ถ้าท่านเป็นฉินซีฮ่องเต้ท่านจะสร้างกำแพงเมืองจีนหรือเปล่าครับ?

[pol]

จุดด้อยที่สุดของมองโกมีอยู่ 2 อย่างครับนั่นคือวัฒนธรรมอ่อนแอมาก เพราะลองสังเกตดูดีๆว่ามองโกลไปยึดที่ไหนมองโกลเป็นคนถูกกลืนทางวัฒนธรรมนะไม่ได้ไปกลืนชาวบ้าน  มายึดอินเดียก็ถูกวัฒนธรรมอินเดียกลืน มายึดจีนก็ถูกวัฒนธรรมจีนกลืน ไปยึดอิสลามก็เข้ารีตกลายเป็นอิสลาม  2 มีปัญหาทางอุตสาหกรรมมาก เพราะการบุกของมองโกที่บุกไปยุโรปใช้ได้ในครั้งแรกที่ครั้งยุโรปไม่มีเกราะหนัก  แต่พอถูกถีบออกมาจากจีน อุตสาหกรรมการผลิตอาวุธของมองโกลก็หายไป  คราวนี้พอไปบุกยุโรปอีกหนยุโรปมีเกราะหนักแล้วก็ถูกตีกลับมาซะเละเทะเลยครับ

[Nekosama]

จุดด้อยที่สุดของมองโกมีอยู่ 2 อย่างครับนั่นคือวัฒนธรรมอ่อนแอมาก เพราะลองสังเกตดูดีๆว่ามองโกลไปยึดที่ไหนมองโกลเป็นคนถูกกลืนทางวัฒนธรรมนะไม่ได้ไปกลืนชาวบ้าน  มายึดอินเดียก็ถูกวัฒนธรรมอินเดียกลืน มายึดจีนก็ถูกวัฒนธรรมจีนกลืน ไปยึดอิสลามก็เข้ารีตกลายเป็นอิสลาม  2 มีปัญหาทางอุตสาหกรรมมาก เพราะการบุกของมองโกที่บุกไปยุโรปใช้ได้ในครั้งแรกที่ครั้งยุโรปไม่มีเกราะหนัก  แต่พอถูกถีบออกมาจากจีน อุตสาหกรรมการผลิตอาวุธของมองโกลก็หายไป  คราวนี้พอไปบุกยุโรปอีกหนยุโรปมีเกราะหนักแล้วก็ถูกตีกลับมาซะเละเทะเลยครับ

อ่ะนึงที่มองโกลโดนกลืนวัฒนธรรมก็เพราะว่าวัฒนธรรมดังเดิมมองโกลเป็นแบบเร่ร่อน พอไปตีพวกวัฒนธรรมแบบปักหลักก็ไม่แปลกที่จะโดนกลืนก็เพราะของเขามันดีกว่าอ่ะ นั้นก็ดีนี้ก็ดี 
ส่วนอุตสาหกรรมนี้ถือว่าปกติหลังถูกดีดออกจากจีนไปอยู่ทุ่งหญ้าโล่งๆเหมือนจะเอาไม้เอาเหล็กมาทำเป็นอุตสาหกรรมตอนอยู่ในจีนได้ยังไงล่ะครับ

[blakaros]

[quote/]


ถ้าหมายถึงแบกแดกดด์ อันนั้น  แม่งโลภ
ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลถูกไหม




มองโกลเก่งทางด้านเดินทาง ก่อนจะไปบุกทางไหนขบวนคราวานการค้ามักไปก่อน
บันทึกเท่าที่มีเหมือนมีเล่าว่า  ขบวนคาราวาน  ที่พากันไปจนถึงแบกแดกด์


มีม้า อูฐ เกิน 400ตัว สินค้าอีกสารพัด  เป็น กองคาราวานใหญ่มากในยุคนั้น เจ้าเมือง เห็น แม่งโลภ เลยยึด ฆ่าคคนในขบวนหมด  มองโกลจำไม่ผิด ส่งทูตมาเจรจาขอสินค้า และ พาหนะคืน แล้วจะถือว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่งไม่ยอมแถมฆ่าทุตอีก เพราะคิดว่า ไกลจัด แบบนี้ แม่งฝ่าทะเลทรายมาไม่ได้ง่ายๆ


มองโกลเสือกมาได้นี่สิ อย่างที่เคยเล่า ฆ่ายกเมือง เผาทุกอย่าง อะไรขยับได้ฆ่าหมด แพะยังไม่เว้น


seige of bagdadh โดนเผาก็ตอนนี้เเหละมั้ง


อีกอันผมจำได้ไม่แม่นนัก  ช่วงมองโกลยึดจีนได้ช่วงแรก มีคนเล่าว่า มองโกลไม่ส่งเสริมปัญญาชน ไม่เอาพวกบัฌฑิต คนมีความรู้มาใช้   สุดท้ายก็ชิบหายไป

และนั่นคือจุดเริ่มที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมไม่ฆ่าทูตในเวลาต่อมา   เพราะกลัวจะเจอแบบเดียวกัน

[samuison]

ผมมองว่าชาวเผ่าที่ต้องเอาตัวรอด จะปรับตัว ปฏิบัตินิยมมากกว่า




ได้เจอข่าววว่ากำแพงเมืองจีนที่แท้จริงช่องทางลับอยู่ ไม่ใช่แค่กำแพงเฉยๆ


จากประวัติศาสตร์พวกชนเผ่าน่ากลัวจริง




แม่ทัพหลี่มู่ของแคว้นจ้าวใช้เวลาหลายปีถึงขับไล่พวกชนเผ่าออกไปได้

[weapon]

กําแพงเมืองจีน เริ่มสร้างครั้งแรกในยุคชุนชิว – จ้านกว๋อ (770 ปี ก่อนคริสต์ศักราช – 221 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) หรือเมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีก่อน เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่วุ่นวาย เกิดศึกสงครามชิงความเป็นใหญ่อยู่เสมอ ผู้นําแคว้นต่างๆ ได้แก่ แคว้นฉู่, แคว้นฉี, แคว้นเยียน, แคว้นเว่ย, แคว้นจ้าว, แคว้นฉิน ฯลฯ จึงช่วยกันสร้างกําแพงเมืองจีน เพื่อป้องกันการรุกรานของชนเผ่าทางเหนือ และการคุกคามจากชนเผ่าเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน เช่น ซวงหนู, ซ่างหู ฯลฯ

กําแพงเมืองของแคว้นฉี ซึ่งมีความยาวทั้งสิ้นกว่า 5 กิโลเมตร ถือเป็นกําแพงเมืองจีนที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศ จากนั้นก็มีการสร้างและซ่อมกำแพงเมืองจีนในราชวงศ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น

สมัยราชวงศ์ฉิน (221 ปี ก่อนคริสต์ศักราช – 206 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) จิ๋นซีฮ่องเต้ มีรับสั่งให้เกณฑ์แรงงานจำนวนมากในการสร้างกำแพงเมืองจีน โดยเป็นการสร้างเชื่อมต่อกับกําแพงเมืองของแคว้นจ้าวและเยียน รวมเข้ากับแคว้นฉิน ความยาวนับหมื่นลี้จากทิศตะวันตกไปจรดทางตะวันออกของมณฑลเหลียวหนิง ทําให้กําแพงที่สร้างนี้มีชื่อเรียกว่า กําแพงหมื่นลี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_55156