มันเป็นระบบที่ออกกฎเกณฑ์บังคับมากไปหรือเปล่าครับ?
Overlord ก็บอกว่า นักผจญภัยต้องรักษาความเป็นกบางทางการเมือง ไม่รับจ้างในสงครามของอาณาจักร
หรือ
คนเป็นนักบวช ต้องไม่รักษาให้ชาวบ้านฟรีๆ
ระบบมีไว้สร้างความน่าเขื่อถือ
แต่จะลำบากแก่คนที่รักอิสระ
ประมาณ ฝรั่งบอกว่าแบบ DnD ดั้งเดิมก็ต้องเจอกันและรวบรวมปาร์ตี้ในโรวเตี๊ยม
แต่ระบบกิบล์เข้ามากินหัวคิว และจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทำให้อิสระหบายๆในการฟอร์มทีมและการรับงานหายไป
คนไม่รับระบบก็ต้องกลายเป็นพวกเวิร์กเกอร์ รับงานผิดกฎหมาย แบบเดียวกับคนไปสำรวจสุสาน ใน Overlord
ระบบจัดอันดับ ความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้าเชื่อระบบนักผจญภัยของกิลด์มากกว่า
ระดับสูงๆจึงเป็นที่นับหน้าถือตา ทำให้พวกนอกระบบไม่สามารถสู้ได้ในที่สุด
เพราะอย่างน้อยๆคนได้ระดัวอะดามันไทน์ แม้จะแพงมหาศาล แต่ก็น่าเชื่อถือมากในสายตาผู้ว่าจ้าง
แน่นอน หากเรามองในทางกลับกัน...ระดับอดามันไทน์ ที่แท้จริงไม่ต้องพึ่งกิลด์ด้วยซ้ำ?
ผมมองว่าแบบจอร์จ ลูคัส
คนที่ไปได้ระดับนั้น ไม่ว่าจะทำงานไหน รับงานไหนก็สามมารถที่จะกระทำได้ ไม่ต้องสนกิลด์
ทำไมต้องก้มหัวให้กิลด์ด้วย?
แบบ เกียวกับจอร์จ ลูคัส ที่ไม่ได้เข้าร่วมกับระบบ ผู้กำกับของฮอลลี้วู้ด โดนกีดกันหลายอย่าง แต่ก็เแนคนที่ติสท์มากจนไม่ง้อสมาคม และคนประเภท จอร์จ ลูคัส ไม่ง้อสมาคมได้เพราะเขาเก่งมากพอ
หมายความว่ากิลด์มองดูดีดีแล้ว มีไว้เพื่อคนธรรมดามากกว่า พวกอัจฉริยะ มักจะติสท์ สิทธิประโยชน์ที่ให้พวดอดามันไทน์ ค้อสิ่งที่พวกเขาจะหาเอง ก็หาได้อยู่แล้ว
ระบบกิลด์มีประโยชน์มากต่อพวกระดับธรรมดา ที่จะหาวานและกระจายงาน
เพราะมองในภาพรวม หากไม่มีกิลด์ พวกบ้าพลัง อัจฉริยะ อาจจะรับงานไปหมดคนเดียว
การมีกิลด์ เป็นการกันพวกระดับสูงๆออกไปจากงานระดับล่าง
ทำให้พวกตัวเล็กๆพอลืมราอ้าปากได้บ้าง
ทุกท่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ?
ว่าระบบกิลด์มองจากข้อเท็จจริง ว่าหากเราเป็นอัจฉริยะในรอบร้อยปีแบบ จอร์จ ลูคัสหรือคนมีพลังโกงจากพระเจ้า ก็ไม่ต้องพึ่งกิลด์ที่สร้างมาเพื่อคนธรรมดาหรอก