แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?  (อ่าน 4913 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 02:44:07 PM »
คืออย่างที่ว่าล่ะครับ

อาจจะเพระาผมมองทุนนิยมจากสายกฎหมายปละปรัชญา ผมมองว่ากฎหมายต่างๆคือกติกา และคนเราจะเคลือ่นไหวไปตามกติกาที่มี


ที่ผมเถียงกับหลายท่านในทางทุนนิยมก็เพระาหากเราดูกันจริงๆทุกอย่างก็เป็นวิทยาศาสตร์

สามารถคำนวณแผนการเดินต่างๆของคนเล่นหมากรุกได้ หากเรารู้กติกาของหมากรุกและแผนการเล่นทีไ่ด้ผลมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้


สรุปก็คือ
ทุนนิยมตามชื่อของมัน มันทำให้การเติบโตได้เร็วที่สุด
ข้อนี้ไม่มีใครเถียง

แม้กระทั่งสังคมนิยม

ก็ต้องแปลงร่างสร้างวาทะกรรม

"ท่านเหมาดีเจ็ดส่วน เสียสามส่วน"
เพื่อให้ทำใจอยู่ในระบบทุนนิยมนี้ได้

กลับตัวกลับใจจากการเป้นคอมมิวนิสม์ว่าอย่างนั้น

ปัญหาคือ มองว่า มีการโจมตีคอมมิวนิสม์ว่าเป็นเรื่องของศาสนาอุดมคติ
ผมมองว่าในทางสายทุนนิยมเองก็เช่นกัน มองบางอย่างราวกับศาสนาไปแล้วด้วยซ้ำ


หากเราจะมองอย่างนักกฎหมายหรือนักวิทยาศาสตร์ เราก็ต้องมองว่ากติกาสร้างเอาไว้เช่นนี้จะเกิดผลอย่างไร สามารถคำนวณได้แม้แต่ตาเดินที่ได้ผลมากที่สุดในเกมส์หมากรุกหรือโกะ


เรากำหนดกติกาไว้อย่างหนึ่งจะทำให้เธุรกิจหนึ่งเจ๊งหรือคงอยู่ต่อไปได้อย่างเห็นได้ชัด

Evergrandeกำลังดัง เท่าที่ผมจับใจความได้คือ

หลายคนโทษรัฐบาลจีนนโยบายสามเส้นแดง

ที่ไม่ให้เงินมาหมุ่นต่อ ธุรกิจก็เจ๊ง

ผมนึกย้อนกลับไปแต่ละคนพูดคล้ายกัน ไม่ว่าวงแชรืป้าเล็กแถวบ้าน ร้านนขายของชำของอาโกวหรือ Evergrande

"ขอเพียงเอาเงินให้เราไม่หักลบกลบหนีั้ให้เราหมุนเงิน เราก็มีกำไรนับพัน/หมื่น/ล้านบาทแล้ว"

เรียกว่าทุกคนเจอปัญหาเดียวกัน

"ตราบใดที่คนยังให้เราหมุนเงิน เราก็ยังไม่เจ๊ง"

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

นี่คือความเชื่อทางศาสนา"ปรัชญา" หรือแนวคิดที่แต่ละคนที่ทำธุรกิจมีตรงกันหรือเปล่าครับ?
ไม่ว่าจะธุรกิจใหญ่หรือเล็ก?

ไปเจอคำพุดแนว ลงทุนแมนกล่าวประมาณว่า

"อยากพ้นจากหนี้อย่าดูแค่รายรับรายจ่าย ให้ดูที่กระแสเงินสด"

หรือที่ผมพูด ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อนอะไร เป็นเรื่องที่นักลงทุนคนไหนก็รู้กัน

ถ้าอย่างนั้น มาสุ่คำถามต่อไป
หากเป็นเรื่องที่นักลงทุนคนไหนก็รู้กัน ทำไมถึงมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า?

หรือมันเป็นอย่างมุกในแนวหนังนักลงทุนโบรกเกอร์พูดจริงๆ

ว่าอยากทำงานเกี่ยวกับการเงินต้องเสพโคเคน เพื่อให้มีสติทำงานต่อไปได้
ว่าเศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้เพราะ fairy dust ผงแฟรี่ หรือความเชื่อล้วนๆว่าแฟรี่มีอยู่จริง

หากคนเราไม่เชื่อขึ้นมาเท่าไร แฟรี่ก็จะตายไป เศรษฐกิจก็จะเจ๊ง ???

ที่พูดในข่าวบ่อยๆว่า "นักลงทุนมีความเชื่อมั่น"

ความหมายแฝงมันคืออย่างนี้หรือเปล่าครับ?


คือหากมองอย่างนี้มันก็เท่ากับว่าตลาดทุนใหญ่อย่างหุ้น หรือตลาดททุนเล็กอย่างแชร์ของแม่เล้กแถวบ้านก็ไม่ต่างกันเท่าไรในแง่ของการดำเนินการ

ที่ต่างไปคือ ตลาดใหญ่กว่าจะมีการหมุนวนมากกว่าจนกว่าจะล้มในที่สุด จากนั้นก็จะแปลงร่างเป็นแชร์แม่เล็กคนใหม่และเปิดตลาดใหม่ วนเวียนไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด


ถ้าหากทุกท่านมองว่าแนวคิดนี้คือเรื่องธรรมดา ก็เรียกว่าน่าสนใจจริงๆครับ

ไปเจอคนแซวไว้อย่างหนึ่งว่า

"หากเจอคนใส่สูทใส่แว่น ออกทีวีมาบอกเราว่าเศรษฐยังดีอยุ่ ตอนนั้นล่ะ ให้เก็บของกลับมาได้เลย"

เรียกว่าหนังม้วนเดิมเหมือนฉายวนกันไปมาว่าอย่างนั้นล่ะครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Wannabe

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 262
  • ถูกใจแล้ว: 131 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-13
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 03:06:47 PM »
ศรัทธา  ความเชื่อ  ไม่ว่าเราจะเชื่อแล้วยึดถืออะไร  มันก็มองได้ว่านั่นคือแนวทางชีวิตที่เราต้องการ
งั้น!!  ถ้าเราศรัทธาเชื่อมั่นสิ่งใด  นั่นไม่นับเป็นศาสนาเหรอ?  หรือว่าศาสนาจะต้องได้รับการตีตรา
ซะก่อน  ได้รับการผู้คนส่วนมากบอกกล่าวกับเราก่อน  บอกเราว่านั่นคือศาสนา  เราจึงถึงค่อยเออออ
แล้วค่อยบอกกับตัวเองว่า  มันคือศาสนา


ศรัทธาในวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นศาสนามั๊ย  ศรัทธาในแนวทางการเมืองหล่ะ 
 

ออฟไลน์ ToodZy

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 84
  • ถูกใจแล้ว: 34 ครั้ง
  • ความนิยม: +1/-1
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 03:21:20 PM »
เอเวอร์แกรนด์  มีอะไรลึกซึ้งกว่าที่คิดนัก  และก็อย่าไปฟังคำวิเคราะห์ว่าเอเวอร์แกรนด์จะเป็นปัญหา
เหมือนกับเบรแมนของอเมริกา  อันนั้นหน่ะ  มูลหนี้มากกว่าเอเวอร์แกรนด์  ขนาดเมื่อยี่สิบปีก่อน
ในมูลค่ายี่สิบล้านล้าน  แถมเอเวอร์แกรนด์ก็เป็นการเล่นงานที่ตัวบริษัท  ตัวผู้บริหาร  หาใช่เป็นการ
ก่อหนี้ตราสารแบบเบรแมนที่ขายหนี้ตราสาร


เดี๋ยวรัฐจีนก็จัดการคนทรยศแล้วเยียวยารายเล็กเอง  เขากะเล็งมาตั้งนานแล้ว  ไม่งั้นเขาจะเริ่มที่จะ
ทำลายทำไมหล่ะ  ถ้าเขาไม่คิดถึงปัญหาที่จะตามมา  งง??


