[quote/]
แล้วก่อนหน้านั้นเราอยู่ได้อย่างไร ตอนที่ยังไม่เปิด Free Trade กับจีน
จริงครับที่เราอาจเสีย Cost ซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นมากขึ้น แต่อย่าลืมว่ารายจ่ายออกนอกประเทศของเราน้อยลงเช่นกัน
วิธีที่ถูกต้องคือการสร้างงานเพื่อให้เกิดกำลังผลิตในประเทศ ตามสูตรคำนวน GDP
เราต้องสนับสนุน SME รายย่อยผลิตวัตถุดิบตั้งต้นและแปรรูปขั้นแรกให้บริษัทใหญ่ต่างหาก แทนที่เราจะไปซื้อวัตถุดิบตั้งต้นจากต่างประเทศ
นำเข้าเฉพาะวัตถุดิบที่จำเป็นจริงๆที่หาไม่ได้ในเมืองไทยเช่นแร่โลหะดิบที่มีคุณภาพ น้ำมัน
อันนี้ถือเป็นประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงด้วย กรณีเกิดสงคราม ทุกประเทศต่างกักตุนสินค้า
ต่อให้ขายก็ขายแพง แต่ถ้าเรามีการผลิตวัตถุดิบชั้นสองหรือสามเองได้ ไม่ต้องนำเข้า
ก็จะทำให้ประเทศยืนระยะในช่วงสงครามได้นาน
แล้วทำสินค้าต้นทุนแพง ไปขายราคาแพงยิ่งกว่าจะไปขายใครครับ
บางอย่างในอดีตมันเคยทำได้ไม่ได้แปลว่าปัจจุบันจะทำได้นะครับ
แต่ก่อนที่เราจะฟรีเทรดกับจีน จีนยังล้าหลังกว่านี้เยอะครับ
เราเลยไปนำเข้าสินค้าจากประเทศห่างไกลแทน
แต่ปัจจุบันทั้งราคาและคุณภาพ จีนก็เป็นเบอร์ต้นๆแล้ว
จะลดขาดดุลจีนด้วยการไปขาดดุลอเมริกาแทนหรอครับ
สมัยนี้นายทุนเค้าใช้วิธีไปซื้อหุ้นต่างชาติแล้วครับ
อย่าง บ.ไทยอยากได้เทคโนโลยีจีน ก็ไปซื้อหุ้น บ.จีน
แล้วโคกัน ถึงบ.จีนจะโต เพราะได้ยอดขายจากไทย
แต่ บ.ไทยก็โตเพราะถือหุ้น บ.จีน แถมไม่ต้องเสียเวลาพัฒนาวิจัยเองหมด
ส่วนรายย่อย ก็ต้องทำใจครับ การไปปิดกั้นจีน ที่เป็นฐานซัพพลาย
มันก็ทำให้ รายใหม่เกิด แต่รายเก่าก็ตายครับ
เพราะไม่ใช่ว่า รายย่อยที่เน้นสินค้าราคาถูก จะไปหาของถูกได้จากประเทศอื่น
จะไปวิจัยเองก็ไม่ไหว
สรุปอย่าปิดกั้นครับ แต่ควรพัฒนาด้วยการสนับสนุนให้ได้เกิด
เพราะไปปิดกั้นโอกาส sme ล้มจำนวนมากกว่าสามารถรอดขึ้นมาแข่งได้
ส่วนเรื่องสงคราม เดี๋ยวยาวไม่เข้าประเด็นนี้แล้วกัน