เวทย์ในสามก๊ก-ช่วยผมคิดมุกหน่อยครับ?

[samuison]

ช่วงนี้ผมเถียงกับบอร์ดต่าปงระเทศเรื่องมหาสงครามชิงบัลลังก์นิดหน่อยเกี่ยวกับเวทย์ในเวสเทรอส
ผมอยากจะเอามาดัดแปลงใช้ในเรื่องสามก๊กที่ผมกำลังเขียน

ผมกำลังบอกว่า
จอร์จ อาร์ อาร์ มาตินพยายามสื่อว่า
เวทย์เก่งจริงทำไมยังต้องพึ่งกองทัพ?


แต่ดันเขียนให้คนที่มีกองทัพนับแสนโดนลอบสังหารสั่งฆ่าด้วยเวทย์โลหิต

นักเขียนแฟนฟิคที่คุยด้วยก็บอกว่า

ทางเทคนิคก็ถูกอย่างที่จอร์จว่า

เพราะเวทย์นั้นคนใช้ได้มีจำนวนน้อยและมันอันตรายต้องจ่ายค่าตอบแทนสูง
ผมก็คิดถึงแนวนิยายจีน ชิงบัลลังกืจอมนางวังหลวง

ที่เล่นมุกการทำคุณไสย สาปแช่งต่างๆ
นึกถึงมงกุฎดอกส้มที่ทำคุณไสยใส่กัน

แต่ผมว่าผลที่แท้จริงตามประวัติศาสตร์มันเป้นการใาร้ายกันเสียมกากว่าเพราะคุณไสยมันคือรเื่องขี้ฮก หลอกลวงไม่ได้ผล

แต่หากเราทำเป้ฯว่าหนอนกู่ หนอนทองที่สังหารคนของเผ่าแม้วตามนิยายจีนมีจริงในจักรวาลนี้

ก็เรียกว่าการต่อสู้ต่างๆต้องซับซ้อนมากกว่าที่คิด

ว่ากองทัพปรกติไม่ได้สู้กันแค่วางแผนชิงไหวชิงพริบแบบโตโฉอ้วนเสี้ยว

แต่การต่อสู้จะเป็นแบบขงเบ้งปราบม่านใต้ที่ต่างฝ่ายต่างงัดเวทย์และคาถา คุณไสย คำสาปต่างๆใส่กัน

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

ผมกะจะเขีัยนนิยายแนวที่ตรงข้ามกับหงสาจอมราชันย์ไปอีกทาง
ผมรู้สึกว่าหงสาจอมราชันย์นั้นเน้นเหตุผลมากเกินไปจนดูแปลกๆ

แต่ก้นั่นล่ะกลัวว่าตนเองจะใส่เวทย์มากเกินไปจนเรื่องผมแปลกๆเหมือนกัน

แต่ขึ้นชื่อว่าสามก๊กทั้งที
ไม่มีเรียกลม เรียกฝน เรียกหมอกก็กร่อยแย่

ผมประทับบใจเรื่องซุนหวู่ภาคที่ผมดูตตอนเด็กมาก

กุนซือของทั้งสองฝ่ายเรียกหมอก เรียกฝนได้เหมือนกัน
และกลยุทธนั้นปรับตามเวทย์ที่ร่ายคาถาใส่กัน ฮา

ว่าตัวร้ายแพ้เพราะตัวร้ายเสกหมอกมา และเอาทหารไม่ใส่เกราะเคลื่อนไหวไปอย่างเงียบๆจะลอบโจมตี

ซุนหวุ่เป่าคาถาปัดหมอก

ทำให้แผนการของตัวร้ายล้มเหลว ทหารไร้เกราะที่ต้องการเคลื่อนไหวรวดเร้วเลยโดนสังหารทำให้รบแพ้

ว่าการศึกต้องรบสองทางทั้งทางเวทย์และทางกลศึก

คนที่เป็นกุนซือต้องรู้รอบด้านปานท่านกุงซุนของเปาบุ้นจิ้น

ว่านอกจากเชี่ยวชาญพิชัยยุทธแล้วต้องไล่ผีได้ในเวลาเดียวกัน

ทุกท่านพอมีมุกอะไรบ้างครับ?

ผมนึกถึงจักรวาล warhammer
ที่การบกุเทอรร่าศึกสุดท้าทยของ horus heresy

ที่สุดท้ายแผนการสู้รบก็เป้นแค่ sideshow เรื่องรองไม่สำคัญเท่าการต่อสู้ทางพลังจิตของท่านจักรพรรดิกับฮอรัส

ผมสังเกตท่านหวงอี้ก็พยายามจะทำอย่างนี้เหมือนกันเพื่อแสดงว่าจอมยุทธหรือพระเอกของเรื่องยังมีผลอยู่ต่อสงครามทั้งหมด

อีกเรื่องคือ
การมีอยู่ของพวกจอมเวทย์ที่แม้แต่ควบคุมสัตวว์ได้ก็ถือว่าโกงมาก
สิงร้างเหยี่ยวทำให้มองด้วยสายตาของเยหี่ยวค้นพบศัตรูที่ซ่อนอยู่

• Tweet

[KAGUYA]

ถ้าเป็นแนวจีนก็ต้องพวกเวทสายพยากรณ์,ตาทิพย์,หูทิพย์,ฮวงจุ้ย,สายเสริมแกร่ง,สายเนโคร(เหมาซาน)หรืออาคมสายเต๋าสายพุทธสิครับ

[samuison]

ถ้าเป็นแนวจีนก็ต้องพวกเวทสายพยากรณ์,ตาทิพย์,หูทิพย์,ฮวงจุ้ย,สายเสริมแกร่ง,สายเนโคร(เหมาซาน)หรืออาคมสายเต๋าสายพุทธสิครับ

ขอบคุณครับ


ลืมมุกผีดิบกระโดดไปมาไปเลย ฮา




ต้องเอามาใช้บรรยายว่าร่างกายแข็งเหมือนเหล็กไม่มีจุดตายเหมือนคนเป็นเลยต่อสู้ยากใช้กระดิ่งควบคุม


...




ผมไปเจอแฟนฟิคมหาศึกชิงบัลลังก์เล่นมุกใช้พลัง warg สิงร่างสัตว์ต่างๆ


ควบคุมโลมา คราเครา เอามาชากเรือหรือสั่งการให้จมเรือคนอื่นได้


พลังwarg หากใช้ร่วมกับการขี่ม้าจะทำให้เรากลายเป็นคนขี่ม้าที่เก่งที่สุดในแผ่นดิน


เพราะควบคุมม้าได้ดั่งใจจริงๆ




หากมีเวทย์จริงส่งผลต่อสงครามมากกว่าที่คิด

[สุทธชา]

- ถ้าเวทมนต์ในสามก๊กก็คงต้อง ศาสนาเต๋าเป็นหลักละนะครับ เพราะศาสนาพุทธเพิ่งแพร่หลายในจีนประมาณคศ.600  หลังจบยุคสามก๊กไปหลายร้อยปีเลยนะเออ


- โดยเฉพาะเต๋า น่าจะเป็นผู้จำแนก5ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ทอง ไม้ และน่าจะเป็นต้นแบบเวทมนต์ในสามก๊ก ลัทธิเต๋า เต๋าคือปฐมธาตุ ต้นกำเนิดสรรพสิ่งทั้งปวง  ไม่ใช่ชีวิต ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่พระเป็นเจ้า


- ศาสนาเต๋าเองตอนกำเนิดก็ได้รับอิทธิพลจากคัมภีร์อี้จิง = วิชาที่กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงบนโลก


- ในการปรุงยาหรือเล่นแร่แปรธาตุก็น่าจะเริ่มมาทางสายเต๋านี่แหละ


- เรียกได้ว่าถ้าให้มีเวทมนต์ไม่ปาหี่ บทใหญ่ก็แนวสายควบคุมธรรมชาติ เรียกฟ้าฝน ประทับทรงดึงพลังจักรวาลแบบนั้น


- พวกพิเศษที่ประทับพลังจักรวาลได้กยากอยู่แล้ว แต่ระดับปรมาจารย์ยิ่งยากกว่า


- และอาจจะต้องตั้งสถานฝึกบนแหล่งพลังงานธรรมชาติที่เหมาะสมต่อการฝึกทำให้ต้องห่างไกลผู้คน


- กล่าวคือก็สามรถถ่ายทอดวิชา แต่ต้องฝึกในสำนักหรือสถานที่เฉพาะจึงจะเบิกเนตรได้ รับลูกศิษย์ฆราวาสให้ออกไปท่องยุทธจักร เข้าร่วมก๊ก หรือเป็นทหาร โดยวิชาที่ถ่ายทอดได้ก็แค่ส่วนย่อย


- แต่ถ้าฝึกได้แล้ว ก็แล้วไป แต่ระดับปรมาจารย์ถ้าทิ้งสำนักนานๆพลังอาจลดลงจนใกล้เคียงลูกศิษย์ฆราวาสแทน


- ที่เห็นแบบที่น่าสนใจก็กรีชาในbook of shadow netflix กรีชาจะถือว่าพลังของตนจัดเป็นวิทยาศาสตร์แขนงนึงแค่บางส่วนอยู่นอกเหนือความเข้าใจของผู้ไม่มีคุณสมบัติ ไม่ใช่เวทมนต์  เช่น พลังคลื่นมนตราภาค1-2  พลังบอลหมุนของภาคสโตนโอเชี่ยนที่เป็นวิชาไม่ใช่พลังแสตนด์ หรือผู้ดัดธาตุใน Avatar the last airbender ที่เรียบง่ายกว่ากรีชา


- กรีชาสายความเป็นความตายบางคนมีรูปแบบก็สามารถแปลงโฉมตัวเองและคนอื่นกระทั่งสีผิวสีผมได้  แปลงโฉมแบบไม่ใช้หน้ากาก ชวนให้คิดถึงการปลอมตัวเทพๆในยุทธจักรนั่นแล


- ถ้าไม่เจาะจงสามก๊ก ก็ต้องเพิ่มสายพุทธ ซึ่งจีนจะเน้นมหายานและวัชิรยานไม่ใช่เถรวาท


- ก็ต้องเน้นให้เด่นคนละแบบกับเต๋า เช่น พลังพุทธคุณ ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ป้องกันคำสาป คุณไสย ดีกว่าเต๋า อันเป็นเหตุให้พุทธเฟื่องฟู (สมมติ) แต่ถึงนับถือพุทธก็ไม่ทิ้งเต๋า เพราะเด่นคนละแบบ  เต๋าก็ขับไล่สิ่งชั่วร้าย คุณไสยได้ แต่คนละแบบ เช่นการจัดเรียงฮวงจุ้ย ค่ายกล ค่ายเสริมชะตา หรือต้องรอโดนคุณไสยก่อนค่อยรักษาขับไล่
- ประมาณเต๋าสร้างห้องป้องกันอันตราย แต่ถ้าให้อุ่นใจก็พุทธสร้างเกราะป้องกันตัวอีกชั้น เพื่อมีคนเล่นทะลุห้องมาถึงตัวเป็นต้น


- ผมยังเคยคิดว่าถ้าให้พระไทยมีเวทมนต์ก็คงแบบพระอาจารย์ที่สอนขุนแผนได้แบบนั้น


- แต่ถ้าแนวให้พลังแก่คนหมู่มากเพราะจะหาศิษย์ที่มีคุณสมบัติมันยาก ก็อาจเน้นด้านอื่นเช่น ให้พรสักลงยันต์ ถ่ายทอดตระกรุด เครื่องรางของขลัง
- ให้พรก่อนออกไปสู่รบ เหมือนกล่าววาจาถ่ายทอดพลังหรือให้คนฟังเปิดวงจรได้เล็กน้อย เพิ่มบัพในระดับนึงระยะเวลาหนึ่ง แต่ต้องทำโดยผู้มีพุทธคุณสูงหรือตบะแก่กล้า
- การสักยันต์ ก็ให้กลายเป็นเหมือนสร้างวงจรเวทมนต์เทียมบนผิว หรือเครื่องรางก็คล้ายอุปกรณ์เวท แต่ต้องสักหรือทำโดยพระอาจารย์หรือคนที่เล่นของระดับสูง  ซึ่งจะมีผลต่างกันไป
- เช่นรอยสักหนังเหนียว เสริมเสน่ห์ เสริมโชคลาภ แคล้วคลาดอันตราย  แบบแค่เสริมบวกstr /def / luck/ charmอะไรแบบนั้น ไม่เทียบเท่าเวทมนต์หรือคาถาเสกให้รักหลง คงกระพันโดยตรง
- เครื่องร่างของขลังจะแค่เสริมไม่ใช่ให้ ดังนั้นผลอาจเป็นรองอุปกรณ์เวทมนต์สะกดหรือคำสาป


- มหายาน วัชิรยาน จะห่างเหินพวกการปลุกเสกกว่าเถรวาทมากมาย


- ดังนั้นต่อให้ไม่ฝึกก็ต้องพกเครื่องรางของขลังป้องกันการโจมตีทางจิต คำสาป


- แบบอุปกรณ์สวมใส่ เกมนั่นแล ลดผลของการโจมตี เพิ่มบัพการโจมตีป้องกันตายทันที ป้องกันสถานะผิดปกติ นั่นแล ก็ให้ฝ่ายเล่นแร่แปรธาตุสร้างให้ก็ได้ ไม่ถึงกับเป็นคลาสจอมเวทเพื่อเพิ่มค่าความต้านทานเวทซะหมด
- คล้ายฝ่ายมาทีเรียคิในกรีชาที่สร้างชุดกันกระสุน อุปกรณ์ที่เหนือหลักฟิสิกส์ปกติ


- การแพ้ของสแตนิสที่black waterนี่ นอกจากตัวสแตนิสเองที่ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง ยังต้องโทษแดนาริสด้วยนะ เพราะการที่นางฟักมังกรออกมาในแดนอิสระ  เลยส่งผลให้เวทมนต์เริ่มหวนกลับมาบนโลก จอมเวทไฟในแดนอิสระควบคุมไฟได้มากกว่าปกติหลายเท่า จอมเวทในวังหลวงเองก็พบว่าพวกตนสามารถสร้างwild fireได้มากและเร็วกว่าที่เคยทำช่วงมังกรสูญพันธ์หลายเท่า
- ทำให้ทีเรียนสามารถรวบรวมwild fireได้มากพอใช้ทำลายทัพเรือของสแตนิส

[samuison]

- ถ้าเวทมนต์ในสามก๊กก็คงต้อง ศาสนาเต๋าเป็นหลักละนะครับ เพราะศาสนาพุทธเพิ่งแพร่หลายในจีนประมาณคศ.600  หลังจบยุคสามก๊กไปหลายร้อยปีเลยนะเออ


- โดยเฉพาะเต๋า น่าจะเป็นผู้จำแนก5ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ทอง ไม้ และน่าจะเป็นต้นแบบเวทมนต์ในสามก๊ก ลัทธิเต๋า เต๋าคือปฐมธาตุ ต้นกำเนิดสรรพสิ่งทั้งปวง  ไม่ใช่ชีวิต ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่พระเป็นเจ้า


- ศาสนาเต๋าเองตอนกำเนิดก็ได้รับอิทธิพลจากคัมภีร์อี้จิง = วิชาที่กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงบนโลก


- ในการปรุงยาหรือเล่นแร่แปรธาตุก็น่าจะเริ่มมาทางสายเต๋านี่แหละ


- เรียกได้ว่าถ้าให้มีเวทมนต์ไม่ปาหี่ บทใหญ่ก็แนวสายควบคุมธรรมชาติ เรียกฟ้าฝน ประทับทรงดึงพลังจักรวาลแบบนั้น


- พวกพิเศษที่ประทับพลังจักรวาลได้กยากอยู่แล้ว แต่ระดับปรมาจารย์ยิ่งยากกว่า


- และอาจจะต้องตั้งสถานฝึกบนแหล่งพลังงานธรรมชาติที่เหมาะสมต่อการฝึกทำให้ต้องห่างไกลผู้คน


- กล่าวคือก็สามรถถ่ายทอดวิชา แต่ต้องฝึกในสำนักหรือสถานที่เฉพาะจึงจะเบิกเนตรได้ รับลูกศิษย์ฆราวาสให้ออกไปท่องยุทธจักร เข้าร่วมก๊ก หรือเป็นทหาร โดยวิชาที่ถ่ายทอดได้ก็แค่ส่วนย่อย


- แต่ถ้าฝึกได้แล้ว ก็แล้วไป แต่ระดับปรมาจารย์ถ้าทิ้งสำนักนานๆพลังอาจลดลงจนใกล้เคียงลูกศิษย์ฆราวาสแทน


- ที่เห็นแบบที่น่าสนใจก็กรีชาในbook of shadow netflix กรีชาจะถือว่าพลังของตนจัดเป็นวิทยาศาสตร์แขนงนึงแค่บางส่วนอยู่นอกเหนือความเข้าใจของผู้ไม่มีคุณสมบัติ ไม่ใช่เวทมนต์  เช่น พลังคลื่นมนตราภาค1-2  พลังบอลหมุนของภาคสโตนโอเชี่ยนที่เป็นวิชาไม่ใช่พลังแสตนด์ หรือผู้ดัดธาตุใน Avatar the last airbender ที่เรียบง่ายกว่ากรีชา


- กรีชาสายความเป็นความตายบางคนมีรูปแบบก็สามารถแปลงโฉมตัวเองและคนอื่นกระทั่งสีผิวสีผมได้  แปลงโฉมแบบไม่ใช้หน้ากาก ชวนให้คิดถึงการปลอมตัวเทพๆในยุทธจักรนั่นแล


- ถ้าไม่เจาะจงสามก๊ก ก็ต้องเพิ่มสายพุทธ ซึ่งจีนจะเน้นมหายานและวัชิรยานไม่ใช่เถรวาท


- ก็ต้องเน้นให้เด่นคนละแบบกับเต๋า เช่น พลังพุทธคุณ ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ป้องกันคำสาป คุณไสย ดีกว่าเต๋า อันเป็นเหตุให้พุทธเฟื่องฟู (สมมติ) แต่ถึงนับถือพุทธก็ไม่ทิ้งเต๋า เพราะเด่นคนละแบบ  เต๋าก็ขับไล่สิ่งชั่วร้าย คุณไสยได้ แต่คนละแบบ เช่นการจัดเรียงฮวงจุ้ย ค่ายกล ค่ายเสริมชะตา หรือต้องรอโดนคุณไสยก่อนค่อยรักษาขับไล่
- ประมาณเต๋าสร้างห้องป้องกันอันตราย แต่ถ้าให้อุ่นใจก็พุทธสร้างเกราะป้องกันตัวอีกชั้น เพื่อมีคนเล่นทะลุห้องมาถึงตัวเป็นต้น


- ผมยังเคยคิดว่าถ้าให้พระไทยมีเวทมนต์ก็คงแบบพระอาจารย์ที่สอนขุนแผนได้แบบนั้น


- แต่ถ้าแนวให้พลังแก่คนหมู่มากเพราะจะหาศิษย์ที่มีคุณสมบัติมันยาก ก็อาจเน้นด้านอื่นเช่น ให้พรสักลงยันต์ ถ่ายทอดตระกรุด เครื่องรางของขลัง
- ให้พรก่อนออกไปสู่รบ เหมือนกล่าววาจาถ่ายทอดพลังหรือให้คนฟังเปิดวงจรได้เล็กน้อย เพิ่มบัพในระดับนึงระยะเวลาหนึ่ง แต่ต้องทำโดยผู้มีพุทธคุณสูงหรือตบะแก่กล้า
- การสักยันต์ ก็ให้กลายเป็นเหมือนสร้างวงจรเวทมนต์เทียมบนผิว หรือเครื่องรางก็คล้ายอุปกรณ์เวท แต่ต้องสักหรือทำโดยพระอาจารย์หรือคนที่เล่นของระดับสูง  ซึ่งจะมีผลต่างกันไป
- เช่นรอยสักหนังเหนียว เสริมเสน่ห์ เสริมโชคลาภ แคล้วคลาดอันตราย  แบบแค่เสริมบวกstr /def / luck/ charmอะไรแบบนั้น ไม่เทียบเท่าเวทมนต์หรือคาถาเสกให้รักหลง คงกระพันโดยตรง
- เครื่องร่างของขลังจะแค่เสริมไม่ใช่ให้ ดังนั้นผลอาจเป็นรองอุปกรณ์เวทมนต์สะกดหรือคำสาป


- มหายาน วัชิรยาน จะห่างเหินพวกการปลุกเสกกว่าเถรวาทมากมาย


- ดังนั้นต่อให้ไม่ฝึกก็ต้องพกเครื่องรางของขลังป้องกันการโจมตีทางจิต คำสาป


- แบบอุปกรณ์สวมใส่ เกมนั่นแล ลดผลของการโจมตี เพิ่มบัพการโจมตีป้องกันตายทันที ป้องกันสถานะผิดปกติ นั่นแล ก็ให้ฝ่ายเล่นแร่แปรธาตุสร้างให้ก็ได้ ไม่ถึงกับเป็นคลาสจอมเวทเพื่อเพิ่มค่าความต้านทานเวทซะหมด
- คล้ายฝ่ายมาทีเรียคิในกรีชาที่สร้างชุดกันกระสุน อุปกรณ์ที่เหนือหลักฟิสิกส์ปกติ


- การแพ้ของสแตนิสที่black waterนี่ นอกจากตัวสแตนิสเองที่ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง ยังต้องโทษแดนาริสด้วยนะ เพราะการที่นางฟักมังกรออกมาในแดนอิสระ  เลยส่งผลให้เวทมนต์เริ่มหวนกลับมาบนโลก จอมเวทไฟในแดนอิสระควบคุมไฟได้มากกว่าปกติหลายเท่า จอมเวทในวังหลวงเองก็พบว่าพวกตนสามารถสร้างwild fireได้มากและเร็วกว่าที่เคยทำช่วงมังกรสูญพันธ์หลายเท่า
- ทำให้ทีเรียนสามารถรวบรวมwild fireได้มากพอใช้ทำลายทัพเรือของสแตนิส

ขอบคุณครับ




ผมจะเล่นมุกว่ายึดครองลั่วหยางฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งในแผ่นดินอยู่แล้วน่ะครับ




ไปเจอคนเชื้อสายเอเชียในบอร์ดอธิบายว่าคนตะวันตกคิดแต่เรืองโชคส่วนตัวแต่ที่จริงมี
Nation Luck ดวงเมือง


อยู้ด้วยที่มักลืมกัน




ไปเจอมุกจูหยวนจางมองว่าตนเองสังหารคนมามากแต่เป็นฮ่องเต้ดวงเมืองเกื้อหนุนเลยไม่เป็นอะไร


พลังชั่วร้ายที่จัองทำร้าย เลยไปทำร้ายลูกหลาน


ลูกหลานที่ตนเองรักเลยอายุสั้น




เรื่องลึกลับมันมึนๆประมาณนี้ล่ะครับ ฮา




สุภาพบุรุษขงจื้อจึงไม่กล่าวถึงเรื่องลี้ลับ

[samuison]

อีกมุกหนึ่งที่ผมคิดได้ตาม Lore เป๊ะไม่แหวกตำนานแต่ประการใด


เซ็กเธา




ทางเทคนิคเซ็กเธาสืบสายเลือดมาจากม้าสวรรค์




จับม้าสวรรค์เองไม่ได้เลยใช้วิธีเอาม้าตัวเมียไปล่อม้าสวรรค์




หลังจากนั้นไม่นานเซ็กเธาก็คลอดออกมา


แสดงว่าเรามีกึ่งเทพตัวเป็นๆอยู่ในเรื่องมาตั้งแต่ต้นแล้ว




หรืออาจจะอธิบายแบบประวัติศาสตร์ เซ็กเธาน่าจะมาจากสายเลือดของม้าตะวันตกสมัยฮั่นหวู่ตี้ที่อาจจะเอาม้าสวรรค์เข้ามาตอนทำสงครามกับตะวันตก

[DDAvatar]

ม้าเหงื่อโลหิตทางวิทยาศาสตร์ ก็คือ ม้าสายพันธเก่าแก่ที่สุดสายนึง เชื่อกันว่าพัฒนาพันธ์โดยพวกชาวซิเทียน พวกชนเผ่าเร่รอนเจ้าแรกๆ ที่มีบันทึกไว้
เจ้าพ่อทหารม้าเก่าแก่ที่สุด ฟัดมาตั้งแต่ฮิตไทต์ กรีซ ยันโรมัน นักประวัติศาสตร์บางส่วนก็เชื่อว่า ม้าของอเล็กซานเดอร์ก็ มีสายเลือดม้าพวกนี้
เพราะ ศัตรูสำคัญของ พ่ออเล็กซานเดอร์ ก็พวกชาวซิเทียน นี่แหละจุดเด่นคือ เป็นม้าขนาดใหญ่ ที่มีความเร็วและความอดทน
ม้าศึกยุคแรกๆ นี่เอาไว้ลาก รถศึกอย่างเดียวนะ ขี่ไม่ได้

[samuison]

ม้าเหงื่อโลหิตทางวิทยาศาสตร์ ก็คือ ม้าสายพันธเก่าแก่ที่สุดสายนึง เชื่อกันว่าพัฒนาพันธ์โดยพวกชาวซิเทียน พวกชนเผ่าเร่รอนเจ้าแรกๆ ที่มีบันทึกไว้
เจ้าพ่อทหารม้าเก่าแก่ที่สุด ฟัดมาตั้งแต่ฮิตไทต์ กรีซ ยันโรมัน นักประวัติศาสตร์บางส่วนก็เชื่อว่า ม้าของอเล็กซานเดอร์ก็ มีสายเลือดม้าพวกนี้
เพราะ ศัตรูสำคัญของ พ่ออเล็กซานเดอร์ ก็พวกชาวซิเทียน นี่แหละจุดเด่นคือ เป็นม้าขนาดใหญ่ ที่มีความเร็วและความอดทน
ม้าศึกยุคแรกๆ นี่เอาไว้ลาก รถศึกอย่างเดียวนะ ขี่ไม่ได้

ที่ได้อ่านเจอมาบอวก่าม้าเหงื่อโลหิตน่าจะมาจากปรสิตชนิดหนึ่งน่ะครับ
แต่ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเคยได้ข่าวในวงการม้าตอนอ่านมากิบาโอว่าพวกอาหรับเพาะพันธุ์กันจนราคาเป้นหลายสิบล้าน
ปรับปรุงสายพันธุ์เป็นวิชาเฉพาะเลย
อาจจะพอตีความได้ว่าเซ็กเธอที่เราเห้นคือพันธุ์ผสมที่หลุดมาจากทางตะวันตกว่างั้น

[สุทธชา]

[quote/]
ที่ได้อ่านเจอมาบอวก่าม้าเหงื่อโลหิตน่าจะมาจากปรสิตชนิดหนึ่งน่ะครับ
แต่ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเคยได้ข่าวในวงการม้าตอนอ่านมากิบาโอว่าพวกอาหรับเพาะพันธุ์กันจนราคาเป้นหลายสิบล้าน
ปรับปรุงสายพันธุ์เป็นวิชาเฉพาะเลย
อาจจะพอตีความได้ว่าเซ็กเธอที่เราเห้นคือพันธุ์ผสมที่หลุดมาจากทางตะวันตกว่างั้น

- ถ้าเปลี่ยนให้สมกับเป็นม้าแบบdynasty warrior
- ก็ให้เป็นม้าพันธ์พิเศษที่มีพลังลมหายใจ(ปราณ)ธรรมชาติ ทำให้สามารถวิ่งทั้งวันทั้งคืน ไม่เหนื่อยไปเลยดีกว่า
- ประมาณพลังคลื่นมนตราjojoภาค1แต่ให้ม้าใช้  จนทำให้ฟอกเลือดขับพิษในร่างกายหรือของเสียที่เกิดจากปฏิกิริยาหักโหมของเซลล์ จนทำให้หลั่งเหงื่อสีโลหิตแต่ไม่ใช่โลหิตจริงออกมา

[samuison]

[quote/]
- ถ้าเปลี่ยนให้สมกับเป็นม้าแบบdynasty warrior
- ก็ให้เป็นม้าพันธ์พิเศษที่มีพลังลมหายใจ(ปราณ)ธรรมชาติ ทำให้สามารถวิ่งทั้งวันทั้งคืน ไม่เหนื่อยไปเลยดีกว่า
- ประมาณพลังคลื่นมนตราjojoภาค1แต่ให้ม้าใช้  จนทำให้ฟอกเลือดขับพิษในร่างกายหรือของเสียที่เกิดจากปฏิกิริยาหักโหมของเซลล์ จนทำให้หลั่งเหงื่อสีโลหิตแต่ไม่ใช่โลหิตจริงออกมา

ก็นั่นล่ะครับคนว่าหงสาจอมราชันย์ไม่เว่อแต่ผมไม่คิดว่ามนุษย์ปรกติจะสามารทำเรื่องโยนคนข้ามกำแพงที่แม้แต่บร็อกเลสเนอร์นักมวยปล้ำยังทำไม่ได้
แค่ไม่มีกำไลังภายในโดยตรงไม่ได้แปลว่ามันสมจริง
สู้ทำให้มันมีพลังพิเศษยังจะเข้าใจได้ง่ายกว่า
เอามุก dynasty warrior ออร่าที่เราเห็นคือรัศมีพลังปราณที่เลป่งออกมาว่างั้นสาเตหุที่คนอย่างลิโป้และเซ็กเธาปราบได้นับพันคนเพราะพวกี๊กี๊แค่เข้าไปใกล้ๆก็ตายล่ะ