่นที่อวดดีหลงคิดไปว่าตัวเองรู้จักโลกดีพอ
แล้วการที่จะพบกับจุดจบที่สวยงามร่วมกันกับทาสนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย แค่ความเมตตากรุณาปลอมๆหลอกลวงแบบที่ทำให้เห็นกันเกลื่อนกลาดน่ะไม่เพียงพอหรอกนะ?
ถ้าหากให้ผมมอล่ะก็
ท่านคิดว่าผู้กล้าหอกทำผิดหรือเปล่าล่ะครับที่พยายามจะปลดปล่อยทาสจากู้กล้าโลบ่ในตอนแรก?
เราสามารถพูดได้อย่าง จอร์จ วอชิงตันว่าไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังต้องทำต่อไป เพระามองเรื่องความมั่นคงมากกว่าที่จะทำให้เือดต้องนองแผ่นดินอย่างสมัยลินคอล์นในเวลาต่อมา
บอกว่าให้ท่านกลายเป็นทาสสาวของนายท่านสกิลดกง ผู้หญิงปัจจุบันก็คงจะยอมยากนั่นล่ะ
แต่ผมรู้สึกว่าให้ผู้หญิงปัจจุบันไปในอดีต จะโหดกว่าผู้ชายในการฆ่าศัตรูอีกนั่นล่ะนะ ในเรื่องนี้ผู้หญิงอาจเก่งกว่าก็ได้
ว่าตอนที่มีอำนาจแล้วจะทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครมาห้าม
พอมามองในสถานะกลับกันว่ากลายเป็นทาวสเลยไม่พอใจ ซึ่งผมก็เห็นด้วย
จะตายอยู่กับคุณหลวงอย่างอีเย็น คงไม่ใช่สิ่งที่คนพอใจนัก
แต่น่าเสียดาย ผมค่อนข้างคิดว่าการทำตัวอย่างทาสสาวที่ผู้กล้าดล่จะมาปลดปล่อยแล้วบอกว่าเต็มใจเป็นทาสคงจะมีอยู่จริงในสถานการร์จริง
สมมติคนจะปลดปล่อยทาสในยุคอีเย็น คงได้เจออีเย็นออกมากางแขนปกป้องคุณหลวงว่าคุรหลวงเป็นคนดี เย็นยอมตายถวายชีวิตให้ด้วยความภักดีแน่ๆ
คนที่ยึดมั่นอุดมการณ์จะเปลี่ยนโลกในเรื่องทาสได้น่ะ ต้องเตรียมใจเจอคนอย่างอีเย็นเอาไว้ด้วยล่ะครับและต้องใจแข็งขนาดลินคลอร์นที่ประเทศจะแตกเป็นเสี่ยงๆเลือดนองเป็นท้องธารก็ต้องดำเนินต่อไป
แถมตลอดรายทางก็จะเะจอคนอย่างอีเย็นมาสาปแช่งเราอีกต่างหาก
ท่านคิดว่ามีกี่คนที่จะมีความกล้าถึงขั้นนั้นได้บ้างครับ?
ผมว่าเคสนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน
ในเมื่อเอาระบบทาสมาปนด้วย งั้นผมก็คงพูดได้ซินะ
ว่า จะให้กังวลเรื่องบริษัทแบล็คคัมปานีในโลกที่มีการซื้อขายทาสเนี่ยนะ?
มันเป็นเรื่องของการเข้ายุคอปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยที่แนวคิดทาสยังใมีอยู่น่ะครับ
ให้นึกภาพโรงงานที่เราซื้อทาสมาผลิิตสบู่ เครื่องสำอางค์ ช้อคโกแลตสิครับ?
ที่ดยุก ขุนนางคึนอื่น เห็นว่าลุกสาวดยุกทำสำเร็จเลยทำเลียนแบบบ้าง
ค่อยๆปรับแก้ไขดดยการใช้แรงงานทาส ลดค่าใช้จ่ายบางประการ
แนวคิดการใช้แรงงานมหศาลเพื่อทำธุรกืิจฟาร์มขนาดใหญ่ จนชาวบ้านไร้ที่ทำกิน มีมาตั้งแต่สมัยโรมันน่ะครับ
และนี่คือจจุดที่คอมมิวนิสม์เข้ามา
ที่สัญญาว่าทุกคนเท่ากัน มใีสวัสดิการสารพัดต่างๆและฆ่าพระเจ้าซาส์และอนาสตาเซียในกาลต่อมา
มันจะกลายเป้นปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงที่แนวคิดราชวงศ์และฐานันดรยังอยู่
ผมไม่ได้ตำหนิ
พอมาลองจำลองเป็นเควสตืแล้ว ผมเลืกปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยความรวดเร็วที่สุดเพราะต้องแข่งกับประเทศข้างเคียง
ใครทำช้าก็แพ้
ตัวเลขทรัพยากรการผลิตของคนที่พัฒนามากกว่านั้นเหนือกว่าประเทศที่ยังไม่พัฒนามาก
แต่ปัญหาคือการที่ให้คนทำงานดูแต่ตัวเลขผลผลิต ทำให้ฮีโร่ยุนิมของคอมมิวนิสม์จะเกิดขึ้นล่ะครับ
เควสตืที่ผมเจอ เจอคนคล้ายๆเชเกิดขึ้นมาน่ะครับ เสียวสันหลังว่าราชวงศ์เราจะโดนฆ่าก็เลยต้องประนีประนอมกับฝ่ายทหารและนักศึกษาให้บาลานซ์อำนาจกันได้ภายใต้รัฐะรรมนูญ เกือบตายไปเหมือนกัน
เพราะต่อให้มีแรงงานทาส ถ้าตัวเองเป็นเจ้าของซะอย่าง ส่วนแรงงานทาสให้คนอื่นเป็น มันก็ไม่ลำบาก
นึกถึงคำพุดของดกเล้งเลยรับ
เงินทองสามารถกำไรกลับคืน เฃชีวิตเป็นของบุคคลอื่น ใช้จ่ายไปนับว่าคุ้มค่ายิ่ง
นึกถึงโจทยืปัยหาการตัดเค้กนั่นล่ะ
ถ้าเราไม่บอกว่าใครจะได้เค้กชิ้นไหน
ทุกคนจะพยายามตัดแบ่งเค้กอย่างยุติธรรมที่สุด
คนที่หวังว่าใช้ชีวิตอยู่่ในราชวงศ์ หวังว่าตนเองจะเป็นขุนนาง เจ้าหญิงลุกสาวดยุก
แต่ผมกลัวความเป็นจริงตามดอกาสที่เราจะเป็นทาสมากกว่า
ผมเคยคุยกับแม่เล่นๆว่า เลือกเอาระหว่างเป็นทาสอย่างอีเย็นกับโจรอย่างพี่ชายอีเย็นจะเลือกอะไร?
ผมตอบตนเองว่าเลือกเป็นโจรยังมีโอกาาสใช้ชีวิตที่ดีมากกว่า
เมื่อคนไม่มีอะไร ทำไมต้องกลัวที่จะเสียอะไรไปด้วย?
ธุรกิจสีขาวในต่างโลกนี่ร้านเอจิโกะยะก็เรียกว่าสีขาวล่ะนะ
ครับไม่ถึงขั้นต้อนคนเข้าเป็นแรงงานในดรงงาน ร้านค้าก็ไม่ใช่ระดับที่จะบริหารอย่างดหดร้ายเกินไป
แต่นั่นมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ต้องใช้แรงงานมหาศาลนั่นล่ะ
ใช้เวทมนตร์ได้อาจจะมาแทนที่เทคโนโลยีก็ได้ ว่าการผลิตทำได้ง่ายขึ้น อาจจะมีคนยอมพร้อมใจปลดปล่อยทาสได้ง่ายมากขึ้นแบบเดียวกับฝ่ายเหนือของอเมริกาช่วงสงครามกลางเมือง
ที่ฝ่ายใต้ ทำไร่ผ้ายต้องใช้แรงงานทาสอย่างมหาศาลอยู่
โรงงานอย่างอื่นยังพอถูไถ ใช้แรงงานทักษะสูงกว่าแรงงานทาสเอา
นิยายขายดี คือนิยายที่ กลุ่มผู้อ่านสามารถเอาตัวเองเข้าไปแทนตัวเอกของเรื่องได้ ในขณะที่เขียนบทราวกับว่าตัวเอกนั้น เป็นสิ่งที่ผู้อ่านอยากจะเป็น
เช่น กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กหัวเกรียนติดการ์ตูนเมื่อ30ปีที่แล้ว(ปัจจุบันเป็นตาลุง40ทีมีภาระมากมาย) นิยายก็จะว่าด้วย ตาลุงไปต่างโลก
แล้วทำอะไรๆที่(คนอ่าน)เคยฝันอยากจะทำ(ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง)เช่น มีฮาเร็ม หรือเป็น(เหมือน)อัจฉริยะ
(แม้ความจริงพอคนอ่านทบทวนหลายๆรอบแล้ว จะพบว่ามันมีช่องโหว่มากมายก็ตาม)
ปล. เรื่องนึงที่คนจำนวนมากมักจะเข้าใจผิด คือ ความคิดที่ว่าสมัยปัจจุบันมีความลำบากในการดำรงชีวิต(ในสังคม)มากกว่าสมัยโบราณ
ในความเป็นจริงสมัยโบราณ คนที่ไม่มีพรรคพวก จะถูกปล้นฆ่าแทบจะชัวร์ๆเลย เนื่องจากความไม่เจริญของ ข่าวสาร ถนน และการรักษากฏหมาย
แค่จะกินข้าวยังต้อง ตำข้าว ผ่าฟื่น ก่อไฟ นั่งพัดเตา ในทุกๆวันต้องหาบน้ำ หาฟืน ยิงนก ดักปลา จับหนูนา จับปู
ในทุกคืนต้องคอยระวัง เสือ หมี ช้าง งู และร้ายที่สุดคือ โจร
ไม่มีไฟฟ้า เพราะงั้น จึง ไม่มีแอร์ พัดลม คอมพิวเตอร์ ทีวี รวมถึงแสงสว่างยามค่ำคืน
จะเห็นได้ว่าในความเป็นจริง ชีวิตในปัจจุบันนั้น สะดวกสะบายกว่าในอดีตมากมาย
ชนชั้นกลางในปัจจุบัน อยู่สบายกีหรูหรากว่ากษัตริย์เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วอีก
อย่าไรก็ตามคนเรามักใฝ่ฝันถึงสิ่งที่ตนเองไม่มี โดยเฉพาะสิ่งที่เห็นว่าคนอื่น(แค่บางคน)นั้นมีอยู่ และคนเรานั้นมักจะโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่น
ที่ทำให้เราไม่มีสิ่งที่เราใฝ่ฝันเหล่านั้น(คนอื่นที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่ตัวตนบุคคล แต่สามารถเป็นนามธรรมก็ได้ อย่างเช่น สังคม ชาติ รัฐบาล ฯลฯ)
ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรแนว สุขนิยมนะ
วิเคราะห์มาได้ว่าไปต่างดลกไม่มีพลังะพิเศษน่ะมีแต่ตายลุกเดียว
ที่ผมคิดคือ โรงงานสมัยหลังของลุกสาวดยุกหลังจากที่ให้กำเนิดธนาคารและดรงงานเครื่องสำอางค์แล้วน่ะ จะเป็นช่วงปฏอิวัติอุตสาหกรรมที่คนจะเข้าหาคอมมิวนิสม์และฮีโร่ยุนิทของคอมมิวนิสม์จะเกิดขึ้นมาน่ะครับ
ผมพยายามไม่แตะต้องศาสนาที่อยู่ในต่างโลก แต่ถ้าศาสนาสั่งน้ำท่วมเมืองได้อย่างอควอ หากพวกผู้สรัทะาก็ยึกยื้อขึ้นมาก็อาจจะต่อต้านฮีโร่ของคอมมิวนิสม์ได้ก็ได้