มีไหมคนที่ได้เงินโดยไม่ต้องทำงาน แต่มาหางานทำเพราะอยากมีคุณค่า

[Alice-chan]

ตามหัวข้อล่ะเจ้าค่ะ

• Tweet

[Rumia]

มันมีแต่พวกมีตังเหลือล้นไม่มีอะไรจะทำเท่านั้นครับที่จะทำผมยกตัวอย่างเช่นลูกทักษิน ที่เคยมาจับวงการการตูนซื้อลิขสิทการตูนเช่นกันดัมถัวครับ ผลงานผมค่อนข้างชอบเพราะรับฟังความเห็นของคนดูส่วนทำแล้วได้กำไรไหม ผมไม่แน่ใจเพราะโดนเล่นงานทางการเมืองก่อนแต่นี่คือตัวอย่างคนที่ทำงานเพราะอยากมีคุณค่า บวกรักในอนิเมะจริงๆเลยลงมาทำ

[deaddy]

มีครับ ข้าราชการบางคน หรือ สส. บางคนมาจากตระกูลดังครับ


ถึงจะรวย แต่บางอย่างใช้เงินซื้ออย่างเดียวไม่ได้

[sumatza]

เจ้าหญิง เจ้าชาย บางประเทศนะครับที่นึกขึ้นได้


คนพวกต้องพยายามสร้างภาพ

[Arkanfel3rd]

ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะเป็นคนแก่หลังเกษียณครับ ส่วนใหญ่จะเห็นออกมาขับเท็กซี่ เปิดร้านของชำ ทำร้านแผงลอย มีทุนหน่อยก็เปิดร้านอาหาร ทำร้านกาแฟ

[Auindy]

มีเยอะครับ อย่างน้อยก็คนรู้จักผมนะ(เป็นเจ้าของโรงงานส่งออก รายได้ปีนึงเห็นแล้วจะเป็นลม ) มาทำงานเกี่ยวกับมูลนิธิเด็ก-คนชราครับ (เห็นแล้วเหนื่อยแทน  )

[Black7nos]

ผมว่าเราต้องมานิยามกันก่อนว่าการมี"คุณค่า"ในที่นี้มันหมายถึงอะไร
ผมไม่แน่ใจว่าทุกคนใช้คำว่า Value หรือเปล่า ถ้าใช่มันก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะ การเพิ่ม Value ตัวเองก็เป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนกระทำเป็นปกติ


การเพิ่ม Value ของตัวเองก็มีหลายทางครับ นั่นรวมถึงการทำงานที่ให้ผลประโยชน์ทั้งทางตรง ทางอ้อม ระยะสั้นหรือระยะยาว ก็ถือเป็นการสร้าง Value หมดแหละครับ
อย่าง Value ทางตรงก็คือ เงินเดือนและสวัสดิการที่เราได้รับ ยกตัวอย่างผมก็ได้ครับ ผมเปลี่ยนงานเพราะงานใหม่ทำในต่างประเทศให้เงินเดือนมากกว่าที่เก่าในไทย
ซึ่งมันก็เป็นการยกระดับ Value ด้านเงินเดือนของผมว่าตอนนี้ค่าตัวเงินเดือนผมต้องได้เพิ่มขึ้น อะไรแบบนี้ นี่คือแบบทางตรง


Value ทางอ้อม เช่น การสร้าง Profile เพื่อต่อยอดไปหางานที่ให้เงินเดือน สวัสดิการและผลประโยชน์ต่อเรามากขึ้น เช่น แต่เดิมเราเป็นทนาย แล้วก็ภายหลังไปสอบเป็นอัยการ และไปสอบเป็นผู้พิพากษา
นี่คือการต่อยอดทางอาชีพการงาน ซึ่งประสบการณ์การทำงานมันจะทำให้เรามีความชำนาญด้านนี้ขึ้นและเลื่อนระดับเรามากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทนายจะมีเงินเดือนน้อยกว่าผู้พิพากษาต่อไป
ทนายเก่งๆเผลอๆได้ค่าทนายมากกว่าเงินเดือนผู้พิพากษาก็มี โดยเฉพาะคดีแพ่ง มันแล้วแต่มุมมองว่าเราจะอยากเติบโตไปทางไหนครับ


แต่อย่างหนึ่งที่อยากเสริม หลายคนมักเข้าใจผิดกัน คือ หลายคนมักจะบอกคนอื่นหรือเด็กใหม่ว่าเราเป็นหนี้องค์กร อันนี้เป็นแนวคิดที่ผิดนะครับ ผิดทั้งทางบัญชีและผิดทั้งค่านิยม เรากับองค์กรไม่ได้มีสถานะเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ แต่เป็นสถานะแบบ Win-win situation เขาได้งานจากเรา ขณะที่เราก็ได้เงินเดือน+สวัสดิการ เจ๊าๆกันไป ไม่มีใครเป็นหนี้ต่อใครครับ


ทางบัญชีจะลงหนี้เป็น Credit และใช้หนี้ด้วย Debit แต่บริษัทได้งานไปจากเราก็คือ Credit และเขาก็จ่ายค่างานของเราด้วย Debit มันเจ๊าตั้งแต่แรกแล้วครับ ดังนั้นใครบอกว่าเราต้องทำเพื่อองค์กรเพราะเราเป็นหนี้องค์กร ให้ตอบกลับไปว่าเราไม่ใช่หนี้องค์กร แต่เรากับองค์กรอยู่ในสถานะ Win-win

[Kopyor]

เดี๋ยวก่อนนะหมีทุกๆท่าน  หัวข้อคือ 
[มีไหมคนที่ได้เงินโดยไม่ต้องทำงาน แต่มาหางานทำเพราะอยากมีคุณค่า]


ประโยคแรกคือ  """มีไหมคนที่ได้เงินโดยไม่ต้องทำงาน""" 
ไม่ใช่มีเงินล้น   แต่หมายถึงอยู่ดีๆก็ได้เงินโดยไม่ต้องทำอะไร
หรือผมเข้าใจผิดหว่า??  หรือความหมายมันก็เหมือนๆกัน??

[Black7nos]

เดี๋ยวก่อนนะหมีทุกๆท่าน  หัวข้อคือ 
[มีไหมคนที่ได้เงินโดยไม่ต้องทำงาน แต่มาหางานทำเพราะอยากมีคุณค่า]


ประโยคแรกคือ  """มีไหมคนที่ได้เงินโดยไม่ต้องทำงาน""" 
ไม่ใช่มีเงินล้น   แต่หมายถึงอยู่ดีๆก็ได้เงินโดยไม่ต้องทำอะไร
หรือผมเข้าใจผิดหว่า??  หรือความหมายมันก็เหมือนๆกัน??

ความหมายของเขาคือทำงานเพราะใจรัก ไม่ใช่ทำงานเพราะเงิน


แต่ผมกำลังบอกว่าคุณค่าในที่นี้อาจจะหมายถึงได้หลายความหมาย ไม่ใช่แค่ประสบการณ์หรือความชำนาญเอาไว้ต่อยอด แต่อาจจะเป็นอย่างอื่น เช่น ชื่อเสียง Profile, Connection, การเพิ่มฐานเงินเดือนในอนาคต ฯลฯ


ทุกคนทำงานเพราะผลประโยชน์ครับ เพียงแต่มันจะเป็นประโยชน์ทางตรงหรือทางอ้อม ระยะสั้นหรือระยะยาวก็แค่นั้นครับ อยู่ที่แต่ละคนวางแผน
ไม่มีใครทำงานให้ฟรีหรอกครับ เว้นถูกหลอกจากการยึดติดค่านิยม

[Kopyor]

เจ้าหญิง เจ้าชาย บางประเทศนะครับที่นึกขึ้นได้


คนพวกต้องพยายามสร้างภาพ

นั่นก็ถือว่าเป็นงานนิ??  ดูอย่างที่ดังๆก็ของ  อังกฤษ ญี่ปุ่น 
เห็นข่าวต่างๆลงข่าวกันว่า  ราชวงศ์ของญี่ปุ่นเนี่ยเคร่งครัดมาก
จนทำให้เครียดกันเลย  หรืออย่างข่าวที่ลงเกี่ยวกับความเคร่งครัด
ของราชวงศ์อังกฤษที่มีต่อเมแกน  ภรรเมียของแฮร์รี่  ก็เช่นกัน


ยุโรปนี่ดีหน่อย  เจ้าชายเจ้าหญิงไม่เยอะ  ทางอาหรับกับทาง
ทวีปแอฟฯเนี่ย  เจ้าชายเจ้าหญิงมีจำนวนอย่างเยอะ  ยิ่งประเทศ
ในทวีปแอฟเนี่ย  คำนำหน้าชื่อปริน  ปรินเซส  มันดันหมายถึง
ลูกชายลูกสาวหัวหน้าเผ่า  บางประเทศก็สืบทอดคำนำหน้าาจาก
รุ่นสู่รุ่น  พ่อเป็นปริน  ลูกก็เป็นปริน  เป็นปรินเซส

[sumatza]

[quote/]

นั่นก็ถือว่าเป็นงานนิ??  ดูอย่างที่ดังๆก็ของ  อังกฤษ ญี่ปุ่น 
เห็นข่าวต่างๆลงข่าวกันว่า  ราชวงศ์ของญี่ปุ่นเนี่ยเคร่งครัดมาก
จนทำให้เครียดกันเลย  หรืออย่างข่าวที่ลงเกี่ยวกับความเคร่งครัด
ของราชวงศ์อังกฤษที่มีต่อเมแกน  ภรรเมียของแฮร์รี่  ก็เช่นกัน


ยุโรปนี่ดีหน่อย  เจ้าชายเจ้าหญิงไม่เยอะ  ทางอาหรับกับทาง
ทวีปแอฟฯเนี่ย  เจ้าชายเจ้าหญิงมีจำนวนอย่างเยอะ  ยิ่งประเทศ
ในทวีปแอฟเนี่ย  คำนำหน้าชื่อปริน  ปรินเซส  มันดันหมายถึง
ลูกชายลูกสาวหัวหน้าเผ่า  บางประเทศก็สืบทอดคำนำหน้าาจาก
รุ่นสู่รุ่น  พ่อเป็นปริน  ลูกก็เป็นปริน  เป็นปรินเซส

จะว่าไปก็จริงนะครับ....สังสัยผมจะมีอคติ กับบางประเทศที่ไม่พัฒนา
จนลืมนึกถึงเหล่าประเทศที่พัฒนาแล้ว

[Overmars]

คำพูดจากหนังสตาร์เทรค (จำภาคไม่ได้ แต่มี คนเล่นบท ศจ.ซาเวียร์ในหนัง X-Men รับบทเป็นกัปตันยาน) เลยนี่หน่า !!
ฉากที่กัปตันพูดตอบกับคนในอดีต หลังจากที่คนในยุคอดีตถามว่ากัปตันมีรายได้เท่าไร

"ยุคสมัยเรา คนไม่ทำงานเพื่อเงืน แต่ทำงานเพื่อความภาคภูมิใจของตน"

[nosta]

พวกเศรษฐี ลูกเศรษฐีไง พวกนี้ไม่ค้องทำงานก็มีเงินใช้อยู่แล้ว

[samuison]

เท่าที่จำได้ ีดาราบางตคนที่ยังทำละครเวทีอยู่ด้วยใจรักล้วนๆ ทั้งที่การทำละครเวทีนั้นขาดทุนน่ะครับ
พวกนี้จะมีจุดเด่นตรงที่ฝีมือการแสดงจะเทพมากๆเพราะมาจากลุกหม้อละครเวทีที่ต้องใช้ทักษะการแสดงสูง

[Black7nos]

คำพูดจากหนังสตาร์เทรค (จำภาคไม่ได้ แต่มี คนเล่นบท ศจ.ซาเวียร์ในหนัง X-Men รับบทเป็นกัปตันยาน) เลยนี่หน่า !!
ฉากที่กัปตันพูดตอบกับคนในอดีต หลังจากที่คนในยุคอดีตถามว่ากัปตันมีรายได้เท่าไร

"ยุคสมัยเรา คนไม่ทำงานเพื่อเงืน แต่ทำงานเพื่อความภาคภูมิใจของตน"

มันไม่เชิงว่าเป็นความภาคภูมิใจซะทีเดียว แต่คนรุ่นใหม่มองว่าการทำงานนั้นมันได้ผลประโยชน์ไปต่อยอดได้หรือเปล่ามากกว่าครับ เช่น Profile หรือ Connection
ดังนั้นคนรุ่นใหม่บางคนก็ไม่ได้มองเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการตรงหน้าเพียงอย่างเดียว พูดง่ายๆคืออดเปรี้ยวไว้กินหวานแหละครับ ขณะทำงานก็หาลู่ทางต่อยอด
จึงไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่บางคนอายุน้อยแต่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นนักวิเคราะห์การลงทุนได้เร็ว(เพื่อนผมสมัยเรียนก็คนหนึ่ง)


สังเกตมั้ยว่าถ้าองค์กรไหนไม่ให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่แสดงศักยภาพแสดงผลงานเพื่อเก็บไว้ใน Portfolio เป็น Profile ต่อให้เงินเดือนสูงแต่แปปเดียวก็ออกครับ เพราะเขามองว่าต่อยอดไปงานที่ Advance กว่านี้ไม่ได้ ดังนั้นวิธีการบริหารแบบใหม่คือการให้คนรุ่นใหม่ร่วมทีมฝ่ายบริหารและสามารถ Comment หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับการบริหารเชิงนโยบายได้ ไม่ใช่ให้เขาอยู่ในแผนกการผลิต ทำตามที่สั่งเพียงอย่างเดียว


ขอพูดชื่อองค์กรที่สมองไหลเป็นประจำเลยละกัน เช่น กฟผ. กฟน. การประปานครหลวง องค์กรเหล่านี้สมองไหลประจำ