SOCIETY: การอ่านตัวเขียนภาษาอังกฤษออก
จัดเป็นพลังพิเศษอย่างหนึ่งนะ
และมันอาจเป็นการเริ่มต้นของนักถอดรหัส
.
ตอนนี้ที่สำนักงานจดหมายเหตุสหรัฐอเมริกา กำลังประกาศหา ‘ผู้มีพลังพิเศษ’ อย่างหนึ่งเข้ามาช่วยงานจัดการเอกสารเก่าเก็บหลายร้อยล้านชิ้นที่ถูกรวบรวมไว้ในคลัง โดยพลังพิเศษที่ว่านี้คือ ‘อ่านลายมือตัวเขียน’ (cursive)
.
ด้วยตัวเขียนหรือการเขียนแบบตัวอักษรติดกัน เป็นสิ่งที่เรามีโอกาสเห็นหรือถูกใช้งานน้อยเอามากๆ และการบันทึกเอกสารยาวๆ ก็หันมาใช้ระบบการพิมพ์เสียทั้งหมด นั่นจึงทำให้ทักษะที่เกี่ยวเนื่องอย่างการอ่านตัวเขียนออกค่อยๆ ลดตามกันไป
.
ในประกาศของทางจดหมายเหตุระบุว่า ต้องการอาสาสมัครมากกว่า 5,000 คน มาช่วยถอดความเอกสารเก่าจากศตวรรษที่ 19 (ถูกสแกนเก็บไว้เป็นไฟล์ดิจิตัล) ที่เขียนด้วยลายมือตัวเขียน มีจำนวนมากกว่า 300 ล้านชิ้น ที่มีทั้งบันทึกเงินบำนาญสงคราม บันทึกภาคสนามของทหาร บันทึการอพยพชาวญี่ปุ่น ไปจนกระทั่งสำมะโนประชากร
.
แน่นอนว่างานอาสาสมัครแบบนี้ไม่ได้มีค่าตอบแทนใด แต่ทางสำนักงานจดหมายเหตุได้หยอดคำหวานทิ้งท้ายว่า “การอ่านลายมือได้ถือเป็นพลังพิเศษ”
.
เหตุหนึ่งที่ทำให้การอ่านตัวเขียนเป็นพลังพิเศษ ก็อย่างที่เกริ่นว่างานเอกสารในปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการพิมพ์แทบจะหมดแล้ว และเรามีโอกาสเห็นการใช้ตัวเขียน (ทั้งด้วยลายมือและการพิมพ์) น้อยมากๆ มันจึงกลายเป็นความไม่คุ้นเคย ที่ทำให้เกิดอาการงุนงงเมื่อมาเห็นได้เหมือนกัน
.
มินับว่าลายมือแต่ละคนฉวัดเฉวียนไม่เหมือนกัน ก็ยิ่งเพิ่มระดับความยากเข้าไปอีก
.
แต่มากกว่านั้น ปัญหาเรื่องการเขียนตัวเขียนเคยเป็นประเด็นถกเถียงกันใหญ่โตทีเดียวในช่วง ค.ศ. 2010 ที่ทางการได้ปรับหลักสูตร Common Core ถอดการสอนคัดตัวเขียนออก เพื่อเอาวิชา ฟ.ห.ก.ด. พิมพ์สัมผัส เข้ามาแทนที่ ซึ่งมีทั้งกลุ่มเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
.
ผลสุดท้าย เรื่องมาลงเอยให้เป็นข้อกำหนดของแต่ละรัฐไป และปัจจุบันในสหรัฐมีเพียง 14 รัฐเท่านั้นที่สอนตัวเขียนอยู่ ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียได้ผ่านกฎหมายบังคับให้มีการสอนคัดลายมือตัวเขียนในชั้นประถม 1 - 6 โดยให้เหตุผลว่า เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถอ่านเอกสารประวัติศาสตร์จากแหล่งข้อมูลหลักหรือเอกสารดั้งเดิมได้ด้วยตัวเอง
.
เจมี่ แคนเทรลล์ (Jaime Cantrell) อาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่ Texas A&M Univeristy หนึ่งในอาสาสมัครที่เข้ารวมถอดความงานของสำนักงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เล่าว่า ตอนนี้เธอยังสอนลูกศิษย์ให้เขียนตัวเขียนอยู่ ในเวลาตรวจงานก็จะเขียนความเห็นติชมด้วยลายมือตัวเขียนตอบกลับนักศึกษา
.
อาจารย์ภาษาอังกฤษ อธิบายว่า แม้การเขียนแบบนี้อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุดในยุคนี้แล้ว แต่มันก็ยังถือเป็นทักษะจำเป็นสำหรับบางคนหรือบางอาชีพอยู่ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ มันเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ที่จะต้องพบลายมือตัวเขียน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ แนนซี ซัลลิแวน (Nancy Sullivan) เจ้าหน้าที่ของสำนักงานหอจดหมายเหตุ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงประเด็นนี้ว่า “การอ่านลายมือได้นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการถอดรหัสเก่า”
.
แถมท้ายอีกนิดเกี่ยวกับงานอ่านถอดความลายมือตัวเขียน คงมีคนสงสัยว่าสามารถใช้ AI ทำแทนได้ไหม ? ต่อเรื่องนี้ทางผู้ดูแลเอกสารได้ตอบว่า AI สามารถช่วยอ่านได้เพียงบางส่วน แต่ระบบที่มีก็ยังไม่เก่งฉกาจถึงขั้นถอดความได้หมดทุกตัวอักษร ถ้าเจอเส้นขีดทับ หมึกเลอะ หรือเอกสารที่พับมาจนยับยู่ยี่ก็ยังถอดความออกมาผิดเพี้ยน และไม่ว่าอย่างไรในขั้นตอนสุดท้าย ก็ยังต้องถูกตรวจทานโดยมนุษย์อยู่ดี
.
ใครอยากทดสอบว่าตัวเองมีพลังพิเศษหรือเปล่า ลองสมัครเป็นอาสาช่วยงานดูได้ที่
https://www.archives.gov/citizen-archivist/missionsCitizen Archivist Missions
https://shorturl.asia/v6DpeCan you read cursive? It’s a superpower the National Archives is looking for.
https://shorturl.asia/XsiEShttps://www.facebook.com/photo/?fbid=1204669854554682&set=a.811136570574681 
