[quote/]
เอาจริงๆผมว่าเป็นนโยบายมากกว่านะ
คือบางทีมันมีกฏหมายบังคับ ให้ต้องเท่าเทียมทางเพศ
บ. ต่างๆเลยดำเนินนโยบายตามกฏหมาย
มันเลยเป็นช่องให้คนบางกลุ่มแทรกเข้ามา
แบบกฏหมายอาจจะเขียนให้ต้องมี/ไม่มี บางอย่างใน บ. หรือคอนเทนท์
บ.เลยจ้างผู้เขี่ยวชาญมาคุม
ปรากฏว่าผู้เชี่ยวชาญมัน woke
อย่าง star woke เอาจริงๆคนคุม มันก็ระดับสูงคุมงานอยู่ละ แค่ได้เลื่อนขั้น เลย woke แบบจัดเต็ม
ผู้บริหารข้างบน ก็อาจจะมองแค่ คนที่คุมงานมันโปรอยู่ละ ใส่อะไรเพิ่มหน่อย ก็ขายได้ จะได้แปลกใหม่ด้วย
หารู้ไม่ว่า woke ไม่แคร์ยอดขาย
ปัจจุบัน ไม่มีกฏหมายระบุว่าต้องทำครับ
บอร์ดบริหาร Disney มันโวค จนเจ๊งยับ จน ผู้ถือหุ้นจะโหวด เอาออกหมดแผง แต่ยังไม่เลิก
รอบหน้าไม่เอาออก แสดงว่า ถ้าไม่โง่ ก็จงใจ ล่ะนะ
ก่อนหน้านี้จำไม่ได้ว่า ค่ายเกมที่ไหน ปรับโครงสร้าง เอาโวคออกยกแผง
ซึ่งก็เหลือแค่กองเซ็นเซอร์ โซนี่ เท่านั้น
ตอนนี้โซนี่ก็ยับเยินไปล่ะ อีกหน่อย สตรีม กับ ปู่นินคงเป็นผู้นำ ทางด้านเกม(สตรีมจริงๆเป็นแค่ร้านขายเกม ด้วยซ๊ำ ไม่ใช่ค่ายเกม แต่สตีมก็มีเกมในมือที่ต้องดูแลอยู่ บ้างนะ มี Dota กะอะไรบ้างนะผมจำไม่ได้ และมีแผนก ดูแลเรื่อง Hardware ของ สตีมเดค อีก รวมๆ ทั้งบริษัท มีพนักงานราวๆ 300 กว่าคนเอง
แต่จำข่าวไม่ผิด ที่เพิ่งออก เพราะมีการฟ้องสตีม ว่าผูกขาดตลาด และควบคุมตลาด
เท่าที่มีการเปิดเผย สตียม โครงสร้าง บริษัท มีขนาดแค่ 10% ของ อีปิค เกมเองมั้งนะ
แถม เอาจริงๆ นอกจากเรื่อง ส่วนแบ่งการขายแล้ว สตีม แทบจะมีกฏบังคับเกมในร้านน้อยสัดๆ
จนเกมโป้ยังเอามาลงขายกันได้ แค่เลี่ยง กม. นิดหน่อย
สตีม้อง ก็มีส่วนที่ดูแลเรื่องการพัฒนาเกม (เกมในมือที่สตรีมต้อทำก็มีแหละ
แต่ถ้าใครจำ ดราม่า สตีมได้
จริงๆ แล้ว Woke เคยพยาบามแพร่เชื้อใส่สตีม โดยคนตรวจสอบเกมของสตรีม ได้ทำการแบนเกมฝั่งญี่ปุ่นโดยหาว่าเป็นเกมเนื้อหา 18+ แต่เกมฆ่ากันเลือดสาดไส้แตก กลับได้เรททั่วไป จนลอร์ด gabe ลงมาทุบโต๊ะล้างกระดาน เอากฏปัญญาอ่อน ออกไปหมด เลยไม่มีปัญหา และ Woke ก็ยังครอบงำ สตีมไม่ได้
ที่สำคัญคือ แม้แต่ ท่าน ลอร์ด gabe ยังมีหุ้นในสตีม แค่ 28%โดยประมาณนอกนั้นกระจายไปอยูกับผู้ร่วมก่อตั้งและพนักงงานในบริษัท เรียกได้ว่า การจะเข้าซื้อสตีม คงเหนื่อยกับการเจรจาเยอะมาก