พวกนี้มั่วซะมากครับแต่คนไม่รู้ก็ชอบฟังกันเอา ผมชอบใช้เรื่อง
ผงชูรสเป็นบรรทัดฐาน
เจ้าไหนบอกผงชูรสไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้แล้วผมแปะป้ายมั่วไว้เลย
เพราะผงชูรสกับเกลือแกงนั้นอันตรายพอๆ กันแล้วปริมาณที่ไม่ควรบริโภคเกินต่อวันนั้นก็พอๆ กันเช่นกัน(จาก FDA ของมะกันถ้าผมจำไม่ผิด)
เนื้อจากผักที่อันตรายมากๆ เลยนะครับเพราะเราไม่รู้ว่าใส่สารอะไรมาบ้างให้มันรสชาดคล้ายเนื้อ ตัวอย่างเนื้อจากถั่วเหลืองในมะกันโคตรอันตรายเลย
โปรตีนเนื้อส่วนใหญ่เวลาทำอาหารเองผมจะแยกเป็น 3 เกรดคือ
- โปรตีนเบา เช่น ไข่ พวกนี้กินไปแล้วไม่ได้อยู่ท้องนาน
- โปรตีนกลาง สัตว์น้ำและสัตว์บกเล็ก เช่น ปลา ไก่ อยู่นานกว่าไข่แต่ไม่เท่าเกรดถัดไป
- โปรตีนหนัก เนื้อสัตว์บกใหญ่ทั้งหลาย เช่น หมู วัว
โปรตีนจากพืชนั้น เอาไว้ยามโปรตีนปรกติแพงแค่นั้นแหละครับ
พวกนี้จะกินให้ได้ทดแทนกับโปรตีนสัตว์แล้วนั้นจะต้องกินในปริมาณที่เยอะขนาดที่ว่าต้องกินจนแคลอรี่เยอะกว่ากินเนื้อสัตว์ถึงจะได้
ผักต้องดูเป็นรายๆ ไป ผักเขียวไร้รสอย่างเช่น ผักบุ้ง อันนี้เกินเยอะได้เพราะแคลอรี่ต่ำ แต่อย่างกระหล่ำ แครอทนี่เยอะก็ไม่รอดเหมือนกัน
ผลไม้ไม่ว่าสุขหรือดิบถ้ามันมีรสชาดไม่ว่าจะหวานหรือเปรี้ยวก็แคลอรี่กระจาย
ที่สำคัญ ทุกอย่างไม่ว่าจะบอกว่าดียังไง ถ้าทำมาจาก
ถั่วเหลืองหรือข้าวโพด แล้วมีงานวิจัยจากฝรั่งนั้นง้างได้เลยครับ
ยิ่งถ้าการผลิตสินค้านั้นๆ เริ่มต้นจากมะกันมาก่อนแล้วล่ะก็อวยขายของตัวเองครับ
เพราะถั่วเหลืองและข้าวโพดนั้นเป็นพืชอุดหนุนของมะกัน ผลประโยชน์ทับซ้อนกันอย่างชัดเจน