เอาง่าย ๆ ก็คือ สำนวนการแปล กับการแปลมันเป็นคนละเรื่องกัน เหมือนกับในวงการนิยายกำลังภายในว่าไว้ว่า ถ้าอยากจะอ่านกิมย้งให้ได้อารมณ์ ก็ต้องสำนวนแปลของ น.นพรัตน์ ถ้าหากจะอ่านโกวเล้งให้ได้อารมณ์ก็ต้องสำนวนแปลของ ว. ณ เมืองลุง นักแปลในตำนานทั้งสองท่าน ไม่มีใครที่แปลดีกว่าใครหรอก เพียงแต่การใช้สำนวนในการแปลต่างกัน
อย่าง
--------------------
193
土曜の夜から降り始めた雪は、日曜には本降りとなり、月曜の朝には止んでいたものの、車窓から外を見ると雪かきをしていない道路はところどころ凍結していた。あ、サラリーマンがツルッと滑った。危ないなぁ。
これだけ降ったから、今年も円城と鏑木は雪野君のために大きな雪だるまを作るのかなぁ。
道路状況を考えて早めに登校すると、すでに委員長が来ていた。
「おはよう、吉祥院さん」
「ごきげんよう、委員長。早いんですのね」
「うん。雪が降ったからね。テストも近いし学校で試験勉強しようと思って」
「まぁ、朝から偉いですわね。私も見習って今から勉強しようかしら」
หิมะเริ่มตกตั้งแต่เย็นวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ฝนก็ตก เช้าวันจันทร็์ถึงได้หยุด แต่พอมองไปนอกหน้าต่างรถ ก็เห็นถนนที่ยังไม่ได้ใช้พลั่วตักเอาหิมะออกไปมีหิมะอยู่ตรงนี้เต็มไปหมด อ้ะ เกิดพนักงานเงินเดือนลื่นปื๊ด จะไม่อันตรายเหรอน่ะ
เพราะตกมาถึงขนาดนี้ วันนี้ เอ็นโจกับคาบุรากิเองก็จะทำตุ๊กตาหิมะตัวใหญ่ให้กับยูกิโนะคุงหรือเปล่านะ
พอคิดถึงสภาพของถนนแล้วเข้าไปถึงโรงเรียนเร็ว ก็เห็นประธานกรรมการมาถึงก่อนแล้ว
「อรุณสวัสดิ์ คุณคิโชวอิน」
「อรุณสวัสดิ์ค่ะ ประธานกรรมการ มาเร็วจังนะคะ」
「อื้ม เพราะหิมะตกนั่นละนะ ใกล้จะสอบแล้วด้วย เลยคิดว่าจะมาเตรียมตัวที่โรงเรียนน่ะ」
「อ่า มาตั้งแต่เช้านี่สุดยอดไปเลยนะคะ ดิฉันเองคงต้องเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เตรียมตัวเสียแต่เนิ่น ๆ แล้วค่ะ」
----------------------
สำนวนผมก็แข็งเกินไปอีก เหมือนไม่ใช่สำนวนผู้หญิง (ก็แน่ละ) แถมยังแอบมีกลิ่นอายความเครียดแผ่กระจายออกมาอีก ออกแนวสำนวนแบบผู้ใหญ่ ซึ่งเรื่องแนวเด็กผู้หญิงอย่างเนี้ย มันไม่เข้ากันเลยสักนิด ตรงนี้ผมว่าคุณริวโฮทำได้ดีมากนะ ที่ดึงความหมายแฝงในสำนวนเรย์กะออกมาได้