คุยไร้สาระ-คิดอย่างไรกับการสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ครับ?

[samuison]

ช่วงนี้กำลังคิดเรื่องแนวไซไฟ จักรวรรดิก็เลยต้องคิดมุกนี้ไว้ก่อนน่ะครับ

ผมนึกถึงแนว สตาร์เทรก ที่ให้พวกคนที่มีความสามารถ มนุษย์พันธุ์ใหม่ตัดแต่งพันธุกรรม
มีความสามารถมากกว่าคนปรกติ มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นผู้นำมากกว่า

แนวกันดั้ม ก็มีการถกเถียงวิจารณ์กันสารพัดเรื่องบทบาทที่มนุษย์พันธุ์ใหม่จะมีในโลกอนาคต


แต่แนวความคิดของผมค่อนข้างเห็นด้วยกับอ.คุโบะแห่ง Bleach น่ะครับเจอแนวความคิดคล้ายๆกันจากงานนักวิชากาเรรื่องมนุษย์ด้วย

อ.คุโบะบรรยายในเรื่องว่า
คนที่ครองโลก ไม่ใช่คนเก่งกว่า ฉลาดกว่า พิเศษกว่า แต่คือคนที่มีจำนวนมากกว่าที่จะกำหนดความถูกต้อง

ที่แก๊งค์ฟูลบริงก์พูดปลุกใจกันน่ะครับ

นักวิชาการสมัยนี้ คิดต่างจากสมัยก่อนที่มองว่านีแอนเดอทัลโง่กว่าเราหรืออ่อนแอกว่าเรา มนุษย์พันธุ์ใหม่อย่างเราเลยชนะ

แต่ความจริงคือ กล้ามเนือ้เราอ่อนแอกว่านีแอนเดอทัล นีแอนเดอทัลล่าในเวลากลางคืนไ้ดดีกว่าเพาะตาใหญ่กว่า สมองสามารถถ่ายทอดความรู้การทำเครือ่งมือแบบแทบจะอ่านใจกันไ้ดในการสืบทอดความรู้การทำพวกเครื่องมือมีดหินต่างๆ

แต่มนุษย์เราชนะ เพราะนีแอนเดอทัลสู้มนุษย์จำนวนมากวก่าที่อพยพมาจากแอฟริกาไม่ไหว

เราชนะเพราะเอาพวกมากเข้ารุมล้วนๆ

ตามประวัติศาสตร์ก็วิเคราะห์กันว่าไม่ใช่"สงคราม" แบบสั้นๆแต่กินระยะเวลาหลายแสนปี และมีช่วงที่นีแอนเดอทรัลโต้กลับมนุษย์ได้ด้วย
แต่ก้นั่นล่ะครับ

สู้ด้านจำนวนไม่ไหว

มนุษย์เราที่อ่อนแอกว่า แต่มีจำนวนมากกว่า จึง  ntr ผู้หญิงนีแอนเดอทัล
ทำให้เราจะมากจะน้อยยกเว้นพวกมาจากแอฟริกา จะมีนีแอนเดอทัลอยู่ในตัวเล้กน้อย

คือต่อให้เราสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่มา

ตราบใดที่เร่เราใช้มุกอนิเมะฮาเร็ม

ให้ผสมพันธุ์กัยบผู้หญิงหลายๆคนและมีชีวิตอย่างฮาเร็ม
สุดท้ายสายเลือดก็จะกลืนไปกับมนุษย์ปัจจุบันเอง
จำนวนที่มากวก่าย่อมชนะเสมอ


หรือพูดง่ายๆคือ

แนวคิดแบบโชวเน็นหรือฮาเร็ม ที่จับพวกนี้แต่งงงานนั้นถุกแล้วและได้ผลมากกว่าที่จะฆ่ากันน่ะครับ

ทุกท่านมองว่าอย่างไรกันบ้างครับ?

..


ประเด็นอีกอย่างที่อาจจะเปลี่ยนไปคือ

แม้ผมจะมองว่ามนุษย์พันธุ์ใหม่หากเกิดขึ้นบนโลกเดียวกัน ผ่านไปสักพักก็จะหลอมกลืนเป็นพันธุ์เดียวกันนั่นล่ะ
แต่อาจจะต่างไปหากอยู่ในเซ็ตติ้งอวกาศ

ที่ดาวแต่ละดวงอาจะจสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ขึ้นมาเอง

มุกที่ผมเจอก็คล้ายกับเอาเรื่องนีแอนเดอทรัลกับมนุษย์มาดัดแปลงล่ะครับ
ดาวของมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่ฉลาดกว่าเก่งกว่า
โดนมนุษย์พันธุ์เก่าที่รบกันมาร้อยวันพันปี
หยุดสงครามกันเองกันชั่วขณะและสามัคคีคือพลังกระทืบดาวของมนุษย์พันธุ์ใหม่ก่อน
หลังจากกำจัดมนุษย์พันธุ์ใหม่ล้างดาวได้แล้ว ก็มารบกันเองอย่างมีความสุขต่อไป
บรรยายว่าการสู้รบลำบากมาก มนุษย์พันธุ์ใหม่จัดการมนุษย์พันธุ์ใหม่ได้ถึงสามต่อหนึ่งในการรบและวิทยาการก้าวหน้าถึงสู้ได้ระดับสิบต่อหนึ่งในกองยาน
แต่มนุษย์พันธุ์เก่าสามัคคีคือพลังมีจำนวนมากกว่าห้าสิบเท่าเลยชนะไปเพระาพลังมิตรภาพแบบแนวโชวเน็น

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

ผมคิดว่าคือเรื่องที่น่าสนใจดีเหมือนกัน

แต่คนอ่านคงรู้สึกไม่ชอบสักเท่าไรมั้ง?
หากบอกว่ามนุษย์ปรกติชนะด้วยจำนวนเข้าว่าอย่างนี้

• Tweet

[IsekaiNetwork]

กล่าวในประเด็นปลีกย่อยก่อนหล่ะกัน  มนุษย์ที่ชนะนีแอนเดอทัลได้  เพราะใช้ภาษาสื่สารได้ดีกว่า
เพราะนีแอนเดอทัลมีปัญหาเรื่องกล่องเสียง  ทำให้มีคำศัพท์ที่ใช้สื่อสารได้น้อยกว่ามนุษย์  ถ้าให้
ยกตัวอย่างยุคปัจจุบันก็คือ  ภาษาของเกาะฮาวาย  ที่คำศัพท์น้อยมากๆๆๆ


ส่วนประเด็นหลักที่จะถกก็คือ

ต่อไปในอนาคต  ความต่างศักย์ด้านจำนวนจะเริ่มมีคุณค่าลดน้อยถอยลง  บ้างอาจกลายเป็น
อุปสรรคในบางบรบท  ยุคต่อไปจะเริ่มจากเราผลิตอวัยวะอะไหล่ได้(ตอนนี้เราทำได้แค่เอา
ของอีกคนมาเปลี่ยน)  ต่อไปจะพัฒนาประสิทธิภาพของสมอง  ต่อไปเมื่อเจอกำแพงก็จะ
ก้าวกระโดดด้วยการที่สมองส่วนนึงเป็นไบโอชิป  เป็นเครื่องจักร  ตอนนั้นเราจะมีไมโครชิป
ที่บรรจุทักษะต่างๆขายตามท้องตลาด  ให้ผู้คนมาซื้อชิปนี้แทนที่จะไปโรงเรียน


ต่อไปจะเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ของกลุ่มทาส  เอ๊ย!การประท้วงของหุ่นยนต์  การต้องการ
สิทธิมนุษย์ชนของแอนดรอย  กลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ถือเป็นของปกติ  บ้างบินได้  บ้างดำน้ำลึกได้
ใครจะจับจ่ายซื้อเปลี่ยนอวัยวะ  ซึ่งมีให้ช็อปให้ซื้อเกลื่อนไปหมด  เหมือนเราแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า


หลังจากนั้นความหลากหลายทางชีวภาพจะมีสูง  ใครไคร่มีชีวิตยืนยาวก็ให้แพทย์ช่วย  ใครไคร่
อยากมีปีกหรืออยากเป็นหุ่นยนต์ทั้งตัวก็เลือกได้  แล้วกฏหมายห้ามการเหยียดเชื้อชาติ  สีผิว  เอ๊ย!
ก็จะเข้มงวดมากขึ้น  มนุษย์สายพันธุ์ดั้งเดิมดันใช้เข่ากดที่คอจนทำให้มนุษย์วิวัฒฯหายใจไม่ออก
ทั้งๆที่เขาร้องบอกว่า  "หายใจไม่ออก  แม่จ๋าช่วยด้วยๆ"  ท่ามกลางผู้คนยืนมุงดู  จนทำให้
เขาขาดอากาศหายใจจนตาย  นำมาสู่การประท้วงครั้งใญ่  ในชื่อว่า  [แอนดรอย ไลฟ์ แมทเทอร์]

 

[samuison]

กล่าวในประเด็นปลีกย่อยก่อนหล่ะกัน  มนุษย์ที่ชนะนีแอนเดอทัลได้  เพราะใช้ภาษาสื่สารได้ดีกว่า
เพราะนีแอนเดอทัลมีปัญหาเรื่องกล่องเสียง  ทำให้มีคำศัพท์ที่ใช้สื่อสารได้น้อยกว่ามนุษย์  ถ้าให้
ยกตัวอย่างยุคปัจจุบันก็คือ  ภาษาของเกาะฮาวาย  ที่คำศัพท์น้อยมากๆๆๆ


ส่วนประเด็นหลักที่จะถกก็คือ

ต่อไปในอนาคต  ความต่างศักย์ด้านจำนวนจะเริ่มมีคุณค่าลดน้อยถอยลง  บ้างอาจกลายเป็น
อุปสรรคในบางบรบท  ยุคต่อไปจะเริ่มจากเราผลิตอวัยวะอะไหล่ได้(ตอนนี้เราทำได้แค่เอา
ของอีกคนมาเปลี่ยน)  ต่อไปจะพัฒนาประสิทธิภาพของสมอง  ต่อไปเมื่อเจอกำแพงก็จะ
ก้าวกระโดดด้วยการที่สมองส่วนนึงเป็นไบโอชิป  เป็นเครื่องจักร  ตอนนั้นเราจะมีไมโครชิป
ที่บรรจุทักษะต่างๆขายตามท้องตลาด  ให้ผู้คนมาซื้อชิปนี้แทนที่จะไปโรงเรียน


ต่อไปจะเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ของกลุ่มทาส  เอ๊ย!การประท้วงของหุ่นยนต์  การต้องการ
สิทธิมนุษย์ชนของแอนดรอย  กลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ถือเป็นของปกติ  บ้างบินได้  บ้างดำน้ำลึกได้
ใครจะจับจ่ายซื้อเปลี่ยนอวัยวะ  ซึ่งมีให้ช็อปให้ซื้อเกลื่อนไปหมด  เหมือนเราแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า


หลังจากนั้นความหลากหลายทางชีวภาพจะมีสูง  ใครไคร่มีชีวิตยืนยาวก็ให้แพทย์ช่วย  ใครไคร่
อยากมีปีกหรืออยากเป็นหุ่นยนต์ทั้งตัวก็เลือกได้  แล้วกฏหมายห้ามการเหยียดเชื้อชาติ  สีผิว  เอ๊ย!
ก็จะเข้มงวดมากขึ้น  มนุษย์สายพันธุ์ดั้งเดิมดันใช้เข่ากดที่คอจนทำให้มนุษย์วิวัฒฯหายใจไม่ออก
ทั้งๆที่เขาร้องบอกว่า  "หายใจไม่ออก  แม่จ๋าช่วยด้วยๆ"  ท่ามกลางผู้คนยืนมุงดู  จนทำให้
เขาขาดอากาศหายใจจนตาย  นำมาสู่การประท้วงครั้งใญ่  ในชื่อว่า  [แอนดรอย ไลฟ์ แมทเทอร์]

 

ขอบคุณครับท่านปาร๊ณา
ช่วงนี้สนใฝจแนวไซบเอรืพังก์มากขึ้นเพระารู้สึกว่าน่าสนใจ แต่รู้วึกว่าเขียนยาก ว่าจะกลับไปเขียนแนวแฟนตาซซีดีกว่าล่ะครับ

ไซเบอร์พังก์รากฐานแนวคิดคือ
"สังคมที่เสื่อมโทรมแต่เทคโนโลยีระดับสูง"
ว่าเทคโนโลยีไม่ได้ทำให้คนทำดีต่อกันมากขึ้นแต่ประการใดนั่นเอง
เปลี่ยนอวยัวะผมเห็นมีการลฃัดคิวกันให้นักธุรกิจด้วยลฃ่ะครับ คนธรรมดาก้คอยไปเถอะอะไรที่รักษาได้ถ้ามีเงินกับไม่มีเงิน ช่องว่างจะแตกต่างกันมากขึ้นกับสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้

[sariora123]

ผู้ที่จะครองโลกได้คือคนที่ยืนอยู่ได้ในท้ายที่สุด ตามหลักการวิวัฒนาการ


เราจะนิยามการสร้างมนุษย์พันธ์ใหม่ยังไง ก็เท่านั้นแหละว่า


การใช้กำเนิดแบบธรรมชาติคือแบบดั้งเดิม หรือในยุคที่เราสามารถกำหนดพันธุกรรม
ของลูกเราเองที่จะเกิดขึ้นมาได้ เราจะเลือกอันไหนกัน


ถ้าหากมนุษย์เราเข้าใจด้านพันธุกรรมมากขึ้นจนถึงขั้นสูงสุด เราอาจมองว่าพันธุกรรม
เหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นตัวกำหนดลักษณะต่างๆ ของมนุษย์ตอนนั้น
การจะสร้างลูกของตัวเองตามแบบที่เราต้องการขึ้นมาได้ก็คงจะไม่แปลกอะไร
แต่จะเป็นยังไง หากมีพันธุกรรมบางอย่าง ที่ในตัวเรานั้น ไม่มี แต่เป็นลักษณะแสดง ที่เราต้องการจะให้มีในรุ่นลูกของเรา  จะทำยังไงกัน  หรือบางที่เราอาจจะมี การจดสิทธิบัตรการเป็นเจ้าของพันธุกรรมต่างๆ  อยากได้บางอย่างที่ตัวเองไม่มีก็ต้องไปซื้อเอามาใส่เพิ่ม


ผมมองว่า สุดท้ายแล้วมนุษย์เราไม่อาจหยุดการพัฒนาไปได้ ยังไงมันก็ต้องมาสักวันจะมาอีท่าไหนก็เท่านั้น 
    ถ้าผมจำไม่ผิด ในบางประเทศนี่มีบ.จัดหาคู่โดยการตรวจ DNA ของผู้เข้าสมัคร์และจัดหาคู่ทางDNA ที่จะได้บุตรออกมาตามแบบที่ต้องการ มันก็มีนะ  แบบใน Love & liar ที่มีการเลือกคู่ของแต่ละคนไว้ให้ว่าเป็นการเข้าคู่ทาง DNA ที่เหมาะที่สุด

[TomDurrrr]

[quote/]
ขอบคุณครับท่านปาร๊ณา
ช่วงนี้สนใฝจแนวไซบเอรืพังก์มากขึ้นเพระารู้สึกว่าน่าสนใจ แต่รู้วึกว่าเขียนยาก ว่าจะกลับไปเขียนแนวแฟนตาซซีดีกว่าล่ะครับ

ไซเบอร์พังก์รากฐานแนวคิดคือ
"สังคมที่เสื่อมโทรมแต่เทคโนโลยีระดับสูง"
ว่าเทคโนโลยีไม่ได้ทำให้คนทำดีต่อกันมากขึ้นแต่ประการใดนั่นเอง
เปลี่ยนอวยัวะผมเห็นมีการลฃัดคิวกันให้นักธุรกิจด้วยลฃ่ะครับ คนธรรมดาก้คอยไปเถอะอะไรที่รักษาได้ถ้ามีเงินกับไม่มีเงิน ช่องว่างจะแตกต่างกันมากขึ้นกับสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้

ไปที่ประเทศที่ด้อยค่าสิทธิมนุษย์ชนสิ  เขามีอวัยวะให้จองให้เปลี่ยนเยอะแยะ  ประเทศนี้อยู่ด้านบน
ของประเทศสารขัณฑ์นี่เอง  เทคโนโลยีสูงไม่ได้เป็นตัววัดระดับความมีศีลธรรม  ลองมองดูที่ประเทศ
ด้านบนของประเทศสารขัณฑ์สิ  อ๊ะ!  แต่ประเทศนั้นมีการ์ดแต้มคุณงามความดีอ่ะนะ


ท่านจะเขียนแนวนี้  แนวมนุษย์ดั้งเดิม vs มนุษย์กลายพันธุ์ของอนาคต  ท่านก็แค่ลองมองดู
ประวัตศาสตร์การสร้างชาติของอเมริกา  ก็น่าจะได้พล็อตในหลายๆอย่างเลยนะ  อย่างการ
ปลดแอกทาส  ก็นำมาประยุกต์ว่า  มีการปลดแอกหุ่นยนต์จากมนุษย์  มนุษย์ต้องเคารพสิทธิ
หุ่นยนต์มากขึ้น  หรือการดูถูก  การเหยียดของคนคร่ำครึที่เหยียดผิวสี  ก็สามารถนำมาใช้
ในประเด็นมนุษย์คร่ำรึดูถูกมนุษย์วิวัฒฯ  เล่นประเด็นพวกนี้ได้อีกมากมาย 

EDIT :

พออ่านทวนข้อความของท่านอีกครั้ง  ทำให้นึกถึงข่าวที่พูดมั่วๆว่า  vvip ลัดคิวฉีดวัคซีนแฮะ
ตั้งกะช่วงที่มีข่าวแบบนี้แล้ว  ตอนแรกขำแล้วก็รู้สึกไร้สาระ  เพราะถ้าเป็น  vvip จริง  เขาไป
ฉีดต่างประเทศก็ได้  อย่างหลายๆคนที่ก็ไม่ได้เป็นถึงขั้น vvip เขายังโพสต์โซเชียลเยอะแยะ
ที่ไปฉีดต่างประเทศ  ไม่เห็นจำเป็นต้องเดือดร้อนอะไร  จะมีก็แต่ vvip เก๊  จำพวกมีอำนาจแค่
กำนัน  อบต.  นักธุรกิจจนๆ  ก็ไม่มีปัญญาบินไปฉีดเท่านั้นแหละ  แล้วสำนักข่าวก็อุปโลกพวกนี้
ว่าเป็น  vvip  ยกย่องพวกนี้ว่าเป็น vvip

[Rumia]

ช่วงนี้กำลังคิดเรื่องแนวไซไฟ จักรวรรดิก็เลยต้องคิดมุกนี้ไว้ก่อนน่ะครับ

ผมนึกถึงแนว สตาร์เทรก ที่ให้พวกคนที่มีความสามารถ มนุษย์พันธุ์ใหม่ตัดแต่งพันธุกรรม
มีความสามารถมากกว่าคนปรกติ มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นผู้นำมากกว่า

แนวกันดั้ม ก็มีการถกเถียงวิจารณ์กันสารพัดเรื่องบทบาทที่มนุษย์พันธุ์ใหม่จะมีในโลกอนาคต


แต่แนวความคิดของผมค่อนข้างเห็นด้วยกับอ.คุโบะแห่ง Bleach น่ะครับเจอแนวความคิดคล้ายๆกันจากงานนักวิชากาเรรื่องมนุษย์ด้วย

อ.คุโบะบรรยายในเรื่องว่า
คนที่ครองโลก ไม่ใช่คนเก่งกว่า ฉลาดกว่า พิเศษกว่า แต่คือคนที่มีจำนวนมากกว่าที่จะกำหนดความถูกต้อง

ที่แก๊งค์ฟูลบริงก์พูดปลุกใจกันน่ะครับ

นักวิชาการสมัยนี้ คิดต่างจากสมัยก่อนที่มองว่านีแอนเดอทัลโง่กว่าเราหรืออ่อนแอกว่าเรา มนุษย์พันธุ์ใหม่อย่างเราเลยชนะ

แต่ความจริงคือ กล้ามเนือ้เราอ่อนแอกว่านีแอนเดอทัล นีแอนเดอทัลล่าในเวลากลางคืนไ้ดดีกว่าเพาะตาใหญ่กว่า สมองสามารถถ่ายทอดความรู้การทำเครือ่งมือแบบแทบจะอ่านใจกันไ้ดในการสืบทอดความรู้การทำพวกเครื่องมือมีดหินต่างๆ

แต่มนุษย์เราชนะ เพราะนีแอนเดอทัลสู้มนุษย์จำนวนมากวก่าที่อพยพมาจากแอฟริกาไม่ไหว

เราชนะเพราะเอาพวกมากเข้ารุมล้วนๆ

ตามประวัติศาสตร์ก็วิเคราะห์กันว่าไม่ใช่"สงคราม" แบบสั้นๆแต่กินระยะเวลาหลายแสนปี และมีช่วงที่นีแอนเดอทรัลโต้กลับมนุษย์ได้ด้วย
แต่ก้นั่นล่ะครับ

สู้ด้านจำนวนไม่ไหว

มนุษย์เราที่อ่อนแอกว่า แต่มีจำนวนมากกว่า จึง  ntr ผู้หญิงนีแอนเดอทัล
ทำให้เราจะมากจะน้อยยกเว้นพวกมาจากแอฟริกา จะมีนีแอนเดอทัลอยู่ในตัวเล้กน้อย

คือต่อให้เราสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่มา

ตราบใดที่เร่เราใช้มุกอนิเมะฮาเร็ม

ให้ผสมพันธุ์กัยบผู้หญิงหลายๆคนและมีชีวิตอย่างฮาเร็ม
สุดท้ายสายเลือดก็จะกลืนไปกับมนุษย์ปัจจุบันเอง
จำนวนที่มากวก่าย่อมชนะเสมอ


หรือพูดง่ายๆคือ

แนวคิดแบบโชวเน็นหรือฮาเร็ม ที่จับพวกนี้แต่งงงานนั้นถุกแล้วและได้ผลมากกว่าที่จะฆ่ากันน่ะครับ

ทุกท่านมองว่าอย่างไรกันบ้างครับ?

..


ประเด็นอีกอย่างที่อาจจะเปลี่ยนไปคือ

แม้ผมจะมองว่ามนุษย์พันธุ์ใหม่หากเกิดขึ้นบนโลกเดียวกัน ผ่านไปสักพักก็จะหลอมกลืนเป็นพันธุ์เดียวกันนั่นล่ะ
แต่อาจจะต่างไปหากอยู่ในเซ็ตติ้งอวกาศ

ที่ดาวแต่ละดวงอาจะจสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ขึ้นมาเอง

มุกที่ผมเจอก็คล้ายกับเอาเรื่องนีแอนเดอทรัลกับมนุษย์มาดัดแปลงล่ะครับ
ดาวของมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่ฉลาดกว่าเก่งกว่า
โดนมนุษย์พันธุ์เก่าที่รบกันมาร้อยวันพันปี
หยุดสงครามกันเองกันชั่วขณะและสามัคคีคือพลังกระทืบดาวของมนุษย์พันธุ์ใหม่ก่อน
หลังจากกำจัดมนุษย์พันธุ์ใหม่ล้างดาวได้แล้ว ก็มารบกันเองอย่างมีความสุขต่อไป
บรรยายว่าการสู้รบลำบากมาก มนุษย์พันธุ์ใหม่จัดการมนุษย์พันธุ์ใหม่ได้ถึงสามต่อหนึ่งในการรบและวิทยาการก้าวหน้าถึงสู้ได้ระดับสิบต่อหนึ่งในกองยาน
แต่มนุษย์พันธุ์เก่าสามัคคีคือพลังมีจำนวนมากกว่าห้าสิบเท่าเลยชนะไปเพระาพลังมิตรภาพแบบแนวโชวเน็น

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

ผมคิดว่าคือเรื่องที่น่าสนใจดีเหมือนกัน

แต่คนอ่านคงรู้สึกไม่ชอบสักเท่าไรมั้ง?
หากบอกว่ามนุษย์ปรกติชนะด้วยจำนวนเข้าว่าอย่างนี้

ถ้าจำนวนชนะคุณภาพจีนก็ครองโลกไปแล้วสิครับไอ้ลิงตีกันสมัยล้านปีที่ว่านะแข็งแรงกว่าแค่นิดเดียว ผมยกตัวอย่างถ้าเอาคนยุคหินสองเผ่าที่ว่ามาตีกันหนึ่งๆผลคือฝ่ายชนะคือเกือบตาย ว่าง่ายๆคือเก่งกว่านิดเดียวมันคือการสู้แบบเก่งพอๆกันตีกันฝ่ายไหนมากกว่าชนะ แต่เอาแค่ปัจจุบันมีคนมากแล้วไงสู้คนคิดนิวเคลียได้ไหม ความต่างของความฉลาดมันจะทำไห้กำลังรบสูงขึ้นเรื่อยๆครับ จนเอาจำนวนมาถมไม่ได้อย่างจีนเองตอนโดนณี่ปุ่นยึดช่วงสงครามเป็นตัวอย่าง จำนวนคนจีนกับทหารณี่ปุ่นที่มาบุกคิดเป็นสัดส่วนคร่าวๆจีน1000คนต่อณี่ปุ่น1คนนะครับ แต่ทำใมจีนแพ้ถ้าเอาพวกมาเข้ารุมแล้วชนะทำใมจีนแพ้ครับอาวุธก็ไช้ปืนเหมือนกัน แค่ณี่ปุ่นมีอาวุธดีกว่ารุ่นเดียวแต่จีนแพ้ยับนี่คือความต่างของความฉลาดครับ ยิ่งเวลาผ่านไปคนเรายิ่งฉลาดมากขึ้นต่อไปคนๆเดียวอาจสร้างหุ่นหรือกองยานมายิงได้เลย และถ้าคุณภาพอีกฝ่ายต่ำกว่าสักรุ่นคือแพ้ยับแน่นอน

[sariora123]

คุณภาพมีส่วนจริงๆ นั่นแหละครับ


ตอน WW2 เยอรมันนี บุกยุโรปเรียกได้ว่าอัดซะยับทั้งทวีป รวมไปถึงโซเวียดเก่าด้วย
เรียกได้ว่าถ้าตอนโน้น ลุงหนวนจิ๋มไม่เล่นแผนผิด หรือ อเมริกาไม่ได้ให้การสนับสนุนด้าน
เสบียง กับอาวุธผมมองไว้ว่ายังไงโซเวียตก็ไม่น่าจะสู้เยอรมันได้เลย


ต่อให้นาซีแพ้  แต่คงไม่ได้แพ้แบบโดนบุกถึงเมืองหลวง อาจได้เจรจายอมแพ้ก็ได้

[Wannabe]

[quote/]
ถ้าจำนวนชนะคุณภาพจีนก็ครองโลกไปแล้วสิครับไอ้ลิงตีกันสมัยล้านปีที่ว่านะแข็งแรงกว่าแค่นิดเดียว ผมยกตัวอย่างถ้าเอาคนยุคหินสองเผ่าที่ว่ามาตีกันหนึ่งๆผลคือฝ่ายชนะคือเกือบตาย ว่าง่ายๆคือเก่งกว่านิดเดียวมันคือการสู้แบบเก่งพอๆกันตีกันฝ่ายไหนมากกว่าชนะ แต่เอาแค่ปัจจุบันมีคนมากแล้วไงสู้คนคิดนิวเคลียได้ไหม ความต่างของความฉลาดมันจะทำไห้กำลังรบสูงขึ้นเรื่อยๆครับ จนเอาจำนวนมาถมไม่ได้อย่างจีนเองตอนโดนณี่ปุ่นยึดช่วงสงครามเป็นตัวอย่าง จำนวนคนจีนกับทหารณี่ปุ่นที่มาบุกคิดเป็นสัดส่วนคร่าวๆจีน1000คนต่อณี่ปุ่น1คนนะครับ แต่ทำใมจีนแพ้ถ้าเอาพวกมาเข้ารุมแล้วชนะทำใมจีนแพ้ครับอาวุธก็ไช้ปืนเหมือนกัน แค่ณี่ปุ่นมีอาวุธดีกว่ารุ่นเดียวแต่จีนแพ้ยับนี่คือความต่างของความฉลาดครับ ยิ่งเวลาผ่านไปคนเรายิ่งฉลาดมากขึ้นต่อไปคนๆเดียวอาจสร้างหุ่นหรือกองยานมายิงได้เลย และถ้าคุณภาพอีกฝ่ายต่ำกว่าสักรุ่นคือแพ้ยับแน่นอน

ทำให้นึกถึงปืนแก็ตลิงที่ทำร้ายล้างซามูไรในหนังเดอะลาสซามูไรที่คีอานู รีฟส์ แสดงแฮะ
แล้วก็นึกถึงหนังจีนเรื่องนึง  ที่กองทัพจีนถือดาบวิ่งไปให้ปืนกลเก็ตลิ่งตายห่ากันหมด  =="



ต่อไปจำนวนประชากรอาจเป็นตัวถ่วงในบางบริบท  เพราะค่าสวัสดิการไม่คุ้มพอ  ที่จะ
จ่ายให้กับกลุ่มที่จ่ายภาษีได้ไม่คุ้มทุน  ไม่คุ้มกับค่าสวัสดิการที่รัฐต้องจำใจมอบให้  ฐานปิรามิด
หาที่ไหนก็ได้  จ้างแรงงานที่อื่นเพื่อไม่ต้องมอบสวัสดิการก็ได้  คล้ายๆจ้างฟรีแลนซ์  ที่บริษัท
ไม่ต้องอะไรมาก  จ่ายเป็นจ็อปๆไป  พอหมดประโยชน์ก็เลิกจ้าง  หรืออย่างตอนนี้ก็คำฮิตเพื่อ
เลี่ยงสวัสดิการแรงงาน  คำๆนั้นคือ  [รับสมัครพาร์ทเนอร์]  ฮา  คุ้นๆคำนี้กันมั๊ย  เอาไว้เลี่ยง
กฏหมายแรงงาน 

[pol]

ปริมาณชนะคุณภาพได้ครับถ้าต่างกันไม่มาก เยอรมันกับโซเวียตในww2 นะห่างกันประมาณ1-2 หน่วย แล้วที่เยอรมันแพ้เป็นเพราะ 1 วางแผนผิด  2 อเมริกาช่วยโซเวียต  3 ญี่ปุ่นไม่สามารถตีกระหนาบจากอีกด้านได้ ถ้าไม่งั้นโซเวียตแหลกไปแล้วละท่าน  ถ้ายุคใหม่ก็ดูอเมริการบกับตาลีบันก็ได้ว่าอเมริกา1คนฆ่าตาลีบันได้กี่คน?  แล้วจีนกับอเมริกานี่ยิ่งไปกันใหญ่คนอเมริกา60% ยิงปืนเป็น  คนจีน 95% ไม่เคยกระทั่งเห็นปืนBBGun ด้วยซ้ำไป

[name123]

ปริมาณชนะคุณภาพได้ครับถ้าต่างกันไม่มาก เยอรมันกับโซเวียตในww2 นะห่างกันประมาณ1-2 หน่วย แล้วที่เยอรมันแพ้เป็นเพราะ 1 วางแผนผิด  2 อเมริกาช่วยโซเวียต  3 ญี่ปุ่นไม่สามารถตีกระหนาบจากอีกด้านได้ ถ้าไม่งั้นโซเวียตแหลกไปแล้วละท่าน  ถ้ายุคใหม่ก็ดูอเมริการบกับตาลีบันก็ได้ว่าอเมริกา1คนฆ่าตาลีบันได้กี่คน?  แล้วจีนกับอเมริกานี่ยิ่งไปกันใหญ่คนอเมริกา60% ยิงปืนเป็น  คนจีน 95% ไม่เคยกระทั่งเห็นปืนBBGun ด้วยซ้ำไป

ปริมาณชนะคุณภาพได้  แต่ทำไมที่ท่านพลยกตัวอย่างมา  มันทะแม่งๆเหมือนว่าคุณภาพชนะปริมาณ??
ผมว่ายิ่งต่อจากนี้  คุณภาพยิ่งถีบห่างจากปริมาณ  เพราะปริมาณเยอะมันเทอะทะ  มันต้นทุนสูง  มันมี
ค่าใช้จ่ายแฝงสูง  ในโลกอนาคตยิ่งแล้วใหญ่  ถ้ามีคุณภาพมีเงินมีเทคโนโลยี  ก็ยิ่งสามารถเข้ามาอุด
รอยรั่วของความต่างศักย์นี้ได้มากยิ่งขึ้น


ใช้คนทำงานหลายพันคน  vs  ใช้คนหลักไม่กี่สิบคนในโรงงานที่เอาเทคโนโลยีมาช่วยผลิตแบบ
ครบวงจรย์  ด้านการทหารก็อีก  มีเทคโนโลยีบวกกำลังทรัพย์เอาเข้ามาช่วย  ดีกว่าฝึกนักบินหนึ่งคน
ที่ค่าใช้จ่ายเป็นสิบล้าน  แถมถ้าตายก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวทหาร  ยิ่งถ้าไม่ตายแล้วพิการยิ่งซวยใหญ่ 
เพราะนอกจากจ่ายค่ารักษายังต้องจ่าย  เขาก็ต้องเกษียณกินเงินเข้าไปอีก  แต่ถ้ามีเทคโนโลยี  จะ
ผลิตเท่าไรก็ได้ถ้ามีทุนทรัพย์  พังก็ซ่อมหรือผลิตใหม่  เปลี่ยนรุ่นได้ตามยุคสมัย  ไม่ต้องฝึกใหม่แบบ
มนุษย์

[pol]

[quote/]

ปริมาณชนะคุณภาพได้  แต่ทำไมที่ท่านพลยกตัวอย่างมา  มันทะแม่งๆเหมือนว่าคุณภาพชนะปริมาณ??
ผมว่ายิ่งต่อจากนี้  คุณภาพยิ่งถีบห่างจากปริมาณ  เพราะปริมาณเยอะมันเทอะทะ  มันต้นทุนสูง  มันมี
ค่าใช้จ่ายแฝงสูง  ในโลกอนาคตยิ่งแล้วใหญ่  ถ้ามีคุณภาพมีเงินมีเทคโนโลยี  ก็ยิ่งสามารถเข้ามาอุด
รอยรั่วของความต่างศักย์นี้ได้มากยิ่งขึ้น


ใช้คนทำงานหลายพันคน  vs  ใช้คนหลักไม่กี่สิบคนในโรงงานที่เอาเทคโนโลยีมาช่วยผลิตแบบ
ครบวงจรย์  ด้านการทหารก็อีก  มีเทคโนโลยีบวกกำลังทรัพย์เอาเข้ามาช่วย  ดีกว่าฝึกนักบินหนึ่งคน
ที่ค่าใช้จ่ายเป็นสิบล้าน  แถมถ้าตายก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวทหาร  ยิ่งถ้าไม่ตายแล้วพิการยิ่งซวยใหญ่ 
เพราะนอกจากจ่ายค่ารักษายังต้องจ่าย  เขาก็ต้องเกษียณกินเงินเข้าไปอีก  แต่ถ้ามีเทคโนโลยี  จะ
ผลิตเท่าไรก็ได้ถ้ามีทุนทรัพย์  พังก็ซ่อมหรือผลิตใหม่  เปลี่ยนรุ่นได้ตามยุคสมัย  ไม่ต้องฝึกใหม่แบบ
มนุษย์

ผมถึงบอกไงท่านว่าถ้า(ไม่มาก)  แต่ถ้าเป็นสมัยนี้เราลองนึกภาพ โรงงานผลิตมีดแบบโบราณดูก็ได้ครับ มีคนงาน 3,000 คน ผลิตแบบโบราณใช้ฆ้อนตี ชุบน้ำ  ลับคมด้วยมือ ผลิตผมให้เยอะเว่อร์ๆเลย 9,000 เล่ม ต่อวัน คุณภาพก็ไม่แน่นอนด้วยนะ  แต่โรงงานทันสมัยใช้เครื่องจักรผลิต ผมให้วันละ90,000 เล่มต่อวัน  คุณภาพแน่นอนกว่าเยอะ  โรงงานแบบเก่าจะเอาอะไรไปสู้ครับ?

[daily]

[quote/] ผมถึงบอกไงท่านว่าถ้า(ไม่มาก)  แต่ถ้าเป็นสมัยนี้เราลองนึกภาพ โรงงานผลิตมีดแบบโบราณดูก็ได้ครับ มีคนงาน 3,000 คน ผลิตแบบโบราณใช้ฆ้อนตี ชุบน้ำ  ลับคมด้วยมือ ผลิตผมให้เยอะเว่อร์ๆเลย 9,000 เล่ม ต่อวัน คุณภาพก็ไม่แน่นอนด้วยนะ  แต่โรงงานทันสมัยใช้เครื่องจักรผลิต ผมให้วันละ90,000 เล่มต่อวัน  คุณภาพแน่นอนกว่าเยอะ  โรงงานแบบเก่าจะเอาอะไรไปสู้ครับ?

ทำให้นึกถึง   ปฏิวัติอุตสาหกรรม  ทั้งครั้งที่ 1 ยันครั้งที่ 4 
นี่ถ้าต่อไป  มนุษย์อนาคตมีสมองเป็นไบโอชิปหรือมีสมองที่
คล้ายๆในหนังคนเหล็ก  ที่จักรกลสกายแท็ค  หรือในหนัง
เดอะเมทริกซ์  ยิ่งสามารถคุมทั้งหมดได้  น่ากลัว

 

[pol]

ถ้าจะคุยกันง่ายๆแนะนำให้ไปดูอะนิเมะเรื่อง กันดั้ม ซี๊ด ครับ มันจะบอกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง การเมือง สงคราม ความสามารถในการผลิต ฯลฯ  แต่อย่าไปดูภาคเดสทินี่เน้อเสียเวลาชีวิตเปล่าๆ

[sariora123]

จริงๆ ในกันดั้ม มันก็พอสือออกมาได้ระดับนึงอ่ะนะ ซาคุสเปคเมพ แต่จำนวนน้อยกว่า แถมพวกที่ดึงความสามารถออกมาได้จริงๆ ก็มีน้อยซะอีก ถ้าเจอรุ่นผลิตจำนวนมาก จนทิ้งห่างจัดๆ จริงๆก็สู้ลำบาก




แบบโรงงานเก่าผม ผลิตมือ ได้ยอดเดือนละ 10000 กว่า(อันนี้คือระดับเยอะที่สุดโดยคนงานเท่ากัน) แต่เล่นเครื่องจักรถ้าจูนดีๆ คุมคุณภาพวัตถุดิบได้
ผลิตได้เดือนล่ะ 40000 กว่าแต่ถ้าเครื่องจูนนิ่งจริงๆ ในทางทฤษฏีแล้วล่ะก็ อาจทะลุไปถึง 5-60000 ได้นะ(มันแค่ทฤษฏีในกรณีที่ไม่เกิดปัญหาใดๆ เลย)   คุณภาพเอาแค่ 80% ของที่ทำมือ นี่ปริมาณมันก็ทิ้งกันขนาดไหนล่ะ

[quote/]

ปริมาณชนะคุณภาพได้  แต่ทำไมที่ท่านพลยกตัวอย่างมา  มันทะแม่งๆเหมือนว่าคุณภาพชนะปริมาณ??
ผมว่ายิ่งต่อจากนี้  คุณภาพยิ่งถีบห่างจากปริมาณ  เพราะปริมาณเยอะมันเทอะทะ  มันต้นทุนสูง  มันมี
ค่าใช้จ่ายแฝงสูง  ในโลกอนาคตยิ่งแล้วใหญ่  ถ้ามีคุณภาพมีเงินมีเทคโนโลยี  ก็ยิ่งสามารถเข้ามาอุด
รอยรั่วของความต่างศักย์นี้ได้มากยิ่งขึ้น


ใช้คนทำงานหลายพันคน  vs  ใช้คนหลักไม่กี่สิบคนในโรงงานที่เอาเทคโนโลยีมาช่วยผลิตแบบ
ครบวงจรย์  ด้านการทหารก็อีก  มีเทคโนโลยีบวกกำลังทรัพย์เอาเข้ามาช่วย  ดีกว่าฝึกนักบินหนึ่งคน
ที่ค่าใช้จ่ายเป็นสิบล้าน  แถมถ้าตายก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวทหาร  ยิ่งถ้าไม่ตายแล้วพิการยิ่งซวยใหญ่ 
เพราะนอกจากจ่ายค่ารักษายังต้องจ่าย  เขาก็ต้องเกษียณกินเงินเข้าไปอีก  แต่ถ้ามีเทคโนโลยี  จะ
ผลิตเท่าไรก็ได้ถ้ามีทุนทรัพย์  พังก็ซ่อมหรือผลิตใหม่  เปลี่ยนรุ่นได้ตามยุคสมัย  ไม่ต้องฝึกใหม่แบบ
มนุษย์[size=78%][/font][/size]

เอาแบบตำนาน T34 รถถังในตำนาน (หลายๆ ด้าน)  ที่เรียกได้ว่าโดนสถิติแล้ว มีประมาณการจากข้อมูที่ว่า
 t34 ราวๆ 40 % พังก่อนที่จะได้เจอหน้ารถถังเยอรมันซะอีก นอกนั้น เห็นว่ามีแค่ราวๆ 30% ที่ได้ประจันหน้ากับเยอรมัน และเกือบครึ่งเละ     สรุปคือ เรียกได้ว่า รุ่นนี้ mass กันสัดๆ แบบว่าไอ้ที่เคยได้สู้กันจริงๆ มีไม่ถึงครึ่งนึงด้วยซ้ำ นอกนั้นมีส่วนร่วมในการวางกำลัง หรือภารกิจต่างๆสรุปว่ามันมีบทบาทเยอะครับ แต่ใช้งานจริงก็นะ     สรุปคือปริมาณมันทิ้งห่างกันเยอะมาก


     เหมือนกับเครื่องบินรุ่น P54 เช่นกันตำนานของมันมาจากบทบาทหน้าที่และผลงานโดนรวมที่เครื่องรุ่นนี้สร้างเอาไว้  ถ้าผมจำไม่ผิดผลิตมามากกว่า 20000 ลำเหลือทิ้งเหลือขว้าง จบสงครามแล้วก็ยังเหลือ จนเห็นว่าเอาไปขายทิ้งให้ ชาวบ้านเลยนะหลังสงคราม
     
    คุณภาพ กับปริมาณ  2 ฝั่งนี้มันสามารถกลบกันไปมาได้ ในกรณีที่ทิ้งห่างกันไม่มาก แต่ถ้ามีฝั่งใดที่มันทิ้งห่างกันมากจริงๆ แล้วล่ะก็ ไม่ไหวครับ 

[samuison]

[quote/]

ไปที่ประเทศที่ด้อยค่าสิทธิมนุษย์ชนสิ  เขามีอวัยวะให้จองให้เปลี่ยนเยอะแยะ  ประเทศนี้อยู่ด้านบน
ของประเทศสารขัณฑ์นี่เอง  เทคโนโลยีสูงไม่ได้เป็นตัววัดระดับความมีศีลธรรม  ลองมองดูที่ประเทศ
ด้านบนของประเทศสารขัณฑ์สิ  อ๊ะ!  แต่ประเทศนั้นมีการ์ดแต้มคุณงามความดีอ่ะนะ


ท่านจะเขียนแนวนี้  แนวมนุษย์ดั้งเดิม vs มนุษย์กลายพันธุ์ของอนาคต  ท่านก็แค่ลองมองดู
ประวัตศาสตร์การสร้างชาติของอเมริกา  ก็น่าจะได้พล็อตในหลายๆอย่างเลยนะ  อย่างการ
ปลดแอกทาส  ก็นำมาประยุกต์ว่า  มีการปลดแอกหุ่นยนต์จากมนุษย์  มนุษย์ต้องเคารพสิทธิ
หุ่นยนต์มากขึ้น  หรือการดูถูก  การเหยียดของคนคร่ำครึที่เหยียดผิวสี  ก็สามารถนำมาใช้
ในประเด็นมนุษย์คร่ำรึดูถูกมนุษย์วิวัฒฯ  เล่นประเด็นพวกนี้ได้อีกมากมาย 

EDIT :

พออ่านทวนข้อความของท่านอีกครั้ง  ทำให้นึกถึงข่าวที่พูดมั่วๆว่า  vvip ลัดคิวฉีดวัคซีนแฮะ
ตั้งกะช่วงที่มีข่าวแบบนี้แล้ว  ตอนแรกขำแล้วก็รู้สึกไร้สาระ  เพราะถ้าเป็น  vvip จริง  เขาไป
ฉีดต่างประเทศก็ได้  อย่างหลายๆคนที่ก็ไม่ได้เป็นถึงขั้น vvip เขายังโพสต์โซเชียลเยอะแยะ
ที่ไปฉีดต่างประเทศ  ไม่เห็นจำเป็นต้องเดือดร้อนอะไร  จะมีก็แต่ vvip เก๊  จำพวกมีอำนาจแค่
กำนัน  อบต.  นักธุรกิจจนๆ  ก็ไม่มีปัญญาบินไปฉีดเท่านั้นแหละ  แล้วสำนักข่าวก็อุปโลกพวกนี้
ว่าเป็น  vvip  ยกย่องพวกนี้ว่าเป็น vvip

ฮา ท่านมองระดับสูงเกินไปแล้วครับ
ระดับชาวบ้านแค่ผู้ใหญ่บ้าน สท. ก็อำนาจล้นฟ้าในขอบเขตพื้นที่นั้น สั่งตายกันได้แล้วครับผมหากให้ถามผม
การอยู่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพ ทางเทคนิคปลอดภัยกว่าการอยู่ตามป่าตามเขาที่ระดับผู้ใหย่บ้านก็ห่าเราได้แล้วครับไม่ต้องไปไหนไกลเมื่องๆทยมันปกครองด้วยระบบส่งส่วยครองพื้นที่น่ะครับ
สังเกตดีดี เสียงโวยวายจะมาจากหัวคะแนน ในพื้นที่ที่วัคซีนปรกติไปไม่ไถึงและทางเทคนิคมันมีปัญหาก็เพราะว่าพวกหัวคะแนนมีจำนวนมากพอสมควรน่ะครับ

ผมยังคุยกับเพื่อนเลยว่าคนอย่างอภิสิทธิ์ไม่น่าจะคุมพวกผู้ใหญ่บ้านที่ร่วมวงเล่นไฮโลวางปืนบนโต๊ะได้ ต้องอาสัยสุเทพไปเป็นคนคุมพวกกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ทำงานให้

คนเราเติบโตมาต่างกันก็ราวกับอยู่ต่างโลกน่ะครับ

ถ้าจะคุยกันง่ายๆแนะนำให้ไปดูอะนิเมะเรื่อง กันดั้ม ซี๊ด ครับ มันจะบอกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง การเมือง สงคราม ความสามารถในการผลิต ฯลฯ  แต่อย่าไปดูภาคเดสทินี่เน้อเสียเวลาชีวิตเปล่าๆ

ผมว่ากันดั้มมีข้อเสียคือ ต้องพยายามทำลายโลกน่ะครับเพระาผมว่าลึกๆแล้วต้องกำหนดว่าทำลายโลกก่อน ไม่อย่างนั้นโลกจมีอุตสาหกรรมเนหือวก่าโคโลนี่อวกาศอย่างทาบกันไม่ติด
ไปเจแนวไซไฟมาให้แนวคิดว่า งบประมาณค้นคว้ามากกว่า ก็ทำให้เทคโนโลยีโดยรวมเนหือกว่าน่ะครับหรืออย่างน้อยก้ข้อจำกัดด้านประชากรนักวิทยาศาสตร์หากโคโลนีอวกาศมันตัดการติดต่อกับโลกจริงๆ
การแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีล้ำๆในโลกก็น่าจะก้าวนำโคโลนีอวกาศไปเยอะล่ะครับสมมติว่าไต้หวัน สิงคดปร์ คิดเทคใหม่ๆได้ พวกสหพันะ์คงแลกเปลี่ยนเทคกันไปมาได้ แต่โคโลนี่ต้องเอาตามมีตามเกิด

[quote/]

ทำให้นึกถึง   ปฏิวัติอุตสาหกรรม  ทั้งครั้งที่ 1 ยันครั้งที่ 4 
นี่ถ้าต่อไป  มนุษย์อนาคตมีสมองเป็นไบโอชิปหรือมีสมองที่
คล้ายๆในหนังคนเหล็ก  ที่จักรกลสกายแท็ค  หรือในหนัง
เดอะเมทริกซ์  ยิ่งสามารถคุมทั้งหมดได้  น่ากลัว

 

ช่วงนี้มีแนวคิดแบบ flesh is weakว่าร่างกายคือการประกอบของธรรมชาติที่อ่อนแอ ควรจะเปลี่ยนไปแบบที่เราปรับปรุงจนแข็งแกร่งกว่าดีกว่า

[quote/] ผมถึงบอกไงท่านว่าถ้า(ไม่มาก)  แต่ถ้าเป็นสมัยนี้เราลองนึกภาพ โรงงานผลิตมีดแบบโบราณดูก็ได้ครับ มีคนงาน 3,000 คน ผลิตแบบโบราณใช้ฆ้อนตี ชุบน้ำ  ลับคมด้วยมือ ผลิตผมให้เยอะเว่อร์ๆเลย 9,000 เล่ม ต่อวัน คุณภาพก็ไม่แน่นอนด้วยนะ  แต่โรงงานทันสมัยใช้เครื่องจักรผลิต ผมให้วันละ90,000 เล่มต่อวัน  คุณภาพแน่นอนกว่าเยอะ  โรงงานแบบเก่าจะเอาอะไรไปสู้ครับ?

ที่ท่านพูดก็ใช่ครับ ฮา
มีตำนานเล่าว่า ทหารฐญี่ปุ่นโดนจับตอนแรกยังไม่ยอมแพ้ ตอนหลังผ่านกองเรืออมเริกา เจอเรือที่บรรทุกไอศกรีมอย่างเดียวลอยมาในกองเรือทหารญี่ปุ่นร้องไห้ เพระารู้ว่าแพ้แน่ๆ คงไม่สามารถเอาชนะพวกที่มีอุตสาหกรรมขนาดนี้ได้

[quote/]

ปริมาณชนะคุณภาพได้  แต่ทำไมที่ท่านพลยกตัวอย่างมา  มันทะแม่งๆเหมือนว่าคุณภาพชนะปริมาณ??
ผมว่ายิ่งต่อจากนี้  คุณภาพยิ่งถีบห่างจากปริมาณ  เพราะปริมาณเยอะมันเทอะทะ  มันต้นทุนสูง  มันมี
ค่าใช้จ่ายแฝงสูง  ในโลกอนาคตยิ่งแล้วใหญ่  ถ้ามีคุณภาพมีเงินมีเทคโนโลยี  ก็ยิ่งสามารถเข้ามาอุด
รอยรั่วของความต่างศักย์นี้ได้มากยิ่งขึ้น


ใช้คนทำงานหลายพันคน  vs  ใช้คนหลักไม่กี่สิบคนในโรงงานที่เอาเทคโนโลยีมาช่วยผลิตแบบ
ครบวงจรย์  ด้านการทหารก็อีก  มีเทคโนโลยีบวกกำลังทรัพย์เอาเข้ามาช่วย  ดีกว่าฝึกนักบินหนึ่งคน
ที่ค่าใช้จ่ายเป็นสิบล้าน  แถมถ้าตายก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวทหาร  ยิ่งถ้าไม่ตายแล้วพิการยิ่งซวยใหญ่ 
เพราะนอกจากจ่ายค่ารักษายังต้องจ่าย  เขาก็ต้องเกษียณกินเงินเข้าไปอีก  แต่ถ้ามีเทคโนโลยี  จะ
ผลิตเท่าไรก็ได้ถ้ามีทุนทรัพย์  พังก็ซ่อมหรือผลิตใหม่  เปลี่ยนรุ่นได้ตามยุคสมัย  ไม่ต้องฝึกใหม่แบบ
มนุษย์

อย่างการยิงเครื่องบินตกทีเดียวก็เสียเงินหลายล้าน เวลาการฝึกอีกสารพัด
หากมองว่าประชากรเราไม่มีคุณภาพ
ใช้ทืหารเกณฑ์อาจจะคุ้มกว่าว่างั้น

คุณภาพมีส่วนจริงๆ นั่นแหละครับ


ตอน WW2 เยอรมันนี บุกยุโรปเรียกได้ว่าอัดซะยับทั้งทวีป รวมไปถึงโซเวียดเก่าด้วย
เรียกได้ว่าถ้าตอนโน้น ลุงหนวนจิ๋มไม่เล่นแผนผิด หรือ อเมริกาไม่ได้ให้การสนับสนุนด้าน
เสบียง กับอาวุธผมมองไว้ว่ายังไงโซเวียตก็ไม่น่าจะสู้เยอรมันได้เลย


ต่อให้นาซีแพ้  แต่คงไม่ได้แพ้แบบโดนบุกถึงเมืองหลวง อาจได้เจรจายอมแพ้ก็ได้

ขอบคุณครับ เห้นว่าฮิตเลอร์วางแผนพลาด
แต่ไปเจอแนวคิดประมาณว่าที่ทำอย่างนั้นเพระาต้องการน้ำมันคือกงอทัพเยอรมันทันสมัยกว่าชาวบ้าน
ทำให้ต้องใช้ทรัพยากรอย่างน้ำมันมากกว่าชาวบ้านน่ะครับ
อเมริกาดันหนุนช่วยส่งทางอุตตสาหกรรมให้โซเวียนที่มีกำลังพอลมหาศาลอีกถ้านับแต้มกันผมเคยนับความสูญเสียในสมรภูมิที่เยอรมันแพ้คือ
เยอรมันหนึ่งคนต่อโซเวียตสามคน
แต่โซเวียตมากวก่าห้าเท่ามั้ง
แสดงว่าอัตราส่วนหากรบกันด้วยทหารพอพอกันคำนวณด้วยกำลังสองเยอรมันอาจจะเก่งกว่าทหารโซเวียนประมาณเก้าท่าครับจากสมการกำลังรบมั้ง?

[quote/]
ถ้าจำนวนชนะคุณภาพจีนก็ครองโลกไปแล้วสิครับไอ้ลิงตีกันสมัยล้านปีที่ว่านะแข็งแรงกว่าแค่นิดเดียว ผมยกตัวอย่างถ้าเอาคนยุคหินสองเผ่าที่ว่ามาตีกันหนึ่งๆผลคือฝ่ายชนะคือเกือบตาย ว่าง่ายๆคือเก่งกว่านิดเดียวมันคือการสู้แบบเก่งพอๆกันตีกันฝ่ายไหนมากกว่าชนะ แต่เอาแค่ปัจจุบันมีคนมากแล้วไงสู้คนคิดนิวเคลียได้ไหม ความต่างของความฉลาดมันจะทำไห้กำลังรบสูงขึ้นเรื่อยๆครับ จนเอาจำนวนมาถมไม่ได้อย่างจีนเองตอนโดนณี่ปุ่นยึดช่วงสงครามเป็นตัวอย่าง จำนวนคนจีนกับทหารณี่ปุ่นที่มาบุกคิดเป็นสัดส่วนคร่าวๆจีน1000คนต่อณี่ปุ่น1คนนะครับ แต่ทำใมจีนแพ้ถ้าเอาพวกมาเข้ารุมแล้วชนะทำใมจีนแพ้ครับอาวุธก็ไช้ปืนเหมือนกัน แค่ณี่ปุ่นมีอาวุธดีกว่ารุ่นเดียวแต่จีนแพ้ยับนี่คือความต่างของความฉลาดครับ ยิ่งเวลาผ่านไปคนเรายิ่งฉลาดมากขึ้นต่อไปคนๆเดียวอาจสร้างหุ่นหรือกองยานมายิงได้เลย และถ้าคุณภาพอีกฝ่ายต่ำกว่าสักรุ่นคือแพ้ยับแน่นอน

ขอบคุณครับ
ผมไปเจอนแนวคิดว่าความฉลาดเราพอพอกัน ของเรายังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้ขลาดกว่านีแอนเดอทัลด้วยซ้ำประมาณนีแอนเดอทัลเจอเสือเขี้ยวดาบอาจจะเอาหอกเข้าไปบุ๊ ส่วนเราใช้วิธีวิ่งไล่ชาวบ้านเอาน่ะครับ
..

แต่ที่ผมว่าคือ
มนุษย์พันธุ์ใหม่มันมีแค่ไม่กี่คน ที่จะต้องสู้กับประชากรระดับหมื่นล้านนน่ะครับท่าน คิดว่าพอจะสุ้ไหวไหมล่ะครับ?
มนุษย์มีข้อเสียคือการแพร่พันธู์ช้ากว่าสัตว์ การเติบโตก็ต้องใช้เวลานับสิบปี
มนุษย์พันธุ์ใหม่แพร่พันธ์ไม่ทันมนุษย์ยุคเก่า อาจจะต้องโดนกลืนสายพันธุ์แบบนีแอนเดอทรัลน่ะครับ
ที่ผมกล่าวคือ การรบกันระหว่างมนุษย์พันธุ์ใหม่กับบเก่ามนุษย์พันธุ์ใหม่อาจจะชนะหรือทั้งสองฝ่ายเสียหายแต่มนุษยืเก่าจะได้เปรียบกว่เาพระาจำนวน
แต่หากเลือกเส้นทางสันติแบบแนวคิดโชวเน็นมนุษย์พันธุ์เก่าชนะแน่ๆ เพราะนานๆไปสองฝ่ายต้องแต่งงานข้ามสายพันธุ์กันจนโดนกลืนสายพันธุ์ไปหมด

[providence_gundam]

มนุษย์กล้ามตูดยุคโบราณสิ

[samuison]

จริงๆ ในกันดั้ม มันก็พอสือออกมาได้ระดับนึงอ่ะนะ ซาคุสเปคเมพ แต่จำนวนน้อยกว่า แถมพวกที่ดึงความสามารถออกมาได้จริงๆ ก็มีน้อยซะอีก ถ้าเจอรุ่นผลิตจำนวนมาก จนทิ้งห่างจัดๆ จริงๆก็สู้ลำบาก




แบบโรงงานเก่าผม ผลิตมือ ได้ยอดเดือนละ 10000 กว่า(อันนี้คือระดับเยอะที่สุดโดยคนงานเท่ากัน) แต่เล่นเครื่องจักรถ้าจูนดีๆ คุมคุณภาพวัตถุดิบได้
ผลิตได้เดือนล่ะ 40000 กว่าแต่ถ้าเครื่องจูนนิ่งจริงๆ ในทางทฤษฏีแล้วล่ะก็ อาจทะลุไปถึง 5-60000 ได้นะ(มันแค่ทฤษฏีในกรณีที่ไม่เกิดปัญหาใดๆ เลย)   คุณภาพเอาแค่ 80% ของที่ทำมือ นี่ปริมาณมันก็ทิ้งกันขนาดไหนล่ะ[quote/]


เอาแบบตำนาน T34 รถถังในตำนาน (หลายๆ ด้าน)  ที่เรียกได้ว่าโดนสถิติแล้ว มีประมาณการจากข้อมูที่ว่า
 t34 ราวๆ 40 % พังก่อนที่จะได้เจอหน้ารถถังเยอรมันซะอีก นอกนั้น เห็นว่ามีแค่ราวๆ 30% ที่ได้ประจันหน้ากับเยอรมัน และเกือบครึ่งเละ     สรุปคือ เรียกได้ว่า รุ่นนี้ mass กันสัดๆ แบบว่าไอ้ที่เคยได้สู้กันจริงๆ มีไม่ถึงครึ่งนึงด้วยซ้ำ นอกนั้นมีส่วนร่วมในการวางกำลัง หรือภารกิจต่างๆสรุปว่ามันมีบทบาทเยอะครับ แต่ใช้งานจริงก็นะ     สรุปคือปริมาณมันทิ้งห่างกันเยอะมาก


     เหมือนกับเครื่องบินรุ่น P54 เช่นกันตำนานของมันมาจากบทบาทหน้าที่และผลงานโดนรวมที่เครื่องรุ่นนี้สร้างเอาไว้  ถ้าผมจำไม่ผิดผลิตมามากกว่า 20000 ลำเหลือทิ้งเหลือขว้าง จบสงครามแล้วก็ยังเหลือ จนเห็นว่าเอาไปขายทิ้งให้ ชาวบ้านเลยนะหลังสงคราม
     
    คุณภาพ กับปริมาณ  2 ฝั่งนี้มันสามารถกลบกันไปมาได้ ในกรณีที่ทิ้งห่างกันไม่มาก แต่ถ้ามีฝั่งใดที่มันทิ้งห่างกันมากจริงๆ แล้วล่ะก็ ไม่ไหวครับ 

มีมุกล้อเลียนในโลกบวมกันดั้มบู๊องครับ
ว่าสองฝ่ายพอเชือ่เรื่อง"การศึกคือจำนวน" เลยผลิตแต่บอลกับจิมมาสุก้ันเต็มสนามรบทำให้อามุโร่กับชาร์โดนยกลบด้วยบอลกับจิมล้นสนามรบไปสู้กันไม่ได้
อาจจะตลกแต่ผมว่ามันก็จริงนะ หากอัพสเกลการผลิตจะชนะแน่ๆว่างั้น
อามุโร่หรือชาร์ก็ต้องสู้กันแบบมีการพักผ่อนกันบ้าง หากสงครามขนายเวลาปละปริมาณมากขึ้น ความสามารถส่วนบุคคลจะน้อยลงเรื่อยๆ

จำนวนที่จะกำหนดความถูกต้องได้นี่ ความต่างด้านเทคโนโลยีต้องไม่ห่างชั้นเกินไป
- ที่อเมริกาพลาดเวียดนามและตาลีบานนี่ส่วนนึงเพราะถูกผูกมัดกฏเกณฑ์ไว้
- เพราะอ้างความถูกต้อง ผลประโยชน์ไปรุกรานเขาเลยใช้อาวุธบางประเภทไม่ได้เลยแพ้สงครามกองโจรไป
- ถ้าใช้อาจถูกมองเป็นศัตรูของทั้งโลกได้
- อย่างเกาหลีนี่ตอนสงครามเกาหลี นายพลแมคอาเธอร์เราขอระเบิดนิวเคลียร์แต่สภาไม่ให้  ผลคือเกาหลีเป็นเหนือใต้จนวันนี้
ตอนนั้นรัสเซียยังไม่เท่าไหร่กับโครงการนิวเคลียร์ด้วย  แถมตอนหลังจากวีรบุรุษสงครามโลกโดนเตะเข้ากรุซะงั้น


- ถ้าพูดถึงจำนวนเผ่าพันธ์ละก็ ผมชอบบออร์คในwarhammerนะ เพราะ พวกนี่สามารถ"ปลูก" ได้เรื่อยๆไม่หมดไม่สิ้นแบบราอวกาศ ต่างจากออร์คในwarcraft ไปหาคลิปหาข้อมูลเอง
- ในwarhammer พวกgreenskin(ชื่อรวมของพวกออร์ค ก็อบลินและตัวกลมๆ2ขา)อาจไม่ค่อยมีเทคโนโลยีสูงเท่ามนุษย์หรือคนแคระการเลียนเทคโนโลยีทำได้ช้าเพราะไม่เน้นการทำการค้าการพัฒนาอุตสาหกรรมและไม่เชี่ยวเวทมนต์แบบไฮเอลฟแต่ด้วยการที่"ปลูก"ได้เรื่อยๆ ร่างกายอึดทึกแกร่งกว่ามนุษย์ ทำให้ใช้กลยุทธ์คลื่นลุยถาโถมได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อให้แพ้ตายมากมายก็ฟื้นจำนวนได้ในเวลาอันสั้น ในขณะที่ฝ่ายมนุษย์ คนแคระและเอลฟ์ต่อให้ชนะแต่ก็ไม่ใช่ไม่มีสูญเสีย กว่าคนรุ่นใหม่จะมาแทนได้ ถ้าแพ้ทีอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้น
- จุดด้อยออร์คคือถ้าไม่มีตัวที่เก่งจนใช้"ว๊ากกก"ได้ออร์คจะทำสงครามกันเองจนเก่งในการฆ่าออร์คกันเองมากกว่ามนุษย์ที่จะเก่งการฆ่าออร์ค
- warhammer40kแบบสงครามอวกาศ ออร์คที่เกิดจะอัพเกรดกว่าคือบางตัวจะได้ยีนรู้ข้อมูลเทคโนโลยี ความสามารถช่างหรือหมอแบบแปลกๆสไตล์พวกมันระดับนึง ด้านเทคโนโลยีก็ถือว่าน้อยกว่าสเปซมารีนแต่ด้วยพลังจิตอุปทานหมู่ที่เกิดเวลาออร์คอยู่รวมกันมากๆจะก่อผลลัพธ์พิเศษที่แทรกแซงความจริงจนทดแทนความด้อยเทคโนโลยีกว่าได้ในระดับนึง เช่นถ้ายานพาหนะที่ทาสีแดงจะเร็วกว่าทาสีอื่นและก็จะเป็นงั้นจริงๆ ทำให้ใช้เศษขยะมาสร้างอาวุธร้ายแรงขนาดสเปซมารีนยังต้องหวั่นหรือใช้กองขยะสร้างยานอวกาศท่องอวกาศได้ แต่ถ้าออร์คทิ้งมันไว้และมนุษย์พยายามใช้มันแทนมันก็จะระเบิดหรือเป็นแค่เศษขยะที่ใช้การไม่ได้

ใช่ครับผม
มีคนเล่เนกมส์ warhammer แล้บอกว่าพอคำนวณแล้ว
ไม่มีใครสามารถสู้กับกองทัพรปิมาณมาก horde army ได้นอกจากกองทัพปริมาณมากด้วยกันเท่านั้น
กลยุทธหรอืเครือ่งจักรของคนแคระบางทีก็มีไม่พอที่จะกลบความแตกต่างของปริมาณการรบที่เกิดขึ้น

มนุษย์กล้ามตูดยุคโบราณสิ

[pol]

เยอรมันนิสัยก็เป็นคนเยอรมันครับอาวุธต้องเนี้ยบ-ละเอียด-ประสิทธิภาพสูง  ผลที่ออกมาก็คือ ผลิตยาก-ดูแลยาก-ราคาแพง  ผมเคยไปจับๆปืนHK มือสองราคา....9หมื่น! มือหนึ่งแสนสี่! ดีไหม?ก็ดีนะแต่แพงบรรลัยคนเขาก็เลยไปซื้อปืน คุณภาพด้อยกว่าเล็กน้อยแต่ราคาถูกดีกว่า สุดท้ายก็เลยขายไม่ออก อาเมน 

[sariora123]

จำนวนที่จะกำหนดความถูกต้องได้นี่ ความต่างด้านเทคโนโลยีต้องไม่ห่างชั้นเกินไป
- ที่อเมริกาพลาดเวียดนามและตาลีบานนี่ส่วนนึงเพราะถูกผูกมัดกฏเกณฑ์ไว้
- เพราะอ้างความถูกต้อง ผลประโยชน์ไปรุกรานเขาเลยใช้อาวุธบางประเภทไม่ได้เลยแพ้สงครามกองโจรไป
- ถ้าใช้อาจถูกมองเป็นศัตรูของทั้งโลกได้
- อย่างเกาหลีนี่ตอนสงครามเกาหลี นายพลแมคอาเธอร์เราขอระเบิดนิวเคลียร์แต่สภาไม่ให้  ผลคือเกาหลีเป็นเหนือใต้จนวันนี้
ตอนนั้นรัสเซียยังไม่เท่าไหร่กับโครงการนิวเคลียร์ด้วย  แถมตอนหลังจากวีรบุรุษสงครามโลกโดนเตะเข้ากรุซะงั้น


- ถ้าพูดถึงจำนวนเผ่าพันธ์ละก็ ผมชอบบออร์คในwarhammerนะ เพราะ พวกนี่สามารถ"ปลูก" ได้เรื่อยๆไม่หมดไม่สิ้นแบบราอวกาศ ต่างจากออร์คในwarcraft ไปหาคลิปหาข้อมูลเอง
- ในwarhammer พวกgreenskin(ชื่อรวมของพวกออร์ค ก็อบลินและตัวกลมๆ2ขา)อาจไม่ค่อยมีเทคโนโลยีสูงเท่ามนุษย์หรือคนแคระการเลียนเทคโนโลยีทำได้ช้าเพราะไม่เน้นการทำการค้าการพัฒนาอุตสาหกรรมและไม่เชี่ยวเวทมนต์แบบไฮเอลฟแต่ด้วยการที่"ปลูก"ได้เรื่อยๆ ร่างกายอึดทึกแกร่งกว่ามนุษย์ ทำให้ใช้กลยุทธ์คลื่นลุยถาโถมได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อให้แพ้ตายมากมายก็ฟื้นจำนวนได้ในเวลาอันสั้น ในขณะที่ฝ่ายมนุษย์ คนแคระและเอลฟ์ต่อให้ชนะแต่ก็ไม่ใช่ไม่มีสูญเสีย กว่าคนรุ่นใหม่จะมาแทนได้ ถ้าแพ้ทีอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้น
- จุดด้อยออร์คคือถ้าไม่มีตัวที่เก่งจนใช้"ว๊ากกก"ได้ออร์คจะทำสงครามกันเองจนเก่งในการฆ่าออร์คกันเองมากกว่ามนุษย์ที่จะเก่งการฆ่าออร์ค
- warhammer40kแบบสงครามอวกาศ ออร์คที่เกิดจะอัพเกรดกว่าคือบางตัวจะได้ยีนรู้ข้อมูลเทคโนโลยี ความสามารถช่างหรือหมอแบบแปลกๆสไตล์พวกมันระดับนึง ด้านเทคโนโลยีก็ถือว่าน้อยกว่าสเปซมารีนแต่ด้วยพลังจิตอุปทานหมู่ที่เกิดเวลาออร์คอยู่รวมกันมากๆจะก่อผลลัพธ์พิเศษที่แทรกแซงความจริงจนทดแทนความด้อยเทคโนโลยีกว่าได้ในระดับนึง เช่นถ้ายานพาหนะที่ทาสีแดงจะเร็วกว่าทาสีอื่นและก็จะเป็นงั้นจริงๆ ทำให้ใช้เศษขยะมาสร้างอาวุธร้ายแรงขนาดสเปซมารีนยังต้องหวั่นหรือใช้กองขยะสร้างยานอวกาศท่องอวกาศได้ แต่ถ้าออร์คทิ้งมันไว้และมนุษย์พยายามใช้มันแทนมันก็จะระเบิดหรือเป็นแค่เศษขยะที่ใช้การไม่ได้

กรณี เวียดนาม อเมริกาแพ้เพราะ การประท้วงในประเทศ ติ่งคอมมี่ในอเมริกาตอนนั้นก็เรียกกระแสได้มิใช้น้อย     
ทหารอเมริกาเสียชีวิตสูญหายไปราวๆ 40000 กว่านาย ส่วนเวียดนามรวมทั้งเหนือใต้ ตายสูญหายไป 2ล้านกว่า
หักครึ่งนึง(เพราะมันรวมเหนือ ใต้) เทียบอัตราสูญเสียแล้ว มัน 1:25 เลยนะ ถ้าไม่ติดประท้วงภายในของอเมริกา  นั่งนอนตะแคงมอง ยังไงผมก็ไม่เห็นทางที่เวียดนามจะชนะอเมริกาได้เลยสักนิด




ส่วนในอาฟกัน ปัญหาหลักๆ คือ รบ.อาฟกันเองที่มันง่อย ให้งบไปก็เอาไปแดกเล่น กองทัพจริงๆ ไม่มี
มีข่าวมาว่า บางเมืองยันตาลีบันได้สองอาทิตย์ มีส่งเบียงมาให้กล่องเดียว   แล้วใครเขาจะสู้วะ
ผมมองว่า อเมริกาคงเล็งเห็นแล้วว่า อาฟกันแม่งดันต่อไปไม่ไหวล่ะ เพราะแม่งไม่ทำอะไรเองเลย แล้วจะต้องมาเปลืองตัวทำไม เลยถอนกำลังออกซะ     
    จริงๆ ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันเวียดนามเท่าไร ที่ตอนนั้นอันดับแรกคือ เวียดนามใต้ควรจะรวมใจคนในประเทศต้านคอมมี่ แต่เวียดนามใต้แม่งทำอย่างอื่นก่อน


    แมคอาเธอร์ พี่แกมองเกมขาดมาก ถ้าจำไม่ผิด วิดิโอ สั่งเสียหลังตายให้เปิดของแกนี่ หลายๆ เรื่องที่แกพูดเอาไว้เป็นจริงหมดทุกอย่าง  อเมริกาพลาดเองที่ไม่ให้ นุคพี่แก ถ้าตอนนั้นพี่แกได้นุคไปล่ะก็ คอมมี่จะไม่ได้เกิดเป็นใหญ่ในโลกนี้อีกต่อไป อเมริกาแม่งครองโลกของแท้  แต่โง่พลาดกันเอง  หลังวิดิโอเผยแพร่หลังแกตาย  ไม่มางานศพแกกันเยอะหลายคน   
    ยุคนั้นพ่อผมยังเล่าไว้ว่า แมคอาเธอร์พี่แกไม่เอาคอมมี่ไว้เพราะแกมองว่าจะเป็นอันตรายกับโลก(มองว่าจะเป็นอันตรายกับอเมริกาในอนาคต) แกกะฆ่าทิ้งหมด เห็นว่าแกขอกำลังบุกอีกแค่ครั้งเดียวแกจะกวาดคอมมิวนิสให้หมดจะคาบสมุทเกาหลีหรือเอเชีย นี่แหละ ดันไปปลดแกออกก่อน 

[samuison]

เยอรมันนิสัยก็เป็นคนเยอรมันครับอาวุธต้องเนี้ยบ-ละเอียด-ประสิทธิภาพสูง  ผลที่ออกมาก็คือ ผลิตยาก-ดูแลยาก-ราคาแพง  ผมเคยไปจับๆปืนHK มือสองราคา....9หมื่น! มือหนึ่งแสนสี่! ดีไหม?ก็ดีนะแต่แพงบรรลัยคนเขาก็เลยไปซื้อปืน คุณภาพด้อยกว่าเล็กน้อยแต่ราคาถูกดีกว่า สุดท้ายก็เลยขายไม่ออก อาเมน 

ฮา มีการแซวกันเมหือนกันครับว่า เยอรมันทางเทคนิคคล้ายญี่ปุ่นคือเป็นคนจริงจังและเครียดๆ ยึดกฎระเบียบมากผมเห็นคนแซวเนรื่องการจัดการโควิดของเยอรมันเหมือนกันว่าเนี้ยบตลอดว่างั้น
วิศวกรรมของอย่างจรวด อเมรกิาก็เอาไปจากเยอรมันนี่ล่ะ แนวความคิดของคุณภาพ กับจำนวนล่ะนนะครับ

[quote/]


กรณี เวียดนาม อเมริกาแพ้เพราะ การประท้วงในประเทศ ติ่งคอมมี่ในอเมริกาตอนนั้นก็เรียกกระแสได้มิใช้น้อย     
ทหารอเมริกาเสียชีวิตสูญหายไปราวๆ 40000 กว่านาย ส่วนเวียดนามรวมทั้งเหนือใต้ ตายสูญหายไป 2ล้านกว่า
หักครึ่งนึง(เพราะมันรวมเหนือ ใต้) เทียบอัตราสูญเสียแล้ว มัน 1:25 เลยนะ ถ้าไม่ติดประท้วงภายในของอเมริกา  นั่งนอนตะแคงมอง ยังไงผมก็ไม่เห็นทางที่เวียดนามจะชนะอเมริกาได้เลยสักนิด




ส่วนในอาฟกัน ปัญหาหลักๆ คือ รบ.อาฟกันเองที่มันง่อย ให้งบไปก็เอาไปแดกเล่น กองทัพจริงๆ ไม่มี
มีข่าวมาว่า บางเมืองยันตาลีบันได้สองอาทิตย์ มีส่งเบียงมาให้กล่องเดียว   แล้วใครเขาจะสู้วะ
ผมมองว่า อเมริกาคงเล็งเห็นแล้วว่า อาฟกันแม่งดันต่อไปไม่ไหวล่ะ เพราะแม่งไม่ทำอะไรเองเลย แล้วจะต้องมาเปลืองตัวทำไม เลยถอนกำลังออกซะ     
    จริงๆ ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันเวียดนามเท่าไร ที่ตอนนั้นอันดับแรกคือ เวียดนามใต้ควรจะรวมใจคนในประเทศต้านคอมมี่ แต่เวียดนามใต้แม่งทำอย่างอื่นก่อน


    แมคอาเธอร์ พี่แกมองเกมขาดมาก ถ้าจำไม่ผิด วิดิโอ สั่งเสียหลังตายให้เปิดของแกนี่ หลายๆ เรื่องที่แกพูดเอาไว้เป็นจริงหมดทุกอย่าง  อเมริกาพลาดเองที่ไม่ให้ นุคพี่แก ถ้าตอนนั้นพี่แกได้นุคไปล่ะก็ คอมมี่จะไม่ได้เกิดเป็นใหญ่ในโลกนี้อีกต่อไป อเมริกาแม่งครองโลกของแท้  แต่โง่พลาดกันเอง  หลังวิดิโอเผยแพร่หลังแกตาย  ไม่มางานศพแกกันเยอะหลายคน   
    ยุคนั้นพ่อผมยังเล่าไว้ว่า แมคอาเธอร์พี่แกไม่เอาคอมมี่ไว้เพราะแกมองว่าจะเป็นอันตรายกับโลก(มองว่าจะเป็นอันตรายกับอเมริกาในอนาคต) แกกะฆ่าทิ้งหมด เห็นว่าแกขอกำลังบุกอีกแค่ครั้งเดียวแกจะกวาดคอมมิวนิสให้หมดจะคาบสมุทเกาหลีหรือเอเชีย นี่แหละ ดันไปปลดแกออกก่อน 

มีการแววว่า แมคอาเธอร์คือโชวกุนคสสุดท้ายของญี่ปุ่นล่ะครับ ฮา
ชาวญี่ปุ่นค่อนข้างนับถือแกอยู่พอสมควร
บริษัมประกันที่แกเอาเป็นห้องทำงาน ยังเก็บพวกข้าวของของแกเอาไว้ในบริษัทอยู่ตลอดว่างั้น

เรื่องการปลดทหาาร ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรือ่งอขงการเมืองน่ะครับ
ไม่ว่ายุคสมัยไหน
คนคงเสียวๆเรือ่งแม่ทัพที่มีอำนาจมากกว่ารัฐเสมอ
หากมองกันด้วยอุดมการณ์ ผมว่าแมคอาเธอร์ฺคิดถุกในแง่ว่าแนวคิดคอมมี่คือสัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของแนวคดิอเมริกาล่ะครับ หลังจากสิ้นนาซีไปแล้วล่ะก็นะ