ข้อ1.ไม่ผิดหรอก เนื่องเพราะไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้โพสต์เหตุนี้ทำให้ขาด
"ผู้เสียหาย" และต่อให้มี
ผู้เสียหาย ก็ไม่ผิดเพราะได้แก้ไขจากพ.ศ.2550มาเป็นฉบับใหม่ มาตรา14วงเล็บ1ให้ไม่ครอบคลุมคดี
หมิ่นประมาทแล้วจ้า อันนี้ในกรณีชัดแจ้งว่าได้เอ่ยชื่อ หรือเอ่ยเอกลักษณ์บุคคลจนทำให้สาธารณะชนเข้าใจได้ว่า
เป็นบุคคลที่กล่าวถึง เพราะงั้นไม่ผิด พรบ.คอมฯ แต่ก็ยังผิดฐานหมิ่นประมาทนะเออ
![](https://bangkokbiznews.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com/image/kt/media/image/fileupload1/source/158252849197.jpg?1582528493616)
ข้อ2. เอาโพสต์คนอื่นมาโพสต์ต่อ ถ้าเจ้าของโพสต์จะเอาเรื่อง มันก็ทำได้ แต่ถ้าตั้งสถานะเป็นสาธารณะ ก็ต้อง
ไปต่อสู้อีกที ซึ่งปกติส่วนใหญ่ก็รอด เพราะอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ แต่ถ้ากังวลก็ให้ใส่ลิงค์ต้นทางด้วยนะเออ
ก็เหมือนกรณีแชร์ช่าวของสำนักข่าวต่างๆ แชร์ข้อความต่างๆทางเฟสบุค เขามักจะบอกกันว่า อย่าไปก็อปปีมานะ
ให้กดปุ่มแชร์แทน อาจใส่หัวข้อสักหน่อย เนื้อหาสักนิด เท่านั้นพอ เก็ตยัง?? ตัวอย่างนี้น่าจะเห็นภาพ
^^
ข้อ2.นี้ รวมหลายกรณีและบางประเทศถือเป็นมารยาทมากๆ อาจมีฟ้องร้องเลยนะเออในบางประเทศ จงกดปุ่ม
แชร์จะดีกว่า ถ้าไม่มีก็โยนลิงค์ บางประเทศจะถือว่าเบียดบังผลประโยชน์หรือทำให้เจ้าของบทความเสียประโยชน์
เนื่องจากข้อความต่างๆ ถ้ามีคนเข้ามาอ่านเยอะๆ มันจะหมายถึงตัวเลขเงินค่าโฆษณา หรือเงินจากคนเข้ามาอ่าน
พอจะเข้าใจความหมายนี้นะ มันจึงฟ้องร้องได้ แต่ไม่ใช่ฟ้องร้องในเรื่องทำให้เสียหายเนื่องจากถูกแชร์โพสต์ที่ตั้ง
เป็นสาธารณะ แต่โดนฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์จ้า ถ้าเจอทนายดีๆเขาจะแนะให้ฟ้องแบบนี้
ข้อ3. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยเหรอ ==" อันนั้นต้องให้หน่วยงานรัฐประเทศนั้นยื่นฟ้องในประเทศที่
ผู้โพสต์อาศัยอยู่ แล้วพิสูจน์ต่อศาลว่าตนเองเป็นผู้เสียหายจากโพสต์นี้อย่างไร ผิดมาตราไหน
EDIT: ในข้อ2. ข้อความที่โพสต์โซเชียล ผู้โพสต์จะได้รับคุ้มครองลิขสิทธิ์อัตโนมัติ ทุกข้อความมีลิขสิทธิ
นะเออ จงระวังเรื่องนี้ไว้ แต่มีข้อยกเว้นยิบย่อยอยู่บ้างบางประการ