อาอการ ธาตุไฟเข้าแทรก หรือแตก มันควรเป็นแบบไหน

[sariora123]

 
      ออกทะเล เพื่อรักษาความไร๊สาระสักหน่อยก็ดี

     พอดีช่วงนี้เห็นข่าวบางเรื่อง ไปเจอคอมเม้น น่าสนใจอยู่บางอย่างที่ว่า

จิต กับ สติ 
 มีอธิบายว่าจิตอยู่ภายในโดยมีสติหรือความรู้ตัว ความคิดมีเหตุผล คอยควบคุม
แต่เมื่อใด สติหลุด คุมจิตไม่ได้ขึ้นจะเกิด อาการแสดงออก
 หรือท่าทางแปลกๆ  ภาษาบ้านๆ คงเรียกว่าบ้านี่แหละ

เอาแบบ หนังจีน คือธาตุไฟเข้าแทรก หรือ ธาตุไฟแตก ที่เราเห็นบ่อยๆ


ผมเลยสงสัยว่าไอ้อาการนี้ธาตุไฟแตกนี่มันควรเป็นอย่างไรกัน
อาการเหล่านี้ มีแต่เพียงในฝั่งเอเชีย หรือไม่ หรือมีในฝั่งยุโรปตะวันเช่นกัน

อธิบายเพิ่มเติม
    หากเป็นทางแถบพื้นที่บ้านเรา มีคนเล่า
เรื่องการทำสมาธิระดับสูง หรือ ทำวิปัสนากรรมฐาน
(คือจริงผมเลือกใช้คำถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ
คือ  มีคนอธิบายให้ฟังไว้ว่าการทำสมาธิเข้าไปถึงในระดับสูง
จะมีจิต กิเลศละเอียดที่ภายในเข้ามาแทรก อาจเกิดภาพหรือเสียง
เข้ามารบกวน แบบในหนังคงเป็น มารผจญ หรือปิศาจเข้ามากระซิบ

ถ้าไม่สามารถผ่านตรงนี้ไปได้ หรือคุมสติ หรือ จิตไม่ได้
จะทำให้จิตเตลิด หรือสติแตก ควบคุมตัวเองไม่ได้
หรือธาตุไฟแตก  แบบหนังจีน  เห็นว่าสามารถกลับมาเป็นปกติได้
หากควบคุมสติ หรือเรียกจิตกลับมาได้

ใกล้ๆตัวเคยมีอยู่2คน
คนนึงลุง เป็นเจ้าอาวาส แกบวชมานานตอนนี้มรณะไปแล้ว
สมัยก่อน นั้นเล่าว่าแกบวช ปฏิบัติธรรมอะไรสักอย่าง
หลังจากนั้นอยู่ๆ ก็ทำท่าแปลกๆวิ่งไปทั่ว
 พ่อผมต้องไปเฝ้าที่วัดอยู่นานกว่าจะหาย

อีกคนไปเข้าหลักสูตรปฏิบัติธรรม ทำสมาธิอะไรนี่แหละ แล้วก็สติแตก
ในงานนั่นแหละทุกวันนี้ยังต้องกินยาแก้อาการ

ถ้าผ่านจุดนั้นไปได้ คงแบบในหนังหรือนิยาย
ที่ว่า ไปจนถึงแก่นแท้ แล้วตอนกลับออกมาจะได้ บางอย่าง
กลับมาด้วย 

เคยได้ยินเรื่องที่เล่าว่าหากเข้าสู่ภาวะควบคุมจิต วิญญาณ
ปิดประตูต่างๆของร่วงกาย(ประสาทรับรู้ทั้งหลาย)
จะ อยู่ยงคงกะพัน อาวุธไม่ระคายผิว หรือแบบ อารหันต์ร่างทอง

หากเป็นฝั่งตะวันตกจะมีอาการธาตุไฟแตก หรือไม่
หรือจริงแล้วกก็มีแต่เขายังไม่มี
คำเรียกเรารู้จัก
หรือว่า การที่อัจฉริยะบุคคลหลายต่อหลายคน
ในประวัติศาสตร์ตะวันตกมีนิสัยประหลาดๆ
นั่นเป็นเพราะพวกเขาเคยธาตุไฟเข้าแทรก หรือ ธาตุไฟแตก
 

• Tweet

[Wannabe]

มันคือการทำสมาธิวิปัสสนาจนจิตฟุ้งซ่าน  เพราะตั้งสมาธิจิตมั่นจนปรุงแต่งประสาททั้ง5
พูดง่ายๆก็  นั่งไปนั่งมาแล้วจิตปรุงแต่ง



ถ้านั่งสมาธิแล้วคิดเกี่ยวกับอจินไตยไม่ยอมปล่อยวาง  ยังคงนั่งวิปัสสนาหาคำตอบของอจินไตย 
อาจทำให้อจินไตยเหล่านั้นทำให้เราฟุ้งซ่าน  บ้า


อจินไตย  คือ  ถ้าไม่นับที่เกี่ยวกับทางศาสนา  เอาแค่อจินไตยทางโลก  ฝรั่งก็บ้าได้  อย่างเช่น
นักวิทยาศาสตร์สติฟั่นเฟือน  เพราะขบคิดหาคำตอบไม่เจอ  จนฟุ้งซ่าน  ไม่ปล่อยวาง  สิ่งนี้แม้
กระทั่งฝรั่งก็เป็น  คำตอบของอจินไตย  ถ้าเกินปัญญา  ก็ให้รู้จักปล่อยวาง  ถ้าไม่ปล่อยวางก็
ธาตุไฟเข้าแทรก  เพราะยึดมั่นถือมั่นไม่ลดละ  บางปัญหาบางคำถาม  ถ้าขบคิดหาคำตอบยังไม่ได้
ก็ไม่ควรดึงดัน  คนเราไม่สามารถรู้ได้ทุกอย่าง  บ้างบางอย่างแม้ขบคิดทั้งชีวิตแล้วหาคำตอบไม่ได้
ก็ไม่แปลก



สรุป  ฝรั่งหรือคนไหนก็เป็นได้  การนั่งสมาธิเงียบๆแล้วดันปล่อยให้จิตปรุงแต่ง  หรือนั่งสมาธิวิปัสสนา
เงียบๆแล้วขบคิดบางอย่าง  ที่ตัวเราเองยังให้คำตอบไม่ได้  แต่ดันจะดึงดันค้นคำตอบซะเดี๋ยวนั้นโดยที่
จิตยังไม่พร้อม 



วิธีแก้  ปรับจิตปรับกระบวนความคิด  เรียบเรียง  จะช่วยให้ธาตุไฟเข้าแทรกหรือสติแตกค่อยๆดีขึ้น
ค่อยๆลำดับขั้นตอนของจิต  อย่าฟุ้งซ่านในเรื่องเดียวที่ตั้งมั่นหาคำตอบและอย่าฟุ้งซ่านในหลายเรื่อง
ที่ประเดประดังแล้วเอามาคิดพร้อมกัน

[sariora123]

แบบนี้คือ
อาการธาตุไฟแตก  มันก็คงมีทั้งตะวันตกตะวันออก สินะ




เราควรไม่ควรนิยามจำกัดมันแค่ อาการทางใจหรือ ทางกายเพียอย่างเดียวหรือไม่


ส่วนตัวผมไม่ใช่สายสมาธินะ
แต่ประสบการณส่วนตัวเคย ประสาทหลอน
ได้ยินเสียงขึ้นเอง เป็นอยู่หลายวัน แต่ยังแยกแยะได้ว่าหลอนไปเอว

[Wannabe]

อาการทางจิต  อาจมีสาเหตุจากร่างกายก็ได้  ควรปรึกษาแพทย์
ประสาทหลอน  อาจเกิดได้ทั้งคิดไปเอง  จิตปรุงแต่ง  ฤทธิ์ยา  ร่างกายหลั่งสารบางอย่าง
ที่ให้ผลระบบประสาท  อาการหูแว่ว  อาการภาพหลอนอาจเกิดได้จากระบบประสาทมี
บางอย่างผิดเพี้ยนทางกาย  หรือทางจิตก็อาจมาจากเราอยากได้ยินอะไร  จิตใต้สำนึก
หวาดกลัวหรือคะนึงถึงบางอย่าง



หลายคนนั่งสมาธิอยู่ดีๆ  จะเกิดจิตปรุงแต่งก็ไม่แปลก  แล้วก็เอาสิ่งที่แว่วได้ยิน  ภาพที่
หลอน  เอามาบอกว่าเป็นนิมิตร  เห็นนิมิตร  ได้ยินนิมิตร  ฝรั่งที่โฟกัสความคิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จนฟุ้งซ่าน  สติหลุดคลั่ง  พวกนักคิดนักปรัชญานักวิทย์สามารถมีอาการนี้ได้




นั่งสมาธิหรือวิปัสสนา  อาจทำให้เกิดอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น  เกิดอาการอยู่ในภวังค์  ไม่รู้สึกตัวว่า
สิ่งที่เห็นหรือได้ยินนั้น  เป็นฝันครึ่งตื่น  นำความฝันนั้นมาเป็นตุเป็นตะหลอกตัวเองก็มี  แล้วยิ่งถ้า
การที่เรานอนจนอิ่ม  คือ.....  ใครเคยฝันร้ายเพราะกระบวนการของร่างกายต้องการกระตุ้นบอกเรา
ว่าควรตื่นได้แล้วบ้าง  แบบว่า  นอนจนจะกินบ้านกินเมือง  นอนมากจนร่างกายต้องทำอะไรสักอย่าง
เพื่อให้เราตื่นหน่ะ  กระบวนการนึงที่ร่างกายทำก็คือ  ใช้ฝันร้ายปลุกเราให้ตื่น  พระสงฆ์อาจเจอ
เหตุการณ์นี้  เพราะกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ในภวังค์ขณะนั่งสมาธิก็ได้  เจอฝันร้ายก็คิดว่า  เป็นภาพเสียงของ
มารผจญ  สิ่งใดที่ทำมากไปน้อยไปไม่สายกลาง  ย่อมเกิดโทษได้  ออกมายืดเส้นยืดสายหรือ
เปลี่ยนเป็นเดินจงกลม  เพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวบ้างก็ถือเป็นการทำสมาธิรูปแบบนึงนะ  จะได้ไม่ไป
นั่งหลับตอนวิปัสสนาแล้วกึ่งฝันจนเกิดเสียงหรือภาพหลอน  ที่ก็แค่มันเกิดจากร่างกายไม่ได้รับการ
ออกกำลังกายที่เพียงพอ

[sariora123]

ว่าแล้ว ผมนึกถึง สิ่งหลอนประสาทชนิดนึง   ยกตัวอย่างคราวๆ น่าจัเหมือนๆ lsd


ในอดีต น่าจะพวกชาแมนใช้กัน แต่ปัจจุบัน ใช้เพื่อความบันเทิง
หรือการท่องไปยังแดนไกล


ของดังกล่าวถ้าเข้าใจไม่ผิดคือ จะทำให้ร่างกาย หรือระบบความคิดเข้าสูภาวะบางอย่าง
คล้าย ภวัง  ภาษาคนแนะบอกว่าไป ทัวทริปจิตวิญาณ
บางคนที่ใช้มีว่า เกิดการเปรี่ยนแปลงทางด้านนิสัยบางอย่างเกิดขึ้น
มากบ้างน้อยบ้าง


ถ้าหากให้เทียบแล้ว
คงเหมือนหนังจีน ที่จะสำเร็จวิชาขั้นสูงต้องไปรวบรวมของหายากมาทำยาสินะนี่
จะผึกเองก็คงทำได้แต่ใช้เวลาหลายปี




รูสึกเหมือนเห็นเงื่อนงำบางอย่าง

[Black7nos]

น่าจะเกี่ยวกับความดันโลหิต และ การหายใจครับ
อย่างเหล่งหูชงตอนเสียพลังเพราะถูกลมปราณหลายสายเข้าแทรกจนลมปราณแตกซ่าน
อาการที่กิมย้งอธิบายคือ เหนื่อยง่าย หายใจหอบตลอดเวลา ไม่มีแรง เป็นลมได้ง่ายๆ

[providence_gundam]

กำหนัด อยากเอาน้ำออกครับ ต้องไปนวด

[richter]

ถ้าให้เขียนใส่ในนิยายคงประมาณอารมณ์สตรีช่วงประจำเดือนมาไม่ก็อารมณ์คนปรกติที่ป่วยแล้วช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ล่ะครับ ธาตุไฟแท้ๆ ทั้งนั้น 

[Liverbird]

ว่าแล้ว ผมนึกถึง สิ่งหลอนประสาทชนิดนึง   ยกตัวอย่างคราวๆ น่าจัเหมือนๆ lsd


ในอดีต น่าจะพวกชาแมนใช้กัน แต่ปัจจุบัน ใช้เพื่อความบันเทิง
หรือการท่องไปยังแดนไกล


ของดังกล่าวถ้าเข้าใจไม่ผิดคือ จะทำให้ร่างกาย หรือระบบความคิดเข้าสูภาวะบางอย่าง
คล้าย ภวัง  ภาษาคนแนะบอกว่าไป ทัวทริปจิตวิญาณ
บางคนที่ใช้มีว่า เกิดการเปรี่ยนแปลงทางด้านนิสัยบางอย่างเกิดขึ้น
มากบ้างน้อยบ้าง


ถ้าหากให้เทียบแล้ว
คงเหมือนหนังจีน ที่จะสำเร็จวิชาขั้นสูงต้องไปรวบรวมของหายากมาทำยาสินะนี่
จะผึกเองก็คงทำได้แต่ใช้เวลาหลายปี




รูสึกเหมือนเห็นเงื่อนงำบางอย่าง

ฉันจะพาเธอลอยล่องไปในอวกาศ  ที่มีแต่เธอมีแต่เธอแต่ไม่ต้องกลัว
ฉันจะพาเธอลอยล่องไปในอันตราย  จะมีแต่เธอมีแต่เธอแต่ไม่ต้องกลัว
ความรักจะไม่ตกหลุมความรักทำให้หลงรัก  เหนื่อยไหมอยากให้เธอพักก่อนที่ฉันจะพาเธอ Fly~

[samuison]

เอาแบบท่านหวงอี้อธิบายคือ จิตฟุ้งซ่านบุคลิกมารเข้าครอบงำจิตใจ


กรณีเทพอาถรรพ์ที่จริงเป็นคนสุนทรีย์ แต่เพื่อชิงแผ่นดิน กลายเป็นคนเยือกเย็น


ชัดเจนที่สุดคือมีพรรคมารคนหนึ่ง


ฝึกประทับไม่ตายพลาดทำให้กลายเป็นคนที่ไล่ข่มขืนคนไปทั่ว


ทั้งที่ยามปรกติเก็บตัว


..




สายสมาธิถึงได้มีคำเตือนว่าหากเห็นอะไรแปลกๆให้หยุดนั่นล่ะครับ หรือว่าต้องมีอาจารย์ช่วย




ฝรั่งเป็นวิทยาศาสตร์กว่าคือใข้ยา กระตุ้นและหลอนประสาทเอาแบบต่างๆ

[Mortem]

อาการทางจิต  อาจมีสาเหตุจากร่างกายก็ได้  ควรปรึกษาแพทย์
ประสาทหลอน  อาจเกิดได้ทั้งคิดไปเอง  จิตปรุงแต่ง  ฤทธิ์ยา  ร่างกายหลั่งสารบางอย่าง
ที่ให้ผลระบบประสาท  อาการหูแว่ว  อาการภาพหลอนอาจเกิดได้จากระบบประสาทมี
บางอย่างผิดเพี้ยนทางกาย  หรือทางจิตก็อาจมาจากเราอยากได้ยินอะไร  จิตใต้สำนึก
หวาดกลัวหรือคะนึงถึงบางอย่าง



หลายคนนั่งสมาธิอยู่ดีๆ  จะเกิดจิตปรุงแต่งก็ไม่แปลก  แล้วก็เอาสิ่งที่แว่วได้ยิน  ภาพที่
หลอน  เอามาบอกว่าเป็นนิมิตร  เห็นนิมิตร  ได้ยินนิมิตร  ฝรั่งที่โฟกัสความคิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จนฟุ้งซ่าน  สติหลุดคลั่ง  พวกนักคิดนักปรัชญานักวิทย์สามารถมีอาการนี้ได้




นั่งสมาธิหรือวิปัสสนา  อาจทำให้เกิดอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น  เกิดอาการอยู่ในภวังค์  ไม่รู้สึกตัวว่า
สิ่งที่เห็นหรือได้ยินนั้น  เป็นฝันครึ่งตื่น  นำความฝันนั้นมาเป็นตุเป็นตะหลอกตัวเองก็มี  แล้วยิ่งถ้า
การที่เรานอนจนอิ่ม  คือ.....  ใครเคยฝันร้ายเพราะกระบวนการของร่างกายต้องการกระตุ้นบอกเรา
ว่าควรตื่นได้แล้วบ้าง  แบบว่า  นอนจนจะกินบ้านกินเมือง  นอนมากจนร่างกายต้องทำอะไรสักอย่าง
เพื่อให้เราตื่นหน่ะ  กระบวนการนึงที่ร่างกายทำก็คือ  ใช้ฝันร้ายปลุกเราให้ตื่น  พระสงฆ์อาจเจอ
เหตุการณ์นี้  เพราะกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ในภวังค์ขณะนั่งสมาธิก็ได้  เจอฝันร้ายก็คิดว่า  เป็นภาพเสียงของ
มารผจญ  สิ่งใดที่ทำมากไปน้อยไปไม่สายกลาง  ย่อมเกิดโทษได้  ออกมายืดเส้นยืดสายหรือ
เปลี่ยนเป็นเดินจงกลม  เพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวบ้างก็ถือเป็นการทำสมาธิรูปแบบนึงนะ  จะได้ไม่ไป
นั่งหลับตอนวิปัสสนาแล้วกึ่งฝันจนเกิดเสียงหรือภาพหลอน  ที่ก็แค่มันเกิดจากร่างกายไม่ได้รับการ
ออกกำลังกายที่เพียงพอ

เรื่องนอนนี่ทำให้ผมเข้าใจละ ทำไมเวลาผมฝันเรื่องอะไรตอนจบมันต้องแบดเอนด์ หรือจบแบบปวดตับจนต้องสะดุ้งตื่นทุกที เป็นเพราะแบบนี้เองสินะ

[Wannabe]

[quote/]เรื่องนอนนี่ทำให้ผมเข้าใจละ ทำไมเวลาผมฝันเรื่องอะไรตอนจบมันต้องแบดเอนด์ หรือจบแบบปวดตับจนต้องสะดุ้งตื่นทุกที เป็นเพราะแบบนี้เองสินะ

ใช่แล้ว  มันเป็นปฏิกิริยาร่างกาย  ไม่ใช่ฝันเป็นลาง  ไม่ใช่ฝันเห็นอนาคต  ยิ่งกับพระสงฆ์องค์เจ้า
หรือผู้ที่มัวเมาเกินไปในการนั่งวิปัสสนา  อย่างพระสงฆ์เนี่ย  วันทั้งวันร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวหรือ
ออกกำลังกายเลย  ยิ่งสมัยนี้เวลาบิณฑบาตร  บ้างไม่เดิน  ใช้วิธีประจำจุด(ซึ่งถ้ามีเหตุผลเพียงพอ
อย่างเช่นหัวเข่าไม่ดี  แก่มากจนเดินไม่ไหวก็ไม่เป็นไรหรอก  ยืดหยุ่นได้  ทางสายกลาง  ใช่ว่าจะต้อง
เดินบิณฯให้ได้)  การเดินบิณฑบาตรถือเป็นการออกกำลังกายยามเข้าที่ดีของพระสงฆ์  ไม่ควรหาเหตุ
งดง่ายๆ  ไม่งั้นพระสงฆ์จะไม่เหลือกิจกรรมออกกำลังกาย




นั่นหมายความว่า  ทำวัตรเช้าเย็นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย  กวาดลานล้างชามพระท่านก็
ไม่ได้ทำ  ออกกำลังกายยามเช้าด้วยการเดินบิณฑบาตรก็ไม่มี  นอนก็เต็มอิ่ม  แล้วถ้าเกิดต้อง
ไปนั่งวิปัสสนาหล่ะจะเกิดอะไรขึ้น??  ร่างกายอยากเคลื่อนไหว  แต่ก็ยังฝืนนั่งหลับตาทำวิปัสสนา



ตอนอ่าน #0 ที่ยกตัวอย่างพระสงฆ์ธาตุไฟแตก  ผมเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดจากอะไร  ทำไมถึง
เห็นเสียงหลอนภาพหลอน  ปุถุชนก็เช่นกัน  สิ่งที่ควรแก้ควรทำ  ถ้าแก่มากอายุเยอะไม่สามารถ
ออกกำลังกายได้  ก็ควรเปลี่ยนอิริยาบทบ้าง  ไปทำสมาธิด้วยการเดินจงกลมบ้าง  ร่างกายจะได้
เคลื่อนไหว  อะไรทำมากไปเป็นพิษเป็นโทษได้  นั่งวิปัสสนามากไปก็เช่นกัน  ก่อนปฏิบัติธรรม
ได้คำนึงเตรียมพร้อมก่อนรึเปล่า??  แล้ววิปัสนาเพื่ออะไร  อยากได้อะไรจากกระทำนี้  ต้องรู้สติ
รู้คิด  รู้ว่าทำไม่พร้อมจะเกิดอะไร  ธรรมมะคือธรรมชาติ  กายและจิตเกื้อกูลหนุนกัน  ไม่ใช่นายบ่าว

[Rumia]

ถ้าในนิยายก็แล้วแต่คนแต่งโดยรวมคืออาการผิดปรกติจากการฝึกวิชา ส่วนของจริงตามตำราจีนมันแค่เลือดลมตีกลับหน้ามืดตาลายนั้นแหละครับ หนักเบาแล้วแต่อาการมันคือคำเหมาอาการที่ว่าโดยรวม

[sariora123]

เอาแบบท่านหวงอี้อธิบายคือ จิตฟุ้งซ่านบุคลิกมารเข้าครอบงำจิตใจ


กรณีเทพอาถรรพ์ที่จริงเป็นคนสุนทรีย์ แต่เพื่อชิงแผ่นดิน กลายเป็นคนเยือกเย็น


ชัดเจนที่สุดคือมีพรรคมารคนหนึ่ง


ฝึกประทับไม่ตายพลาดทำให้กลายเป็นคนที่ไล่ข่มขืนคนไปทั่ว


ทั้งที่ยามปรกติเก็บตัว


..




สายสมาธิถึงได้มีคำเตือนว่าหากเห็นอะไรแปลกๆให้หยุดนั่นล่ะครับ หรือว่าต้องมีอาจารย์ช่วย




ฝรั่งเป็นวิทยาศาสตร์กว่าคือใข้ยา กระตุ้นและหลอนประสาทเอาแบบต่างๆ

พวกชาแมน สมัยก่อนในหลายพื้นที่เขาถึงได้มีต้นำม้ วิเศษ หรือยาวิเศษ กันสินะ เข้าสู่
ภวังกันได้ง่ายขึ้น แตกต่างกันไปตามพื้นที่




ถ้าเราเทียบ กันในแบบสายฝึกวิชาต่างๆ แบบนิยาย
หรือแบบหนังจีน


อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ
คือฝึกร่างกายไปถึงจุดๆหนึ่งแล้วจะถึงขีดจำกัดบางอย่าง
เลยต้องฝึกทางจิตใจเข้าไปด้วย


การฝึกทางจิตใจ หรือสมาธิ พอลงลึกเจ้าไปถึงระดับนึง เหมือนกับ
การเข้าไปแก้ไขระบบความคิดจิตใจอย่างนึง  แก้พลาด ก็ระบบรวน
ธาตุไฟแตกแทน






  ซื๊ด_______  กาวมาเติ่มอีก