สำหรับทุกท่านแล้ว ในมุมมองของท่านนั้น พวกพล๊อตนิยายแนวตัวเอกถูกทอดทิ้งโดยกลุ่มเพื่อน คิดว่ามีความน่าสนใจหรือไม่น่าสนใจยังไงบ้างครับ ?
ลองมาวิเคราะห์แยกเป็นเรื่อง ๆ ดูกันไหมครับ (วิเคราะห์ขำ ๆ ก็ได้ เพราะผมเองก็ไม่ใช่มืออาชีพครับ 55+)
Arifureta Shokugyou de Sekai Saikyou อาชีพกระจอกแล้วทําไมยังไงข้าก็เทพเรื่องนี้คงต้องบอกว่าวางพล๊อตได้น่าสนใจตั้งแต่เปิดตัว
เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ถูกรังแกโดยพวกนักเลงในห้อง และถูกลอบทำร้ายหักหลังจนตกลงไปสู่ขุมนรก ก่อนจะได้กลับมาสู่เบื้องบนอีกครั้งพร้อมกับตามหาวิธีกลับสู่โลกเดิมเป็นเป้าหมายสูงสุด
-ผมว่าเป็นนิยายที่วางพล๊อตได้น่าสนใจตั้งแต่เปิดเรื่องแล้ว
-คนอ่านเกิดความรู้สึกชัดเจนตั้งแต่อ่าน ว่าพระเอกจะใช้พลังเอาตัวรอดยังไง และจะทำให้ตัวเองเทพได้ยังไง
-หลายเรื่องที่เป็นแนวอาชีพกระจอกมักเอาอาชีพ [พระ] มายำ แต่เรื่องนี้ฉลาดที่เอาอาชีพ [นักแปรธาตุ] มายำ เพราะคนเล่นเกมส์มักรู้ดีว่าเวลาลงดันหรือต่อสู้ อาชีพ [พระ] คือตัวละครที่ขาดไม่ได้เลย จึงทำให้คนส่วนใหญ่ขาดความรู้สึกร่วมไปกับตัวเอก เพราะจะงง ๆ อยู่ในจิตใต้สำนึกว่า “มันกระจอกยังไงฟะ”
-ผิดกับอาชีพ [นักแปรธาตุ] เพราะพวกเรารู้ดีว่า [นักแปรธาตุ] มักเป็นอาชีพสายคราฟของที่ไม่ใช่สายต่อสู้อยู่แล้ว จึงทำให้คนอ่านลุ้น เอาใจช่วยพระเอกตาม
-นอกจากประเด็นข้างต้น คนแต่งยังวางประเด็นของความขัดแย้งเกี่ยวกับเทพเจ้าของเรื่องที่น่าสนใจด้วย
-เรื่องนี้สำหรับผม จึงยกให้เป็นเรื่องที่น่าอ่าน
-ข้อติเดียวของเรื่องนี้สำหรับผม คือการวางพล๊อตของตัวละครที่ชื่อ [โคคิ] ที่อ่านแล้วรู้สึกขัดแย้งกับนิสัยตอนเปิดเรื่องแปลก ๆ
-จะเห็นได้ว่าการเปิดตัวของโคคิจากเล่นแรกนั้น เขาคือผู้นำของห้อง เป็นคนฉลาด เป็นพวกคนที่สมบูรณ์แบบทั้งความคิด นิสัย รวมไปถึงพละกำลัง
-คนแบบนี้จะขาดความเฉลี่ยวจนถึงขั้นเป็นพวกบ้าความดีสุดโต่งได้ยังไงกันถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ? (หากให้เทียบ ผมว่าหมอนี่คือ [เดคิซุงิ] จากเรื่องโดเรม่อนนั่นละครับ)
-การสร้างตัวละครเช่นนี้จึงเป็นดาบสองคม เพราะมันขัดแย้งมากเกินไปจนชวนสงสัย ซึ่งผมมองว่าเป็นปัญหาในการสร้างตัวครเลยครับ และหลายเรื่องเองก็เป็นเช่นนั้น (เพราะการปั้นตัวละครที่เก่งสมบูรณ์แบบ แต่ดันเจือกโง่นั้นมันยากครับ มันทำให้เกิดคำถามเยอะครับ)
-แต่ก็เป้นส่วนเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญกับพล๊อตหลักของเรื่อง เลยมองข้ามไปได้ครับ (ฮา)
Dungeon Seekerตัวเอกถูกทรยศหักหลัง แล้วถูกจับโยนทิ้งในดันเจียน ก่อเกิดเป็นความแค้นที่ต้องปีนกลับจากนรกขึ้นมาเพื่อล้างแค้น
ผมว่าเรื่องนี้ใช้การวางพล๊อตที่เข้าใจแกนเรื่องชัดเจน ไม่ซับซ้อน เลยทำให้น่าอ่านติดตามครับ
แถมเนื้อหาการผจญภัยเองก็สนุก ต่อสู้มันดีใช้ได้ด้วย
-สำหรับเรื่องนี้ ผมว่าเป็นเคสน่าศึกษาสำหรับใครที่อยากแต่งนิยายยาวที่จบในตัว ไม่ต่อความยาวสาวความยืดครับ
-ทุกตัวละครมีความชัดเจนในตัวมัน คนอ่านไม่สับสน คนแต่งไม่สับสน และจบในตัว เลยเกิดเป้นความสนุกที่เข้าถึงได้ง่ายมาก
-เรื่องนี้ผมยกให้เป็นเรื่องที่เขียนได้น่าอ่านเช่นกันครับ
ผู้กล้าโล่เรื่องนี้เป็นการวางพล๊อตที่ชัดเจนและเล่นกับความรู้สึกผิดถูกคนอ่านได้ดีมาก
-คนเรามักไม่ชอบความอยุติธรรม ซึ่งผมว่าคนแต่งได้จับจุดนั้นมาใช้กับพระเอกของเรา
-ผู้กล้าโล่ทั้งถูกใส่ร้าย ถูกทอดทิ้งจากสังคม เลยทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วย อยากให้พระเอกได้รับความยุติธรรมกลับมา
-จะเห็นได้ว่าโครงเรื่องเริ่มต้นนี้ทำให้มีหลายคนติดตามและอ่านเรื่องผู้กล้าโล่มาตลอด และจะเห็นคนบ่นในเล่มหลัง ๆ ตั้งแต่ตัวเอกได้รับความยุติธรรมกลับมาว่าดูเนื่อย ๆ แล้ว
-ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้ ?
-ผมว่าคำตอบเป็นเพราะการวางพล๊อตเปิดตัวที่พระเอกได้รับความอยุติธรรมนั่นละครับ
-พอปมเรื่องที่เป็นแกนหลักซึ่งทำให้นักอ่าน อ่านติดตามถูกคลายสำเร็จ ความน่าอ่านตรงนั้นจึงเริ่มหมดลง
-โชคดีที่แกนของเรื่องผู้กล้าโล่นัน้ไม่ใช่มีแกนเดียว ยังมีปมเรื่อง [อาวุธของผู้กล้า คลื่นโจมตี และอื่น ๆ] ที่ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เล่มแรกมากมาย จึงทำให้ความน่าอ่านยังคงมีอยู่
-ผมว่าการที่แต่งและวางพล๊อตนิยายให้มีหลายปมนั้น จะทำให้นิยายมีความยาวและน่าติดตามได้ต่อเนื่องมากกว่านิยายที่วางปมน้อย แล้วคลายปมนั้นช้าครับ
-จึงไม่แปลกที่ทำไมผู้กล้าโล่จึงได้รับความนิยม ทั้งที่ปมแห่งความอยุติธรรมได้ถูกคลายไปแล้ว
----------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้มาเรื่องที่ผมว่าเป็นแนวโดนทอดทิ้ง แต่รู้สึกน่าติดตามกลาง ๆ บ้าง
Kaiko sareta Ankoku Heishi (30-dai) no Slow na Second Life โดนไล่ออกจากกองทัพจอมมารแล้วออกมาใช้ชีวิต Slow life ตอนอายุ 32 เรื่องนี้ถูกเซ็ตติ้งให้มีสองฝ่ายคือฝั่งมนุษย์กับฝั่งปีศาจ โดยทั้งสองฝั่งเป็นมนุษย์เหมือนกันนี่แหละ ต่างแค่ว่ามนุษย์จะใช้ได้แต่สกิล ส่วนพวกปีศาจจะใช้พลังเวทมนต์ได้ ทีนี้พระเอกเป็นมนุษย์ที่ถูกฝั่งปีศาจเก็บมาเลี้ยง ด้วยความที่พระเอกเก่งแต่ใช้เวทมนต์ไม่ได้ อีกทั้งถูกหนึ่งในแม่ทัพจอมมารเขม่นใส่อยู่แล้ว เลยถูกไล่จากกองทัพไป
-เป็นแนวที่อ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกสงสารพระเอก เพราะพระเอกเองก็ไม่ได้มีแนวคิดจะไปแก้แค้นใครเช่นกัน
-แต่มีความสะใจที่ได้เห็นพวกแม่ทัพปีศาจเริ่มชิบหายเพราะขาดที่พึ่งอย่างพระเอกไป
-ระดับความน่าติดตามจึงน้อย เพราะไม่รู้สึกถึงมูลเหตุจงใจของพระเอก เหมือนว่าอ่านแล้วไม่ได้รู้สึกอยากลุ้นติดตามเอาใจช่วยตัวเอก เพราะตัวเอกเองก็ไม่ได้มีนิสัยที่จะกลับไปแก้แค้นกลับ
-การดำเนินเรื่องและเปิดตัวพระเอกขาดภาพความประทับใจแรก เลยทำให้ความน่าติดตามลดลง
-สรุปภาพรวมเรื่องนี้ผมให้อยู่ในระดับนิยายต่างโลกกลาง ๆ ที่ถ้ามีเวลาว่างก็ค่อยเอามาอ่าน
The Strongest Brave Man of the Black Wizardเรื่องนี้ผมว่ามาเคสเดียวกับเรื่อง [โดนไล่ออกจากกองทัพจอมมารแล้วออกมาใช้ชีวิต Slow life ตอนอายุ 32 ] เลยครับ
คือตัวเอกโดนเป็นผู้กล้ามืด โดนสามผู้กล้าธาตุอื่นหมั่นไส้ + อิจฉา มาทรยศทำลายพลังของพระเอก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พระเอกเลิกเป็นผู้กล้ามืดอีกต่อไป
-คือเรื่องนี้พระเอกไม่คิดแก้แค้นพวกที่มาทำร้ายตนครับ ผมเลยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันขาดเสน่ห์ของพล๊อตแนวโดนทรยศไป (เพราะคนอ่านแนวนี้ต้องคาดหวังการเอาคืนใช่ไหมละครับ ? ทำไมความอยุติธรรมถึงลอยนวลเช่นนั้นละ ?)
-ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมมองว่าน่าติดตามกลาง ๆ ว่างก็ค่อยอ่านแบบนั้น
----------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนอันนี้คือเรื่องที่ผมว่าวางพล๊อตตัวเอกมาได้ผิดพลาดจนขาดความน่าติดตาม
ニトの怠惰な異世界症候群 ~最弱職〈ヒーラー〉なのに最強はチートですか?~ โดนอัญเชิญมาต่างโลกทั้งทีกลับได้อาชีพกระจอกสุดซะงั้นเรื่องนี้ผมว่ามันไม่น่าติดตามตั้งแต่นิสัยเริ่มต้นตัวเอกแล้วครับ
นี่เป็นเรื่องราวของตัวเอกที่ถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน เขาถูกแกล้ง เลยเกลียดชังทุกสิ่ง โทษทั้งโลก บอกว่ามันเป็นความผิดของโลกนี้ทำให้เขาเกิดมาทุกข์ทรมาน ก่อนจะโดดตึกเรียนฆ่าตัวตาย
แต่เขาดันไม่ตาย เขาได้รับชีวิตใหม่ในฐานะผู้กลับชาติมาเกิดจากการบังเอิญอัญเชิญผู้กล้าของต่างโลกพอดี
เขาคิดว่าบางทีชีวิตใหม่อาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ต้องพบความจริงอันน่าเศร้าอีกว่าอาชีพของเขาคือ [ฮีลเลอร์] ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพกระจอกสุดของโลกนั้น
-มันคือพล๊อตนิยายแนวตัวเอกถูกทอดทิ้งนั่นละ แต่ผมว่ามีจุดที่ทำให้อ่านแล้วแทบอยากวางเรื่องนี้ลงทันทีตั้งแต่ตอนแรกเลย
-1. ตัวเอกโดนรังแก แต่ไม่ใช่ทั้งห้องรุมรังแกมันครับ มันโดนแค่กลุ่มนังเลงแกล้ง แล้วไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่พยายามช่วยนะ มันมีคนพยายามช่วยมันด้วย แต่มันปัดไม่รับ แล้วมาโทษโลกทั้งใบว่าโลกนี้มันบิดเบี้ยว (คือถ้ามันโดนทั้งห้องแกล้งผมจะไม่ว่ามันเลย) ก่อนจะโดดฆ่าตัวตายครับ
-ซึ่งสิ่งนี้ผมว่าเป็นการสร้างตัวละครเอกที่ผิดพลาดมาก ๆ เพราะต้องมีคนอ่านที่ไม่รู้สึกสงสารมันเลย แถมยังสงสัยด้วยว่า “คนแบบนี้ต้องเอาใจช่วยมันด้วยเรอะ ? หรือสมควรต้องมอบพลังโกงให้มันด้วยหรือยังไง ?”
-2. ตอนที่มันเห้นหน้าจอพลังตัวเอง ความคิดแรกของตัวเอกคือ “ทำไมคนทุกคนถึงได้รับสิ่งที่ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นละ ?” คือ… ขนาดนี้ยังคิดจะโทษคนอื่นโดยไม่มองสิ่งที่ตัวเองเป็นอีกหรือ ?
-คือผมพอมองออกครับว่าคนแต่งคงตั้งใจสร้างตัวละครให้มีมิติ โดยเริ่มจากระดับเลวร้ายสุด ๆ คือมองตัวเองต่ำต้อยในแง่ลบแบบสุดโต่งไปเลย
-ประเด็นคือมันดูถูกตัวเองและเอาแต่โทษโลก คนแบบนี้มันไม่ค่อยอยากเอาใจช่วยครับ ซึ่งผมว่าการแต่งนิยายด้วยการวางพล๊อตแบบนี้นั้นอันตราย เพราะจะทำให้คนเกิดความอยากติดตามอ่านน้อยมาก
**ทั้งหมดนี้เป็นแค่การวิเคราะห์ส่วนตัวโดยมีประสบการณ์และมุมมองส่วนตัวของผมสวมทับ ดังนั้นจึงไม่ใช่การวิเคราะห์ที่อาจถูกต้อง แต่เป็นการวิเคราะห์เพื่อหามุมมองของการวางพล๊อตนิยาย ใครเห็นต่างก็มาแลกเปลี่ยนความคิดวิเคราะห์กันครับ