แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง  (อ่าน 2653 ครั้ง)

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2019, 11:11:18 PM »
เนื้อเรื่อง
สมัยเด็กๆ ก็ไม่ได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับเรื่องการทำแท้งมาแต่อย่างใด ถ้านึกย้อนไปในความรู้สึก เหมือนจะเป็นการทำบาปที่ทำลายชีวิตเด็กที่กำลังจะเกิดมา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายที่จะต้องต่อต้าน หรือสนับสนุน

เมื่อโตขึ้นมาได้มีการได้เรียนเป็นหมอ เรียนในโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งที่ไม่มีการยุติการตั้งครรภ์ให้กับหญิงที่ไม่พร้อม ขณะเรียนก็มีโอกาสได้เจอคนไข้กลุ่มนี้เรื่อยๆ ในฐานะที่เป็นหมอก็คงต้องทำตัวเป็นกลางให้คำแนะนำทางเลือก ได้แก่ ตั้งครรภ์ต่อ หรือ ยุติการตั้งครรภ์

การแนะนำให้ตั้งครรภ์ต่อ ก็คงพูดได้แต่หลักการเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีที่ไหนที่จะดูแลหญิงตั้งครรภ์คนนั้นไปตลอดชีวิต ปัญหาของเขาคือ ความไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นทางครอบครัว ทางด้านการเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย ถามจริงๆ มีองค์กรไหนที่ดูแลเขาไปตลอดชีวิตมั้ย? ถ้ามีช่วยแนะนำด้วย จะได้ส่งคนไข้ไป

การแนะนำทางเลือกยุติการตั้งครรภ์ขณะเรียนก็รู้ว่ามีโรงพยาบาลที่เราควรส่งไป เอาเข้าจริงๆ ก็เหมือนแค่พูดชื่อโรงพยาบาล ขั้นตอนเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะอาจารย์ไม่ได้สอน อาจารย์ไม่ได้แนะนำรายละเอียด อาจารย์บางท่านไม่มีแนวทางเลือกให้ด้วยซ้ำ โรงพยาบาลที่เรียน แพทย์สภา หรือกระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่ได้มาเน้นในหลักสูตรการเรียนการสอน ทำให้เราก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรในด้านการบริหารจัดการ

เมื่อเรียนจบมามีความรู้ความสามารถ ที่สำคัญคือ รู้สึกเข้าใจหญิงที่ท้องไม่พร้อม พวกคุณที่ต่อต้านการยุติการตั้งครรภ์ เข้าใจผู้หญิงเหล่านี้แค่ไหน ถึงยังต่อต้านการยุติการตั้งครรภ์?

ถึงตอนนี้ เราพร้อมที่จะดำเนินการยุติการตั้งครรภ์ให้เป็นเรื่องเป็นราว เคยคิดว่า แค่มีระบบก็จบแล้ว เพราะเราเป็นคนทำ แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลยในโลกความเป็นจริงนั้นยากเหลือเกิน ไม่ใช่ยากที่ระบบ แต่ยากที่ “คนรอบตัว”

ระบบการยุติการตั้งครรภ์กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์สภา มีไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถเบิกกับสปสช.ได้ 100% ดังนั้นการยุติการตั้งครรภ์ไม่ควรจะเป็นเรื่องยาก

“คนรอบตัว” คือใคร? ไล่ตามลำดับมา ได้แก่ เจ้าหน้าที่ห้องทะเบียนทำบัตรผู้ป่วย เจ้าหน้าที่หน้าห้องตรวจ เจ้าหน้าที่ห้องยา ผู้ช่วยพยาบาลเตรียมคนไข้ก่อนทำการยุติการตั้งครรภ์ พยาบาลผู้ทำการฉีดยาเพื่อให้หมอทำการยุติการตั้งครรภ์ด้วยการดูด รวมถึงวิสัญญีแพทย์ และพยาบาล บุคคลเหล่านี้ ถือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับสร้างความยากลำบากให้กับแพทย์ผู้ที่จะทำการยุติการตั้งครรภ์ให้หญิงที่ท้องไม่พร้อมมากที่สุด ด้วยความคิดที่ว่า การยุติการตั้งครรภ์นั้นเป็นบาป ไม่อยากมีส่วนร่วมใดๆ ไม่อยากแม้แต่จะยืนใกล้ๆ เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง

สถาบันต่างๆ ที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนแพทย์ สถาบันฝึกอบรมพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ควรสอนให้รู้จักคำว่ายุติการตั้งครรภ์โดยมีข้อบ่งชี้ ไม่ใช่เป็นการทำบาป ทำให้ดูเหมือนว่า แม้จะเรียนจบมามีความรู้ มีใบประกาศ แต่กลับไม่มีวุฒิภาวะทางความคิดในเรื่องนี้

การยุติการตั้งครรภ์ในมุมมองของคนที่เป็นหมออย่างผมนะครับ คือ การให้การรักษาคนไข้อย่างหนึ่ง ไม่ใช่การทำบาป การให้การรักษา หรือการให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มันจะเป็นบาปไปได้อย่างไร

ที่มา : https://web.facebook.com/rsathai.org/photos/a.2095193717475608/2411695849158725/?type=3&theater

 :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\

ความคิดเห็นหลังอ่าน

รู้สึกว่าท่อนแรกนี่คือโดนเลย ที่ผ่านมาสมัยเด็กผมโดนนำเสนอเรื่องทำแท้งทีไรก็มีแต่เรื่องไม่ดี คลินิกทำแท้งไร้มาตรฐาน ผีเด็กอาฆาต มักง่าย ไร้ความรับผิดชอบ หมายังรักลูก ฯลฯ Propaganda ผมซ้ำๆว่าสิ่งนี้มันเลวร้ายประหนึ่งฆ่ายกครัวราชวงศ์อังกฤษ แม้แต่กรณีที่มีเหตุผลที่สุดอย่างการทำแท้งเพราะโดนข่มขืนจนท้องก็ไม่รอดจากคำก่นด่านี้ ผมเคยสาปแช่งทุกคนที่ทำแท้งเพราะเชื่อคำสอนนั้น วิชากฎหมายสมัยมัธยมเองก็เป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากจนทำผมหลับทุกคาบ

ต่อมาผมได้เปิดโลกมากขึ้น ครั้งหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปี1 ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมฟิตการทเกรดมาก พยายามท่องจำวิชากฎหมายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะจำได้เพราะความเป็นเด็กใหม่ กลัวเกรดน้อยแล้วปีต่อไปลำบาก ผมพยายามให้เข้าใจมากที่สุดเพราะการสอบตอนนั้นไม่ใช่เป็นข้อเขียน แต่สอบปากเปล่าเลยว่าถ้าเจอสถานการณ์นั้นตามกฎหมายต้องเป็นอย่างไร ผมท่องแล้วมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับพ่อที่ทำงานค่อนข้างจะใกล้ชิดกับกฎหมายพอสมควรเพื่อเพิ่มความเข้าใจ

กระทั่งผมไปอ่านเจอเรื่องการทำแท้งเข้า ส่วนที่อนุญาตให้ทำแท้งได้คือท้องแล้วตรวจเจอเด็กพิการ เป็นโรคติดต่อ แล้วก็ท้องเพราะโดนข่มขืน ซึ่งอย่างหลังค่อนข้างขัดกับความเชื่อผมในตอนนั้น ผมเลยถามพ่อผมเรื่องนี้ว่ากฎหมายเค้าให้ทำหรอ มันเท่ากับฆ่าเด็กนะ พ่อผมก็ตอบประมาณว่า "เด็กเกิดมาโดยที่แม่ต้องการก็ไม่ควรไปฝืน" ซึ่งตรงนี้ผมเองก็เปิดโลกเรื่องนี้ได้ก้าวนึงแล้ว

ต่อมาผมก็เริ่มอ่านประเด็นตรงนี้มากขึ้น อ่านกรณีเด็กที่เกิดจากการโดนข่มขืนที่โดนแม่ทารุณกรรมจากอาการทางจิต เด็กที่เกิดมาพิการแต่เด็กใช้ชีวิตลำบาก เด็กที่เกิดมาในสภาพแวดล้อมแย่ๆ มีกระทู้ที่พูดถึงละครทองเนื้อเก้าแบบไม่อวยแบบกระทู้หลักๆ อีกทั้งจู่ๆผมก็นึกถึงหนังสือไล่ตงจิ้นที่เคยอ่านสมัย ม.ต้น และอีกสารพัดข้อมูล บางเรื่องทำเอาผมจิตตกไปร่วมเดือนเลย ผมเลยเห็นด้วยกับการทำแท้งเสรีมากขึ้น เห็นว่ากรณีที่เด็กจะโตมาในสภาวะแย่ๆจนหล่อหลอมให้มาก่อความวุ่นวายที่สังคมไม่ควรเกิดมา ควรจะไปเกิดใหมกับคนที่พร้อมกว่านี้

ยิ่งจี๊ดตรงเรื่องคนรอบตัวที่มีทัศนะคติต่อเรื่องนี้ ยิ่งคนเป็นหมอที่จะทำให้แล้วยิ่งไปกันใหญ่ หมอ-พยาบาลบางคนเองก็ยังคงมีทัศนะคติเกี่ยวกับการทำแท้งว่าไม่ดี ไม่ทำให้ โอเคว่าถ้าเป็นโรงพยาบาลใหญ่ๆที่หมอเยอะๆก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าเกิดเป็นโรงพยาบาลในท้องถิ่นไกลๆที่มีหมอแค่ 1-2 คนล่ะ แล้วถ้าไม่ทำแท้งทั้งสองคน หรือทำคนเดียวก็ไม่ได้อีก ต่อให้ผ่านด่านหมอไปแล้วก็ยังมีด่านพยาบาลอีกซึ่งก็้องลุ้นว่าจะยอมช่วยมั้ย ถ้าไม่ก็อาจต้อง Refer ซึ่งก็อาจมีค่าใช้จ่าย คนที่ฐานะการเงินไม่ดีคงไม่ปลื้มแน่ๆ สุดท้ายก็เก็บเด็กแล้วก็อาจจะมีกรณีแบบข้อบน หรืออย่างดีก็ส่งสถานรับเลี้ยงซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะดีทุกแห่ง

บางครั้งการทำแท้งก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด และการเก็บเด็กก็ไม่ใช่ว่าจะดีอย่างที่คิดถ้าตัวแปร(ฐานะ วุฒิภาวะ คนรอบตัว ฯลฯ)ไม่อำนวยเช่นกัน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Rynerkung, nosta, Rindou และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ mangamancer

  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,333
  • ถูกใจแล้ว: 818 ครั้ง
  • ความนิยม: +48/-135
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2019, 11:55:12 PM »
คนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งเสรี หรือแม้แต่คนที่ความเห็นก้ำกึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะความเชื่อทางศาสนากันทั้งหมดนะครับ
อย่างผมก็ไม่เชื่อเรื่องบุญบาป/นรกสวรรค์ แต่เมื่อนึกถึงว่าเมื่อเปิดเสรีแล้ว ด้วยนิสัยคนบ้านเรามันก็จะมีคนใช้วิธีการทำแท้งราวกับเป็นวิธีคุมกำเนิดกันเยอะทีเดียว
แล้วท่านคิดว่าพ่อแม่ควรเป็นเจ้าชีวิตลูกขนาดชี้เป็นชี้ตายลูกได้จริงรึ ส่วนตัวผมเชื่อว่าแม้แต่พ่อแม่ที่เลี้ยงมายังทำไม่ได้เลยนะ
 ;)
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: as-hero, maotrade, Stnat และมีอีก 2 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ xeliilex

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 98
  • ถูกใจแล้ว: 69 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-5
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 12:13:44 AM »
จริงๆๆต้องถามว่าตั้งครรณ์ระยะไหนด้วยล่ะครับ  ถ้าสามสี่เดือนแล้วก็ไม่ควรนะ เพราะถือว่าเป็นคนแล้ว (ยกเว้นคนไข้เป็นเด็กหรือ สุขภาพไม่ให้)
เข้าใจว่าหลายคนสนับสนุนเพราะมองตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ถามว่าคนที่ทำแท้งจะไม่รู้รู้สึกเป็นแผลในใจติดตัวไปตลอดจริงหรือ


ผมว่าทำได้หรือไม่ได้ให้จิตแพทย์ มีส่วนในการอนุญาติดีกว่านะ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 12:16:01 AM »
คนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งเสรี หรือแม้แต่คนที่ความเห็นก้ำกึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะความเชื่อทางศาสนากันทั้งหมดนะครับ
อย่างผมก็ไม่เชื่อเรื่องบุญบาป/นรกสวรรค์ แต่เมื่อนึกถึงว่าเมื่อเปิดเสรีแล้ว ด้วยนิสัยคนบ้านเรามันก็จะมีคนใช้วิธีการทำแท้งราวกับเป็นวิธีคุมกำเนิดกันเยอะทีเดียว
แล้วท่านคิดว่าพ่อแม่ควรเป็นเจ้าชีวิตลูกขนาดชี้เป็นชี้ตายลูกได้จริงรึ ส่วนตัวผมเชื่อว่าแม้แต่พ่อแม่ที่เลี้ยงมายังทำไม่ได้เลยนะ
 ;)

อย่างน้อยถ้าเกิดมาในสภาวะครอบครัวที่ไม่พร้อมก็ควรจะให้ไปเกิดในที่ดีๆดีกว่านะครับ ดีกว่าคลอดแล้วมาทรมานตอนเป็นคนจริงๆ

แต่เรื่องการทำแท้งเสรีถ้าเปิดจริงถ้าพวกนี้จะทำแท้งเป็นสิบเป็นร้อยอย่างมากก็เดือดร้อนที่มดลูกของเค้านะครับ แต่ถ้าปล่อยให้พวกไม่พร้อมคลอดลูกออกมาก็มีโอกาสสูงที่เด็กพวกนี้ที่โดนเลี้ยงแบบเบี้ยวๆจะมาก่อความวุ่นวายในสังคม สู้ตัดวงจรนี้เลยดีกว่า

ไม่ได้เหมารวมนะครับ แต่อยากจะบอกว่าอัตราที่พวกเกิดมาสภาวะแบบนี้แล้วเป็นคนดีๆหรือเทาๆค่อนไปทางขาวมันน้อยมากๆ

เอาง่ายๆ หนังสือนอกเวลาเรื่องไล่ตงจิ้น พ่อตาบอด แม่ปัญญาอ่อน มีลูกประมาณ 10 กว่าคน คนที่ได้ดีจริงๆก็มีแต่ไล่ตงจิ้น นอกนั้นก็มีปัญญาอ่อนตามแม่ ตายตั้งแต่ยังเด็ก คนโตที่เป็นผู้หญิงก็ต้องขายตัวส่งน้องเรียน สรุปว่ามีแต่ไล่ตงจิ้นคนเดียวที่ได้ดีจริงๆ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะยืนด้วยขาตัวเองอย่างเดียว เพราะมีพี่สาวยอมขายตัวเพื่อเอาเงินมาให้เรียน ประกอบกับสังคมจีนสมัยก่อนที่โคตรจะยกย่องผู้ชายอยู่แล้วก็ได้งานง่าย มีโอกาสก้าวหน้าสูง

หรือใกล้ตัวหน่อยก็ทองเนื้อเก้า ก็มีแต่วันเฉลิมที่ได้ดีคนเดียว แต่คนอื่นๆล่ะ เป็นปัญญาอ่อนก็มี เป็นนักอันธพาล เป็นขี้ขโมย หนีตามผู้ชาย ไหนจะเน่าตายในท้องอีก แต่วันเฉลิมที่มันได้ดีเพราะลำยองเองก็ยังดีกกับไอ้วันกว่าลูกคนอื่นๆ แถมเพราะไอ้วันเองก็ได้รับการบวชเรียน(เหตุผลเดียวกับไล่ตงจิ้น เกิดเป็นชายโอกาสก้าวหน้าสูงอยู่แล้ว)จนเป็นคนดีได้

ในขณะเดียวกันถ้าทั้งสองเรื่อง วันเฉลิมหรือไล่ตงจิ้นเป็นผู้หญิง หรือเป็นลูกคนท้ายๆ เนื้อเรื่องอาจจะเป็นอีกแบบไปเลยก็ได้ ไล่ตงจิ้นขอไม่ยกตัวอย่างเพราะมีตัวตนจริงต้องให้เกียรติหน่อย แต่ไอ้วันขอบอกเลยว่าถ้าเป็นหญิงคงโดนผัวใหม่ของแม่ซั่มจนเสียซิงบ้างหละ ถึงจะบวชชีได้ก็ไม่ใช่ว่าจะออกมาเดินเทศนาเท่ห์ๆได้นะเพราะแม่ชีมีระเบียบข้อปฎิบัติเยอะกว่าพระมากกก

จริงๆๆต้องถามว่าตั้งครรณ์ระยะไหนด้วยล่ะครับ  ถ้าสามสี่เดือนแล้วก็ไม่ควรนะ เพราะถือว่าเป็นคนแล้ว (ยกเว้นคนไข้เป็นเด็กหรือ สุขภาพไม่ให้)
เข้าใจว่าหลายคนสนับสนุนเพราะมองตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ถามว่าคนที่ทำแท้งจะไม่รู้รู้สึกเป็นแผลในใจติดตัวไปตลอดจริงหรือ


ผมว่าทำได้หรือไม่ได้ให้จิตแพทย์ มีส่วนในการอนุญาติดีกว่านะ

มันจะมีปัญหาเป็นกรณีช่องว่างเวลานี่สิครับ อย่างโดนข่มขืนมาแล้วโดนขัง กว่าจะมีคนไปช่วยก็ท้องโตเกินระยะเวลาแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2019, 12:39:43 AM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: maotrade, fateproject, nosta และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ Phaeton

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 576
  • ถูกใจแล้ว: 154 ครั้ง
  • ความนิยม: +5/-4
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 12:28:38 AM »

https://www.reproductiverights.org/sites/crr.civicactions.net/files/documents/abortion_regulation_in_Thai.pdf
 เอาจริงๆตอนนี้ต่อให้กฎหมายไม่ได้เปิดเสรีแต่ก็ได้ยินว่ามันก็มีช่องให้ทำแต่มันก็ซับซ้อนตามข้อ 5 ตีความประมาณความไม่พร้อมมีบุตรแล้วเกิดอาการเครียดหรือปัญหาทางสภาพจิตใจ แต่ก็ต้องมีการคัดกรองหลายๆอย่างเช่นการรับรองจากแพทย์อีกคนที่ไม่ใช่คนยุติการตั้งครรภ์ การประเมินสภาพจิตใจคนท้องก่อนยุติการตั้งครรภ์ ฯลฯ ไม่ใช่ว่าได้ทุกราย และส่วนตัวคิดว่าต่อให้อนาคตกฎหมายมีเปิดให้ทำเสรีขึ้นการคัดกรองเหล่านี้ก็ยังจำเป็นอยู่ดีครับ

เรื่องโรงพยาบาลไกลๆขนาดเล็กๆไม่เกี่ยวว่าบุคคลากรจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยครับ ไม่มีใครรับทำหรอกครับถ้าไม่มีอุปกรณ์หรือแพทย์เฉพาะทางที่เพียงพอไม่มีใครอยากรับความเสี่ยงหรอก(รพเล็กเค้าไม่ได้มีแพทย์เฉพาะทาง ไม่ได้มีห้องผ่าตัด ไม่ได้มีธนาคารเลือด) ส่งต่ออยู่แล้วครับ ยุติตั้งครรภ์ทำไม่ยากแบบที่พวกคลินิกเถื่อนทำกันได้นั่นแหละ แต่การประเมินการเฝ้าระวังการรักษาภาวะแทรกซ้อนนี่แหละที่ยุ่งยากครับ

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: maotrade, Taw

ออฟไลน์ maotrade

  • พ่อค้าทาสผู้ลุ่มหลงเอลฟ์อ๊ปไป
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,030
  • ถูกใจแล้ว: 17716 ครั้ง
  • ความนิยม: +772/-109
  • เพศ: ชาย
  • เหตุผลและความรู้สึก
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 02:06:30 AM »
คนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งเสรี หรือแม้แต่คนที่ความเห็นก้ำกึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะความเชื่อทางศาสนากันทั้งหมดนะครับ
อย่างผมก็ไม่เชื่อเรื่องบุญบาป/นรกสวรรค์ แต่เมื่อนึกถึงว่าเมื่อเปิดเสรีแล้ว ด้วยนิสัยคนบ้านเรามันก็จะมีคนใช้วิธีการทำแท้งราวกับเป็นวิธีคุมกำเนิดกันเยอะทีเดียว
แล้วท่านคิดว่าพ่อแม่ควรเป็นเจ้าชีวิตลูกขนาดชี้เป็นชี้ตายลูกได้จริงรึ ส่วนตัวผมเชื่อว่าแม้แต่พ่อแม่ที่เลี้ยงมายังทำไม่ได้เลยนะ
 ;)


เกิดมาในครอบครัวไม่พร้อมยิ่งกว่านรกครับ :'(
แต่จริงๆถ้าทำให้ถูกกฎหมายและมีตัวเลือกเยอะน่าจะดีกว่า เพราะเด็กช่วง3เดือนพอได้ เพราะทารกยังพัฒนาการไม่เต็มอะไรเลย ทั้งความรู้สึกสัมผัส แต่บ้านเราก็ชอบยัดว่ามีชีวิตแล้วรู้สึกแล้วบาปกรรมบลาๆใส่
ทั้งที่ระบบประสาทยังไม่มีนี่นะ สมองยังไม่พัฒนาเลย ระบบประสาทเริ่มพัฒนาตอนเข้า4เดือนแล้ว

แต่โดยส่วนตัวการแก้ดีสุดคือ ให้ความรู้ที่ถูกอย่ามองเซ็กเป็นสิ่งเลวร้าย ต้องอายุบลาๆถึงได้ ตั้งแต่โบราณจนปัจจุบัน มันมีช่วงพร้อมมีตามกลไกธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้ายะทำก็ฝห้ทำไปแต่ให้คุมให้ดียังดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2019, 02:08:21 AM โดย maotrade »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol, nosta, Taw และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ mangamancer

  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,333
  • ถูกใจแล้ว: 818 ครั้ง
  • ความนิยม: +48/-135
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 03:10:52 AM »

https://www.reproductiverights.org/sites/crr.civicactions.net/files/documents/abortion_regulation_in_Thai.pdf
 เอาจริงๆตอนนี้ต่อให้กฎหมายไม่ได้เปิดเสรีแต่ก็ได้ยินว่ามันก็มีช่องให้ทำแต่มันก็ซับซ้อนตามข้อ 5 ตีความประมาณความไม่พร้อมมีบุตรแล้วเกิดอาการเครียดหรือปัญหาทางสภาพจิตใจ แต่ก็ต้องมีการคัดกรองหลายๆอย่างเช่นการรับรองจากแพทย์อีกคนที่ไม่ใช่คนยุติการตั้งครรภ์ การประเมินสภาพจิตใจคนท้องก่อนยุติการตั้งครรภ์ ฯลฯ ไม่ใช่ว่าได้ทุกราย และส่วนตัวคิดว่าต่อให้อนาคตกฎหมายมีเปิดให้ทำเสรีขึ้นการคัดกรองเหล่านี้ก็ยังจำเป็นอยู่ดีครับ

เรื่องโรงพยาบาลไกลๆขนาดเล็กๆไม่เกี่ยวว่าบุคคลากรจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยครับ ไม่มีใครรับทำหรอกครับถ้าไม่มีอุปกรณ์หรือแพทย์เฉพาะทางที่เพียงพอไม่มีใครอยากรับความเสี่ยงหรอก(รพเล็กเค้าไม่ได้มีแพทย์เฉพาะทาง ไม่ได้มีห้องผ่าตัด ไม่ได้มีธนาคารเลือด) ส่งต่ออยู่แล้วครับ ยุติตั้งครรภ์ทำไม่ยากแบบที่พวกคลินิกเถื่อนทำกันได้นั่นแหละ แต่การประเมินการเฝ้าระวังการรักษาภาวะแทรกซ้อนนี่แหละที่ยุ่งยากครับ


ตามนั้นครับ
กรณีถูกข่มขืน กรณีมารดามีปัญหาสุขภาพ กรณีเด็กไม่สมบูรณ์ รึแม้กระทั่งความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจจนทำให้มารดาเครียด กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้อยู่แล้ว ก็ทำตามกระบวณการไป
ขอย้ำอีกครั้งว่าการทำแท้งไม่ใช่ 1 ในวิธีการคุมกำเนิดครับ
จากสถิติ ถุงยางอนามัยใช้ให้ถูกวิธี ในผัวเมียที่ร่วมเพศกันเป็นประจำทั้งปี ยังมีโอกาสพลาดแค่ 2% ต่อปี (ผัวเมียอายุไม่เกิน 39 ร่วมเพศกันประมาณ 100 ครั้งต่อปี)
คิดดูเล่นๆโอกาสพลาดต่อ 1 ครั้งก็จะตกประมาณ 2 ใน 10,000 ครับ ถ้าใช้ถุงยางร่วมกับการคุมกำเนิดแบบอื่นด้วยก็จะต่ำลงไปอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2019, 06:45:46 AM โดย mangamancer »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: fateproject, Taw

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 10:33:53 AM »
ให้เค้าทำแท้งไปเหอะครับ เพื่อตัวเด็ก เพราะให้เด็กเกิดมาในครอบครัวที่ไม่พร้อม ไม่ต้องการ มันทรมานกว่าตายครับ ผมเคยคุยกับเพื่อในเนตหลายคนที่สภาพทางบ้านแย่ๆ บอกว่าถ้าเลือกได้เค้าไม่ขอเกิดมาดีกว่า

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol, Taw

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,184
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 11:00:22 PM »
ผมถามประโยคดดียวว่า เชื่อ ทฤษฎี อรรถประโยชน์หรือเปล่า?


utiliy theory






การขจัดเด็กในครรภ์ออกไป ไม่เคยเถียงว่าเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและการเลี้ยงดู




ผมแค่ถามตลอดว่า ต้องการให้สังคมยอมรับ utility นี่จริงๆหรือ?


จะให้กว้างไกลถึงจุดไหน?


ให้ทำแท้งได้...ท่านยอมรับการให้คนกินฮอร์โมนเพื่อทำหมันหรือเปล่า?


หรือท่านยอมรับการรักษาโดยให้ฮอร์โมนในกรณีที่เป็นพวกรักเพศเดียวกันหรือเปล่า?




มีอะไรหยุดท่านได้อีก เมื่อท่านให้เหตุผลด้านการปรับแต่งพันธุกรรม ว่าเด็กพิการ ปัญญาอ่อน ไม่ควรจะเกิดมา


ฆ่าไปเลยเถอะ เปลืองงบประมาณ เป็นการคัดสรรสายพันธุ์ในระยะยาวได้ดีด้วย






ผมเห็นด้วยทุกอย่างตามตรรกะ


ปัญหาคือ ท่านยอมให้รัฐมีแนวคิดอย่างนี้จริงๆหรือ?


วันดีคืนดี ท่านยอมรับได้หรือไม่ว่ารัฐจะจับท่าน นั่งเก้าอี้ ช็อตไฟฟ้า ให้ทานฮอร์โมน เปลี่ยนโครงสร้างของสมองให้มาชอบผู้หญิง?




ท่านไม่เคยเอะใจเลยหรือครับ?


ว่าทำไมนาซีที่เกลียดพวกเกย์  รักร่วมเพศ เผาหนังสือการแปลงเพศต่างๆ


ถึงเป็นเน้นเรื่อง พันธุกรรม eugenic?


ท่านจะยอมรับได้ไหม หากตนเองอยู่ด้านตรงข้ามของสมการ อรรถประโยชน์ utility


ต้องอยู่ในด้านที่ต้องกำจัดออกไปเพื่อประโยชน์ของสังคม?


ไม่ว่าทางกำจัดหรือการให้ฮอร์โมน






ผมมองเห็นตัวเลขและตรรกะว่ามันสมเหตุสมผลอยู่ แต่ไม่อยากให้รัฐหรือคนทั่วไปมีแนวคิดไปทางนั้น
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Kopyor

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2019, 11:29:18 PM »
ผมถามประโยคดดียวว่า เชื่อ ทฤษฎี อรรถประโยชน์หรือเปล่า?


utiliy theory






การขจัดเด็กในครรภ์ออกไป ไม่เคยเถียงว่าเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและการเลี้ยงดู




ผมแค่ถามตลอดว่า ต้องการให้สังคมยอมรับ utility นี่จริงๆหรือ?


จะให้กว้างไกลถึงจุดไหน?


ให้ทำแท้งได้...ท่านยอมรับการให้คนกินฮอร์โมนเพื่อทำหมันหรือเปล่า?


หรือท่านยอมรับการรักษาโดยให้ฮอร์โมนในกรณีที่เป็นพวกรักเพศเดียวกันหรือเปล่า?




มีอะไรหยุดท่านได้อีก เมื่อท่านให้เหตุผลด้านการปรับแต่งพันธุกรรม ว่าเด็กพิการ ปัญญาอ่อน ไม่ควรจะเกิดมา


ฆ่าไปเลยเถอะ เปลืองงบประมาณ เป็นการคัดสรรสายพันธุ์ในระยะยาวได้ดีด้วย






ผมเห็นด้วยทุกอย่างตามตรรกะ


ปัญหาคือ ท่านยอมให้รัฐมีแนวคิดอย่างนี้จริงๆหรือ?


วันดีคืนดี ท่านยอมรับได้หรือไม่ว่ารัฐจะจับท่าน นั่งเก้าอี้ ช็อตไฟฟ้า ให้ทานฮอร์โมน เปลี่ยนโครงสร้างของสมองให้มาชอบผู้หญิง?




ท่านไม่เคยเอะใจเลยหรือครับ?


ว่าทำไมนาซีที่เกลียดพวกเกย์  รักร่วมเพศ เผาหนังสือการแปลงเพศต่างๆ


ถึงเป็นเน้นเรื่อง พันธุกรรม eugenic?


ท่านจะยอมรับได้ไหม หากตนเองอยู่ด้านตรงข้ามของสมการ อรรถประโยชน์ utility


ต้องอยู่ในด้านที่ต้องกำจัดออกไปเพื่อประโยชน์ของสังคม?


ไม่ว่าทางกำจัดหรือการให้ฮอร์โมน






ผมมองเห็นตัวเลขและตรรกะว่ามันสมเหตุสมผลอยู่ แต่ไม่อยากให้รัฐหรือคนทั่วไปมีแนวคิดไปทางนั้น

ก็ไม่ได้บังคับให้ทำนะครับ ใครทำหรือไม่ทำก็เป็นสิทธิของท่านเลย ต่อให้โดนข่มขืนจนท้องถ้าแม่เด็กยินยอมให้เก็บเด็กก็บังคับให้ทำแท้งไม่ได้เหมือนกันนะครับ

แต่ปัญหาคือคนที่อยากทำเค้าไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำแบบถูกต้องไงครับ ค่านิยมบาปบุญสายสุดโต่งที่ฝังรากลึกตั้งแต่ระดับรากหญ้ายันดอกเตอร์ ระบบที่เหมือนจะเปิดแต่บุคลากรไม่เปิดตาม สุดท้ายก็ต้องไปหาคลินิคเถื่อนอยู่ดี

กรณีพิการ ผมว่าถ้าท่านลองเปิดใจคุยกับคนพิการจริงๆอาจจะเห็นด้วยนะครับ คนพิการไม่น้อยเค้าไม่อยากเกิดมาหรอกครับ ยิ่งบ้านเรามันสายเหยียด สาธารณูปโภคก็ไม่ค่อยอำนวยให้คนพิการ(เช่น รถเมล์ ในกรุงเทพยังพอมีรถรองรับวิลแชร์ แต่ ตจว.ล่ะ ยังต้องปีนบันไดหรือโหนสองแถวอยู่เลย) พิการทางกายถ้าเก่งๆความสามารถเยอะก็อยู่ได้ แต่ถ้าพิการทางสมองล่ะ??? พ่อแม่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ดูแลได้ตลอดชีวิต ส่งไปให้ญาติพี่น้องเค้าก็มีครอบครัวที่ต้องดูแลอีก ดูแลคนปัญญาอ่อนมันเครียดนะ ต้องเข้าใจคนเลี้ยงด้วยเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2019, 11:34:42 PM โดย Taw »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,184
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 12:02:04 AM »
[quote/]

ก็ไม่ได้บังคับให้ทำนะครับ ใครทำหรือไม่ทำก็เป็นสิทธิของท่านเลย ต่อให้โดนข่มขืนจนท้องถ้าแม่เด็กยินยอมให้เก็บเด็กก็บังคับให้ทำแท้งไม่ได้เหมือนกันนะครับ

แต่ปัญหาคือคนที่อยากทำเค้าไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำแบบถูกต้องไงครับ ค่านิยมบาปบุญสายสุดโต่งที่ฝังรากลึกตั้งแต่ระดับรากหญ้ายันดอกเตอร์ ระบบที่เหมือนจะเปิดแต่บุคลากรไม่เปิดตาม สุดท้ายก็ต้องไปหาคลินิคเถื่อนอยู่ดี

กรณีพิการ ผมว่าถ้าท่านลองเปิดใจคุยกับคนพิการจริงๆอาจจะเห็นด้วยนะครับ คนพิการไม่น้อยเค้าไม่อยากเกิดมาหรอกครับ ยิ่งบ้านเรามันสายเหยียด สาธารณูปโภคก็ไม่ค่อยอำนวยให้คนพิการ(เช่น รถเมล์ ในกรุงเทพยังพอมีรถรองรับวิลแชร์ แต่ ตจว.ล่ะ ยังต้องปีนบันไดหรือโหนสองแถวอยู่เลย) พิการทางกายถ้าเก่งๆความสามารถเยอะก็อยู่ได้ แต่ถ้าพิการทางสมองล่ะ??? พ่อแม่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ดูแลได้ตลอดชีวิต ส่งไปให้ญาติพี่น้องเค้าก็มีครอบครัวที่ต้องดูแลอีก ดูแลคนปัญญาอ่อนมันเครียดนะ ต้องเข้าใจคนเลี้ยงด้วยเหมือนกัน


ผมได้บอกเรื่อง slope กระดานลื่นทางความคิดไปรอบหนึ่งแล้วนะครับ




ก็ยังยืนยันตรรกะเดิม ว่าแนวคิดกระดานลื่นนั้นจริง




จนกที่เคยบอกว่า การทำแท้งต้อง rare safe necessity  ประมาณว่า ต้องเป็นกรณีที่น้อย ปลอดภัย และจำเป็น




จริงๆ แต่ตอนหลังกลายเป็นเพื่อความสะดวกไปแล้วในด้านความคิด




หากเปรียบเทียบก็คือ ยุคสมัยเปลี่ยนไป




จากสมัยก่อน ต้องอ้างแนวคิดทางการแพทย์ว่าการเป็นเกย์เป็นเรื่องพันธุกรรม


ปัจจุบัน มีการยอมรับกันมากขึ้น จึงเริ่มมีการออกบทความว่าการเป็นเกย์ไม่เกี่ยวอะไรกับพันธุกรรมอีกต่อไปแล้ว




เริ่มสังเกตแนวคิดที่ต่างไปหรือยังครับ?




ว่าสมัยก่อน มีศีลธรรมขัดขวาง  ต้อวทำในเคสที่จำเป็น




ตอนหลังข้ออ้างศีลธรรมหายไป กลายเป็นเพื่อความสะดวกสบายในปัจจุบัน






ตลกร้ายสิ้นดี ที่คนเราหันเข้าหาแนวคิดคัดสรรค์พันธุกรรมและอรรถประโยชน์ในที่สุดจนได้




ยอมรับว่านี่คือสุดปลายของแนวคิด หากมองประโยชน์สังคมในภาพรวม


ไม่ได้เหมาว่าคนที่มีแนวีดคัดสรรพันธุกรรมเป็นนาซี นาซีก็แค่ใช้เป็นเครื่องมือ ให้ได้สังคมตามที่ตนเองต้องการ




แต่ก็ต้องถามว่า ท่านต้องการอย่างนั้นจริงๆหรือ?




ยกตัวอย่าง




การให้ฮอร์โมน เปลี่ยนมาชอบผู้หญิง




จะรู้สึกอย่างไรว่า หากรัฐมีข้ออ้างว่า ท่านตอนนี้ก็เหมือนกับคนเมา หรือ มีสภาพบกพร่องด้วยสารเคมี?
รัฐต้องเข้ามาดูแลท่านโดยให้ฮอร์โมนและสารเคมีให้ท่านกลับมาเป็นปรกติ?


ท่านเาจจะอ้างว่า ตอนนี้ท่านก็ปรกติดีอยู่แล้ว เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่ควรมีใครตัดสินแทนท่าน




รัฐกลับอ้างต่อไปว่า เมื่อท่านมีสภาวะผิดปรกติ เท่ากับว่าคำพูดของท่านไม่มีค่า ให้ฮอร์โมนท่านจนท่านกลับมาสู่ภาวะปรกติอีกครัง ท่านก็จะไม่มีความคิดเช่นนี้อีก






...จะรู้สึกอย่างไรครับ หากเกิดกรณีเช่นนี้?




เมื่อเราไม่เชื่อศีลธรรม วิญญาณ งั้นมาจินตนาการว่าโลกเป็นเอทิสม์เต็มร้อยกัน




คนเป็นแค่เครื่องจักรชีวะ ไม่มีวิญญาณ ดำเนินการด้วยเส้นประสาทและการกระตุ้นด้วยสารเคมี




ความรู้สึกรักชอบพอเกิดจากการต่อเชื่อมของเส้นประสาทและสารเคมี




ก่อให้เกิดความรักใครชอบพอกัน ไม่มีเรื่องของจิตวิญญาณ...ดังนั้น ท่านมีเหตุผลอะไรในการต่อต้านให้วงจรในสมองของท่านชอบผู้หญิง?




ในเมื่อเครื่องจักรชีวะมันรันไม่ถูกต้อง ก็แค่ปรับแต่งสารเคมีและเส้นประสาทเสียใหม่?




แบบเดียวกับที่ชอบพูดว่า การทำแท้งก็แค่การเอากลุ่มก้อนเซลล์ออก




การเป็นเกย์หรือไม่ก็แค่การปรับเส้นวงจรประสาทและสารเคมีเท่านั้นเอง




เราไม่เอาศีลธรรม มาจับ ก็จะต้องมองตามอรรถประโยชน์...ซึ่งผมไม่สบายใจเอามากๆ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Kopyor, Taw

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 01:56:48 PM »
      การทำแท้งควรให้เสรีเพื่อปกป้องเด็กจากการเกิดมาผจญความโหดร้ายจากการที่มีพ่อแม่ไม่พร้อม และไม่อยากมีลูก เด็กไม่ได้ขอเกิดไม่ได้ต้องการจะเกิดนะครับ หลายคนถูกทารุณ ถูหกฆาตกรรม กรรมโดยแม่แท้ๆ ถูกฆาตกรรมโดยพ่อเลี้ยงแล้วแม่แท้ๆคอยช่วยผัว ซึ่งก็ออกข่าวบ่อยๆ ซึ่งแม้จะมีกฎหมายปกป้องเด็กแล้ว ก็ยังกันได้ไม่ดีพอ แต่เรื่องพวกนี้ป้องกันได้ โดยกฎหมายทำแท้งเสรีนะครับ ประเทศพัฒนาแล้วมากมาย ก็มีกฎหมายทำแท้งเสรี ไม่ใช่เพราะเค้าโหดร้ายฆ่าเด็กเพื่อเศรษฐกิจ แต่เค้าป้องกันเด็กจากการเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ต้องการเค้า
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol, Taw

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,184
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 05:50:58 PM »
^
^
^

เหมือนหนังไซไฟ  ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตเบย~  น่าสนใจ  น่าคิด  และน่าหาข้อยุตติ
เคยคิดเสมอๆ  ว่าร่างกายคืออะไร  เราทนความเจ็บได้แค่ไหน  ทำไมเราต้องโตและรู้สึกสนุก
ทางเพศ  ทำไมแมวที่เลี้ยงจากแบเบาะ  ผ่านไปไม่กี่ปีถึงให้ความรู้สึกว่าแมวทำตัวเป็นผู้ใหญ่

ช่วงนี้ไปอ่านเจอและคุยกับคนที่แต่งแนวไซไฟน่ะครับ
ว่าโลกออกแนวอนาคต สามารถก็อปปี้การทำงานของร่างกายได้ด้วยเทคโนโฏลยี ก็ยังไม่พบกับวิญญาณแต่ประการใด
"มนุษย์" คืออะไรถ้าอยู่ในจุดนั้น?
มัันก็เป็นแค่เรื่องของการคำนวณตัวเลข สร้างโคโลนีในรูปแบบทีทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุด
สิทธิมนุษยชนเป็นอะไรที่ถูกละเลย ดาวต่างๆจะเกิดอาการปกครองแบบฟิวดัลสมัยก่อน เพราะระยะทางที่ห่างจากโลก
มนุษย์ควบคุมยากนัก ก็เอาแอนดรอยด์ มนุษย์ประดิษฐิ์มาใช้แทน
      การทำแท้งควรให้เสรีเพื่อปกป้องเด็กจากการเกิดมาผจญความโหดร้ายจากการที่มีพ่อแม่ไม่พร้อม และไม่อยากมีลูก เด็กไม่ได้ขอเกิดไม่ได้ต้องการจะเกิดนะครับ หลายคนถูกทารุณ ถูหกฆาตกรรม กรรมโดยแม่แท้ๆ ถูกฆาตกรรมโดยพ่อเลี้ยงแล้วแม่แท้ๆคอยช่วยผัว ซึ่งก็ออกข่าวบ่อยๆ ซึ่งแม้จะมีกฎหมายปกป้องเด็กแล้ว ก็ยังกันได้ไม่ดีพอ แต่เรื่องพวกนี้ป้องกันได้ โดยกฎหมายทำแท้งเสรีนะครับ ประเทศพัฒนาแล้วมากมาย ก็มีกฎหมายทำแท้งเสรี ไม่ใช่เพราะเค้าโหดร้ายฆ่าเด็กเพื่อเศรษฐกิจ แต่เค้าป้องกันเด็กจากการเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ต้องการเค้า
เข้าใจในจุดนั้นและเข้าใจเอามากๆครับว่า่มันเป็นแนวคิดที่เย้ายวนเอามาก
นึกย้อนกลับไปที่นาซีมีผู้สนับสนุนมาก ผมก็ไม่แปลกใจเลยล่ะเมื่อพิจตารณาดูดีดี
มันเป็นแนวคิดที่สามารถนำเอาไปปฏิบัติเพื่อสรรสร้างสังคมที่ต้องการได้จริงๆ อย่างน้อยก็มีแนวทางที่ชัดเจนกว่าแนวคิดอย่างอื่น
ว่าทำกับคนให้เหมือนกับการเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตอื่นๆสิ
หมู เห็ด เป้ด ไก่ เรายังทำกันได้มีสาเหตุอะไรที่ทำกับคนไม่ได้?

แต่เรียกว่าผมเป็นคนกลัวอนาคตก็ว่าได้
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,154
  • ถูกใจแล้ว: 19893 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-1
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 07:00:14 PM »
การทำแท้งเสรีมันก็เหมือนกับการให้ผู้ป่วยสามารถเลือกที่จะตายได้นั่นแหละครับ. คือการที่คนบางกลุ่มไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ว่าแล้วมาคิดแทน. สมมุติว่ามีผู้ป่วยติดเตียงนอนจมกองขรี้-เยี่ยวมาเป็น10ปีคิดว่าเขาอยากจะอยู่ไหมครับ?  เช่นกันกับเด็กที่ครอบครัวไม่ต้องการคำว่าตกนรกมันยังเบาไปด้วยซ้ำนะเออ :-X
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ grendel2521

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 226
  • ถูกใจแล้ว: 84 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-6
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 07:07:08 PM »
      การทำแท้งควรให้เสรีเพื่อปกป้องเด็กจากการเกิดมาผจญความโหดร้ายจากการที่มีพ่อแม่ไม่พร้อม และไม่อยากมีลูก เด็กไม่ได้ขอเกิดไม่ได้ต้องการจะเกิดนะครับ หลายคนถูกทารุณ ถูหกฆาตกรรม กรรมโดยแม่แท้ๆ ถูกฆาตกรรมโดยพ่อเลี้ยงแล้วแม่แท้ๆคอยช่วยผัว ซึ่งก็ออกข่าวบ่อยๆ ซึ่งแม้จะมีกฎหมายปกป้องเด็กแล้ว ก็ยังกันได้ไม่ดีพอ แต่เรื่องพวกนี้ป้องกันได้ โดยกฎหมายทำแท้งเสรีนะครับ ประเทศพัฒนาแล้วมากมาย ก็มีกฎหมายทำแท้งเสรี ไม่ใช่เพราะเค้าโหดร้ายฆ่าเด็กเพื่อเศรษฐกิจ แต่เค้าป้องกันเด็กจากการเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ต้องการเค้า
ที่คุณกล่าวมานะ กี่เปอร์เซนต์ ของเด็กทั้งหมดครับ
ผมเป็นคนนึงละที่ไม่สนับสนุนการทำแท้งเสรีในไทย ประเด็นที่พูดถึงนีเป็นหน้าที่หน่วยงานอื่นๆที่ต้องดูแล ติดที่กฎหมาย แก้กฎหมายซะ
ในต่างประเทศหลายประเทศก็มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่
สิ่งที่คุณบอกนะเป็นสิ่งที่ลิดรอนเจตจำนงค์ในการมีชืวิตของมนุษย์
สิ่งที่ต้องแก้ไข ต้องแก้ไขที่สาเหตุครับ ดรื่องการคุมกำเนิด เรื่องการท้องโดยไม่พร้อม
ส่วนเรื่องที่กฎหมายกำหนดที่ให้ทำแท้งได้นะ ผมว่าครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่แล้ว
ปัญหาคือการนำไปปฎิบัติจริงต่างหากละ  moral courage ที่เกี่ยวข้องมีพอหรือปล่าว
ส่วน การทำแท้งเสรีคือการเลือกที่ง่ายไปหรือปล่าว
ตอนนี้ ประเทศไทยมีตัวบทกฎหมายที่อนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกกรณี จะทำได้คือ
 1.ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีปัญหาสุขภาพกาย ถ้าท้องต่อแล้วตัวผู้หญิงจะมีปัญหา เขาก็มีสิทธิขอยุติการตั้งครรภ์ได้
2.ถ้าผู้หญิงคนนั้นอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถขอยุติการตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน เพราะตามกฎหมาย อายุต่ำกว่า 15 ถือว่าถูกล่อลวงหรือถูกข่มขืนหมดเลย
3.กรณีถูกข่มขืนหรือถูกล่อลวง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่
4.ผู้หญิงที่มีปัญหาทางใจหรือเครียดอย่างรุนแรง จนมีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อตัวคุณแม่ ตัวอ่อนในครรภ์
จะเพิ่มข้อที่ควรเพิ่มในอนาคตก็เป็นได้ เช่นการตั้งครรภ์นอกสมรส เป็นต้น
ส่วนใหญ่ที่ค้องทำแท้งเถื่อนเพราะอายุครรภ์เกิน หรือ ไม่กล้าเจอหมอ มากกว่า
สิทธิตามกฎหมายมีครับ ใช้ซะ
ส่วนคนที่บอกว่าหมา แมวยังไม่ฆ่าลูกเลย ให้ถามกลับว่าเคยเห็นแมวกัดลูกตายมั๊ยคร



 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 07:13:27 PM »
การทำแท้งเสรีมันก็เหมือนกับการให้ผู้ป่วยสามารถเลือกที่จะตายได้นั่นแหละครับ. คือการที่คนบางกลุ่มไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ว่าแล้วมาคิดแทน. สมมุติว่ามีผู้ป่วยติดเตียงนอนจมกองขรี้-เยี่ยวมาเป็น10ปีคิดว่าเขาอยากจะอยู่ไหมครับ?  เช่นกันกับเด็กที่ครอบครัวไม่ต้องการคำว่าตกนรกมันยังเบาไปด้วยซ้ำนะเออ :-X

เรื่องป่วยอัมพาตเห็นด้วยเลยว่าน่ามีการุณฆาต ส่วนตัวเคยมีย่าทวดเป็นอัมพาต นอนติดเตียงอยู่หลายปี เสียไปตอนปี2551 อายุ97 เป็นตั้งแต่อายุ90 ต้นๆ ขอบอกเลยว่าสภาพคนนอนติดเตียงทรมานนะ บางทีขี้เยี่ยวล้นแพมเพิส แกก็บ่นอยากตายอยู่เรื่อยๆ แต่คนที่บ้านไม่ยอม(แต่บางทีก็โวยวายใส่ เข้าใจแหละว่าดูแลคนป่วยมันเครียด) สมัยนั้นยังไม่มีกฎหมายการุณฆาต แถมค่านิยมกตัญญูอีก ตอนก่อนตายไม่กี่ปีก็ต้องตัดนิ้วเท้าด้วยเพราะติดเตียงมานานเลือดไม่ไหลลงไปเลี้ยง

[quote/]
ที่คุณกล่าวมานะ กี่เปอร์เซนต์ ของเด็กทั้งหมดครับ
ผมเป็นคนนึงละที่ไม่สนับสนุนการทำแท้งเสรีในไทย ประเด็นที่พูดถึงนีเป็นหน้าที่หน่วยงานอื่นๆที่ต้องดูแล ติดที่กฎหมาย แก้กฎหมายซะ
ในต่างประเทศหลายประเทศก็มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่
สิ่งที่คุณบอกนะเป็นสิ่งที่ลิดรอนเจตจำนงค์ในการมีชืวิตของมนุษย์
สิ่งที่ต้องแก้ไข ต้องแก้ไขที่สาเหตุครับ ดรื่องการคุมกำเนิด เรื่องการท้องโดยไม่พร้อม
ส่วนเรื่องที่กฎหมายกำหนดที่ให้ทำแท้งได้นะ ผมว่าครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่แล้ว
ปัญหาคือการนำไปปฎิบัติจริงต่างหากละ  moral courage ที่เกี่ยวข้องมีพอหรือปล่าว
ส่วน การทำแท้งเสรีคือการเลือกที่ง่ายไปหรือปล่าว
ตอนนี้ ประเทศไทยมีตัวบทกฎหมายที่อนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกกรณี จะทำได้คือ
 1.ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีปัญหาสุขภาพกาย ถ้าท้องต่อแล้วตัวผู้หญิงจะมีปัญหา เขาก็มีสิทธิขอยุติการตั้งครรภ์ได้
2.ถ้าผู้หญิงคนนั้นอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถขอยุติการตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน เพราะตามกฎหมาย อายุต่ำกว่า 15 ถือว่าถูกล่อลวงหรือถูกข่มขืนหมดเลย
3.กรณีถูกข่มขืนหรือถูกล่อลวง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่
4.ผู้หญิงที่มีปัญหาทางใจหรือเครียดอย่างรุนแรง จนมีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อตัวคุณแม่ ตัวอ่อนในครรภ์
จะเพิ่มข้อที่ควรเพิ่มในอนาคตก็เป็นได้ เช่นการตั้งครรภ์นอกสมรส เป็นต้น
ส่วนใหญ่ที่ค้องทำแท้งเถื่อนเพราะอายุครรภ์เกิน หรือ ไม่กล้าเจอหมอ มากกว่า
สิทธิตามกฎหมายมีครับ ใช้ซะ
ส่วนคนที่บอกว่าหมา แมวยังไม่ฆ่าลูกเลย ให้ถามกลับว่าเคยเห็นแมวกัดลูกตายมั๊ยคร





เรื่องคุมกำเนิดก็จำเป็นครับ แต่มันมีพลาดได้ ถุงยางไม่ใช่ว่าจะกันได้ทุกใบ เราคุยกันนี้หมายถึงตอนพลาดไปแล้ว ท้องโตไปแล้วนะครับ สั่งให้คุมกำเนิดอย่างเดียวก็ไม่ต่างกับมีคนจมน้ำแล้วไม่ช่วยแถมด่าว่าไม่ระวังเอง

ส่วนตัวเคยเลี้ยงแมวที่หลงมา เห็นแม่แมวกินลูกตัวเองต่อหน้าเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 25, 2019, 07:20:31 PM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ mangamancer

  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,333
  • ถูกใจแล้ว: 818 ครั้ง
  • ความนิยม: +48/-135
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 09:04:20 PM »
การทำแท้งเสรีมันก็เหมือนกับการให้ผู้ป่วยสามารถเลือกที่จะตายได้นั่นแหละครับ. คือการที่คนบางกลุ่มไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ว่าแล้วมาคิดแทน. สมมุติว่ามีผู้ป่วยติดเตียงนอนจมกองขรี้-เยี่ยวมาเป็น10ปีคิดว่าเขาอยากจะอยู่ไหมครับ?  เช่นกันกับเด็กที่ครอบครัวไม่ต้องการคำว่าตกนรกมันยังเบาไปด้วยซ้ำนะเออ :-X
คนละเรื่องกันเลยนี่ครับ ไม่ใช่ว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งต้องไม่เห็นด้วยกับการการุณยฆาตกันหมดเสียหน่อย ส่วนใหญ่เป็นพวกเคร่งศาสนานะที่จะค้านท้ังคู่
เรื่องคิดแทนนี่ก็เป็นกันทุกฝ่ายล่ะครับ สุดท้ายนอกจากคนที่เกิดมาเองแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้


เมื่อพูดถึงตัวเลือกและเสรีภาพนี่ ที่สำคัญที่สุดคือตัวเลือกของคนที่จะเกิดมาครับ ตัวเลือกของแม่เขาไม่ใช่ตัวเลือกของเขานะเออ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2019, 11:05:02 PM »
[quote/]
ที่คุณกล่าวมานะ กี่เปอร์เซนต์ ของเด็กทั้งหมดครับ
ผมเป็นคนนึงละที่ไม่สนับสนุนการทำแท้งเสรีในไทย ประเด็นที่พูดถึงนีเป็นหน้าที่หน่วยงานอื่นๆที่ต้องดูแล ติดที่กฎหมาย แก้กฎหมายซะ
ในต่างประเทศหลายประเทศก็มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่
สิ่งที่คุณบอกนะเป็นสิ่งที่ลิดรอนเจตจำนงค์ในการมีชืวิตของมนุษย์
สิ่งที่ต้องแก้ไข ต้องแก้ไขที่สาเหตุครับ ดรื่องการคุมกำเนิด เรื่องการท้องโดยไม่พร้อม
ส่วนเรื่องที่กฎหมายกำหนดที่ให้ทำแท้งได้นะ ผมว่าครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่แล้ว
ปัญหาคือการนำไปปฎิบัติจริงต่างหากละ  moral courage ที่เกี่ยวข้องมีพอหรือปล่าว
ส่วน การทำแท้งเสรีคือการเลือกที่ง่ายไปหรือปล่าว
ตอนนี้ ประเทศไทยมีตัวบทกฎหมายที่อนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกกรณี จะทำได้คือ
 1.ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีปัญหาสุขภาพกาย ถ้าท้องต่อแล้วตัวผู้หญิงจะมีปัญหา เขาก็มีสิทธิขอยุติการตั้งครรภ์ได้
2.ถ้าผู้หญิงคนนั้นอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถขอยุติการตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน เพราะตามกฎหมาย อายุต่ำกว่า 15 ถือว่าถูกล่อลวงหรือถูกข่มขืนหมดเลย
3.กรณีถูกข่มขืนหรือถูกล่อลวง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่
4.ผู้หญิงที่มีปัญหาทางใจหรือเครียดอย่างรุนแรง จนมีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อตัวคุณแม่ ตัวอ่อนในครรภ์
จะเพิ่มข้อที่ควรเพิ่มในอนาคตก็เป็นได้ เช่นการตั้งครรภ์นอกสมรส เป็นต้น
ส่วนใหญ่ที่ค้องทำแท้งเถื่อนเพราะอายุครรภ์เกิน หรือ ไม่กล้าเจอหมอ มากกว่า
สิทธิตามกฎหมายมีครับ ใช้ซะ
ส่วนคนที่บอกว่าหมา แมวยังไม่ฆ่าลูกเลย ให้ถามกลับว่าเคยเห็นแมวกัดลูกตายมั๊ยคร






ทารกในท้องไม่ได้มีเจตจำนงในการมีชีวิตเลยนะครับ แต่เป็นสิ่งที่สังคมยัดเยียดให้ ผมเคยอ่านบอร์ดโม่ง มีคนเยอะมากที่บอกว่าถ้าเลือกได้ไม่ขอเกิดมา ซึ่งคนพวกนี้คือคนที่เกิดในครอบครัวแย่ๆ


       สิทธิทำแท้งตามกฎหมายมันยังคลุมไม่พอครับ เด็กที่อายุเกิน 15 ทำแท้งไม่ได้ ยังมีคนอีกมากที่ท้องโดยไม่ตั้งใจ และไม่ต้องการมีลูก ถ้าเด็กต้องเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ต้องการเค้า ไม่พร้อมมีลูก เด็กที่เกิดเค้าก็ต้องเผชิญกับความทุกข์แสนสาหัส สู้ไม่ให้เค้าเกิดมาแต่แรกยังจะดีซะกว่า
 

ออฟไลน์ mangamancer

  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,333
  • ถูกใจแล้ว: 818 ครั้ง
  • ความนิยม: +48/-135
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2019, 12:42:42 AM »
ใจเย็นท่าน เรื่องการยัดเยียดนี่อีกฟากก็ไม่ต่างกันหรอก


ใช้ถุงยางนี่โอกาสพลาดต่อครั้งต่ำมากครับ
เรียกได้ว่าแทบทั้งหมดของคนที่ท้องแล้วอยากทำคือไม่ป้องกันครับ(แล้วอ้างว่าพลาด) ที่ป้องกันทุกครั้งแล้วพลาดมีน้อยมากๆครับ
สำหรับคนที่แต่งงานกันแล้วไม่อยากมีลูก ก็ใช้วิธีอื่นควบคู่ไปได้อีก
ถ้าท่านจะใช้ตรรกะว่าคนส่วนน้อยมากๆที่ป้องกันแล้วพลาด ควรทำได้โดยเสรี
งั้นท่านก็ต้องรับตรรกะเดียวกันว่าเด็กที่เกิดมาในครอบครัวไม่ดี มีโอกาสจะโตมามีความสุขหรือเป็นคนดีเหมือนกัน
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: เรื่องเล่าจากหมอที่เคยให้บริการทำแท้ง
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2019, 04:53:12 PM »
ปัญหาคือสังคมไทยต้องการลงโทษคนที่คุมกำเนิดไม่ได้แต่กลับกลายเป็นว่าลงโทษเด็กที่ต้องเกิดมาหนักที่สุด
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก