พอยกนิยายจีนมา หลายๆประเด็นผมก็ตามไม่ค่อยทันเท่าไหร่นะครับ ด้วยเพราะเคยอ่านแต่ประวัติศาสตร์แต่ไม่เคยอ่านนิยายเลย ซีรีส์กำลังภายในก็มักจะเป็นของที่ผมดูจนจบไม่ค่อยได้
แต่ทีนี้ ถ้าพูดถึงพระเอกฮาเร็ม ผมไม่แน่ใจว่าผมจะพูดได้ถูกต้องหรือไม่ เพียงแต่ว่า
- ผมไม่คิดว่าคุณลักษณะแบบพระเอกฮาเร็มที่คนมองว่าห่วยแตกในการตัดสินใจเป็นเรื่องเดียวกันกับคุณลักษณะความเป็นผู้นำและรู้จักใช้คน โดยจากกรณีอุ้ยเสี่ยวป้อ เท่าที่อ่านคอมเมนท์ทุกท่านมา ผมคิดว่าตัวละครนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของพวกที่ต้นทุนทางสังคมต่ำและไร้การศึกษา แต่ที่จริงมีความสามารถ แต่ผมคิดว่าทั้งเรื่องต้นทุนททางสังคมหรือเรื่องความสามารถแท้จริงที่ไม่ขึ้นกับการบ่มเพาะของสิ่งแวดล้อมก็ตาม มันจะเป็นตัวที่ชี้วัดถึงความสามารถในเชิง "ฮาเร็ม" หรืออะไรประมาณนั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าผู้หญิงในความเป็นจริงจะชอบตัวละครแบบนี้
ผมคิดว่าการหยิบยกเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อมาอธิบาย มันเป็นการไม่สู้จะตรงจุดนักครับ
- ความนิยมความชื่นชอบล้วนแต่เป็น Subjective คุณไม่สามารถอธิบายไปได้เฉยๆว่า "เพราะตัวละครมันเป็นแบบนี้ ผู้หญิงจึงชื่นชอบ" คุณสามารถบอกได้ว่าตัวละครแบบไหนที่เป็นไปตาม Norm ของสังคม คุณสามารถบอกได้ว่าตัวละครที่เป็นที่ชื่นชอบไม่จำเป็นต้องเป็นไปตาม Norm แต่คุณบอกไม่ได้ว่าตัวละครที่เป็นที่ชื่นชอบจะต้องผิดเพี้ยนไปจาก Norm พูดให้ง่ายขึ้นคือ ยังไงก็ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าตัวละครแบบไหนที่เป็นที่ชื่นชอบและเป็นผลให้พระเอกฮาเร็มมันมีลักษณะอย่างที่เป็นอยู่อย่างเป็นส่วนใหญ่ในแวดวง ยกเว้นแต่ว่า คุณจะยึดโพลที่สำรวจออกมาเป็นตัวชี้วัด "สุนทรีย" ของเรื่องนี้ ถ้าจะยึดตามนี้ผมขอว่าตาม ท่าน samuison แล้วกันครับ
ผมไม่สามารถออกความเห็นได้มากกว่านี้เพราะไม่เคยอ่านตำราจิตวิทยาครับ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเชื่อแนวไหนกันอยู่
อุ้ยเสี่ยวป้อ ถ้าตามประวัติ ก็มาจากหอนางโลมครับ อย่างน้อยคุณสมบัติ ปากหวาน ช่างฉอเลาะ ก็น่าจะเป็นคุณสมบัติที่ทำให้คนชอบได้ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนในแง่นี้ล่ะครับ
เรื่องผิดจากบรรทัดฐานทางสังคม มันถึงมีการคิดว่า การแต่งกายไม่เรียบร้อย กัดรองเท้า แต่งกระเป็านั้นมันดูเท่มากไงครับ บางครั้งการทำอะไรขัดกับบรรทัดฐานทางสังคมดูอันตรายและน่าค้นหากว่า
ที่เราเห็นกับแบบ ทางจิตวิทยา ก็คือทฤษฎีสะพานแขวนละครับ สร้างความรู้สึกอันตราย ขึ้นมาคนจะใจหวั่นไหวได้ง่ายกว่า
ตำราจิตวิทยาผมก้ไม่ได้ ศึกาามากครับ แต่แนวความคิดปัจจุบัน ออกไปแนวทางวัตถุนิยมมากขึ้น ที่วิเคราะห์ว่า สาเหตุอารมณ์ต่งๆเป็นไปเพราะสารเคมีในสมองมากกว่า แนวคิดจิตวิญยาณแบบสมัยก่อนเท่าทีผมอ่านผ่านๆ ตามเว็บที่เขาเถียงกันว่า ิมันด์ ฟรอยด์เป็นพวกทรงเจ้าเข้าผี ที่อาศัยความเชื่อซะส่วนมากและเป้นอุปสรรคต่อการพัฒนาในยุคหลัง แต่บางคนก็ชื่นชมว่า อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้เริ่มในศาสตร์นี้ ซึ่งก็แล้วแต่ผู้เชี่ยวชาญล่ะครับ ผมเอาแบบเรียบง่ายจากรายการยอดขายก็ล่ะครับ วิเคราะห์ลึกไปอาจมีสาเหตุที่ซับซ้อนกว่าที่คิด แต่ นิยายเป็นสื่อราคาถูก ผมไม่คิดว่าราคาหรือภาวะเศรษฐกิจจะเป็นตัวแปรที่สำคัญสักเท่าไร
กลัยมาที่พระเอก ฮาเร็ม ถ้าตามการวิเคราะห์ของผม สาเหตุที่พระเอกนิสัยกลางๆ เพราะอยากทำให้คนรู้สึกผูกพันกับตัวเอกมากกว่า เราจะรู้สึกผูกพันกับคนได้ดีมากกว่าในข้อด้อยมากกว่าผูกพันในข้อดี ตัวละครอย่างโนบิตะหรืออุ้ยเสี่ยวป้อ จึงเป็นที่ทำให้คนรักได้มากกว่า รู้สึกสำนวนกิมบิ่งบอกว่า ลูกเราตัวดำก็ยังรุ้สึกว่าดูดีอยู่บ้าง คือมีความลำเอียงในการมองตัวละครพวกนี้น่ะครับ ต่อให้มีข้อเสียก็มองว่าเป็นข้อดี
แต่พระเอกฮาเร็มปัจจุบันสร้างมาคล้ายกันแต่อาจจะลืใเรื่องคุณสมบัติที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกรักไป อย่างแนวต่างดลกที่สร้างพระเอกให้เป็นดอตาคุโดนเกลียดชังจากสังคม
ลักษณะตัวละครที่ทำให้โนบิตะดูกลายเป็นหนุ่มนักกีฬา สาวติดตรึม เพื่อนฝูงเพียบไปเลย นิสัยนั้นมีจุดด้อยแต่ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกรักและรู้สึกว่า นิสัยนั้นเรียบดูจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ไป
อีกเรื่องที่ไม่ทำอะไร ผมว่า อาจจะเป็นเหตุผลด้านการตลาดที่จะออกแนว 18+ ไปถ้าทำให้มีฉากอย่างนั้นและไม่สามารถขายในตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไปได้
การโลเลไม่เลือกคือการดำเนินเรื่องเพื่อยืดเรื่องของคนเขียน ซึ่งก็เป้นวิธีที่ได้ผลดีในสงครามกองอวย แต่พอใช้ซ้ำกันบ่อยคนอ่านก้อาจจะเบื่อและจับทางได้ครับ
อุ้ยเสี่ยวป้อนี่เป็นตัวละครที่น่าสนใจนะครับ จนมีกระทั่งการกล่าวว่า คนอื่นแต่ง จนกิมย้งต้องมาบอกว่าเป็นตนเองแต่งเอง และเหมือนกับการล้อนิยายเรื่องก่อนของกิมย้งเองกลายๆด้วย เช่น ฉากความภักดีมิอาจตอบแทนทั้งฮ่องเต้เจ้าชีวิตและสหาย ในขณะที่ลุกน้อง/สหายมองว่าตนคงจะฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้ขัดกับทั้งสองอย่าง อุ้ยเสี่ยวป้อคิดในใจว่า หากให้เรายอมตายก็เท่ากับพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว
เหมือนกับฉากล้อเลียน เฉียวฟงตอนฆ่าตัวตายล่ะครับ ถ้ามองในแง่หนึ่งคือการที่ผ่านประสบการณ์มามาก ทำให้เขียนตัวละครได้ยืดหยุ่นมากขึ้น
เรื่อง nature nurture สภาพตามธรรมชาติกับการอบรมเลี้ยงดูก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คนเถียงกันมานานล่ะครับ ในเคส ของอุ้ยเสี่ยวป้อนั้นผมมองง่า คนมีส่วนทั้งสองอย่าง เติบดตในหมู่คณิกา คงสร้างให้อุ้ยเสี่ยวป้อ เรียรู้การยักยอกเงินค่าซื้อของ และการป้อยอ และการเอาอกเอาใจแขกเหรื่อจากการมองเห็นชีวิตประจำวันในหอนางโลม แต่นิสัยดั้งเดิมก็คงมีส่วนบ้างจากการที่ยึดมั่นและไม่ทอดทิ้งคนที่อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นว่าเป็นสหาย
ที่ว่าคุรสมบัติ ฮาเร็มนั้น เป็นเรื่องที่ผมมองว่า อุ้ยเสี่ยวป้อจากเนื้อเรื่องนั้น เอาใจผู้หญิงค่อนข้างเก่งและดูจะบริหาร ฮาเร็มของตนเองได้ดีน่ะครับ
ส่วนกับการเลือกใช้คนนั้นเป็นอีกไสตล์หนึ่ง แต่ก็สามารถพูดรวมๆได้ว่า "ความสามารถในการบริหารบุคคล"