ไม่ว่าจะเศรษฐกิจภายในหรือภายนอก
หากอุปทานมากกว่าอุปสงค์ แล้วล่ะก็ มูลค่าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะลดลงน่ะ
ยิ่งมีมากกว่าความต้องการขึ้นเท่าไหร มูลค่าของสินค้าก็ยิ่งลดลงตามเท่านั้น
แล้วพอมีเกินจนล้น สิ่งนั้นก็จะสูญเสียมูลค่าไป ...
(ลิ้นจี่กับสับปะรดของประเทศแถวๆ นี้(!) ครั้งหนึ่งยังต้องเอามาเททิ้งเพราะผลิตได้เยอะเกินไปจนขายไม่ได้เลย)
สำหรับภาคการส่งออกก็เช่นกัน ประเทศอื่นจะมีกำหนดเพดานโควต้าการรับซื้อไว้
กำไรจากภาคการส่งออกจึงมีจำกัด แล้วยิ่งการขอให้ช่วยรับซื้อในปริมาณมาก
จะมีแต่ถูกกดราคาลงอยู่ดี ดังนั้นกำไรที่ได้หากเทียบกับปริมาณแล้ว มีแต่จะลดลง
แล้วด้านแนวโน้มการลงทุน ต่างประเทศเองก็ไม่ได้มีอะไรมารับประกันว่าจะช่วยซื้อได้ตลอด
แล้วทีนี้ พอเศรษฐกิจภายในลดลงเพราะสินค้าเกินความต้องการ มันก็จะไม่มีเงินหมุนเวียนในตลาดการลงทุน
อัตราการซื้อขายแลกเปลี่ยนต่างๆ ก็ลดลง ...พอสภาพแบบนี้ดำเนินไปหลายปี เศรษฐกิจจะพังลงตามๆ กัน
[quote/]เรื่องนั้นที่ถูกไล่นี่เป็นพี่ไม่ใช่เหรอครับ ว่าแต่นางน่าสงสารมากแค่เป็นพวกหน้าตายยิ้มยากก็ไม่มีใครรักเลยยกเว้นน้องสาว ทั้งๆที่นางทุ่มเททำงานเพื่อประเทศเพื่อประชาชนแท้ ไร้เหตุผลสิ้นดี(ว่าแต่เรื่องนี้ชื่อเรื่องว่าอะไรครับ? จำเรื่องได้แต่จำชื่อไม่ได้)
[quote/]ไม่ใช่แค่นั้น นางยังถลุงการคลังที่ร่อแร่เพราะสภาพเศรษฐกิจที่นางทำพังกับขูดรีดภาษีประชาชนเพื่อนโยบายสร้างภาพของนางต่างหาก แล้วแบบนั้นประเทศมันไม่พังได้ไงล่ะ
ก็เป็นพี่สาวน่ะแหละท่าน แต่คือผมไม่รู้จะว่าจะพูดยังไงอ่ะ ...
เหมือนในเรื่อง อาเรียเป็นพี่สาวก็จริง แต่ดันลงข้อมูลว่านางอายุ 28 ปี
ส่วนมิยะที่เป็นน้องสาว... อายุ 29 ปี.... ....
ไม่รู้ว่าผมอ่านผิดหรือเปล่า...ผมเลยงงๆ อยู่น่ะ ....
แต่คนที่ถูกเสือกไสไล่ส่งคือ อาเรียที่เป็นพี่สาวน่ะใช่แล้ว ...
อ่านจบบทหนึ่งแล้ว สมน้ำหน้าไอ้เจ้าชายสองจริงๆ