หากพูดถึงของเล่นของ Bandai ที่เป็นที่นิยมในช่วงยุคปี 90 หลาย ๆ คนคงนึกถึงดิจิม่อนและทามาก็อตจิ ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋วที่ผู้เล่นสามารถมีสัตว์เลี้ยงดิจิทัลได้กันอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าแม้ทามาก็อตจิจะเป็นที่นิยมอย่างถล่มทลายในเวลานั้น กลับสร้างความภาระอันหนักอึ้งให้กับ Bandai จนขาดทุนมากถึง 6.6 พันล้านเยน! (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) และทำให้ Bandai เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้
https://twitter.com/okachimachijkt/status/1791090519046844772?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1791090519046844772%7Ctwgr%5E0ab0c29caf91a362d908a3e1e29c41196413c5aa%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.online-station.net%2Fentertainment%2F811659%2Fโดยมีโพสต์หนึ่งบน X ของผู้ใช้ชื่อ @okachimachijkt ได้รับความสนใจในหมู่ชาวญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังหยิบยกข้อมูลเก่ามาอธิบายว่าทำไมแม้ฟิกเกอร์กันพลาของ Bandai นั้นจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่ตลอด แต่ทางบริษัทกลับไม่ผลิตเพิ่มเป็นจำนวนมากเลย เหตุผลอาจเป็นเพราะว่าเคยเข็ดกับกรณีเครื่องทามาก็อตจิมาก่อนนี่เอง
ทามาก็อตจินั้นเดิมทีวางขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 1996 ก่อนจะเริ่มวางขายในต่างประเทศและกลายเป็นที่นิยมอย่างสูง แต่ Bandai ดูเหมือนจะประเมินกระแสสูงเกินไปหน่อย จึงออกทามาก็อตจิซีรีส์ใหม่ ๆ ที่มีสัตว์ประเภทใหม่ ๆ ตั้งแต่สุนัข แมว ไปจนถึงสัตว์ป่า หรือกระทั่งมารและเทวดาตัวน้อย
จนกระทั่งปี 1998 คาดว่า Bandai นั้นขายทามาก็อตจิไปได้ประมาณ 20 ล้านเครื่องในญี่ปุ่นและอีก 20 ล้านเครื่องในต่างประเทศ แต่กระแสบูมนั้นดูเหมือนจะเริ่มซาลงแล้ว ทำให้มีร้านค้าต่าง ๆ ตีทามาก็อตจิที่ขายไม่ออกคืนให้กับ Bandai หลายกล่อง ขณะที่ในบริษัทก็สื่อสารกันไม่ดี ทำให้ยังมีการดีไซน์และผลิตทามาก็อตจิซีรีส์ใหม่ ๆ ออกมาอีกเรื่อย ๆ
อีกเหตุผลหนึ่งคือ Bandai ประเมินความต้องการทามาก็อตจิสูงเกินจริง เพราะมีลูกค้าหลายคนที่สั่งจองหลาย ๆ ร้านเพราะอยากได้ของไว ๆ ทำให้ผลิตมากเกินความต้องการ จนในที่สุดก็ขาดทุนถึง 6 พันล้านเยนเพราะมีทามาก็อตจิขายไม่ออกถึง 2.5 ล้านเครื่อง ต้องนำไปกำจัดทิ้ง จนมีข่าวโคมลอยอยู่ในช่วงหนึ่งบอกว่าทามาก็อตจิเหล่านั้นถูกนำไปฝังบนเกาะโอไดบะที่มนุษย์ถมขึ้นมาในอ่าวโตเกียว
ขณะเดียวกันบริษัทอื่น ๆ ก็เริ่มทำสินค้าเลียนแบบทามาก็อตจิซึ่งมักมีราคาถูกกว่าออกมาด้วย แถมยังมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวในเครื่องเดียวหรือมีดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ถูกใจคนเล่นกว่า ทามาก็อตจิปลอมเหล่านี้จึงแย่งยอดขายของ Bandai ไปอีก
ความล้มเหลวที่แฝงอยู่ในความสำเร็จของทามาก็อตจินี้เองที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นจึงมองว่าอาจเป็นบทเรียนสุดขมขื่นของ Bandai จนทำให้เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้ เลือกผลิตสินค้าอย่างระมัดระวังและไม่ผลิตมากเกินไป แม้จะเป็นกันพลาที่ขายดีมาก ๆ ก็ตาม
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
https://www.online-station.net/entertainment/811659/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1aCbW_1mWZwVnuVpf1dX-e3ttMCSrRKWnEJjOuhnA46Im4L8SNGvPiTOA_aem_ASR2E9Q6AStxy7vUh7eOheffQTc5v0vgx5-O8SFlarxdfThObtYIH78QBRJyzsHY1qMaXaBtfnHH2IbEVUwc-Ri2