ลองดูบริบทที่แตกต่างกันสิ  ดูไทม์ไลน์สิ  จะเห็นการต่อจิ๊กซอว์ต่างๆรัฐจีนสร้างทหารพาณิชย์ได้
ก็ทำลายได้  เชือดไก่ให้ลิงดู  ใครอ่อนน้อมก็รับไว้  ใครแข็งข้อก็กำจัด  อย่าคิดหือคิดอือ  ไม่งั้น
ทำไมอสังหาฯอันดับหนึ่งถึงไม่เป็นไร  ทำไมอันดับสองอย่างเอเวอร์แกรนด์ดันแย่


นี่ยังไม่นับที่หุ้นเอเวอร์แกรนด์มีการดีดตัวขึ้นสิบเท่าในสามปีนะ  แล้วแถมต้นปีจากที่หดๆ  ดันมี
การไต่ราคาภายในเดือนเดียวพุ่งพรวดเท่าตัว  รัฐจีนเห็น  มองรู้  การยักยอกเทขาย  ปั่นหุ้น
ก่อนนี้ต้นปีก็ศาลก็สั่งจ่ายหนี้ไปนิดหน่อยไปรอบแล้ว  สองเดือนก่อนก็ปลดประธานเจ้าของ


หนีไม่ไหนไม่รอดหรอก  คอรัปชั่นในจีน  คือยิงเป้า  ห้ามคิดว่าเงินของๆตัวเองคือของๆตัวเอง
เพราะคนที่ปั้นมาคือรัฐ 
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 03:31:25 PM »
ศรัทธา  ความเชื่อ  ไม่ว่าเราจะเชื่อแล้วยึดถืออะไร  มันก็มองได้ว่านั่นคือแนวทางชีวิตที่เราต้องการ
งั้น!!  ถ้าเราศรัทธาเชื่อมั่นสิ่งใด  นั่นไม่นับเป็นศาสนาเหรอ?  หรือว่าศาสนาจะต้องได้รับการตีตรา
ซะก่อน  ได้รับการผู้คนส่วนมากบอกกล่าวกับเราก่อน  บอกเราว่านั่นคือศาสนา  เราจึงถึงค่อยเออออ
แล้วค่อยบอกกับตัวเองว่า  มันคือศาสนา


ศรัทธาในวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นศาสนามั๊ย  ศรัทธาในแนวทางการเมืองหล่ะ 

ผมพยายามทำความเข้าใจแนวคิดของนักลงทุน ที่ผมตั้งข้อสงสัยขึ้นมาอย่างหนึ่ง
ทำให้สายนักลงทุนโมโห ราวกับไปดูหใิ่นศาสนาของเขาน่ะครับ ???

คืออย่างที่บอก ผมพยายามทำความเข้าใจจากกติกาทั้งหมด เพระามองว่าง่ายกว่าเยอะ

ผมมองว่าพวกนักลงทุนเก่งกว่าผมด้วยซ้ำที่คำนวณหุ้นตัวต่างๆได้โดยละเอียด

การคำนวณว่ากฎหมาย กติกาแต่ละอย่างจะให้ผลอย่างไรนั้นง่ายกว่าเอามากๆน่ะครับ

ซึ่งพอผมเริ่มอ่านมากขึ้นก็ชักเริ่มคิดว่า มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆล่ะ
ตกลงพวกเราดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจกันด้วยวิธีพรรค์นี้จริงๆหรือนี่?

เหมือนแต่ละคนเย้ยหยัน แม่ค้าร้านชำหรือแชณืป้าเล็กซอยเจ็ด
แต่ก้ยังตกอยู่ในบ่วงเดียวกันแม้ว่าวงเงินจะใหญ่ ตัวเล่นจะมากขึ้น

แต่หากยังใช้กติกาเล่นเกมส์เดียวกัน ผลมันก็ไม่ต่างจากเดิมไปได้หรอกครับ ???

ตกลงเรื่องที่ผมแปลกใจนี่คือเรื่องที่นักลงทุนมองว่าคือเรื่องธรรมดา
หากเช่นนั้น แนวคิดว่าเราจะลุกขึ้นจากวงเพื่อมีกำไรได้ก่อนคนอื่นๆ มันก็ไม่ต่างกับวงแชร์ขนาดใหญ่ยักษ์แต่ประการใด


คือผมมองเพจจ่าแล้วสะท้อนใจน่ะครับ ที่ว่าหลอกลวงคนไปลงทุนต่างๆ

อย่าว่าแต่การหลอกลวงเลย ลงทุนไปตามกติกา มันนยังมีโอกาสเจ๊งเข้าสักวันเลย ไม่ต้องพุดถึงการหลอกลวงด้วยซ้ำ
ความคาดหวังเกินกว่าความเป็นจริงจนไม่อาจแบกรับได้อีกต่อไป....คือที่มาของ Evergrande แชร์แม่ชะม้อยและร้านขายของชำของอาโกว

มีที่่มาจากจุดเดียวกัน ที่แตกต่างไปก็คือขนาดของกิจการและตัวเงินเท่านั้นเอง


มีการแซวกันว่า สายนักวิชาการเป็นนักลงทุนไมไ่ด้ ก็อาจจะจริงครับ คาร์ล มาร์กว์ยังขาดทุนเรื่องหุ้นเลย

แต่ผมแค่มองว่าอาจจะคล้ายมาร์กก้ได้  ผมมองว่ากติกาและแนวคิดที่พวกเราใช้อยุ่มันแปลกๆน่ะครับ
เหมือนไม่ค่อยมีใครจะรุ้ตัวหรือสังเกตจุดร่วมนี้เลย

หรอืเพระาเราหนักใือ ฆ่ากันเยอะไปหน่อยตอนคอมมิวนิสม์ เลยไม่มีใครมีการชี้จุดตรงนี้ว่า เราตกอยู่ใต้ความคิดบางประการ ???

ผมไปเจอแนวเว็บบทฤษฎีสมคบคิดว่า
ระบบปัจจุบันน่ะ ไม่ต่างกับ ponzi scheme ขนาดยักษ์
ที่คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะโตได้ตลอดกาล

เราคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมในโลกของควาเมป็นจริง ที่แชร์ลูกโซ่จะทำให้ทุกคนร่ำรวย...มันจะล้มลงมาสักวันในที่สุด

แน่นอน นักลงทุนมีแนวคิดว่า

"คนที่ล้มต้องไม่ใช่เรา รู้ว่ามันจะล้มนั่นล่ะ แต่เราจะลุกขชึ้นมาเร็วกว่าน้นก่อน"

ที่นักลงทุนและลุกแชร์แม่ชะม้อยคิดตรงกันนั่นเอง
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 03:36:05 PM »
เอเวอร์แกรนด์  มีอะไรลึกซึ้งกว่าที่คิดนัก  และก็อย่าไปฟังคำวิเคราะห์ว่าเอเวอร์แกรนด์จะเป็นปัญหา
เหมือนกับเบรแมนของอเมริกา  อันนั้นหน่ะ  มูลหนี้มากกว่าเอเวอร์แกรนด์  ขนาดเมื่อยี่สิบปีก่อน
ในมูลค่ายี่สิบล้านล้าน  แถมเอเวอร์แกรนด์ก็เป็นการเล่นงานที่ตัวบริษัท  ตัวผู้บริหาร  หาใช่เป็นการ
ก่อหนี้ตราสารแบบเบรแมนที่ขายหนี้ตราสาร


เดี๋ยวรัฐจีนก็จัดการคนทรยศแล้วเยียวยารายเล็กเอง  เขากะเล็งมาตั้งนานแล้ว  ไม่งั้นเขาจะเริ่มที่จะ
ทำลายทำไมหล่ะ  ถ้าเขาไม่คิดถึงปัญหาที่จะตามมา  งง??


ลองดูบริบทที่แตกต่างกันสิ  ดูไทม์ไลน์สิ  จะเห็นการต่อจิ๊กซอว์ต่างๆรัฐจีนสร้างทหารพาณิชย์ได้
ก็ทำลายได้  เชือดไก่ให้ลิงดู  ใครอ่อนน้อมก็รับไว้  ใครแข็งข้อก็กำจัด  อย่าคิดหือคิดอือ  ไม่งั้น
ทำไมอสังหาฯอันดับหนึ่งถึงไม่เป็นไร  ทำไมอันดับสองอย่างเอเวอร์แกรนด์ดันแย่


นี่ยังไม่นับที่หุ้นเอเวอร์แกรนด์มีการดีดตัวขึ้นสิบเท่าในสามปีนะ  แล้วแถมต้นปีจากที่หดๆ  ดันมี
การไต่ราคาภายในเดือนเดียวพุ่งพรวดเท่าตัว  รัฐจีนเห็น  มองรู้  การยักยอกเทขาย  ปั่นหุ้น
ก่อนนี้ต้นปีก็ศาลก็สั่งจ่ายหนี้ไปนิดหน่อยไปรอบแล้ว  สองเดือนก่อนก็ปลดประธานเจ้าของ


หนีไม่ไหนไม่รอดหรอก  คอรัปชั่นในจีน  คือยิงเป้า  ห้ามคิดว่าเงินของๆตัวเองคือของๆตัวเอง
เพราะคนที่ปั้นมาคือรัฐ 
ขอบคุณครับท่านตุ๊ดซี่
นั่นล่ะครับ ผมมองว่า เวลาน่ะ อาจจะเป็นการมองออกแล้วของจีนเอง กำหนดได้ว่าจะล้มเวลาไหน เพระาตนเองเป็นคนกำหนดกรแสเงินสดและสามเส้นแดงกับมือ ???
พวกเราอยุ่กันในกองแชร์แม่ชะม้อยขนาดยักษ์หรอืเปล่า?นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังคิดน่ะครับ
เท่าที่ฟังมา ผมสังหรณ์นิดๆว่า เราทำตามจีนหรือเปล่าครับที่ให้คนกู้เงินซื้อบ้าน?
ผมจับยามสามตา ตอนนี้เล่นเป็นหมอดู
ว่าในยุคสมยที่รัฐสร้างบ้านให้กับประชาชนเองนั้นแปลว่า คยามเป็นไปได้ที่ราษฎรจะกบฎนั้นสูงเอามากๆแล้ว
ผมรู้สึกขนลุกยนิดๆเหมือนกัน :'(
แต่เว็บทฤษฎีสมคบคิดแนะนำแนวคิดแปลกๆมาหลายเรื่องน่ะครับ
ว่าระวัง"ภาษีคนโสด" เอาไว้ หากมีช่วงที่ประเทศชาติ ทำให้คนโสดต้องเสียภาษีมากกว่าประชากรกลุ่มอื่นโดยเฉลี่ยนั่นล่ะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ SecurityGuard

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 127
  • ถูกใจแล้ว: 71 ครั้ง
  • ความนิยม: +5/-9
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 04:00:01 PM »
[quote/]

ผมพยายามทำความเข้าใจแนวคิดของนักลงทุน ที่ผมตั้งข้อสงสัยขึ้นมาอย่างหนึ่ง
ทำให้สายนักลงทุนโมโห ราวกับไปดูหใิ่นศาสนาของเขาน่ะครับ ???

คืออย่างที่บอก ผมพยายามทำความเข้าใจจากกติกาทั้งหมด เพระามองว่าง่ายกว่าเยอะ

ผมมองว่าพวกนักลงทุนเก่งกว่าผมด้วยซ้ำที่คำนวณหุ้นตัวต่างๆได้โดยละเอียด

การคำนวณว่ากฎหมาย กติกาแต่ละอย่างจะให้ผลอย่างไรนั้นง่ายกว่าเอามากๆน่ะครับ

ซึ่งพอผมเริ่มอ่านมากขึ้นก็ชักเริ่มคิดว่า มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆล่ะ
ตกลงพวกเราดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจกันด้วยวิธีพรรค์นี้จริงๆหรือนี่?

เหมือนแต่ละคนเย้ยหยัน แม่ค้าร้านชำหรือแชณืป้าเล็กซอยเจ็ด
แต่ก้ยังตกอยู่ในบ่วงเดียวกันแม้ว่าวงเงินจะใหญ่ ตัวเล่นจะมากขึ้น

แต่หากยังใช้กติกาเล่นเกมส์เดียวกัน ผลมันก็ไม่ต่างจากเดิมไปได้หรอกครับ ???

ตกลงเรื่องที่ผมแปลกใจนี่คือเรื่องที่นักลงทุนมองว่าคือเรื่องธรรมดา
หากเช่นนั้น แนวคิดว่าเราจะลุกขึ้นจากวงเพื่อมีกำไรได้ก่อนคนอื่นๆ มันก็ไม่ต่างกับวงแชร์ขนาดใหญ่ยักษ์แต่ประการใด


คือผมมองเพจจ่าแล้วสะท้อนใจน่ะครับ ที่ว่าหลอกลวงคนไปลงทุนต่างๆ

อย่าว่าแต่การหลอกลวงเลย ลงทุนไปตามกติกา มันนยังมีโอกาสเจ๊งเข้าสักวันเลย ไม่ต้องพุดถึงการหลอกลวงด้วยซ้ำ
ความคาดหวังเกินกว่าความเป็นจริงจนไม่อาจแบกรับได้อีกต่อไป....คือที่มาของ Evergrande แชร์แม่ชะม้อยและร้านขายของชำของอาโกว

มีที่่มาจากจุดเดียวกัน ที่แตกต่างไปก็คือขนาดของกิจการและตัวเงินเท่านั้นเอง


มีการแซวกันว่า สายนักวิชาการเป็นนักลงทุนไมไ่ด้ ก็อาจจะจริงครับ คาร์ล มาร์กว์ยังขาดทุนเรื่องหุ้นเลย

แต่ผมแค่มองว่าอาจจะคล้ายมาร์กก้ได้  ผมมองว่ากติกาและแนวคิดที่พวกเราใช้อยุ่มันแปลกๆน่ะครับ
เหมือนไม่ค่อยมีใครจะรุ้ตัวหรือสังเกตจุดร่วมนี้เลย

หรอืเพระาเราหนักใือ ฆ่ากันเยอะไปหน่อยตอนคอมมิวนิสม์ เลยไม่มีใครมีการชี้จุดตรงนี้ว่า เราตกอยู่ใต้ความคิดบางประการ ???

ผมไปเจอแนวเว็บบทฤษฎีสมคบคิดว่า
ระบบปัจจุบันน่ะ ไม่ต่างกับ ponzi scheme ขนาดยักษ์
ที่คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะโตได้ตลอดกาล

เราคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมในโลกของควาเมป็นจริง ที่แชร์ลูกโซ่จะทำให้ทุกคนร่ำรวย...มันจะล้มลงมาสักวันในที่สุด

แน่นอน นักลงทุนมีแนวคิดว่า

"คนที่ล้มต้องไม่ใช่เรา รู้ว่ามันจะล้มนั่นล่ะ แต่เราจะลุกขชึ้นมาเร็วกว่าน้นก่อน"

ที่นักลงทุนและลุกแชร์แม่ชะม้อยคิดตรงกันนั่นเอง


หุ้นต่างจากแชร์  ต่างจากหวย  ต่างจากการพนัน   จุดต่างที่สำคัญก็คือ  หุ้นมันงอกเงยได้เองจาก
เงินทุน  หวยแชร์การพนัน  มันมีแต่กินทุน


จุดประสงค์เริ่มแรกของการกระจายหุ้น  ตอนเริ่มแรกของประวัติศาสตร์หุ้นอ่ะ  ท่านลองหาอ่าน  ซึ่ง
มันเริ่มมาจากการที่ไม่ให้ทุนไปกระจุกตัวหรือถูกครอบครองโดยบุคคลใดบุคคลนึง  ให้กระจายความ
มั่งคั่ง  กระจายความเป็นเจ้าของ  แม้ต่อมามันจะบิดเบี้ยว  แต่มันก็ยังคงเป็นกลไกที่ดี  ในการที่จะ
ไม่ให้ความเป็นเจ้าของของธุรกิจใดตกสืบทอด


แล้วมันก็เป็นช่องทางระดมทุนในอีกยุคต่อมา  บลาๆๆๆ  ลองอ่านที่มาที่ไปของสิ่งใดๆที่เราสงสัย
คล้ายๆเราต้องเริ่มมองปัญหาจากอริยสัจสี่  ข้อที่หนึ่ง  [ทุกข์  โจทย์  ตัวเริ่มต้นของปัญหา]
สิ่งนี้ถ้าเราเริ่มต้นผิด  การสรุปสมมุติฐานต่อจากนั้นย่อมผิด  ถ้าเราเริ่มวิจัยด้วยการตั้งโจทย์ไม่
ตรงจุดที่เราอยากรู้  เราย่อมไม่ประจักษ์
 

ออฟไลน์ Sharona

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 181
  • ถูกใจแล้ว: 324 ครั้ง
  • ความนิยม: +33/-46
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 04:13:34 PM »
[quote/]ขอบคุณครับท่านตุ๊ดซี่
นั่นล่ะครับ ผมมองว่า เวลาน่ะ อาจจะเป็นการมองออกแล้วของจีนเอง กำหนดได้ว่าจะล้มเวลาไหน เพระาตนเองเป็นคนกำหนดกรแสเงินสดและสามเส้นแดงกับมือ ???
พวกเราอยุ่กันในกองแชร์แม่ชะม้อยขนาดยักษ์หรอืเปล่า?นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังคิดน่ะครับ
เท่าที่ฟังมา ผมสังหรณ์นิดๆว่า เราทำตามจีนหรือเปล่าครับที่ให้คนกู้เงินซื้อบ้าน?
ผมจับยามสามตา ตอนนี้เล่นเป็นหมอดู
ว่าในยุคสมยที่รัฐสร้างบ้านให้กับประชาชนเองนั้นแปลว่า คยามเป็นไปได้ที่ราษฎรจะกบฎนั้นสูงเอามากๆแล้ว
ผมรู้สึกขนลุกยนิดๆเหมือนกัน :'(
แต่เว็บทฤษฎีสมคบคิดแนะนำแนวคิดแปลกๆมาหลายเรื่องน่ะครับ
ว่าระวัง"ภาษีคนโสด" เอาไว้ หากมีช่วงที่ประเทศชาติ ทำให้คนโสดต้องเสียภาษีมากกว่าประชากรกลุ่มอื่นโดยเฉลี่ยนั่นล่ะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ


ทำให้นึกถึงบ้านเอื้ออาทราของทักษิณที่สร้างในราคาไม่เกินครึ่งล้าน  กับบ้านมั่นคง(ชื่อนี้มั้ง)  ที่
สร้างราคาหลักล้านปลายๆของท่านลุงตู่เลยแฮะ 


การสร้างบ้านเพื่อให้อยู่อาศัย  มันต้องเข้ากรอบ  [นกน้อยทำรังแต่พอตัว]  ถ้ารังไม่พอก็ค่อยๆ
ขยับขยาย  สำหรับคนจนหน่ะ  แค่ได้มีที่ซุกหัวนอนเป็นของตัวเอง  เป็นมรดก  เขาต้องการที่
จะมีเริ่มจากตรงนี้ก่อน  ไม่ใช่ทำหลักเกือบสองล้านมาให้เขาผ่อนเป็นหนี้ยันหลานบวช


ตอนนี้ลุงตู่ก็กะพยายามทำให้อสังหาฯแพง  เพื่อดูดเม็ดเงินต่างชาติ  โดยไม่ดูเลยว่า  สิ่งใดควร
สงวนการแข่งขันให้หาลูกค้า  อยากเป็นแบบลอนดอนเหรอ?  อยากเป็นมั๊ยหล่ะ  ที่ต่อไปนี้
จะมีการแยกกรรมสิทธิ์ครอบครองบ้านหนึ่งหลัง  โดนคนนึงมีกรรมสิทธิ์ชั้นล่าง  อีกคนมีกรรมสิทธิ
ชั้นบน  อีกคนถ้าบ้านมีสามาชั้นก็ครองกรรมสิทธิชั้นที่สาม  หรืออย่างกัมภูชา  ที่กำลังเริ่มมีปัญหา
ในอสังหาในพื้นที่เขตเมือง


เราควรให้ธุรกิจอสังหาแข่งขันหาลูกค้า  ภายใต้กรอบลูกค้าคือคนในปรเทศ  เพื่อไม่ให้ทุนนอกมา
กระชากราคาอสังหาฯให้พุ่งแพง  จนเกินกว่าที่คนภายในประเทศจะต่อสู้ไหว  มันดี  มันดีอ่ะ  ที่จะ
ทำให้กลุ่มธุรกิจอสังหาฯอู้ฟู่จากเงินนอก  แล้วโป่งพองแพงๆแต่นั่นมันไม่ดีกับคนภายในประเทศนะ
แล้วมันจะเป็นดาบสองคมในอนาคตทีหลัง   เมื่อถึงตอนนั้นมันก็ยากจะแก้ไข  เพราะสิทธิการเข้าถึง
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 07:08:24 PM »
ไม่ใช่ศาสนาครับ ทุนนิยมแท้ๆไม่เหลือแล้วนะครับ อย่างแท้ต้องทำตามหลักตลาดเสรี ของอดัมสมิท ซึ่งต้องไม่มีภาษีแบบในอเมริกาช่วงแรก ปัจจุบันทุกประเทศเก็บภาษี แถมเก็บในอัตราก้าวหน้าหมด ซึ่งเอียงไปทางสังคมนิยมมากกว่า มีประเทศมากยามเก็บภาษีเยอะทำเป็นรัฐสวัสดิการ เจ๊งไปก็เยอะ
 

ออฟไลน์ AlexW

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 324
  • ถูกใจแล้ว: 139 ครั้ง
  • ความนิยม: +16/-30
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 08:47:22 PM »
ผมมองว่าทุนนิยม = ความโลภ + ศรัทธา (ว่าเราจะได้กำไร)


สิ่งที่สะท้อนภาพนี้ได้ดีที่สุดในปัจจุบันก็คือ บิทคอยน์ ทุกคนบนโลกส่วนใหญ่ก็รู้ว่าสิ่งนี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากข้อมูลตัวเลขใน Internet ที่ไม่มีสมบัติวิเศษอะไรค้ำประกันมูลค่าของมันเลย นอกไปจากความโลภและความศรัทธาว่าเราจะได้กำไรจากมันและมนุษย์คนอื่นๆบนโลกจะต้องการมันเพื่อทำกำไร
 

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,865
  • ถูกใจแล้ว: 4905 ครั้ง
  • ความนิยม: +370/-441
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 20, 2021, 08:55:12 PM »
ผมมองว่าทุนนิยม = ความโลภ + ศรัทธา (ว่าเราจะได้กำไร)


สิ่งที่สะท้อนภาพนี้ได้ดีที่สุดในปัจจุบันก็คือ บิทคอยน์ ทุกคนบนโลกส่วนใหญ่ก็รู้ว่าสิ่งนี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากข้อมูลตัวเลขใน Internet ที่ไม่มีสมบัติวิเศษอะไรค้ำประกันมูลค่าของมันเลย นอกไปจากความโลภและความศรัทธาว่าเราจะได้กำไรจากมันและมนุษย์คนอื่นๆบนโลกจะต้องการมันเพื่อทำกำไร


ผิดในบางส่วนครับ หลักการเบื้องต้นอันแรก ที่บิทคอยกลายเป็นที่นิยม คือความไม่ไว้วางใน ในรัฐบาล ของประชาชน  คนเลยมุ่งไปหาบิทคอย กันแม้ว่าจะมีคนเข้าไปเก็งกำไร แต่คนที่เขาใช้เพราะไม่ต้องการโดนสอดส่องมันก็มี




ด้วยประโยค ที่ว่า


หากรัฐ มีคุณธรรม ศีลธรรมเป็นที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจ และตรวจสอบได้ เราจะไปใช้บิทคอยกันทำไม  ;D ;D ;D
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,554
  • ถูกใจแล้ว: 3425 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-283
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 21, 2021, 09:33:57 AM »
ตามหลักการองค์ประกอบศาสนามีดังนี้
1.ศาสดา ผู้ก่อตั้งศาสนาและจะต้องมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
2.หลักธรรม เป็นหลักคำสอนของศาสนานั้นๆ โดยจะต้องมีจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร เรียกว่า "คัมภีร์"
3.นักบวช เป็นผู้ทำหน้าที่สาวกที่มีหน้าที่ศาสนกิจและเผยแพร่ศาสนา
4.ปูชนียสถาน สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
5.พิธีกรรม แนวทางการปฏิบัติศาสนกิจของศาสนานั้นๆ


ศาสนาจะต้องมีครบ 5 อย่าง ถ้าไม่ครบ จะเรียกว่า ลัทธิ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ 29Forever

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 517
  • ถูกใจแล้ว: 256 ครั้ง
  • ความนิยม: +12/-53
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 21, 2021, 10:16:09 AM »
1.นักปรัชญาถือได้ว่าเป็นศาสดาก็คงได้มั้ง  คล้ายๆหลายๆคนนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นนักปรัชญา
(ผมนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นปราชญ์  เป็นนักปรัชญา)
2.หลักธรรมแนวคิด  นักปรัชญาการเมืองการปกครองก็มีหลักธรรมที่เผยแพร่
3.คนเผยแพร่แนวคิดทุนนิยมหรืออะไรก็ตาม  ก็น่าจะนับเป็นนักบวช
4.ปูชนียะสถาน  นักปรัชญามีกันทุกคนเลย  แม้แต่นักปรัชญาที่เคารพในวิทยาศาสตร์หรือการปกครอง
5.พิธีกรรม  พิธี+กรรม(การกระทำ)  มีหมดเลยแฮะรวมทั้งกลุ่มคนไร้ศาสนา  เช่นพิธีรำลึก

//หิว  อยากกินน้ำพริกกะปิโบราณแต่ขอแบบใส่กุ้งแห้งตัวโต 
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 21, 2021, 10:29:00 AM »
[quote/]


หุ้นต่างจากแชร์  ต่างจากหวย  ต่างจากการพนัน   จุดต่างที่สำคัญก็คือ  หุ้นมันงอกเงยได้เองจาก
เงินทุน  หวยแชร์การพนัน  มันมีแต่กินทุน


จุดประสงค์เริ่มแรกของการกระจายหุ้น  ตอนเริ่มแรกของประวัติศาสตร์หุ้นอ่ะ  ท่านลองหาอ่าน  ซึ่ง
มันเริ่มมาจากการที่ไม่ให้ทุนไปกระจุกตัวหรือถูกครอบครองโดยบุคคลใดบุคคลนึง  ให้กระจายความ
มั่งคั่ง  กระจายความเป็นเจ้าของ  แม้ต่อมามันจะบิดเบี้ยว  แต่มันก็ยังคงเป็นกลไกที่ดี  ในการที่จะ
ไม่ให้ความเป็นเจ้าของของธุรกิจใดตกสืบทอด


แล้วมันก็เป็นช่องทางระดมทุนในอีกยุคต่อมา  บลาๆๆๆ  ลองอ่านที่มาที่ไปของสิ่งใดๆที่เราสงสัย
คล้ายๆเราต้องเริ่มมองปัญหาจากอริยสัจสี่  ข้อที่หนึ่ง  [ทุกข์  โจทย์  ตัวเริ่มต้นของปัญหา]
สิ่งนี้ถ้าเราเริ่มต้นผิด  การสรุปสมมุติฐานต่อจากนั้นย่อมผิด  ถ้าเราเริ่มวิจัยด้วยการตั้งโจทย์ไม่
ตรงจุดที่เราอยากรู้  เราย่อมไม่ประจักษ์
ขอบคุณครับท่านยาม

ความจริงผมสังเกตเรื่องแอฟเลี้ยงวัวท่ดังในเพจจ่าพิชิตมีคนบอกว่าความจริงแล้วถ้าทำดีดีมันคือการระดมทุนที่ดีเลยนะ
แต่ก็อย่างว่า หุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือแชณ์แต่เริ่มแรกก็มีแนวคิดที่ดี แต่กลายมาเป็นแบบปัจจุบันไปได้อย่างไรก็ไม่รู้
ผมต้องไปค้นว่า แชร์ความหมายของบ้านเราตามภาษาอังกฤษไม่ใช่ share แต่คือ rotate lend หรืออะไรนี่ล่ะครับ
ผมชักรู้สึกนิดๆแล้วว่าบ้านเราเอาของหลายๆอย่างมาบิดเบือนไปหมด
ขาดเงื่อนไขบางประการไป นโยบายที่ดีก็กลายเป็นแหล่งรวมของคนโลภเท่านั้นเอง :'(
1.นักปรัชญาถือได้ว่าเป็นศาสดาก็คงได้มั้ง  คล้ายๆหลายๆคนนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นนักปรัชญา
(ผมนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นปราชญ์  เป็นนักปรัชญา)
2.หลักธรรมแนวคิด  นักปรัชญาการเมืองการปกครองก็มีหลักธรรมที่เผยแพร่
3.คนเผยแพร่แนวคิดทุนนิยมหรืออะไรก็ตาม  ก็น่าจะนับเป็นนักบวช
4.ปูชนียะสถาน  นักปรัชญามีกันทุกคนเลย  แม้แต่นักปรัชญาที่เคารพในวิทยาศาสตร์หรือการปกครอง
5.พิธีกรรม  พิธี+กรรม(การกระทำ)  มีหมดเลยแฮะรวมทั้งกลุ่มคนไร้ศาสนา  เช่นพิธีรำลึก

//หิว  อยากกินน้ำพริกกะปิโบราณแต่ขอแบบใส่กุ้งแห้งตัวโต 
ผมรู้สึกว่าน่าสนใจที่เอาเข้าจริงๆ ศาสนาประจำชาติของเราคือพรามหณ์มากวก่าพุทธเหมอืนกัน
อยากทานกุ้งแห้งไปย่างก่อนแล้วค่อยมาททำน้ำพริก
เสียดายมันต้องใช้เวลาทำนาน เตรียมการเยอะ
ตามหลักการองค์ประกอบศาสนามีดังนี้
1.ศาสดา ผู้ก่อตั้งศาสนาและจะต้องมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
2.หลักธรรม เป็นหลักคำสอนของศาสนานั้นๆ โดยจะต้องมีจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร เรียกว่า "คัมภีร์"
3.นักบวช เป็นผู้ทำหน้าที่สาวกที่มีหน้าที่ศาสนกิจและเผยแพร่ศาสนา
4.ปูชนียสถาน สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
5.พิธีกรรม แนวทางการปฏิบัติศาสนกิจของศาสนานั้นๆ


ศาสนาจะต้องมีครบ 5 อย่าง ถ้าไม่ครบ จะเรียกว่า ลัทธิ
ก็นั่นล่ะครับ ฮา
นึกถึงเรื่องสตาร์เทรก มีมนุษย์ต่างดาวมาเยี่ยม วอลสตรีท แบบเดียวกับชาวมุสลิมมาเยี่ยมเมกกะ
ว่าคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมทางธึรกิจและการเงินการมีเงินมากๆคือของดี คนที่ตายไปโดยบยไม่มีทรัพย์สินในโลกนี้คือคนที่จะไม่มีทรัพย์สินในโลกหน้าไปด้วย
[quote/]


ผิดในบางส่วนครับ หลักการเบื้องต้นอันแรก ที่บิทคอยกลายเป็นที่นิยม คือความไม่ไว้วางใน ในรัฐบาล ของประชาชน  คนเลยมุ่งไปหาบิทคอย กันแม้ว่าจะมีคนเข้าไปเก็งกำไร แต่คนที่เขาใช้เพราะไม่ต้องการโดนสอดส่องมันก็มี




ด้วยประโยค ที่ว่า


หากรัฐ มีคุณธรรม ศีลธรรมเป็นที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจ และตรวจสอบได้ เราจะไปใช้บิทคอยกันทำไม  ;D ;D ;D
มันมีเรื่อง ฮาที่ผมเจอคือ มีหลายคนอยากเอาระบบทองคำกลับมา
แต่มีคนบอกว่าระบบทองคำทำให้เศรษฐกิจตกต่ำในช่วงสงครามโลก
ว่าตอนนี้ว่ากันจริงๆ ออกห่างจากทองคำ พิมพ์แบ็งก์เองจะทำให้เศรษฐกิจโตเร็วกว่าน่ะครับ

บิทคอยน์คือความน่าเชือ่ถือล้วนๆว่ามันจะชำระหนี้ได้

ผมว่าก็ไม่ต่างกันกับตอนที่เราอยู่ในบ่อน ทำไมเราถึงเชื่อว่าเบี้ยและชิปในบ่อนมีมูลค่าเท่าไร?
[quote/]


ผิดในบางส่วนครับ หลักการเบื้องต้นอันแรก ที่บิทคอยกลายเป็นที่นิยม คือความไม่ไว้วางใน ในรัฐบาล ของประชาชน  คนเลยมุ่งไปหาบิทคอย กันแม้ว่าจะมีคนเข้าไปเก็งกำไร แต่คนที่เขาใช้เพราะไม่ต้องการโดนสอดส่องมันก็มี




ด้วยประโยค ที่ว่า


หากรัฐ มีคุณธรรม ศีลธรรมเป็นที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจ และตรวจสอบได้ เราจะไปใช้บิทคอยกันทำไม  ;D ;D ;D
ไปเจอแนวคิดของซีไอเอหรืออะไรนี่ล่ะครับ ว่าเงินที่อยู่ใต้ดินก็ไมไ่ด้แปลบว่ามันหายไปไหน น้ำที่อยู่ใต้ดิน บางครั้งมันก้ต้องขึ้นมาบนดินวันยังค่ำ
การเอาธุรกิจมืดขึ้นมาบนดินจะทำให้ดำเนินกิจการได้ดีกว่า
บิทคอยน์คอืการเปลี่ยนเงินใต้ดินให้เป็นเงินบนดินล่ะครับ
บิทคอยน์อาจจะซื้อพิซว่าและจ้างมือปืนได้ในเวลาเดียวกัน แต่เงินจริงๆก็เมหือนกันเราไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง
ผมมองว่าทุนนิยม = ความโลภ + ศรัทธา (ว่าเราจะได้กำไร)


สิ่งที่สะท้อนภาพนี้ได้ดีที่สุดในปัจจุบันก็คือ บิทคอยน์ ทุกคนบนโลกส่วนใหญ่ก็รู้ว่าสิ่งนี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากข้อมูลตัวเลขใน Internet ที่ไม่มีสมบัติวิเศษอะไรค้ำประกันมูลค่าของมันเลย นอกไปจากความโลภและความศรัทธาว่าเราจะได้กำไรจากมันและมนุษย์คนอื่นๆบนโลกจะต้องการมันเพื่อทำกำไร
ก็นั่นล่ะครับผมช็อคไปเหมือนกัน

ทุกคนเมหือนตกอยู่ในมนต์สะกดว่าเศรษฐกิจจะโตไปได้ตลอดกาล ทั้งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไมไ่ด้ แบบแชร์ลูกโซ่ เลื่อนลำดับขั้นแบบขายตรงต่างๆนั่นล่ะเป็นไปได้ทางตัวเลข แต่หกากมีคนต้องการถอนตัวจากระบบเมื่อไร ทั้งหมดก็พังครืนลงทันที
แต่คนก็ยังมองว่า
"ให้เติบโตโดยเร็วที่สุด ดีกว่าเติบโตคแบบมั่นคง ต่อให้ล้มในภายหลังก็ยังถือว่าเติบโตได้ดีกว่าเติบดตแบบช้าช้าอยู่ดี"
แนวคิดที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นตัวอธิบายสถานการณ์ของตลาดเงิน ตลาดทุนต่าๆในปัจจุบันได้
ไม่ใช่ศาสนาครับ ทุนนิยมแท้ๆไม่เหลือแล้วนะครับ อย่างแท้ต้องทำตามหลักตลาดเสรี ของอดัมสมิท ซึ่งต้องไม่มีภาษีแบบในอเมริกาช่วงแรก ปัจจุบันทุกประเทศเก็บภาษี แถมเก็บในอัตราก้าวหน้าหมด ซึ่งเอียงไปทางสังคมนิยมมากกว่า มีประเทศมากยามเก็บภาษีเยอะทำเป็นรัฐสวัสดิการ เจ๊งไปก็เยอะ
เรื่องนี้น่าสนใจครับ
เจออเมริกันบ่นเหมือนกันว่า federal tax ไม่มีในรธน.นะเฟ้ย
ว่าแนวคิดคือไม่คิดว่ารัฐบาลกลางจะมีอำนาจตั้งหน่วนงานมาควบคุมประชาชนอะไรขนาดนั้น
แต่อย่างว่าโลกเราเปลี่ยนไปเยอะเพระาการต่อสู้ทั้งการทหารและการเมืองต่างๆนั่นล่ะครับ

มาถึงยุคนี้มีคนกล่าวว่าจะเปลี่ยนเป็นโลกไร้เงินสด กันเต็มที่แล้ว
ผมคิดว่ามันจะก้าวไปในแนวไซไฟแล้วว่าอยบ่างนั้นล่ะครับ แต่กลัวควยามเป็นจริงที่มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะ คนเราไม่ใช่ตัวละครในหนัง
มันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น
[quote/]

ทำให้นึกถึงบ้านเอื้ออาทราของทักษิณที่สร้างในราคาไม่เกินครึ่งล้าน  กับบ้านมั่นคง(ชื่อนี้มั้ง)  ที่
สร้างราคาหลักล้านปลายๆของท่านลุงตู่เลยแฮะ 


การสร้างบ้านเพื่อให้อยู่อาศัย  มันต้องเข้ากรอบ  [นกน้อยทำรังแต่พอตัว]  ถ้ารังไม่พอก็ค่อยๆ
ขยับขยาย  สำหรับคนจนหน่ะ  แค่ได้มีที่ซุกหัวนอนเป็นของตัวเอง  เป็นมรดก  เขาต้องการที่
จะมีเริ่มจากตรงนี้ก่อน  ไม่ใช่ทำหลักเกือบสองล้านมาให้เขาผ่อนเป็นหนี้ยันหลานบวช


ตอนนี้ลุงตู่ก็กะพยายามทำให้อสังหาฯแพง  เพื่อดูดเม็ดเงินต่างชาติ  โดยไม่ดูเลยว่า  สิ่งใดควร
สงวนการแข่งขันให้หาลูกค้า  อยากเป็นแบบลอนดอนเหรอ?  อยากเป็นมั๊ยหล่ะ  ที่ต่อไปนี้
จะมีการแยกกรรมสิทธิ์ครอบครองบ้านหนึ่งหลัง  โดนคนนึงมีกรรมสิทธิ์ชั้นล่าง  อีกคนมีกรรมสิทธิ
ชั้นบน  อีกคนถ้าบ้านมีสามาชั้นก็ครองกรรมสิทธิชั้นที่สาม  หรืออย่างกัมภูชา  ที่กำลังเริ่มมีปัญหา
ในอสังหาในพื้นที่เขตเมือง


เราควรให้ธุรกิจอสังหาแข่งขันหาลูกค้า  ภายใต้กรอบลูกค้าคือคนในปรเทศ  เพื่อไม่ให้ทุนนอกมา
กระชากราคาอสังหาฯให้พุ่งแพง  จนเกินกว่าที่คนภายในประเทศจะต่อสู้ไหว  มันดี  มันดีอ่ะ  ที่จะ
ทำให้กลุ่มธุรกิจอสังหาฯอู้ฟู่จากเงินนอก  แล้วโป่งพองแพงๆแต่นั่นมันไม่ดีกับคนภายในประเทศนะ
แล้วมันจะเป็นดาบสองคมในอนาคตทีหลัง   เมื่อถึงตอนนั้นมันก็ยากจะแก้ไข  เพราะสิทธิการเข้าถึง
ลุงตู่จะซ้ำรอยเดิมในเรื่องของการเล่นกับที่ดินล่ะครับ
แต่อย่างว่าล่ะ
ตอนนั้นลุงตู่คงตายไปปแล้วแต่ลุกหลานในอีกไม่เกิน สามสิบปีผมทำนายไว้
ว่าความรุนแรงต้องเกิดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากการถือครองพื้นที่ครองเจ้าครองที่ดินมากขึ้นเรื่อยๆและประชากรที่ไม่มีที่ดินมากขึ้นเรื่อยๆ
ก็ไม่รูว่านโยบาย
"คุณจะไม่มีทรัพย์สินแต่คุณจะอยู่อยบ่างมีความสุข" มันจะได้ผลหรอืเปล่าตามแนวคิดของ worl;d economic forum น่ะครับ
ผมไม่คิดว่าลุงตู่จะมองเรื่องนี้ออก ว่าปล่อยให้คนถือครองที่ดินผิดสัดส่วนผลจะเป็นอย่างไร
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: 29Forever

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 661
  • ถูกใจแล้ว: 307 ครั้ง
  • ความนิยม: +22/-20
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 21, 2021, 05:43:57 PM »


ในจีน ถ้าไม่มีเส้นสายกับพรรคคอมมิวนิสต์คิดว่าจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาดได้เหรอ ขนาดวงการอสังหาในไทยยังรู้ๆกันเลยว่า เสือสิงห์กระทิงแรดขนาดไหน


ในจีน น่าจะหนักกว่าหลายเท่า ส่วนเรื่อง ขายที่ดินต่างชาติ จริงๆ เป้าหมายคือดึงแรงงาน คุณภาพต่างชาติมาทำงานในไทย


เขาไม่ได้ปลดล็อคแค่ซื้อที่ดินต่างชาติแต่ปลดล็อกเรื่องการจ้างแรงงานต่่างชาติด้วยแต่เชื่อเถอะมันจะมีลูกมั่วเปิดให้


นักลงทุนต่างชาติด้วยเพราะพวกภาคอสังหาต้องการโละสต็อก ถามว่าจำเป็นไหม ตอบเลยว่าจำเป็น จำเป็นมากด้วย


เพราะ ถ้าคนวัยทำงานในไทยลดลงระบบภาษีและรายได้ สาธารณูปโภคต่างในไทยจะล้มเพราะวัยแรงงาน ที่บริโภค


และผลิตภาษีจะหายไป ทำให้ รัฐบาลมีปัญหา ในการจ่ายหนี้ที่สร้างไว้ ใคร เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องดำเนินนโยบายแบบนี้


เพราะมันไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว ไม่งั้นก็ต้องปล่อยให้เศรษฐกิจ ล่มสลายแล้วดูว่า ประเทศจะฟื้นจากเถ้าถ่านไหม


จริงๆ ถ้า จำกัดแค่ ซื้อบ้าน อยู่อาศัยสำหรับ คนที่ได้กรีนการ์ดมันก็ไม่แรงมาก แต่มั่นใจว่า นักการเมืองมันจะเปิดให้ซื้อแหลก นะสิ
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 21, 2021, 08:47:44 PM »


ในจีน ถ้าไม่มีเส้นสายกับพรรคคอมมิวนิสต์คิดว่าจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาดได้เหรอ ขนาดวงการอสังหาในไทยยังรู้ๆกันเลยว่า เสือสิงห์กระทิงแรดขนาดไหน


ในจีน น่าจะหนักกว่าหลายเท่า ส่วนเรื่อง ขายที่ดินต่างชาติ จริงๆ เป้าหมายคือดึงแรงงาน คุณภาพต่างชาติมาทำงานในไทย


เขาไม่ได้ปลดล็อคแค่ซื้อที่ดินต่างชาติแต่ปลดล็อกเรื่องการจ้างแรงงานต่่างชาติด้วยแต่เชื่อเถอะมันจะมีลูกมั่วเปิดให้


นักลงทุนต่างชาติด้วยเพราะพวกภาคอสังหาต้องการโละสต็อก ถามว่าจำเป็นไหม ตอบเลยว่าจำเป็น จำเป็นมากด้วย


เพราะ ถ้าคนวัยทำงานในไทยลดลงระบบภาษีและรายได้ สาธารณูปโภคต่างในไทยจะล้มเพราะวัยแรงงาน ที่บริโภค


และผลิตภาษีจะหายไป ทำให้ รัฐบาลมีปัญหา ในการจ่ายหนี้ที่สร้างไว้ ใคร เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องดำเนินนโยบายแบบนี้


เพราะมันไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว ไม่งั้นก็ต้องปล่อยให้เศรษฐกิจ ล่มสลายแล้วดูว่า ประเทศจะฟื้นจากเถ้าถ่านไหม


จริงๆ ถ้า จำกัดแค่ ซื้อบ้าน อยู่อาศัยสำหรับ คนที่ได้กรีนการ์ดมันก็ไม่แรงมาก แต่มั่นใจว่า นักการเมืองมันจะเปิดให้ซื้อแหลก นะสิ
ขอบคุณครับ
ผมมองว่าที่ออสเตรเลียมันมีรายงานเรื่องจีนมาซื้อที่อยุ่น่ะครับ จนเรื่องต้องเข้าสูา่สภาและมีการเขียนหนังสือต่อต้านพอสมควรผมว่าของเราก็อาจจะไม่ต่างกันเท่าไร
อย่างที่ผมบอก เอาเงินเป็นศาสนา
ทำให้ความดีสุงสุดคือได้ตัวเลขที่สูงขั้นเรื่อยๆอย่างที่จะต้องการมันคือระบบที่ออกมาเพื่อการนี้
แต่คนที่ปรับตัวไม่ทันผลก็จตะตามมาเช่นกันน่ะครับ

หากเรายังมีเทคโนแครตอยู่ในประเทศก็คงจะดี
แต่ตอนนี้นักเขียนนิยายของเราเขียนว่า
"คุณลองเอาอิฐกับเหล้กไปปักดินสิ จะงอกออกมาได้เหมือนข้าวไหม"
...มีแนวความคิดแบบนี้ล่ะก็ ผมมองว่าเป็นปัญหาแน่ๆหากมีทุนพยายามใช้กับเทคโนโลยีอาจจะพอไปได้ แต่เราคิดจะเปลี่ยนการล้างสมองที่มีมาหลายสิบปีก็คงจะยากหน่อยล่ะครับ
รัฐบาลสุ้กับตัวรัฐบาลเองว่าอย่างนั้น
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ 3TAHeibivo)

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 349
  • ถูกใจแล้ว: 234 ครั้ง
  • ความนิยม: +6/-20
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 22, 2021, 03:33:51 AM »


ในจีน ถ้าไม่มีเส้นสายกับพรรคคอมมิวนิสต์คิดว่าจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาดได้เหรอ ขนาดวงการอสังหาในไทยยังรู้ๆกันเลยว่า เสือสิงห์กระทิงแรดขนาดไหน


ในจีน น่าจะหนักกว่าหลายเท่า ส่วนเรื่อง ขายที่ดินต่างชาติ จริงๆ เป้าหมายคือดึงแรงงาน คุณภาพต่างชาติมาทำงานในไทย


เขาไม่ได้ปลดล็อคแค่ซื้อที่ดินต่างชาติแต่ปลดล็อกเรื่องการจ้างแรงงานต่่างชาติด้วยแต่เชื่อเถอะมันจะมีลูกมั่วเปิดให้


นักลงทุนต่างชาติด้วยเพราะพวกภาคอสังหาต้องการโละสต็อก ถามว่าจำเป็นไหม ตอบเลยว่าจำเป็น จำเป็นมากด้วย


เพราะ ถ้าคนวัยทำงานในไทยลดลงระบบภาษีและรายได้ สาธารณูปโภคต่างในไทยจะล้มเพราะวัยแรงงาน ที่บริโภค


และผลิตภาษีจะหายไป ทำให้ รัฐบาลมีปัญหา ในการจ่ายหนี้ที่สร้างไว้ ใคร เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องดำเนินนโยบายแบบนี้


เพราะมันไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว ไม่งั้นก็ต้องปล่อยให้เศรษฐกิจ ล่มสลายแล้วดูว่า ประเทศจะฟื้นจากเถ้าถ่านไหม


จริงๆ ถ้า จำกัดแค่ ซื้อบ้าน อยู่อาศัยสำหรับ คนที่ได้กรีนการ์ดมันก็ไม่แรงมาก แต่มั่นใจว่า นักการเมืองมันจะเปิดให้ซื้อแหลก นะสิ

มันจะทำให้อสังหาฯบูม  จนมีมูลค่าสูงเกินกว่าที่คนไทยตาดำๆจะซื้อได้  นี่คือข้อเสีย
ซึ่งก็ดูฮ่องกงหล่ะกัน  โดนจีนกว้านซื้อ  จนเป็นหนึ่งในเหตุของการประท้วงของนักศึกษา
ซึ่งพวกเขาไม่มีที่จะอยู่  แค่ราคาเช่าก็ปาเข้าไปเดือนละหลายหมื่นบาท 
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 22, 2021, 09:26:01 AM »
[quote/]

มันจะทำให้อสังหาฯบูม  จนมีมูลค่าสูงเกินกว่าที่คนไทยตาดำๆจะซื้อได้  นี่คือข้อเสีย
ซึ่งก็ดูฮ่องกงหล่ะกัน  โดนจีนกว้านซื้อ  จนเป็นหนึ่งในเหตุของการประท้วงของนักศึกษา
ซึ่งพวกเขาไม่มีที่จะอยู่  แค่ราคาเช่าก็ปาเข้าไปเดือนละหลายหมื่นบาท 

นั่นลฃ่ะครับท่านปารีณา

ผมไปเจอแนวคิดว่า

"ปัญหาทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงแล้วคือปัญหาที่ดินและภาษี"
ก็เลยถึงได้บอกว่า การมีนโยบายที่ดินบ้านราคาถูกออกมานี่ แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆแล้ว

อย่างอื่นเราพอผลิตได้ แต่ที่ดินมีจำกัด

ว่าไปแล้วมองในแง่นี้ผมก็พอเข้าใจว่าทำไมมีเศรษฐีหลายคนต้องการเปลี่ยนสังคมไปเป็นสังคมไร้เงินสด
และเศรษฐกิจแบบบริการแทน...แต่ช่วงเลปี่ยนผ่านจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง?
นี่คือเรื่องที่ผมกังวลล่ะครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: trash

ออฟไลน์ trash

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 359
  • ถูกใจแล้ว: 274 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 22, 2021, 09:51:55 AM »
[quote/]

นั่นลฃ่ะครับท่านปารีณา

ผมไปเจอแนวคิดว่า

"ปัญหาทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงแล้วคือปัญหาที่ดินและภาษี"
ก็เลยถึงได้บอกว่า การมีนโยบายที่ดินบ้านราคาถูกออกมานี่ แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆแล้ว

อย่างอื่นเราพอผลิตได้ แต่ที่ดินมีจำกัด

ว่าไปแล้วมองในแง่นี้ผมก็พอเข้าใจว่าทำไมมีเศรษฐีหลายคนต้องการเปลี่ยนสังคมไปเป็นสังคมไร้เงินสด
และเศรษฐกิจแบบบริการแทน...แต่ช่วงเลปี่ยนผ่านจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง?
นี่คือเรื่องที่ผมกังวลล่ะครับ


รบกวนท่านลูกสมุยอธิบายทีว่า  ทำไมเศรษฐีถึงอยากเปลี่ยนให้เป็นสังคมไร้เงินสด  เพราะนั่นอ่ะ
มันจะทำให้สืบย้อนทรัพย์สินที่มีได้  ทั้งยังสืบที่มาที่ไปในการอุดหนุนบางอย่างและการหลีกเลี่ยง
บางอย่าง


//เคยมีคนคิดจะทำ  แต่ก็โดนปฏิวัติซะงั้น  คนๆนั้นเคยคิดจะทำบอนด์อาเซียนด้วยซ้ำ


ฮัลโหลๆๆๆ  อย่าเห็นงานสำคัญกว่าพิมพ์คคห.เวปหมีสิ    :'(  @samuison  มาเล่นกันก่อน~
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,156
  • ถูกใจแล้ว: 2995 ครั้ง
  • ความนิยม: +168/-429
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 22, 2021, 12:40:10 PM »
[quote/]


รบกวนท่านลูกสมุยอธิบายทีว่า  ทำไมเศรษฐีถึงอยากเปลี่ยนให้เป็นสังคมไร้เงินสด  เพราะนั่นอ่ะ
มันจะทำให้สืบย้อนทรัพย์สินที่มีได้  ทั้งยังสืบที่มาที่ไปในการอุดหนุนบางอย่างและการหลีกเลี่ยง
บางอย่าง


//เคยมีคนคิดจะทำ  แต่ก็โดนปฏิวัติซะงั้น  คนๆนั้นเคยคิดจะทำบอนด์อาเซียนด้วยซ้ำ


ฮัลโหลๆๆๆ  อย่าเห็นงานสำคัญกว่าพิมพ์คคห.เวปหมีสิ    :'(  @samuison  มาเล่นกันก่อน~
สั่งศาลให้ยกเลิกไต่สวนทางอิเล็กทรอนิกส์หน่อยครับ ทำงานลำบากมากขึ้นตอนนี้
............
ทฤษฎีสมคบคิดน่ะครับท่าน แต่ผมว่าไม่สมคบคิดเท่าไร
อย่างเรื่องจีนผมเจอคนบ้าๆบอๆพูดมาตั้งแต่ปีที่แล้วล่ะครับ ???
ว่ามันจะตู้มเข้าสักวัน

สังคมไร้เงินสดเห็นแวบๆสโลแกนแถวธนาคารน่ะครับ
ไปอ่านแนวคิดของ world economic forum มาเรื่องสังคมกลายเป็นสังคมให้บริการ และจะมากจะน้อย แม้แต่จีน ก็พยายามทำให้เป็นอย่างนั้น ไม่มีเงินสดอีกต่อไป ปลดภาระจากทองคำ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันอย่างที่บอกไม่เชี่ยวชาญด้านนี้แต่ลองทำตัวเป็นคนหลุดโลกทฤษฎีมคบคิดดูพบว่านโยบายของประเทศต่างๆ เป็นไปในแนวทางเดียวกันจะบอกว่าพวกเขาบ้า ปล่อยข่าวได้ไหม หากข่าวที่พวกเขาพูดคือสิ่งที่คนในโลกนี้ทำกันจริงๆ?
เอเชียบอนด์ ก็ไอ้แม้วอีกแล้วสิะครับ ???
เข้ามาก็เรียกว่าพยายามจะเปลี่ยนเสียทุกอย่างจริงๆ
เรื่องเงินนี่สารภาพตามตรงว่าผมไม่ใช่คนเก่งเรื่องการเงิน แต่อ่านประวัติศาสตร์เจอว่า คนเราฆ่ากันล้างเมืองได้ เพราะพิมพ์เหรียญของเมืองตนเองมาตั้งแต่หน้าประวัติศาสตร์แล้ว
สมัยนี้บิทคอยน์ผมเลยมองว่าจะโดนรัฐปราบปราม แต่น่าเสียดายท่าทางอยู่ในยุคนี้ รัฐคงไล่ห่าฃล้างเมืองแบบเมือ่ก่อนยากกว่า
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ grendel2521

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 226
  • ถูกใจแล้ว: 84 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-6
Re: เรามองทุนนิยมเป็นศาสนากันจริงๆหรือ?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 22, 2021, 02:20:42 PM »
[quote/]ขอบคุณครับท่านยาม

ความจริงผมสังเกตเรื่องแอฟเลี้ยงวัวท่ดังในเพจจ่าพิชิตมีคนบอกว่าความจริงแล้วถ้าทำดีดีมันคือการระดมทุนที่ดีเลยนะ
แต่ก็อย่างว่า หุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือแชณ์แต่เริ่มแรกก็มีแนวคิดที่ดี แต่กลายมาเป็นแบบปัจจุบันไปได้อย่างไรก็ไม่รู้
ผมต้องไปค้นว่า แชร์ความหมายของบ้านเราตามภาษาอังกฤษไม่ใช่ share แต่คือ rotate lend หรืออะไรนี่ล่ะครับ
ผมชักรู้สึกนิดๆแล้วว่าบ้านเราเอาของหลายๆอย่างมาบิดเบือนไปหมด
ขาดเงื่อนไขบางประการไป นโยบายที่ดีก็กลายเป็นแหล่งรวมของคนโลภเท่านั้นเอง :'( [quote/]
ผมรู้สึกว่าน่าสนใจที่เอาเข้าจริงๆ ศาสนาประจำชาติของเราคือพรามหณ์มากวก่าพุทธเหมอืนกัน
อยากทานกุ้งแห้งไปย่างก่อนแล้วค่อยมาททำน้ำพริก
เสียดายมันต้องใช้เวลาทำนาน เตรียมการเยอะ
[quote/]
ก็นั่นล่ะครับ ฮา
นึกถึงเรื่องสตาร์เทรก มีมนุษย์ต่างดาวมาเยี่ยม วอลสตรีท แบบเดียวกับชาวมุสลิมมาเยี่ยมเมกกะ
ว่าคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมทางธึรกิจและการเงินการมีเงินมากๆคือของดี คนที่ตายไปโดยบยไม่มีทรัพย์สินในโลกนี้คือคนที่จะไม่มีทรัพย์สินในโลกหน้าไปด้วย[quote/]
มันมีเรื่อง ฮาที่ผมเจอคือ มีหลายคนอยากเอาระบบทองคำกลับมา
แต่มีคนบอกว่าระบบทองคำทำให้เศรษฐกิจตกต่ำในช่วงสงครามโลก
ว่าตอนนี้ว่ากันจริงๆ ออกห่างจากทองคำ พิมพ์แบ็งก์เองจะทำให้เศรษฐกิจโตเร็วกว่าน่ะครับ

บิทคอยน์คือความน่าเชือ่ถือล้วนๆว่ามันจะชำระหนี้ได้

ผมว่าก็ไม่ต่างกันกับตอนที่เราอยู่ในบ่อน ทำไมเราถึงเชื่อว่าเบี้ยและชิปในบ่อนมีมูลค่าเท่าไร?
[quote/]
ไปเจอแนวคิดของซีไอเอหรืออะไรนี่ล่ะครับ ว่าเงินที่อยู่ใต้ดินก็ไมไ่ด้แปลบว่ามันหายไปไหน น้ำที่อยู่ใต้ดิน บางครั้งมันก้ต้องขึ้นมาบนดินวันยังค่ำ
การเอาธุรกิจมืดขึ้นมาบนดินจะทำให้ดำเนินกิจการได้ดีกว่า
บิทคอยน์คอืการเปลี่ยนเงินใต้ดินให้เป็นเงินบนดินล่ะครับ
บิทคอยน์อาจจะซื้อพิซว่าและจ้างมือปืนได้ในเวลาเดียวกัน แต่เงินจริงๆก็เมหือนกันเราไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง
[quote/]
ก็นั่นล่ะครับผมช็อคไปเหมือนกัน

ทุกคนเมหือนตกอยู่ในมนต์สะกดว่าเศรษฐกิจจะโตไปได้ตลอดกาล ทั้งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไมไ่ด้ แบบแชร์ลูกโซ่ เลื่อนลำดับขั้นแบบขายตรงต่างๆนั่นล่ะเป็นไปได้ทางตัวเลข แต่หกากมีคนต้องการถอนตัวจากระบบเมื่อไร ทั้งหมดก็พังครืนลงทันที
แต่คนก็ยังมองว่า
"ให้เติบโตโดยเร็วที่สุด ดีกว่าเติบโตคแบบมั่นคง ต่อให้ล้มในภายหลังก็ยังถือว่าเติบโตได้ดีกว่าเติบดตแบบช้าช้าอยู่ดี"
แนวคิดที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นตัวอธิบายสถานการณ์ของตลาดเงิน ตลาดทุนต่าๆในปัจจุบันได้
[quote/]
เรื่องนี้น่าสนใจครับ
เจออเมริกันบ่นเหมือนกันว่า federal tax ไม่มีในรธน.นะเฟ้ย
ว่าแนวคิดคือไม่คิดว่ารัฐบาลกลางจะมีอำนาจตั้งหน่วนงานมาควบคุมประชาชนอะไรขนาดนั้น
แต่อย่างว่าโลกเราเปลี่ยนไปเยอะเพระาการต่อสู้ทั้งการทหารและการเมืองต่างๆนั่นล่ะครับ

มาถึงยุคนี้มีคนกล่าวว่าจะเปลี่ยนเป็นโลกไร้เงินสด กันเต็มที่แล้ว
ผมคิดว่ามันจะก้าวไปในแนวไซไฟแล้วว่าอยบ่างนั้นล่ะครับ แต่กลัวควยามเป็นจริงที่มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะ คนเราไม่ใช่ตัวละครในหนัง
มันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น
[quote/]
ลุงตู่จะซ้ำรอยเดิมในเรื่องของการเล่นกับที่ดินล่ะครับ
แต่อย่างว่าล่ะ
ตอนนั้นลุงตู่คงตายไปปแล้วแต่ลุกหลานในอีกไม่เกิน สามสิบปีผมทำนายไว้
ว่าความรุนแรงต้องเกิดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากการถือครองพื้นที่ครองเจ้าครองที่ดินมากขึ้นเรื่อยๆและประชากรที่ไม่มีที่ดินมากขึ้นเรื่อยๆ
ก็ไม่รูว่านโยบาย
"คุณจะไม่มีทรัพย์สินแต่คุณจะอยู่อยบ่างมีความสุข" มันจะได้ผลหรอืเปล่าตามแนวคิดของ worl;d economic forum น่ะครับ
ผมไม่คิดว่าลุงตู่จะมองเรื่องนี้ออก ว่าปล่อยให้คนถือครองที่ดินผิดสัดส่วนผลจะเป็นอย่างไร

ศาสนาประจำแถบ SEA (ลาว ไทย พม่า เขมร) คือ ศาสนาผี+ พุทธ + พราหม์ ครับ หลายอย่างค่อนข้างชัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระเครี่อง การบวชนาค
การบนพระด้วยสิ่งต่างๆ  พระพุทธรูปเป็นพี่น้องกัน




 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก