รวยจนอยู่ที่นิสัยนะเออ
พวกมหาเศรษฐีธุรกิจพันล้าน พวกนี้เวลาล้มที มันล้มทั้นยืนนะเออ เพราะเขาต้องดูแลชีวิตลูกน้องรับพันชีวิต ลูกจ้างนับแสนที่อยู่ในโรงงาน ถ้าธุรกิจไปไม่รอด นั่นหมายความว่าพนักงานและเจ้าของธุรกิจคือกอดคอกันตกงานไม่มีเงินใช้นะครับ พวกนี้บางทีดูโหด ดูขี้โกง ดูเอาเปรียบ แต่ในอีกมุม คือเขากำลังคุ้มครองชีวิตพนักงานที่เขาต้องดูแลนับแสนนะเออ (ไม่ได้บอกว่าการกระทำนี้คือสิ่งถูกต้องนะครับ แค่จะบอกว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากปกป้องพวกเดียวกันเอง แล้วเอาจริง ๆ มันก็ไม่ใช่ว่าธุรกิจพันล้านทุกตัวย่อมทำตัวแบบนั้นเสมอไปนะครับ)
ไม่เกี่ยวเลยว่ารวยจนต้องมีนิสัยยังไง คือมันเป็นมายาคติที่คนเอามาใช้ครอบเพื่อด่าทออีกฝ่าย
คนรวยติดคุกใช้เงินยัดหลุดข้อหา ? มีมนุษย์คนไหนที่อยากเห็นลูกตัวเองติดคุกหัวโตบ้างครับ ? ถ้าช่วยได้ย่อมอยากช่วยอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงมองว่าไม่แปลกที่พวกเขาจะพยายามใช้เงินช่วยเหลือ
อย่างพวกคนจนเองก็ชอบใช้ประโยชน์จากฐานะเรียกร้องความเห็นใจจากสังคมเวลาทำผิด หงายไพ่รู้เท่าไม่ถึงการบ้าง หงายไพ่เรียนจบไม่สูงบ้าง หงายไพ่มีความจำเป็นบ้าง
สุดท้ายก็โทษลดจากหนักเป็นเบาไม่ต่างจากคนรวย เห็นข่าวพวกนี้ออกจะบ่อยกันไม่ใช่หรือครับ ?
ผมถามหน่อยว่าสองกรณีข้างต้นมันต่างกันตรงไหน ?
ที่ผมว่าแปลกคือกฏหมายบ้านเรามันไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับตัวกฏหมาย เจอเงิน ยัดเงินรอดคุกหรือไม่ก็บินหนีไปต่างประเทศ เจอคนกำลังทรัพน้อย เรียกหาความสงสาร รู้เท่าไม่ถึงการบ้าง อะไรบ้างว่ากันไป (เอาจริง ๆ ไพ่รู้เท่าไม่ถึงการนี่พวกมีกำลังทรัพย์มากเองยังใช้เลย 555+)
สรุปสุดท้ายอยู่ที่ตัวนิสัย [คน] ล้วน ๆ ครับ
เงินมากเงินน้อย ทรัพย์มากทรัพย์น้อย มีผลอย่างมากแค่สภาพแวดล้อมตอนกำเนิดที่หลอหลอมตัวบุคคลนั้น ๆ สุดท้ายแล้วอยู่ที่การเลี้ยงดู การหล่อหลอมทัศนคติให้กับบุคคล สังคม มากกว่าครับ