แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คุยไร้สาระ-คิดอย่างไรกับการทำนายโหงวเฮ้ง นรลักษณ์ในแนวนิยายจีนน่ะครับ?  (อ่าน 804 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
คือช่วงนี้ผมกำลังหาข้อมูลในการแซวเรื่องการทำนายโหงวเฮ้งอยุ่
คือไปเจอมุกการบรรยายของอาจารย์หวงอี้ประมาณว่า

"ตาแคบสั้นดุจมุสิก แววตาหลุกหลิก หน้ายาวเหมือนม้า..."

ที่หากมีการบรรยายอย่างนี้แปลว่าไอ้คนนี้มันชั่วแน่นอนน่ะครับ ???

คือผมยอมรับนะ

ว่าหากมองว่ามันคือวิชาชีววิทยาในช่วงแรกนั้นทำได้ดีมาก

หากทุกท่านอ่านตำราพรหมชาติ ตำราทำนายทายทักที่มีไว้ติดบ้าน

ก็จะมีการบอกลักษณะสีหน้า การดูค6ณลักษณะแมว ม้า สุนัข วัว ควาย ไก่ฯลฯ
เรื่องทุกเรื่องที่ชาวบ้านอยากรู้

ผมว่ามันมีประโยชน์มากในแง่ของการที่เป็นจุดเริ่มต้นของการจัดหมวดหมู่ทางชีววิทยา

แต่จะอธิบายในแนวพลังพิเศษทำนายอนาคต ด้วยหน้าตานี่เราควรจะบรรยายออกไปทางไหนดีครับ?

คือผมว่า

หน้าตาทำนายโรคได้ก็อาจจะจริง

ยกตัวอย่างดาวน์ซินโดรม ที่พวกเรามองปุ๊บก็ดูออกว่าน่าจะดาวน์ เพราะโรคส่งผลกับหน้าตา

ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางโปรแกรมจับหน้าตาของคอมพิวเตอร์

การทำนายนรลักษณ์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง

คือ

อย่างเรื่องการดูว่าใครเป็นดาวน์ แอสเปอร์เจอร์
ว่ามีลักษณะร่วมกันตรงไหน
เช่นลักษณะของหน้าผาก ตา จมูก
ที่จะพอจัดหมวดหมู่ร่วมกันได้ว่า คนเป็นดาวน์จะประมาณนี้ล่ะ
และยังมีการจัดหมวดหมู่ว่าใครเป็นออทิสติกเล็กน้อยและใครออทิสติกมากด้วย

คือ
หากมองอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

นรลักษณ์น่าจะมาจากการสังเกตรูปร่างภายนอกและเอาสิ่งที่ใกล้เคียงออกมาทำนายน่ะครับ

อย่างที่ผมเองก็มีทฤษฎีของผมคือ

ประมาณว่า

"หน้าผากกว้างจะฉลาด"

ที่จะพูดกัน แต่ผมไปค้นลักษณะร่วมของแอสเปอร์เจอร์คือ

ทฤษฎีว่า

มันต้องได้ระดับบาลานซ์กันระหว่างความกว้างของหน้าผากที่พอเหมาะ คนคนหนึ่งถึงจะเป็นคนฉลาด เพราะหากมากไปจะกลายเป็นออทิสติก แอสเปอร์เจอร์ไป

หรือ

มันมีการจับภาพรวมหน้าตาของอาชญากรและจัดหมวดหมู่ว่าคนไหนกระทำอาชญากรรมอะไร

ก็ได้ค้นพบว่าจากกลุ่มตัวอย่าง
หน้าตาบ่งบอกไปทางอาชญากรรมได้มากกว่าที่คิดน่ะครับ

จนคนบางคนเริ่มคิดว่า
หรือมันจะจริงฟะ?
แต่ผมไม่มองเป็นเรื่องของพลังพิเศษอะไร
ผมมองว่าน่าจะเป็นลักษณะของพันธุกรรม ตามหลักสถิตินั่นล่ะครับ
ว่าเราพอมองออกว่าใครเป็นแอสเปอร์เจอร์ระดับไหนด้วยหน้าตา

ดังนั้นเราอาจจะมองนิสัยแบบอื่นออกเช่นกัน

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

เราควรจะให้เครดิตการทำนายนรลักษณ์ตามแนวนิยายจีนหรือเปล่า?

อีกเรื่องหนึ่งเพราะไปเจอมุกแซวนิยายจีนใน reddit

ว่าสายตา คิ้ว ใบหู ที่ดูเป็นคนขี้โกงออกมาทันทีทันใดเช่นบรรยายพ่อค้าว่า

"ตาเล็กหยีดุจมุสิก ริมฝีปากบางแสดงว่าเป็นคนแล้งน้ำใจ.." ประมาณนี้น่ะครับ ???

คือผมแต่งนิยายที่มักจะแซวความเชื่อ แต่ผมคิดว่าจะพยายามทำความเข้าใจว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรน่ะครับในเรื่องนรลักษณ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2021, 12:16:39 PM โดย samuison »
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Kopyor

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 154
  • ถูกใจแล้ว: 357 ครั้ง
  • ความนิยม: +21/-38
  • .
ย่อหน้าแรกมันเป็นการอุปมาเพื่อให้คนฟังเข้าใจง่าย


โหงวเฮ้งผมเชื่อ  ถ้ามันอิงวิทยาศาสตร์  อิงบุคลิกภาพ
(ผมให้ความสำคัญกับบุคลิกาพมาก  อย่างตอนนี้ผมก็
มีกระจกอยู่ใกล้หน้าจอ  เพื่อดูบุคลิกภาพตัวเอง  ทั้ง
ตอนที่หัวเราะ  ดีใจ  นอยส์  แล้วยิ่งตอนตื่นนอน  ผมจะ
สะกดตัวเอง  วิเคราะห์ตัวเอง  รำลึกถึงสิ่งที่จะต้องกระทำ
รำลึกว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง  เป้าหมายถึงอะไรบลาๆๆ



ตำราการดูลักษณะสีหน้า  ราศีของคนอยู่ที่ใดในเวลาใด
ราศีของคนเมื่อตื่นนอนอยู่ที่ใบหน้า



แนวพลังการทำนายอนาคตหน่ะเหรอ??  ไม่สันทัดไม่ถนัดในการ
ดูนิสัยใจคอผู้คน  อันนี้ถือเป็นจุดอ่อนหลักใหญ่ของผม  จนต้อง
หาคนมาทำหน้าที่แทน  แล้วผมคอยเป็นผู้ให้แครอท  แต่ขอเดาว่า
การที่สีหน้าในตอนเช้า  ในตอนที่มาทำงาน  ถ้าดูแอคทีพ  ดูกระตือรือร้น
ดูมั่นใจ  ทำอะไรๆออกมามันก็ดี  มันย่อมมีคนเชื่อ  เพราะเราต้องเชื่อมั่น
ในตัวเองก่อน



หน้าตาทำนายโรคคิดว่าจริง  มีเหตุผลรองรับทางวิทยาศาสตร์  แล้วก็
ด้านดาวน์ซินโดรม  ก็เชื่อว่าอาจพอเดาได้  ว่าคนๆไหนเป็น  หล่ะมั้งนะ?
วิธีการดูว่าใครเป็นเอสเปอร์  เป็นดาวน์หล่ะเหรอ?  ก็ดูที่บุคลิกภาพสิ
ส่วนหน้าผากกว้างจะฉลาด  อาจบอกได้ด้วยบางเหตุผลหล่ะมั้ง  ประมาณว่า
เพราะสมองต้องทำงานหนัก  ทำให้หน้าผากกว้าง  แต่มันก็มีเหตุผลอื่นที่
ทำให้หน้าผากกว้าง  คล้ายๆคนใส่แว่นไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กฉลาดหรือ
เด็กเนิร์ดไง



หน้าตาบ่งบอกไปทางอาชญกรรม  น่าจะเพราะบุคลิกภาพบ่งบอกไปทางนั้น
เช่นดูลอกแลก  สายตาสอดส่องไปมา  คล้ายๆตำรวจที่อาวุโสจะดูออกว่า
คนที่เดินไปมา  คนไหนกำลังส่อพิรุธ


การทำนายลายลักษณ์แบบจีนควรปรับปรุงให้ทันสมัย  ผมเชื่อในเรื่อง
คัดกรองคนจากลายลักษณ์ที่อิงวิทยาศาสตร์  ขนาด HR บริษัทต่างๆ
การที่เขามีสอบสัมภาษณ์หน่ะ  ก็เพราะเขาอยากดูตัวเป็นๆ  อยากดู
ลักษณะท่าทาง  บุคลิกภาพไม่ใช่เหรอ  ใช่มั๊ย  @samuison


เอาสิ่งโบราณที่ดีมาประยุกต์ใช้  ไม่จำเป็นต้องคัดลอกมาทั้งดุ้น  อะไรที่
ใช้ได้ก่อประโยชน์ก็ไม่ล้าหลัง  อะไรล้าหลังก็ปรับปรุง  อะไรปรับปรุงแล้ว
ก็ไม่เวิร์ค  แต่ยังมีสิ่งดีๆแฝงอยู่  ก็นำมาประยุกต์  ^^
 

ออฟไลน์ Kopyor

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 154
  • ถูกใจแล้ว: 357 ครั้ง
  • ความนิยม: +21/-38
  • .
นี่ท่านไม่จำเป็นต้องรอมีหลายคคห.แล้วค่อยทยอยตอบก็ได้นะ  เพราะเวปหมีตอนนี้หน่ะ
อยู่ในขาลง  มีแต่เจ้าประจำที่เป็น  [น้ำพริกถ้วยเก่า]  ไม่ได้มีน้ำพริกถ้วยใหม่ที่พึ่ง "ตำ"
เสร็จมาสดๆร้อนๆ  ให้ฮือฮา  ให้ต้อนรับหรอก 




 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ง่ายๆครับมันแค่เอามาอวยคนหล่อคนรวยไอ้ที่ว่าคนรูปร่างหน้าตาแบบนี้เป็นอาจยากรง่าย และไปค้นก็มีจริงๆความจริงคือคนหน้าตาแบบไหนไปค้นก็มีประวัติหมดแหละครับ เพราะคนไม่ว่าลักษะหน้าตาแบบไหนมันก็ทำดีชัวได้เหมือนกัน ไอ้ศาจลึกลับอะไรนั้นมันจะสืบทอดมาได้เท่าไหร่หลังปติวัตครับเกรงว่าจะเหลือแค่พิวเพิน ผมบอกตามตรงนะไอ้การทำนายโหงเฮ้งมันลอกมาจากนิยายครับไม่ได้สืบทอดอะไรมาหรอก หลายๆอย่างพอไปสืบค้นต้นตอแม่งคือมึงลอกนิยายนิทานชัดๆ

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
ย่อหน้าแรกมันเป็นการอุปมาเพื่อให้คนฟังเข้าใจง่าย


โหงวเฮ้งผมเชื่อ  ถ้ามันอิงวิทยาศาสตร์  อิงบุคลิกภาพ
(ผมให้ความสำคัญกับบุคลิกาพมาก  อย่างตอนนี้ผมก็
มีกระจกอยู่ใกล้หน้าจอ  เพื่อดูบุคลิกภาพตัวเอง  ทั้ง
ตอนที่หัวเราะ  ดีใจ  นอยส์  แล้วยิ่งตอนตื่นนอน  ผมจะ
สะกดตัวเอง  วิเคราะห์ตัวเอง  รำลึกถึงสิ่งที่จะต้องกระทำ
รำลึกว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง  เป้าหมายถึงอะไรบลาๆๆ



ตำราการดูลักษณะสีหน้า  ราศีของคนอยู่ที่ใดในเวลาใด
ราศีของคนเมื่อตื่นนอนอยู่ที่ใบหน้า



แนวพลังการทำนายอนาคตหน่ะเหรอ??  ไม่สันทัดไม่ถนัดในการ
ดูนิสัยใจคอผู้คน  อันนี้ถือเป็นจุดอ่อนหลักใหญ่ของผม  จนต้อง
หาคนมาทำหน้าที่แทน  แล้วผมคอยเป็นผู้ให้แครอท  แต่ขอเดาว่า
การที่สีหน้าในตอนเช้า  ในตอนที่มาทำงาน  ถ้าดูแอคทีพ  ดูกระตือรือร้น
ดูมั่นใจ  ทำอะไรๆออกมามันก็ดี  มันย่อมมีคนเชื่อ  เพราะเราต้องเชื่อมั่น
ในตัวเองก่อน



หน้าตาทำนายโรคคิดว่าจริง  มีเหตุผลรองรับทางวิทยาศาสตร์  แล้วก็
ด้านดาวน์ซินโดรม  ก็เชื่อว่าอาจพอเดาได้  ว่าคนๆไหนเป็น  หล่ะมั้งนะ?
วิธีการดูว่าใครเป็นเอสเปอร์  เป็นดาวน์หล่ะเหรอ?  ก็ดูที่บุคลิกภาพสิ
ส่วนหน้าผากกว้างจะฉลาด  อาจบอกได้ด้วยบางเหตุผลหล่ะมั้ง  ประมาณว่า
เพราะสมองต้องทำงานหนัก  ทำให้หน้าผากกว้าง  แต่มันก็มีเหตุผลอื่นที่
ทำให้หน้าผากกว้าง  คล้ายๆคนใส่แว่นไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กฉลาดหรือ
เด็กเนิร์ดไง



หน้าตาบ่งบอกไปทางอาชญกรรม  น่าจะเพราะบุคลิกภาพบ่งบอกไปทางนั้น
เช่นดูลอกแลก  สายตาสอดส่องไปมา  คล้ายๆตำรวจที่อาวุโสจะดูออกว่า
คนที่เดินไปมา  คนไหนกำลังส่อพิรุธ


การทำนายลายลักษณ์แบบจีนควรปรับปรุงให้ทันสมัย  ผมเชื่อในเรื่อง
คัดกรองคนจากลายลักษณ์ที่อิงวิทยาศาสตร์  ขนาด HR บริษัทต่างๆ
การที่เขามีสอบสัมภาษณ์หน่ะ  ก็เพราะเขาอยากดูตัวเป็นๆ  อยากดู
ลักษณะท่าทาง  บุคลิกภาพไม่ใช่เหรอ  ใช่มั๊ย  @samuison


เอาสิ่งโบราณที่ดีมาประยุกต์ใช้  ไม่จำเป็นต้องคัดลอกมาทั้งดุ้น  อะไรที่
ใช้ได้ก่อประโยชน์ก็ไม่ล้าหลัง  อะไรล้าหลังก็ปรับปรุง  อะไรปรับปรุงแล้ว
ก็ไม่เวิร์ค  แต่ยังมีสิ่งดีๆแฝงอยู่  ก็นำมาประยุกต์  ^^
ส่องกระจกทั้งวันนั่นระดับนาซิสซัสในตำนานแล้งนะครับ ฮา
"ข้าอยากดูแต่ของสวยๆงามๆในชีวิจประจำวัน ข้าาจึงทำได้แต่มองดูตนเอง" :P อีกอย่างผมมองว่า ทางเทคนิค อย่าว่าแต่บริษัทเอกชนเลยครับ
ราชการก็สอบสัมภาณ์ ร่างกายกันภาคคนั่นล่ะ
ที่จะตัดคนตกอะไรต่างๆนานา
ผมมองในแง่หนึ่งว่าอาจจะเป็นเรื่องของ"ความชอบ"ส่วนตัวกันล้วนๆ
ผมไม่คิดว่าคนทั่วไปจะเชื่อโหราพยากรร์กันเท่าไรอย่างที่ชอบพูดกันเพราะหากเชือ่เรื่องโหราพยากรณ์หน้าตาจริง
กับท่านจำลองยังโอเค
แจต่ไม่ควรจะมีใครร่วมมือกันกับสุเทพหรือสนธิได้หากเล่นกันเรื่องพยากรณ์หน้าตา
คนเรามันไมไ่ด้เชือ่เรื่องนี้กันจริงๆหากว่ากันถึงที่สุดน่ะครับ ส่วนใหญ่เป็นแค่ข้ออ้าง
เรื่องของโรคพันธุกรรมและหน้าตา มีการศึกษามาจริงๆเช่น คางของฮับเบิร์ก
มีมุกที่เล่นกันคือ chin all the waydownว่าคางยาวจนมีการบันทึกว่าทานอาหารไม่ค่อยสะดวก สุขภาพไม่แข็งแรงวหร้ากวักแบบดวงจันทร์อะไรว่ากันไป
ศัพท์ในหนังสือที่อ่านบรรยายประมาณว่าเหมือนจันทร์เสี้ยว พร้าขออะไรมั้ง?
นิทานแนวอาหรับที่ผมอ่าน เวลาไปเจอคนไม่มีหนวดก็มองว่าไว้ใจไม่ดีเรียกว่าการทำนายคนจากภายนอกนั้นมีมานานหลายพันปีแล้วล่ะครับ
เรียกว่าหลายอย่างเป็นแค่ความเชื่อแต่หลายอย่างอาจจะเป็นการสังเกตลักษณะอาการของโรคทางพันธุกรรมแทนนับเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจเหมือนกัน
เอาแบบวิทยาศาสตร์ที่เราเห็นว่าโรคดาวน์ซินโดรมหน้าตาคล้ายกัน
เพราะเส้นประสาทของพวกนี้ควบคุมได้ไม่ดี จึงส่งผลออกมาทำให้กล้ามเนือ้ใบหน้าไปในทางเดียวกัน
แต่ตามทางพันธุกรรมหน้าตาจะต่างกันน่ะครับแต่ลักษณะที่เห็นภายนอกจะดูเหมือนกันเพราะควบคุมได้ไม่ดี
ผมก้กังวลเหมือนกันว่าตนเองจะมีโรคทางพันธุกรรมอะไรทำนองนี้บางหรือเปล่า
ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ค่อยดี นดิหน่อยก็เป็นแผลแล้วเหมือนกัน
ง่ายๆครับมันแค่เอามาอวยคนหล่อคนรวยไอ้ที่ว่าคนรูปร่างหน้าตาแบบนี้เป็นอาจยากรง่าย และไปค้นก็มีจริงๆความจริงคือคนหน้าตาแบบไหนไปค้นก็มีประวัติหมดแหละครับ เพราะคนไม่ว่าลักษะหน้าตาแบบไหนมันก็ทำดีชัวได้เหมือนกัน ไอ้ศาจลึกลับอะไรนั้นมันจะสืบทอดมาได้เท่าไหร่หลังปติวัตครับเกรงว่าจะเหลือแค่พิวเพิน ผมบอกตามตรงนะไอ้การทำนายโหงเฮ้งมันลอกมาจากนิยายครับไม่ได้สืบทอดอะไรมาหรอก หลายๆอย่างพอไปสืบค้นต้นตอแม่งคือมึงลอกนิยายนิทานชัดๆ
ก็นั่นล่ะครับ จากมุกนิยายจีนแต่ที่ผมตแ่งคือพยายามเอาแนวตะวันตกมาแซว

คือตะวันออกอาจจะมองว่าลอกมาจากนิยาย
แต่ตะวันตกมีมาตั้งแต่ตำนานของโสกราตีส อริสโตเติลนุ่นเลยน่ะครับ
มีคนให้แนวคิดเมหือนกันว่าเรือ่งโหงวเฮ้งน่ะ ทางฝรั่งก็มีนะ คิดมากกว่าพวกเราด้วยซ้ำเรือ่งหนึ่งที่ผมว่าน่าสนใจคือ
มีหมอดูมาทักโสกราตีสบอกว่าเป็นคนอารมร์รุนแรงความอดทนต่ำ โผงผางทำให้ลุกศิษย์ไม่พอใจเพราะไม่ตรงกับโสกราตีสเลยโสกราตีสก็เลยบอกลุกศิษย์เพื่อช่วยหมอดูว่าตนเองก็มีนิสัยเช่นนั้นล่ะแต่ควบคุมนิสัยของตนเองด้วยววินับยในตนเอง
มันก้เป้นมุกที่อมงได้หลายอย่างเหมือนกันน่ะครับ
อย่างที่ตอ่เนื่องมาจากกระทู้ก่อนหน้านี้ผมอยากหามุกเรื่องคนหล่อมาเล่นในนิยายจีนว่าอย่างนั้นครับ
นี่ท่านไม่จำเป็นต้องรอมีหลายคคห.แล้วค่อยทยอยตอบก็ได้นะ  เพราะเวปหมีตอนนี้หน่ะ
อยู่ในขาลง  มีแต่เจ้าประจำที่เป็น  [น้ำพริกถ้วยเก่า]  ไม่ได้มีน้ำพริกถ้วยใหม่ที่พึ่ง "ตำ"
เสร็จมาสดๆร้อนๆ  ให้ฮือฮา  ให้ต้อนรับหรอก 





ขอบคุณครับท่านโกเปี๊ยว
ผู้ชายเราก็อย่างนี้ล่ะครับ ได้มาก็เบยื่อแล้วทิ้งไปเป็นเรื่องธรรมดาตามหลักการของเพศหยิงคอืการคัดสรรค์พันธุ์ตามหลักของผู้ชายคอืการกระจายพันธุ์อ๊ะ คนละเรื่อง ฮา

http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ PokG

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,083
  • ถูกใจแล้ว: 400 ครั้ง
  • ความนิยม: +23/-0
เอาจริงๆ โคตรตอแหลอ่ะ มีไว้อวยเป็นพลอตอาเมอเวลาไม่รู้จะให้ตัวเอกชั้นต่ำไร้สกุลรอดหรือฟลุคได้ของดีเท่านั้นแหละ เห็นในนิยายบรรยายหน้าตาระยำตำบอนโหวงเฮ้งโคตรเลวแต่เป็นขุนนางตัวร้ายชั้นสูงทั้งนั้น มีอยู่สองอย่างคือตำรามั่วหรือฮ่องเต้โง่เลือกคนหน้าเหี้ยมาเป็นขุนนางชั้นสูง  ;)
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
เอาจริงๆ โคตรตอแหลอ่ะ มีไว้อวยเป็นพลอตอาเมอเวลาไม่รู้จะให้ตัวเอกชั้นต่ำไร้สกุลรอดหรือฟลุคได้ของดีเท่านั้นแหละ เห็นในนิยายบรรยายหน้าตาระยำตำบอนโหวงเฮ้งโคตรเลวแต่เป็นขุนนางตัวร้ายชั้นสูงทั้งนั้น มีอยู่สองอย่างคือตำรามั่วหรือฮ่องเต้โง่เลือกคนหน้าเหี้ยมาเป็นขุนนางชั้นสูง  ;)
มันมีตำนานอยู่น่ะครับว่าฮ่องเต้เฉียนหลง
มองว่าจี้เซี่ยวหลานที่ชาญฉลาดเป็นแค่ตัวตลก เพราะหน้าตาไม่ดีและสายตาสั้นน่ะครับ
ส่วนเหอเซินขุนนางกังฉินนคือคนที่หน้าตางดงาม บบุคลิกดีว่าอย่างนั้น
..
แต่ผมเอามาเล่นเพระารู้สึกว่าท่านอาจารย์หวงอี้ มักบรรยายตัวละครในแนวนี้น่ะครับ
หรือบังทอง เล่าปี่ไม่ให้ความสำคัยเพระาหน้าตาไม่ดี
แต่ขงเบ้งทุกคนชชื่นชอบเพราะมีมาดสง่างาม หน้าตาดีกว่าว่างั้นครับ

ผมว่าคนรุ่นใหม่อาจจะไม่เล่นมุกนี้เท่ากับคนรุ่นเก่าอย่างอ.กิมย้ง โกวเล้ง หวงอี้แล้ว
พวกนายน้อยในเรื่องยุคใหม่ก็หน้าตาดีทั้งนั้นเพื่อให้สะใจเวลาโดนพระเอกอัดจนพ่อแม่จำหน้าตาไม่ได้ว่าอย่างนั้น
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ 3TAHeibivo)

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 349
  • ถูกใจแล้ว: 234 ครั้ง
  • ความนิยม: +6/-20
[quote/]
ส่องกระจกทั้งวันนั่นระดับนาซิสซัสในตำนานแล้งนะครับ ฮา
"ข้าอยากดูแต่ของสวยๆงามๆในชีวิจประจำวัน ข้าาจึงทำได้แต่มองดูตนเอง" :P อีกอย่างผมมองว่า ทางเทคนิค อย่าว่าแต่บริษัทเอกชนเลยครับ
ราชการก็สอบสัมภาณ์ ร่างกายกันภาคคนั่นล่ะ
ที่จะตัดคนตกอะไรต่างๆนานา
ผมมองในแง่หนึ่งว่าอาจจะเป็นเรื่องของ"ความชอบ"ส่วนตัวกันล้วนๆ
ผมไม่คิดว่าคนทั่วไปจะเชื่อโหราพยากรร์กันเท่าไรอย่างที่ชอบพูดกันเพราะหากเชือ่เรื่องโหราพยากรณ์หน้าตาจริง
กับท่านจำลองยังโอเค
แจต่ไม่ควรจะมีใครร่วมมือกันกับสุเทพหรือสนธิได้หากเล่นกันเรื่องพยากรณ์หน้าตา
คนเรามันไมไ่ด้เชือ่เรื่องนี้กันจริงๆหากว่ากันถึงที่สุดน่ะครับ ส่วนใหญ่เป็นแค่ข้ออ้าง
เรื่องของโรคพันธุกรรมและหน้าตา มีการศึกษามาจริงๆเช่น คางของฮับเบิร์ก
มีมุกที่เล่นกันคือ chin all the waydownว่าคางยาวจนมีการบันทึกว่าทานอาหารไม่ค่อยสะดวก สุขภาพไม่แข็งแรงวหร้ากวักแบบดวงจันทร์อะไรว่ากันไป
ศัพท์ในหนังสือที่อ่านบรรยายประมาณว่าเหมือนจันทร์เสี้ยว พร้าขออะไรมั้ง?
นิทานแนวอาหรับที่ผมอ่าน เวลาไปเจอคนไม่มีหนวดก็มองว่าไว้ใจไม่ดีเรียกว่าการทำนายคนจากภายนอกนั้นมีมานานหลายพันปีแล้วล่ะครับ
เรียกว่าหลายอย่างเป็นแค่ความเชื่อแต่หลายอย่างอาจจะเป็นการสังเกตลักษณะอาการของโรคทางพันธุกรรมแทนนับเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจเหมือนกัน
เอาแบบวิทยาศาสตร์ที่เราเห็นว่าโรคดาวน์ซินโดรมหน้าตาคล้ายกัน
เพราะเส้นประสาทของพวกนี้ควบคุมได้ไม่ดี จึงส่งผลออกมาทำให้กล้ามเนือ้ใบหน้าไปในทางเดียวกัน
แต่ตามทางพันธุกรรมหน้าตาจะต่างกันน่ะครับแต่ลักษณะที่เห็นภายนอกจะดูเหมือนกันเพราะควบคุมได้ไม่ดี
ผมก้กังวลเหมือนกันว่าตนเองจะมีโรคทางพันธุกรรมอะไรทำนองนี้บางหรือเปล่า
ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ค่อยดี นดิหน่อยก็เป็นแผลแล้วเหมือนกัน
[quote/]
ก็นั่นล่ะครับ จากมุกนิยายจีนแต่ที่ผมตแ่งคือพยายามเอาแนวตะวันตกมาแซว

คือตะวันออกอาจจะมองว่าลอกมาจากนิยาย
แต่ตะวันตกมีมาตั้งแต่ตำนานของโสกราตีส อริสโตเติลนุ่นเลยน่ะครับ
มีคนให้แนวคิดเมหือนกันว่าเรือ่งโหงวเฮ้งน่ะ ทางฝรั่งก็มีนะ คิดมากกว่าพวกเราด้วยซ้ำเรือ่งหนึ่งที่ผมว่าน่าสนใจคือ
มีหมอดูมาทักโสกราตีสบอกว่าเป็นคนอารมร์รุนแรงความอดทนต่ำ โผงผางทำให้ลุกศิษย์ไม่พอใจเพราะไม่ตรงกับโสกราตีสเลยโสกราตีสก็เลยบอกลุกศิษย์เพื่อช่วยหมอดูว่าตนเองก็มีนิสัยเช่นนั้นล่ะแต่ควบคุมนิสัยของตนเองด้วยววินับยในตนเอง
มันก้เป้นมุกที่อมงได้หลายอย่างเหมือนกันน่ะครับ
อย่างที่ตอ่เนื่องมาจากกระทู้ก่อนหน้านี้ผมอยากหามุกเรื่องคนหล่อมาเล่นในนิยายจีนว่าอย่างนั้นครับ[quote/]ขอบคุณครับท่านโกเปี๊ยว
ผู้ชายเราก็อย่างนี้ล่ะครับ ได้มาก็เบยื่อแล้วทิ้งไปเป็นเรื่องธรรมดาตามหลักการของเพศหยิงคอืการคัดสรรค์พันธุ์ตามหลักของผู้ชายคอืการกระจายพันธุ์อ๊ะ คนละเรื่อง ฮา


[quote/]
มันมีตำนานอยู่น่ะครับว่าฮ่องเต้เฉียนหลง
มองว่าจี้เซี่ยวหลานที่ชาญฉลาดเป็นแค่ตัวตลก เพราะหน้าตาไม่ดีและสายตาสั้นน่ะครับ
ส่วนเหอเซินขุนนางกังฉินนคือคนที่หน้าตางดงาม บบุคลิกดีว่าอย่างนั้น
..
แต่ผมเอามาเล่นเพระารู้สึกว่าท่านอาจารย์หวงอี้ มักบรรยายตัวละครในแนวนี้น่ะครับ
หรือบังทอง เล่าปี่ไม่ให้ความสำคัยเพระาหน้าตาไม่ดี
แต่ขงเบ้งทุกคนชชื่นชอบเพราะมีมาดสง่างาม หน้าตาดีกว่าว่างั้นครับ

ผมว่าคนรุ่นใหม่อาจจะไม่เล่นมุกนี้เท่ากับคนรุ่นเก่าอย่างอ.กิมย้ง โกวเล้ง หวงอี้แล้ว
พวกนายน้อยในเรื่องยุคใหม่ก็หน้าตาดีทั้งนั้นเพื่อให้สะใจเวลาโดนพระเอกอัดจนพ่อแม่จำหน้าตาไม่ได้ว่าอย่างนั้น



สุเทพกับสนธิ  บุคลิกภาพดี  คารมดี  ทำให้เกิดความชื่นชมได้  คล้ายๆสุภาษิตไทย
[คารมเป็นต่อ  รูปหล่อเป็นรอง]  ส่วนที่ฮ่องเต้เขาดู  เขาอาจดูที่บุคลิกภาพนั่นแหละ
แต่ว่า  คนเก่งๆบางคนเป็นเด็กเนิร์ด  ซึ่งมันอัตราส่วนน้อยมากๆในหมู่คนเก่ง  มันก็
คล้ายเราควานหาเพชรน้ำหนึ่งในหมู่เพชร  มันหายาก  เราต้องควาญดีๆ  เนิร์ดประเภทนี้
ถือเป็นของดี  ได้รับการยกเว้นด้านบุคลิกภาพ  แต่คนทั่วไปที่แค่เก่งดาดๆ  อย่าไป
ทำตาม  อย่าไปเนิร์ดตาม  เพราะต้องเก่งโคตรๆถึงจะได้รับการอลุ่มอล่วย



คนเราเวลาเจอกัน  เวลาดีลกัน  เวลาทำธุรกิจหรือนัดเดทกัน  สิ่งแรกที่เขามองก็คือ
การวางตัว  ใบ้หน้า  สีหน้า  รสนิยมการแต่งกาย  การวางตัว  เพราะงั้นวิชาการดู
โหงวเฮ้ง  ถ้ามันทันยุคทันสมัยเป็นหลักเป็นการ  มันสามารถนำเอามาใช้ได้  ไม่งั้น
เราจะแต่งตัวดูดี  บุคลิกดี  พูดจาดี  ในตอนไปสมัครงาน  ไปจีบสาว  ไปพบลูกค้า
ไปเจรจาธุรกิจกันทำไม  ของพวกนี้ในปัจจุบันถึงขั้นบางบริษัทมีแผนกที่ดูแลเรื่องนี้


บางบริษัทใช้คนเปลืองมาก  เพราะเขาให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์   ประธาน
บางคนมีเลขาเพียบและมีเลขาที่คอยดูแลเรื่องพวกบุคลิกภาพ  คอยศึกษาวัฒนธรรม
ของคู่เจรจา  วิธีปฏิบัติต่างๆ  เอามาแนะนำให้ทีมเจรจา  แนะนำท่านประธาน  ยก
ตัวอย่างปัจจุบันการไปเจรจากับคนจีนก็ได้  อันนี้ยากสุด  แค่การนั่งก็มีวิธีการต่างๆ
หรือเอาเก่าหน่อย  ก็สมัยที่ฝรั่งหรือไทยเจรจากับคนญี่ปุ่น  และคนญี่ปุ่นก็ศึกษา
เวลาเจรจากับไทย  การผูกมิตรมันสำคัญ 
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
[quote/]
[quote/]


สุเทพกับสนธิ  บุคลิกภาพดี  คารมดี  ทำให้เกิดความชื่นชมได้  คล้ายๆสุภาษิตไทย
[คารมเป็นต่อ  รูปหล่อเป็นรอง]  ส่วนที่ฮ่องเต้เขาดู  เขาอาจดูที่บุคลิกภาพนั่นแหละ
แต่ว่า  คนเก่งๆบางคนเป็นเด็กเนิร์ด  ซึ่งมันอัตราส่วนน้อยมากๆในหมู่คนเก่ง  มันก็
คล้ายเราควานหาเพชรน้ำหนึ่งในหมู่เพชร  มันหายาก  เราต้องควาญดีๆ  เนิร์ดประเภทนี้
ถือเป็นของดี  ได้รับการยกเว้นด้านบุคลิกภาพ  แต่คนทั่วไปที่แค่เก่งดาดๆ  อย่าไป
ทำตาม  อย่าไปเนิร์ดตาม  เพราะต้องเก่งโคตรๆถึงจะได้รับการอลุ่มอล่วย



คนเราเวลาเจอกัน  เวลาดีลกัน  เวลาทำธุรกิจหรือนัดเดทกัน  สิ่งแรกที่เขามองก็คือ
การวางตัว  ใบ้หน้า  สีหน้า  รสนิยมการแต่งกาย  การวางตัว  เพราะงั้นวิชาการดู
โหงวเฮ้ง  ถ้ามันทันยุคทันสมัยเป็นหลักเป็นการ  มันสามารถนำเอามาใช้ได้  ไม่งั้น
เราจะแต่งตัวดูดี  บุคลิกดี  พูดจาดี  ในตอนไปสมัครงาน  ไปจีบสาว  ไปพบลูกค้า
ไปเจรจาธุรกิจกันทำไม  ของพวกนี้ในปัจจุบันถึงขั้นบางบริษัทมีแผนกที่ดูแลเรื่องนี้


บางบริษัทใช้คนเปลืองมาก  เพราะเขาให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์   ประธาน
บางคนมีเลขาเพียบและมีเลขาที่คอยดูแลเรื่องพวกบุคลิกภาพ  คอยศึกษาวัฒนธรรม
ของคู่เจรจา  วิธีปฏิบัติต่างๆ  เอามาแนะนำให้ทีมเจรจา  แนะนำท่านประธาน  ยก
ตัวอย่างปัจจุบันการไปเจรจากับคนจีนก็ได้  อันนี้ยากสุด  แค่การนั่งก็มีวิธีการต่างๆ
หรือเอาเก่าหน่อย  ก็สมัยที่ฝรั่งหรือไทยเจรจากับคนญี่ปุ่น  และคนญี่ปุ่นก็ศึกษา
เวลาเจรจากับไทย  การผูกมิตรมันสำคัญ 
คราวนู้นผมถึงบอกไงล่ะครับ ว่าสนธิกับสุเทพคารมดีมากๆ เจ้าชู้ในกระทู้ก่อนๆแต่หากเอาหน้าตาอย่างเดียวมันวัดอะไรไม่ได้ว่าอย่างนั้นครับ
เรียกว่าหากม่นใจว่าตนเองเก่งพอก็เนิร์ดไสินะครับ?สุดท้ายการเข้าสังคมก็เป้นเรื่องของเส้นสายล้วนๆล่ะนะ
หากทุกคนในประเทศเราเข้าใจว่ามันไม่ใช่มหาวิทยาลับสีหรือรุ่น แต่คือเรามีญาติเราอยู่ในกระทรวงหรือบริษัทหรือไม่ต่างหากคนเราก็จะทำใจยอมรับได้ง่ายขึ้นและเลือกทำอะไรที่เป้นประโยชน์แก่ตัวเราเองไม่ใช่คิดว่า"ทำงานไป เดี๋ยวคนเขาก็เห็นความดีของเราเองล่ะ"มันเป็นเรื่องตลกร้ายชอบกลเหมือนกัน
..
กลับมาที่คารมผมว่าการพูดจาฉะฉานก็อาจจะช่วยลดการมีข้อเสียด้านหน้าตาได้อย่างณัฐวุฒิ มาสายโต้คารมมัธยมศึกษา
สมัยก่อน ดาวสภา จะได้รับการชื่นชม คนที่พูดจาว่าฝ่ายตรงข้ามได้น้ำท่วมทุ่งสารพัดที่จะพูด คนอาจจะดูว่าไร้สาระ แต่ที่จริงมันสำคัญมากๆในเรื่องของคำพูดและวาทศิลป์

เทคนิคของวาทศิลป์อารมณ์ร่วมสำคัญที่สุด เหตุผลนั้นอยู่ท้ายๆหากเราไปค้นประวัติศาสตร์วาทศิลป์โบบราณกันแล้ว ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก