อัพเดตข่าวสงครามยูเครน วันที่ 212 ของสงคราม 1. ดูเหมือนว่าการประกาศ “ระดมกำลังพลบางส่วน” (Partial Mobilization) ของรัฐบาลรัสเซียนั้นจะเป็นเพียงการโกหกซะแล้ว เนื่องจากมีหลักฐานต่างๆ ทั้งบทสัมภาษณ์ คลิปวิดีโอ และรูปถ่ายเผยแพร่ออกมาว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังดำเนินการ “ระดมกำลังพลเต็มกำลัง” (Full Mobilization) โดยมีพลเมืองรัสเซียจำนวนมากที่ไม่มีทั้งประสบการณ์การฝึกทหาร ไม่เคยเป็นทหารเกณฑ์ หรือยังอยู่ในสถานะนักเรียนนักศึกษา กลับได้รับหมายเรียกเกณฑ์ทหารหรือถูกพาตัวไปยังสำนักงานสัสดีในเขตพื้นที่ของตน
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขจริงของการระดมกำลังทหารครั้งใหญ่ของรัสเซียครั้งนี้อาจมากกว่าจำนวน 300,000 นาย ดังที่นายเซอร์เกย์ ชอยกู (Sergei Shoigu) รมว.กลาโหมรัสเซีย กล่าวเอาไว้ในประกาศวันแรกของการเริ่มระดมกำลังพล โดยสำนักข่าว “โนวายากาเซ็ตตายุโรป” (Novaya Gazeta Europe) ได้เผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างอิงจากเจ้าหน้าที่รัสเซียนิรนาม ว่าแท้จริงแล้ว รัฐบาลรัสเซียได้ตั้งเป้าจะทำการระดมกำลังพลให้ได้มากถึง 1 ล้านนาย และตามข้อมูลในไฟล์ลับที่หลุดออกมา ตัวเลข 300,000 นายที่นายชอยกูกล่าวเอาไว้นั้น เป็นเพียงแค่ “ระลอกแรก” ที่จะถูกส่งไปยังยูเครนเท่านั้น ที่เหลืออีก 700,000 นายจะทำการทยอยส่งไปยังยูเครนในระลอกที่สองและสามต่อไป
อีกประการหนึ่ง มีรายงานอีกว่าการระดมกำลังพลครั้งนี้ของรัสเซียครอบคลุมต่อบุคคลจำนวนมากกว่าที่มีการประเมินไว้ในตอนแรก โดยมีรายงานข่าวว่าแม้แต่พนักงานของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย เช่น “แกสพรอม” (PJSC Gazprom) หรือพนักงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านอวกาศครูนิเชฟ (Khrunichev State Research and Production Space Center) ที่รับผิดชอบการพัฒนาจรวดอวกาศต่างได้รับหมายเรียกเกณฑ์ทหารด้วยเช่นกัน อีกทั้งนางโอลก้า โควิทิดี (Olga Kovitidi) สมาชิกสภาสหพันธรัฐ ยังได้ออกมาแสดงความเห็นว่าผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังคดหรือมีภาวะเท้าแบนนั้นไม่สมควรได้รับการยกเว้นหมายเรียกเกณฑ์ทหาร และนายวยาเชสลาฟ โวโลดิน (Vyacheslav Volodin) ประธานสภาดูมา ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าแม้แต่สมาชิกสภาของรัสเซียก็สมควรออกไปทำหน้าที่ในฐานะทหารด้วยเช่นเดียวกัน
2. ทางด้านชาติตะวันตกและยูเครนนั้นก็กำลังเร่งดำเนินการเพื่อยกระดับความช่วยเหลือต่อยูเครนในวิธีต่างๆ เพื่อรับมือกับการระดมพลครั้งใหญ่ของกองทัพรัสเซีย เช่นนางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von de Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “ซีเอ็นเอ็น” (CNN) ขณะเดินทางเข้าร่วมการประชุมที่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ว่าทางคณะกรรมาธิการจะเร่งพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่เพื่อตอบโต้ต่อท่าทีล่าสุดของรัสเซีย เช่นเดียวกันกับนายโยเซ็พ บอร์เรล (Josep Borrell) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่ออกมากล่าวแบบเดียวกันหลังการประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีการต่างประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป
ทางด้านสหรัฐ การประกาศระดมพลของรัสเซียทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 17 รายยื่นจดหมายถึงนายลอยด์ ออสติน (Lloyd Austin) รมว.กลาโหมสหรัฐ ให้เร่งกระบวนการพิจารณาเพื่อส่งมอบหุ่นโดรนติดอาวุธ MQ-1C Gray Eagle และ MQ-9A Reaper ของกองทัพสหรัฐให้ยูเครนโดยไว หลังจากที่มีข่าวลือมาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาจะส่งมอบโดรนติดอาวุธ Gray Eagle ให้แก่ยูเครน แต่ด้วยความกลัวเรื่องเทคโนโลยีทางทหารไปตกอยู่ในมือของรัสเซียและความกังวลว่าการส่งมอบโดรนให้แก่ยูเครนจะทำให้กองทัพสหรัฐสูญเสียความพร้อมรบไป ทำให้ทางสหรัฐชะลอการตัดสินใจที่จะส่งโดรน Gray Eagle ให้ยูเครนจนถึงตอนนี้
ไม่ใช่แค่การส่งโดรนติดอาวุธ เสียงเรียกร้องให้ชาติตะวันตก นำโดยสหรัฐและเยอรมนี ทำการส่งมอบรถถังตระกูล M1 Abrams หรือ Leopard ให้แก่ยูเครนก็เริ่มหนาหูมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายสหรัฐและเยอรมนี ต่างให้ความเห็นว่ามีรัฐบาลชาติตะวันตกยังคงกังวลในเรื่องการปัญหาส่งกำลังบำรุงที่ซับซ้อน โดยเฉพาะกับรถถัง M1 Abrams ของสหรัฐที่ต้องการการบำรุงรักษาที่ดีและยังกินเชื้อเพลิงปริมาณมาก ทำให้ยูเครนนั้นต้องการจะได้รถถัง Leopard จากเยอรมนีมากกว่า เนื่องด้วยมีมิติรถถัง เช่นน้ำหนัก ขนาด อัตราการซ่อมบำรุง การบริโภคเชื้อเพลิง ที่ใกล้เคียงกับรถถังของยูเครนมากกว่า แต่จนถึงทุกวันนี้เยอรมนียังคงปฏิเสธจะดำเนินการหรืออนุญาตให้ประเทศอื่นทำการส่งมอบรถถัง Leopard ให้กับยูเครน
ที่มา: