คนเราเหลือเวลาทำในสิ่งที่ชอบอีกเท่าไรกันแน่

[DarkMatterZ]

อายุเฉลี่ยของคนไทย คือ 79 ปี

นอน 8 ชม/วัน = 1/3 ของชีวิต
เหลือเวลาอีก 53 ปี

เฉลี่ยชั่วโมงเวลาเรียนเต็มๆ = 3 ปี
เหลือเวลาอีก 50 ปี

ทำงาน(ที่ไม่ได้ชอบ) = 40 ชม/สัปดาห์ สมมติว่าทำงาน 45 ปี = 93,600 ชม  เวลาทำงานเต็มๆ คือ 12 ปี
เหลือเวลาอีก 38 ปี

ย่างเข้า 60 ปี เข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ หมอนัดตรวจสุขภาพ (ไม่ดูแลสุขภาพ) = 16 ปี
เหลือเวลาอีก 22 ปี

โดยคนทั่วไปจะใช้เวลา 10% ของชีวิต ในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ
เหลือเวลาอีก 14 ปี

เลี้ยงลูก รับส่งลูกไปโรงเรียน (ถ้ามี) = 2 ปี (full-timeเต็มๆ)
เหลือเวลาอีก 12 ปี

เล่นมือถือในเวลาว่าง (ไม่นับตอนเล่นขณะทำอย่างอื่น)  2.5 ชม/วัน = 7 ปี
เหลือเวลาอีก 5 ปีเต็ม ที่จะทำอะไรก็ได้ครับ ตัดเวลานอน กินข้าว เล่นมือถือ ไปแล้ว
ไม่รวมเวลาอื่นๆอย่างอื่น เช่น ทำการบ้าน ติวสอบ เกณฑ์ทหาร งานศพ งานบวช

ดังนั้นควรเลือกงานที่ชอบ ทำแล้วสนุกไปกับมันนะครับ
 

---------------------------------------------------------
อ้างอิงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=HAJ6CWP4fMI

มาเป็นข้อความในฉบับรวดรัดครับ

• Tweet

[Kopyor]

ทำให้นึกถึงมุกตลกร้ายอันนึง  เป็นมุกฝรั่ง  ที่คำนวณเวลาที่บริษัทต้องสูญเสียไปเท่าไหร่
กับการที่พนักงานลุกไปฉี่  ไปกินข้าว

พนักงาน 1 คน  วันหนึ่งเข้าห้องน้ำสามครั้ง  ครั้งละ 10 นาที  เท่ากับ  30 นาทีต่อวัน
เดือนนึง 25 วัน  เท่ากับ 12.5ชั่วโมง  หนึ่งปีเท่ากับ  150 ชั่วโมง


บริษัทต้องสูญเงินค่าแรงไปถึง 18วันกับอีก 6 ชั่วโมง   

ถ้าบริษัทจำกัดการเข้าห้องน้ำ  ให้เข้าเฉพาะช่วงพักกลางวัน  บริษัทจะไม่ต้องสูญตรงนี้ไปมากโข
หรือให้จำกัดเข้าห้องน้ำในกรณีฉุกเฉินไม่เกินหนึ่งครั้ง  บริษัทจะเซฟไปได้ถึง 12วัน4ชั่วโมง

 

[deaddy]

ทำให้นึกถึงมุกตลกร้ายอันนึง  เป็นมุกฝรั่ง  ที่คำนวณเวลาที่บริษัทต้องสูญเสียไปเท่าไหร่
กับการที่พนักงานลุกไปฉี่  ไปกินข้าว

พนักงาน 1 คน  วันหนึ่งเข้าห้องน้ำสามครั้ง  ครั้งละ 10 นาที  เท่ากับ  30 นาทีต่อวัน
เดือนนึง 25 วัน  เท่ากับ 12.5ชั่วโมง  หนึ่งปีเท่ากับ  150 ชั่วโมง


บริษัทต้องสูญเงินค่าแรงไปถึง 18วันกับอีก 6 ชั่วโมง   

ถ้าบริษัทจำกัดการเข้าห้องน้ำ  ให้เข้าเฉพาะช่วงพักกลางวัน  บริษัทจะไม่ต้องสูญตรงนี้ไปมากโข
หรือให้จำกัดเข้าห้องน้ำในกรณีฉุกเฉินไม่เกินหนึ่งครั้ง  บริษัทจะเซฟไปได้ถึง 12วัน4ชั่วโมง

 

แต่เวลาพักก็ช่วยลดความเครียดแล้วเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน


ผมนั่งฟัง บ.ที่จำกัดเวลามากๆ ใช้งาน พนง.หนักๆ
สุดท้ายคนก็ลาออกรัวๆ
ใช้แรงงานหนัก ทำไปๆร่างกายยังแข็งแรงขึ้นมารองรับได้


แต่ระดับความเครียดถ้าสูงมากๆ คนก็ป่วยได้เหมือนกัน
แถมแม่มเจ้านายดูไม่ออกด้วยถ้าลูกน้องไม่บ้าไปก่อน

ที่ทำงานผมก็เจอคนนึง ไม่ใช่เพราะงานหรอกเพราะคนล้วนๆ
สุดท้ายทำงานต่อไม่ได้ แต่คู่กรณีเกษียณไปละโลกเลยสงบสุขขึ้น

[providence_gundam]

มีเพื่อนคนนึงพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการนอนวันละ 3 ชม.ครับ


ทำได้ประมาณ 5-6 เดือนก็เลิกทำ แล้วหลับยาวจนตอนนี้ร่างเป็นขี้เถ้าอยู่ในโถไปแล้ว

[daily]

มีมุกตลกอันนึง  จำมา

มีหมอคนนึงได้ตรวจคนไข้อาการหนัก  แล้วส่ายหน้า

คนไข้  "หมอบอกมาเถอะ  ว่าผมเหลือเวลาอีกเท่าไร  อาการผมหนักนี่นะ  ฮ่าฮ่าฮ่า"

หมอ   "อย่าคิดแง่ร้ายแบบนั้นเลยครับ  คุณยังมีชีวิตได้อีกนาน  อย่างน้อยก็...."

หมอพลางชูมือหน้านิ้ว

คอนไข้ "อีกห้าสิบปี?  แหมหยอกๆ  ผมเข้าใจดีว่า  ต่อให้ฟื้นฟูยังไง  ก็คงไม่สามารถ
มีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนั้นหรอก  แต่ถ้าสักห้าปี  ผมก็ขอบคุณพระเจ้าแล้ว"

หมอ   "ท่านก็ยังคิดบวกอยู่เสมอ  หมอขอแสดงความเสียใจด้วย  แต่ไม่ใช่ห้าปี"

คนไข้ "เอาหน่ะ  อย่างน้อยก็ห้าเดือนสินะ  คงไม่ใช่ห้าสัปดาห์หรือห้าวันหรอกเนอะ"

หมอ   "เปล่าๆ  มันคือ...  5  4  3  2  1  "

ทันใดนั้น...สติของคนไข้ก็ดับวูบไป.....  ตลอดกาล.....