แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: (สาระมั้ง) รู้หรือไม่? เดิมทีเซ็กซ์ของคนไทย มักไร้การ “จูบปาก” .  (อ่าน 1121 ครั้ง)

ออฟไลน์ moneyisgod

  • เครื่องปั้มแห่งห้องรับแขก
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,869
  • ถูกใจแล้ว: 2900 ครั้ง
  • ความนิยม: +312/-358


รู้หรือไม่?
เดิมทีเซ็กซ์ของคนไทย มักไร้การ “จูบปาก”
.
ถ้าคนไทยไม่ได้เปิดรับวัฒนธรรมมาจากฝั่งตะวันตก ชีวิตเซ็กซ์ของคนไทยก็คงอาจปราศจากการ “จูบปาก” ต่อไป
.
เซ็กซ์ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่บทรักที่บรรเลงกันอยู่บนเตียง แต่หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพศในรูปแบบรักโรแมนติกด้วย
.
อ้างอิงจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 เพราะเนื่องจากวิถีชีวิตคนไทยแต่เดิมนั้นกินหมากกันจนฟันดำ ไม่ใช้แปรงสีฟัน ทำความสะอาดอย่างมากก็ใช้เปลือกหมากหรือไม้ข่อยถูๆ เอา การแสดงความรักโดยการใช้ปากสัมผัสอีกฝ่าย จึงมีแค่การหอมแก้ม หรือจุ๊บปากนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น
.
แต่หลังจากคนไทยเลิกกินหมาก การจูบก็ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะเนื่องจากคนไทยยังมีความเชื่อกับทัศนคติที่ว่าข้างในปากคืออาณาเขตส่วนตัว สกปรก จึงไม่สมควรจะดูดปากแลกลิ้นกัน ซึ่งไม่ต่างจากการถือหัวของผู้ชาย หรือการถือว่าผ้าถุงเป็นของต่ำ
.
ส่วนตัวผู้เขียนเองก็เคยมีประสบการณ์สมัยเด็ก ที่ได้เจอชาวตะวันตกเขาจูบปากกันในที่สาธารณะแล้วรู้สึกตกใจ หรือเคยได้นั่งดูหนังอเมริกันร่วมกับครอบครัว ที่พอถึงฉากจูบปากทีไร คนรอบข้างที่เป็นผู้ใหญ่มีอายุอานามก็แสดงท่าทาง “ยี้” กันเป็นแถบๆ
.
แต่การที่คนไทยไม่จูบปากนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวัฒนธรรมอีกครึ่งโลกก็ไม่ได้บรรเลงรักด้วยการจูบปากแต่อย่างใด “William Jankowiak” ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเนวาดา ลาสเวกัส (the University of Nevada Las Vegas) ค้นพบจากการศึกษาวัฒนธรรมจาก 168 ที่ทั่วโลกว่ามีเพียง 46 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีการใช้ปากจูบปากเพื่อแสดงความรักเชิงโรแมนติก
.
ในประเทศไทย แม้จะมีเรื่องราวทางเพศจะปรากฏตามภาพจิตรกรรมฝาผนังในนาม “ภาพสังวาส” ของหญิงชายที่กำลังเกี้ยวพาราสี กอดรักฟัดเหวี่ยงจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย แต่สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดกับการจูบในบทบรรเลงรักเหล่านั้นเป็นเพียงแค่การ “หอมแก้ม” เท่านั้น
.
ถ้าไปดูตาม “บทอัศจรรย์” หรือ “ฉากเซ็กซ์” ตามวรรณคดีไทย ก็ยิ่งเห็นชัดว่า คนไทยไม่นับการจูบปากให้อยู่ในเรื่องบนเตียงจริงๆ
.
ในงานวรรณกรรมราชสำนัก ช่วงก่อนจะรับจารีตของประชาชนโดยการใช้ความเปรียบในบทอัศจรรย์ จะมีการกล่าวถึงพฤติกรรมทางเพศอย่างตรงไปตรงมา
.
เช่น ในเรื่อง “ราชาพิลาป” แต่งขึ้นช่วงราวๆ สมัยรัตนโกสินทร์ ก็มีเพียงประโยค “จุมพิตณนงคริมไร โอษฐคันธกัลยา” ที่หมายถึงการจุมพิษที่ข้างๆ ริมฝีปากเท่านั้น ไม่ได้บดเบียดริมฝีปากกันจะๆ
.
ในบทรักหญิงสองชายหนึ่งในเตียงเดียวอย่างเรื่อง “ลิลิตพระลอ” จะมีประโยค “เชยชมชู้ ‘ปากป้อน’ แสนอมฤตรสข้อน สวาทเคล้าคลึงสมรฯ” ที่ถ้าอ่านแบบไม่รู้ลึกมาก คนสมัยนี้ก็อาจตีความว่ามันคือการจูบปาก แต่แท้จริงแล้ว “ปากป้อน” ที่ว่านี้ หมายถึงการพูดฉะอ้อน พูดเอาใจเท่านั้นเอง
.
ส่วนในเรื่อง “อิเหนาคำฉันท์” แต่งโดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ก็มีประโยค “สองโอษฐเอมอร ตฤบรสรสาสรรพ์” ที่อาจดูเหมือนว่ากำลังบรรยายถึงสองปากที่กำลังอิ่มเอมในรสของกันและกัน แท้จริงก็แล้วก็หมายถึงการที่สองฝ่ายชายหญิงกำลังฉะอ้อน ฉอเลาะแก่กันและกันเท่านั้น
.
การจูบปากในสังคมไทย แม้จะเริ่มมีการเลียนแบบจากวัฒนธรรมฝรั่งในสมัยร. 5 แต่ก็มักทำกันแค่ในวงแคบๆ อย่างคนที่เคยไปเรียนต่างประเทศ และเป็นเพียงเรื่องรโหฐานของคนสองคน
.
อย่างที่เคยยกมาตอนต้นถึงหลักฐานที่ว่ามีวัฒนธรรมเพียงครึ่งหนึ่งของโลกเท่านั้นที่จูบปากกัน ดังนั้น จึงไม่แปลกอะไรที่วิถีไทยแท้ๆ ไม่ได้รวมการจูบปากอยู่ในบทรัก
.
แต่ก็อาจมีข้อถกเถียงเช่นกันว่าคนไทยสมัยก่อนอาจจะจูบปากกันก็ได้ เพียงแต่ไม่นิยมทำในที่แจ้ง นิยมทำในที่ลับ จนไม่ได้เป็นที่ประจักษ์แก่ธารกำนัล แล้วไม่ได้บันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้นเอง

อ้างอิง: Silpa-Mag. คนไทยเราเริ่ม “จูบปาก” ตั้งแต่เมื่อใด? . https://www.silpa-mag.com/culture/article_10799#
BBC. The reasons humans started kissing. https://www.bbc.com/.../20210813-the-reasons-humans...

#รากเหง้าเล่าอนาคต

Seek the origin, Live the localry
#Local #Localry #Thailand #Thai #Culture

https://web.facebook.com/LOCALRY/

https://web.facebook.com/OrgasiumComic/

 :) :) :) :) :)
 

ออฟไลน์ daily

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 398
  • ถูกใจแล้ว: 157 ครั้ง
  • ความนิยม: +8/-10
ไทยเราไม่มีดีปคิส  เพราะเราใส่หน้ากากเข้าหากัน  จึงจูปปากแลกลิ้นกันไม่ได้   ;D
 

ออฟไลน์ TamaNeko

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 446
  • ถูกใจแล้ว: 192 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-22
กลุ่มแรงงานเมียนม่า  เคี้ยวหมาก  จะจูบแลกลิ้นกันมั๊ยนิ??  ใครมีข้อมูลบ้าง??   :)
 

ออฟไลน์ wcmwz

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 29
  • ถูกใจแล้ว: 9 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-0
รับเอาวัฒนธรรม ต.ตกมาหลายอย่างเลยนะเนี่ย
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,209
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
รับเอาวัฒนธรรม ต.ตกมาหลายอย่างเลยนะเนี่ย


หลายอย่างในประเพณีไทย จริงๆมันคือวัฒนธรรมตะวันตกครับ เพียงแต่ใส่พิธีกรรมพราหมณ์ให้มันดูขลังเท่านั้น มีจุดประสงค์หลายอย่างครับ ต่างประเทศถึงเรียกประวัติศาสตร์ไทยว่า ประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างใหม่ไงครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ redxsword

  • เจ้าสำนักหมี
  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,232
  • ถูกใจแล้ว: 22046 ครั้ง
  • ความนิยม: +1614/-194
  • เพศ: ชาย
  • ของแท้ต้องมีรูปฮีจังอยู่ที่ปก
    • สำนักกฎหมายเอสแอนด์เอ็น
ไทยรับวัฒนธรรมมาจากอินเดียใต้ ในกามสูตรเองก็ไม่ได้พูดถึงการจูบเอาไว้ ดังนั้น การจูบในวัฒนธรรมฝั่งเอเชียหรือแม้แต่ยุโรปในสมัยโบราณเองก็เป็นการจุ๊บเท่านั้นนั่นล่ะครับ เต็มที่ก็จุ๊บที่ริมฝีปาก สมัยโบราณเป็นแบบนั้นเกือบทั้งโลก การจูบปากแบบดูดดื่ม หรือ Deep Kiss เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง WWI นี่เอง เพราะพวกทหารอังกฤษกับทหารเมกันจากบ้านไปนานเลยจูบปากภรรยาแบบดูดดื่ม (กำลังหื่นจัด) แม้ชาวอังกฤษและชาวเมกันจะเรียกว่า Frech Kiss ก็ตาม แต่ชาวฝรั่งเศสเองกลับไม่รู้เรื่องสักนิด เพราะพวกแองกีสชอบเหยียดพวกแฟรงค์อยู่แล้ว ขนาดเรียกถุงยาง ยังเรียกว่า Frech letter เลย  ;D ปัจจุบันคำว่า Frech Kiss หายไปจากสารบบแล้ว ไม่ค่อยมีใครเรียกอีก เลยไม่ค่อยมีใครรู้ที่มาสักเท่าไหร่ วัฒนธรรมการจูบปากแบบดูดดื่มหรือ Deep Kiss เริ่มแพร่กระจายพร้อมกับวัฒนธรรมสื่อของเมกันในช่วงหลัง WWII น่ะครับ  :-[

ปอลิ่ง ลิลิตพระลอนี่มันนิยายอีโรติกสายสวิงกิ้งชัดๆ  :)
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Kopyor

ออฟไลน์ blakaros

  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,189
  • ถูกใจแล้ว: 5531 ครั้ง
  • ความนิยม: +250/-181
^
^
^
แหม  ท่านก็   วรรณกรรมไทยโบราณนี่บทอัศจรรย์นี่บางเรื่องยิ่งกว่านิยายสมัยนี้อีกนะ     พระอภัยมณีนี่ตัวดีเลยสาย Beastiality เนี่ย    ขุนช้างขุนแผนก็ใช่   ลิลิตพระลอก็ใช่ย่อยนา   กากีนี่ก็อีกเรื่อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 08, 2021, 09:17:36 AM โดย blakaros »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos, Kopyor

ออฟไลน์ redxsword

  • เจ้าสำนักหมี
  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,232
  • ถูกใจแล้ว: 22046 ครั้ง
  • ความนิยม: +1614/-194
  • เพศ: ชาย
  • ของแท้ต้องมีรูปฮีจังอยู่ที่ปก
    • สำนักกฎหมายเอสแอนด์เอ็น
^
^
^
แหม  ท่านก็   วรรณกรรมไทยโบราณนี่บทอัศจรรย์นี่บางเรื่องยิ่งกว่านิยายสมัยนี้อีกนะ     พระอภัยมณีนี่ตัวดีเลยสาย Beastiality เนี่ย    ขุนช้างขุนแผนก็ใช่   ลิลิตพระลอก็ใช่ย่อยนา   กากีนี่ก็อีกเรื่อง


มีทุกสายอะ  ;D
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,209
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
[quote/]


มีทุกสายอะ  ;D


ทุกชาติพันธุ์มีทุกสายมานานแล้วครับ แม่งโครตเป็นเรื่องปกติไม่ได้ว้าวเลย
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ Kopyor

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 154
  • ถูกใจแล้ว: 357 ครั้ง
  • ความนิยม: +21/-38
  • .
ไทยเราสมัยก่อน  เคี้ยวหมากกันทั้งหญิงทั้งชาย  ถ้ามีวัฒนธรรมดีปคิสหล่ะก็.....   ???
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,586
  • ถูกใจแล้ว: 18894 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-454
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
ไทยเราสมัยก่อน  เคี้ยวหมากกันทั้งหญิงทั้งชาย  ถ้ามีวัฒนธรรมดีปคิสหล่ะก็.....   ???
จูบทีน้ำ(หมาก)กระจาย  ???
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Sasageyo

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก