ว่าง่ายๆก็แบบหนังเรื่อง the witcher ครับ กำลังพอดีจอมเวทเทพๆมีไหม? คำตอบก็คือมีแต่ไม่เยอะ ส่วนพวกวิชเชอร์จะใช้เวทระดับล่างได้แต่ว่าจะมีเพลงดาบด้วย. และที่แน่ๆจอมเวทสู้ระยะประชิดไม่ได้
Witcher ก็พอถูไถครับ
ว่าชาวบ้านชาวช่องไม่ค่อยเจอปีศาจในเมือง แต่คนที่เจอมีแต่พวกชาวบ้านนอกคอกนา
และพวกนี้ไม่ค่อยมีเงินจ่าย
แต่witcher มันมีพวกเทพๆในตำนานเดินไกันไปมาอยู่นะครับ
แค่พวกนี้มักจะมีแผนการของตนเอง
บุคคลระดับตำนานก็ยังมีอยู่
แต่ก็มีมุกเหมือนกันครับว่า
โรงเรียน witcher ที่เน้นด้านเวทย์โดนพวกพ่อมดแม่มดคิดว่าเป็นคู่แข่งและทำลายไป
ผมกะจะเอาตำนานจีนมาปนปนน่ะครับ
ประมาณว่าภูเขานี้เกิดขึ้นเพราะฝ่ามือของพระยูไลกักหงอคงไว้ประมาณนั้น
อาจจะเล่นมุก บุคคลในตำนานน่ะมีจริง
แต่เป็นฉากเบื้องหลังของเรื่องราว
ไม่ออกมาเบื้องหน้าง่ายๆ
เวทย์มนต์ระดับแฮรี่ ถ้ากำลังภายในระดับที่ต้องสัมผัสตัว กำลังภายในก็ได้ดับอนาถเข้าไม่ถึงตัว
ถ้ากำลังภายในแบบปล่อยแสงเวอร์วัง ฝ่ายเวทย์มนตต์ดับอนาถร่ายเวทย์ไม่ทันเสร็จเจอโป้งเดียวจอด
แต่ถ้าบอกว่า ฝ่ายกำลังภายในมีปราณต้านทานเวทย์ได้ ฝ่ายเวทย์ก็มีเวทย์สนามพลังทั้งหลายปกป้องการโจมตีทั้งฟิสิกคอลและกำลังภายใน
ถ้าแบบนั้นเวทย์กับกำลังภายในก็คือสิ่งเดียวกันแล้ว ปรมาณว่าต่างท้องที่กันศึกษาสิ่งเดียวกันจึงทำให้บัญญัติชื่อต่างกัน
แบบนี้ก็ต้องมาดูว่า ลักษณะวิชาของใครได้เปลี่ยบกว่า
ฝ่ายเวทย์นั้งใช้การร่ายเวทย์น่าจะเรียนได้เร็วกว่าฝ่ายกำลังภายใน
แต่ในระยะยาวฝ่ายกำลังภายในที่มุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนความจำระดับประสาทตอบโต้อัตโนมัติน่าจะได้เปรียบกว่ามาก
ประมาณว่า เบี่ยงเบนทิศทางเวทย์ที่ถูกยิงมาได้ง่ายๆ แปลงสภาพเวทย์ที่ศัตรูปลดป่ล่อยออกมาได้เช่นสูบพลังเวทย์นั้นมาเป็นของตัวเอง
ใช้เวทย์โจมตีโดยไร้สัญญาณเตือน และปกปิดพลังเวทย์ของตัวเองได้
ทางด้านฝ่ายร่ายเวทย์ ในระยาวก็ต้องพัฒนาไปทางด้านเวทย์ใหญ่แทน ร่ายเวทย์นานขึ้นส่งผลกว้างขึ้นหรือรุนแรงขึ้น เช่นเรียกฝนลูกไฟตกลงมาจากฟ้า
หรือเรียกดาวตกลงมา
ดูไปดูมาก็คล้ายๆเกม pathofexile คือ ฝ่ายร่ายเวทย์ก็ร่ายไป ฝ่ายสกิลต่อสู้ก็ต่อสู้ด้วยสกิลไป ทั้ง2ฝ่ายใช้ mana เหมือนกัน
กำลังเจอแนวที่บอกว่าที่บอกว่าเวทย์กับปราณมีที่มาจากแหล่งเดียวกันแค่ต่างว่าจะใช้อย่างไรน่ะครับ
เจอมุกหนึ่งว่า นักเวทย์ก็มีลำดับขั้นในโลกที่ระดับลมปราณปล่อยแสงได้
อออกแนวที่งักปุ๊กคุ้งตอบว่าปราณจะได้เปรียบกว่าเมื่อเวลาผ่านไป มีความเข้มแข็งว่องไวกว่า
แต่นักเวทย์จะทำได้หลากหลายกว่าน่ะครับ ถ้าเป็นักเวทย์ระดับสูงขึ้นและต้องใช้เวลานานและความฉลาดในการฝึก
ปราณนั้นแม้แต่คนปัญญาอ่อนก็ฝึกได้หากมีวิชาที่เหมาะสม
เวทย์ต้องการคนที่ฉลาดในการใช้
ผมไปเจอเรื่องหาญท้าชะตาฟ้า ปรมาจารย์คนหนึ่งก็ใช้เวทย์มีการร่ายคาถาเป็นเหมือนกัน
มุกในแนวปราณยุทธแบบปล่อยแสง
ก็บอกว่าไม่มีเวทย์
แต่ไอ้พวกแหวนเก็บของ ยันต์ ค่ายกล การเล่นแร่แปรธาตุและการปรุงยาก็เห็นมีกันเกลือน
ถ้าแนวจีน จะไม่เรียกว่าเวทย์มนต์ แต่คอนเซพจะเป็นพลังเทพ มาร หยินหยาง พร คำสาป กำลังภายใน อะไรเทือกนั้น แต่ถ้าใส่เวทย์ไปก็น่าสนุกดี เอานักเวทย์ฝรั่งไปลุยยุทธภพ เอาระดับแฮรี่พอตเตอร์ไปลุยกิมย้ง
จะเอาประมาณนั้นล่ะครับ
แต่ผมพยายามจะให้พระเอก แถเอาตำราไซโรอัสเตอร์อ้างตนเองเ็นนิกายเม้งก้าสาขาเปอร์เซียของแท้ว่างั้น
พวกนี้มักจะล่นมุกว่าคนที่มีกำลังมากอย่าง เจ้าอาวาสเส้าหลิน สวดมนตร์ เพ่งกำลังภายในใส่ก็สามารถสะท้อนคุณไสยกลับไปได้น่ะครับ
หวงอี้ ก็แม้จะมีพ่อมด ที่ถอดร่างใช้พลังจิตได้ ก็ดดนกระแทกตายได้ด้วยพลังปราณเช่นกัน
ลมปราณ เวทย์มนต์ มันก็สามารถแถเป็นแนวไซไฟได้อยู่แล้ว เพราะงั้นจะกังวลไปไย??
มันก็แถได้ว่ามันคือกฏฟิสิกที่ยังไม่ถูกค้นพบ ยังเคยเห็นการ์ตูนไซไฟบางเรื่องที่เล่นประเด็นที่
หนุษย์ต่างดาวใช้เวทย์มนต์ ที่เขาใช้ได้เพราะเขาค้นพบกฏฟิสิกของมัน
[ควรจะให้มีเวทมนตร์แค่ไหนในนิยายกำลังภายในดีครับ?] แล้วแต่บท แล้วแต่พล็อต อาจ
ทำเอิกเกริก เล่นสงครามเวทมนตร์กับกำลังภายในก็ได้ หรือจะทำให้เท่ากันก็ได้ หรือจะทำให้
กำลังภายในเจ๋งกว่าก็ได้ หรือจะทำให้มันคือศาสตร์เดียวกันแต่แค่มันคือการเรียกภาษาต่างกันก็ได้
เยอะแยะ อยู่ที่คนแต่งจะแถยังไงให้สนุก ให้น่าติดตาม
ไปแเจอเรื่องเจาะเวลาเป็นมือปราบน่ะครับ
ที่ให้ตระกูลหนึ่งเป็นคนมีเวทมนตร์ ทำงานปราบผี อารักขาฮ่องเต้
จนผมสงสัยว่าตระกูลที่มีพลังเหนือธรรมชาติขนาดนั้น ทำไมต้องทำงานรับใช้ฮ่องเต้ที่เป็นคนธรรมดาด้วย?
เป็นแบบหลุยส์ศูนย์สนิทยังเข้าใจได้ง่ายกว่า
ว่าคนมีเวทย์คือขุนนาง
คนไม่มีเวทย์คือราษฎรต๊อกต๋อย
หรือจะเล่นมุกโหรราชสำนักที่มีอิทธิพลมาก
แต่ก็ไม่จริงเสมอไป โหรโดนฆ่าตายอยู่พอสมควรเหมือนกันในประวัติศาสตร์
กะจะว่าให้พระเอกเริ่มจากวิชาปราณธรรมดาและค่อยๆทดลองเรียนรู้ไปเรื่อยๆน่ะครับ