คือผมไปอ่านฝรั่งวิจารณ์เรื่อง mob มาประมาณว่าฝรั่งโมโห พอเข้าใจว่าจะไม่ใช้พลัีงพิเศษในการทำร้ายคนอื่น
แต่โมโหที่เรื่องเหมือนกับว่า ไม่ใช้พลังพิเศษในการปกป้องตนเองแม้จะตกอยู่ในอันตรายก็ตาม
และธีมเรื่องก็เหมือนกับว่า พยายามพูดว่าไม่ใช่คนพิเศษแม้จะมีพลังเหนือกว่าคนอื่น
โดยเหตุผลแนวคิดแบบเรื่องม็อบนั้น คงทำให้คนอเมริกาที่มีวัฒนธรรมปกป้องสิทธิของตนเองและสนับสนุนความสามารถพิเศษของคนโมโหเอามากๆล่ะครับ
ว่าใครเข้ามาในเขตบ้านตู ตูเอาปืนยิง god bless america
ไม่ทำร้ายใครก่อน แต่ใครมาทำร้ายตูเอ็งตาย ตามแนวคิดพวกพกอาวุธปืน
ซึ่งเรื่องเหมือนกับนำเสนอเรื่องของการไม่ใช่ความสามารถแม้ตนเองจะตกอยู่ในอันตราย
ซึ่งก็อย่างที่ว่าแนวคิดของอเมริกานั้นแตกต่างกัน
แค่การขึ้นทะเบียนฮีโร่ อเมริกาเขียนให้เป็นซิวิลวอร์มาได้ตั้งหลายสิบปี
แต่เรื่อง hero academia ญี่ปุ่นขึ้นทะเบียนฮีโร่ได้ไร้ปัญหา ไม่ให้ใช้พลังฮีโร่แม้จะเพื่อป้องกันตนเองก็ผ่านกม.มาได้อย่างง่ายๆ
หากเป้นอเมริกา ออลไมค์ได้ชกกับกัปตันอเมริกในซิวิลวอร์ก่อนแน่ๆ
คือแนวความคิดที่หนุนการที่ไม่โดดเด่นเหนือคนอื่น
จนมีคนบอกว่า โจดจ้ ที่โจสุเกะ ชิเงตี้ โอคุยาสุ เอาฮาร์เวสต์ไปหาเงินทำให้คนดูรู้สึกแปลกใจที่ดันหาเงินสำเร็จเสียอย่างนั้น
ทั้งที่ปรกติเรื่องทำนองนี้มักจะเขียนว่า "การหาเงินด้วยพลังพะิเศษจะทำให้เกิดผลที่เลวร้ายตามมา"
อาจจะเป็นเพราะว่า อ.อารากิมีแนวความคิดของอเมริกอยู่มากก็ได้ โรฮังใช้เฮเว่นดอร์ ปั่นงานต้นฉบับไม่มีปัญหาอะไร
แต่ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชชื่อ อ.ฟูจิโกะ
ที่ในเรื่องแนวโดราเอมอน มักจะเบรกการหาเงินของโนบิตะด้วยของวิเศษ
แต่ในเรื่องปาร์แมนที่ครอสโอเวอร์กับป๊ะป๋าซูเปอร์แมนนั้น ดันบอกว่าให้ใช้พลังพิเศษในการบินไปมานั้นรับจ้างคนของหารายได้ได้
ว่าลุงคิดมากเกินไปนะ
ทุกท่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ?
ผมมองว่าในเรื่องการมีความสามารถพิเศษน่ะ แนวผู้ใหญ่มองน่ะมันรู้ว่าหาเงิืนได้แน่ๆ
แต่อาจจะเป็นบทเรียนที่ไม่ดีสำหรับเด็ก
ที่ในโดราเอมอน ต้องเบรกโนบิตะเอาไว้เพื่อเป็นบทเรียนแก่เด็กๆ แต่ในป๊ะป๋าซูเปอร์แมนที่ขายคนมีอายุขึ้นมาหน่อยนั้นสามารถสอดแทรกความยืดหยุ่นทางศีลธรรมลงไปได้
ว่าการรับจ้างสัมมาชีพก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใด(ถึงพวกโจสุเกะจะโกงชาวบ้านกันตรงๆก็เถอะ)
มุมมองของผู้ใหญ่นั้นจะยืดหยุ่นกว่าเด็ก
และในหลายๆเรื่องการหาเงินด้วยพลังพิเศษนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายเอามากๆ
แนวความคิดอีกยอ่างคือ การที่เราพิเศษมีความสามารถโดดเด่น ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายที่ต้องปกปิดให้เรามีชีวิตอย่างคนธรรมดา
ผมว่านี่อาจจะเป็นอีกอย่างที่อเมริกากับญี่ปุ่นต่างกัน
อเมริกา ชอบคนที่เก่งกาจ วัฒนะรรมจึงผลิตฮีโร่ยุนิท บ้าๆอย่างทรัมป์ออกมาได้
แต่วัฒนธรรมญี่ปุ่น ทำให้ต่อให้มีคนอย่างม็อบ ที่มีพลังทำลายโลกได้ ฮีโร่ยูนิทอย่างนั้นก็จะปกปิดตัวตนไปจนวันตคายนั่นล่ะ
ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดใดแก่สังคมขึ้นมาเลย
ความจริงแล้วหากมองในภาพรวม ฮีโร่เอาพลังมาหาเงินอาจจะพอเข้าใจได้ง่ายกว่าด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ทำให้คนที่มีพลังเหนือชาวบ้าน มีห่วงผูกพันกับสังคมโดยรวมและใช้พลังนั้นเพือ่สังคมโดยได้รับค่าตอบแทนเป็นตัวเงิน
ทุนนิยมคือระบบที่เลวร้ายทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือตอบสนองสันดานมนุษย์
ในจุดนี้ก็สามารถหาทางประนีประนอมอเอาฮีโร่มารับใช้สังคมได้
ไม่จำเป็นต้องให้ฮีโร่เสียสละตนเองขนาดหนักอย่างสไปเดอร์แมน
