[quote/]
ความเห็นทุนนิยมมากไปก็ไม่ดีครับ; ย่อหน้าแรก คุณนับประชากรตกงานหรือไม่มีรายได้เพียงพอขนาดคิดภาษีได้หรือยัง? ถามรัฐฯสักคำไปบ้างสิ ว่าต้องเสียเงินไปเท่าไรต่อเท่าไร หาภาษีเป็นทุนดูแลนักโทษเป็นปี ดูแลคนไร้บ้าน คนจรจัด ไม่มีงานทำว
ถ้าคุณติดตามประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี; ตามบันทึก และญาติอายุยืนจะไม่พูดแบบนั้นเด็ดขาด เพราะกสิกรและแรงงานอุตสาหกรรมมีกำลังมากขึ้น จากความก้าวหน้าทางวิทย์ + การศึกษา + พัฒนาการของ Techs ทั้งหลาย สร้างงายอื่นๆที่เกี่ยวกับค้าขายมากเกินไป จนทำให้ค่าครองชีพแพง ไม่มีคนทำงานดังกล่าวนี่ไง ถึงต้องนำเข้าของต่างชาติอยู่นั่น
การมีแรงงานฟรี + ไม่มีสิทธิพื้นฐานทางกฎหมาย + คนเกิดมาก กลายเป็นภาระของคนเสียภาษี แล้วดึงไปทำอย่างอื่นประโยชน์น้อยนิด ถ้าคุณไม่เข้าใจก็หัดตื่นเช้าไปดูข่าวบ้าง คนหนุ่มสาวตายยังกับมีสงครามหรืออะไรดีเดือนละมากมาย คนเกิดน้อยลง ยังไม่มีใครเป็นห่วงรายได้โดยรวมประเทศเลย
คนเห็นแก่ตัวมากที่สุดทั้งหลายที่หนีไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์ต่อว่าประเทศที่ตัวเองละทิ้ง และไม่มีควรมีสิทธิ์ปราณีใดๆเมื่อกลายเป็นคนสิ้นสัญชาติและไร้ความสามารถด้วย ทุกประเทศก็แค่หนีความจริงไปเรื่อย ไม่มีใครอยากโหวตว่าประเทศไหนจะหายไปก่อนแน่
เรื่องประวัติศาสตร์ผมถนัดครับ การที่มีคนตายมากๆ รัฐมันเสียรายได้มากจริงๆ ผมไม่ได้พูดเล่น
อย่างโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนไปมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมัน เมื่อประชากรลดลงมากๆ GDP มันลดลงฮวบๆ
เอาอย่างโควิด ก็สร้างความเสียหายไปเท่าไหร่ คนตายผลิตรายได้ไม่ได้ครับ
อย่างโควิดประชากรไทย 71.6 ล้านคน แต่เสียชีวิตสามหมื่นยังหนักเลยครับ
ยิ่งสมัยยุคกลางอย่างอยุธยา ประชากรมันไม่ใช่หลักสิบล้านเหมือนยุคปัจจุบัน แต่มันอยู่แค่ราวหลักแสนเท่านั้น
ดังนั้นถ้าประหาร 7 ชั่วโครต ผลกระทบมันแรงมาก เพราะเสียคนหลักร้อย ต่อประชากรหลักแสน มันถือเป็นเรื่องใหญ่ในทางเศรษฐกิจ
มันจึงแทบไม่มีใครเขาทำ ส่วนใหญ่การประหาร 7 ชั่วโครต จะต้องใช้ในคดีอุกฉกรรจ์ เช่น คดีกบฎจริงๆเท่านั้น
ส่วน 7 ชั่วโครต มันนับอย่างนั้นแหละครับ ขึ้น 3 รุ่น ลง 3 รุ่น และรวมรุ่นคนที่โดนประหาร รวมเป็น 7 รุ่น
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เหลือต้นตอมาแก้แค้นผู้มีอำนาจ พูดง่ายๆ มันคือการประหารหมดตระกูลในคราวเดียว
ซึ่งต้องเป็นคดีกบฎเท่านั้น