ช่วงศตวรรษที่ 13 ภาคพื้นทวีปยูเรเซียตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวของจักรวรรดิมองโกลที่ก่อตั้งโดยเจงกีสข่าน กองทหารม้ามองโกลบุกพิชิตดินแดนและกวาดล้างผู้คนจำนวนมากมายมหาศาล
แต่ท่ามกลางความโหดร้ายนี้ ได้มีงานวิจัยที่เปิดเผยว่า จักรวรรดิมองโกลอาจมีส่วนทำให้คาร์บอนในชั้นบรรยากาศโลกลดลง
ที่มาของเรื่องราวนี้ มาจากงานวิจัยในปี 2011 โดยทีมนักวิจัยจากภาควิชานิเวศวิทยาโลก มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นำโดยด็อกเตอร์ จูเลีย ปองกัตซ์ (Julia Pongratz) งานวิจัยนี้บอกว่า จักรวรรดิมองโกลมีส่วนทำให้คาร์บอนปริมาณกว่า 700 ล้านตัน หายไปจากชั้นบรรยากาศโลก
ถ้าถามว่าจักรวรรดิมองโกลเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ มันก็มาจากการที่กองทัพมองโกลได้ออกกวาดล้างผู้คน ทำให้พื้นที่ทางการเกษตรจำนวนมากถูกกวาดล้างตามไปด้วย ซึ่งพื้นที่เกษตรเหล่านี้ ในเวลาต่อมาจะกลายสภาพเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงการกวาดล้างคนเป็นจำนวนมากก็มีส่วนต่อเรื่องนี้เช่นกัน
นอกจากจักรวรรดิมองโกลของเจงกีสข่าน ทีมนักวิจัยยังเปิดเผยว่า เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่เกิดการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมาก อย่างเช่นกาฬโรค การล่มสลายของราชวงศ์หมิง รวมถึงการที่ชาติยุโรปบุกยึดและสร้างอาณานิคมในทวีปอเมริกา เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีส่วนต่อการลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศทั้งสิ้น
“เราพบว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ อย่างเช่น การเกิดกาฬโรคและการล่มสลายของราชวงศ์หมิง การเติบโตของป่าอาจจะไม่เพียงพอที่จะเอาชนะการปล่อยมลพิษจากวัสดุที่เน่าเปื่อยในชั้นดิน”
“แต่กลับช่วงเวลาที่ยาวนาน อย่างเช่น การรุกรานของชาวมองโกล มันมีเวลามากพอที่ป่าไม้จะเติบโตขึ้นมาใหม่ และดูดซับคาร์บอนในปริมาณมหาศาลได้ แม้ว่าข่านจะยังคงเป็นที่รู้จักในฐานะของเจงกิสจอมทำลายล้าง (Genghis the Destroyer) และไม่ใช่เจงกิสเดอะกรีน (Genghis the Green) ก็ตาม” ด็อกเตอร์ปองกัตซ์ให้สัมภาษณ์กับ Daily Mail
อ้างอิง
• The Guardian. Why Genghis Khan was good for the planet.
https://www.theguardian.com/theguardian/2011/jan/26/genghis-khan-eco-warrior• Aco Recycling. How Genghis Khan Cooled The Planet ?.
https://www.acorecycling.com/how-genghis-khan-cooled-the-planet/https://web.facebook.com/photo/?fbid=943449471120836&set=a.439959818136473 
