[quote/]
ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าไม่ใช้น้ำก็ต้องใช้ไฟฟ้าแทน แล้วจะผลิตไฟฟ้าจาก ไหนให้พอกับปริมาณไฟที่ต้องการเพิ่มขึ้น
นิวเคลียร์ ผลิตได้เยอะจริง แรงจริง แต่แพง กับระวังโกโก้คลั๊นซ์
พลังงานน้ำ ก็ต้องใช้น้ำปั่นไฟ คิดว่ามีน้ำมากพอจะมาแทนในส่วนที่เพิ่มขึ้นไหม ประมาณการกันว่า โลกกำลังเข้าสู่ภาวะขาดน้ำจืดอยู่นะ
พลังงานแดด ก็ต้องใช้พื้นที่เพิ่มอีก มีที่ทางเพิ่มพอหรือไม่
และสุดท้าย ซึ่งจริงๆ ควรเป็นตัวแรก โรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล (ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ)
คือคำตอบที่ง่ายโครต ลงทุนไม่มาก แต่ปั่นไฟได้ดังใจนึง อยากจะปั่นน้อยปั่นมากทำได้ไม่ยุ่งยาก
และขอยกเรื่องการประสิทธิภาพการเปรี่ยนแปลงเป็นพลังงาน ของระบบเผาไหม้แบบจุดระเบิด(น้ำมัน)
เครื่องยนต์แบบลูกสูป ให้ประสิทธิภาพที่ 20-30% จากพลังงานของเชื้อเพลิง
เครื่องแบบแบบเทอไบน์เจ็ต ให้สูงสุด ที่ 44%
(เครื่องยนต์เทสล่าให้ประสิทธิภาพที่สูงสุดที่ 95-99% แต่ยังไม่มีใครเอามาทำได้จริงในเชิงพานิชย์)
เอาง่ายๆ คือโรงไฟฟ้าแบบฟอสซิล ถูกง่าย คุ้มทุนไวที่สุด แต่มันจะต่างจากเดิมตรงไหน
ในเมื่อแค่ ปชช. เลิกใช้น้ำมัน แต่เอาน้ำมันมาผลิตไฟฟ้า ไว้ชาร์จใส่รถแทน
(อาจมีค่าการสูญเสียพลังงานในการผลิต เทียบกันแล้วอาจจะผลิตคาร์บอนได้มากกว่า การใช้รถน้ำมันอีกด้วยซ๊ำล่ะมั้ง
หรือว่า อนาคต จะมีการใช้ไฟฟ้าปั่นไฟฟ้าขึ้นมาได้กันแนะ (ผิดหลักการอนุรักษณ์พลังงานกับ เทอร์โมไดนามิก)
แต่เทสร่า เคยกล่าวเอาไว้ว่า
เครื่องผลิตพลังงานฟรี นั้นไม่อนุญาติให้มีขายในตลาด
บางทีมันอาจมีจริงๆ ก็ได้ล่ะมั้ง
เอาจริงๆผมว่าเอามาไช้ในไทยค่าไฟฟ้ากับค่าน้ำมันราคาอาจไม่ต่างกันมากเพราะต้องเปิดแอร์แรง บวกอัตตราการเก็บค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้ารถไฟฟ้ายิ่งไช้คุณอาจต้องจ่าค่าไฟหนักกว่าค่าน้ำมัน เว้นแต่จะมีมิเตอร์แยกจ่ายเฉพาะรถอย่างเดียวซึ่งรัฐไม่น่ายอม(ปล.คุณสามารถขอมิเตอร์แยกได้จากการไฟฟ้าแต่การคิดค่าไฟจะไม่เหมือนเดิม แต่จะทวีคูนค่าไฟเข้าไปอีกเหมือนคุณจ่ายค่าไฟคอนโดจะมีค่าเช่าต่อหน่่วยเพิ่มเข้าไปอีก ผมขอติดตังมิเตอร์ถนนคนเดินไช้ไฟอาทิตละ1ครังขายของแค่7ชัวโมงมีแค่เตาวาเฟิล5ตัวที่ไม่เปิดตลอดกับหลอดไฟ1ดวงค่าไฟเดือนละหลายพัน)
ไม่ว่าปัญหาจะคืออะไรก็ตาม แต่มันจะมาแน่นอน
ในต่างประเทศมาแล้ว ในไทยก็กำลังเตรียมเข้าสู่
นโยบายรัฐถกกันไปแล้ว
บ.รถต่างๆ โชว์รถเปิดจองแล้ว
ถ้าจะบอกว่าไม่มาง่ายๆ ก็แปลว่ามองว่า
รบ. ไม่มีความสามารถ ในการผลักดัน
บ. รถชั้นนำ เปิดตัวไปงั้นๆ
ปั้มชาร์ตที่กำลังสร้าง และสร้างไปแล้วนับร้อยๆสาขาและที่เตรียมจะสร้าง เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า
คือ รถ ev ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายประเมินว่ามันมาแน่ๆ
ไอ้ปัญหาทุกอย่างถึงมี แต่รัฐก็ต้องดันแน่นอน
ทุกฝ่ายเค้าก็รู้ปัญหาและก็มีทางแก้แน่นอน
เพราะแทบทุกประเทศชั้นนำกระแสมาหมด
การเปลี่ยนแปลงมันขึ้นกับเวลาแค่นั้น
ถ้าคิดว่าค่าไฟมีปัญหาแน่นนอน
บ.แท็กซี่ เค้าดีลกันไปแล้ว ถ้ารถไฟฟ้าไม่คุ้ม
ค่าไฟเติม ที่มาแทนน้ำมัน เค้าคงไม่ซื้อหรอก
ส่วนเรื่องพลังงานไฟฟ้า กฟผ เค้าก็คงมีแผนสร้าง โรงไฟฟ้ามารองรับอยู่แล้ว
เพราะมันไม่ใช่ว่า จะตู้ม ทุกคนทิ้งรถเก่าแห่ซื้อ ev
มันจะทะยอยๆเปลี่ยน โรงไฟฟ้าก็ทะยอยสร้างๆ
แทบทุก บ.เกี่ยวกับผลิตไฟฟ้า เค้ามีแผนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่แทบทุกปีครับ
อย่าง บ. รถไฟฟ้าสัญชาติไทย เห็นข่าวว่า โรงงานแบตเตอร์รี่กำลังจะพร้อมผลิตปีนี้แล้ว