สงครามจะเอาคนหรือเอาดินแดนมันก็แล้วแต่ว่ายุคนั้น คนหรือดินแดน อะไรมันสำคัญกว่ากัน
เช่นคนเหลือเฟือจนกำลังจะอดตายเพราะที่ดินผลิตอาหารไม่พอคุณจะไปตีประเทศ
เพื่อนบ้านเอาคนเพิ่มไหม ส่วนใหญ่ก็ยึดที่ดินแล้วจับผู้แพ้เป็นทาส แล้วส่งออกไม่ก็ใช้แรงงานจนตาย
ไทยเราสมัยก่อนรัฐบาลในระบอบกษัตย์ก็กังวลกับผู้อพยพชาวจีนพอสมควรนะ
ไปอ่านประวัติศาตร์ยุคกตัญญูประกาศิตนี่แซบชนิดเรื่องจริงทำเอาละครชิดซ้ายเลย
อย่างไทยปัจจุบันก็ต้องการประชากรเพิ่มเพราะที่มีอยู่มันไม่พอแต่ประชากรอพยพ
มันก็มาพร้อมกับปัญหาอั้งยี่ถ้าไม่คุ้มให้ดีชาวพม่ามีแนวโน้มจะมาเปิด Civil war ในไทยต่อ
[quote/]
ราชาเขาก็ไม่ได้ อยากได้ผู้อพยพ ที่เข้ามาโค่นบังลังค์ตัวเองนะครับ ส่วนใหญ่มันก็มากันเองทั้งนั้น ในโซมะยังบอกเลย
ปัญหาผู้อพยพ นี่เรื่องใหญ่เสมอ โดยเฉพาะถ้ามากันแบบจำนวนมากโซมะถึงแก้ด้วยการถ้าอยู่ให้ทิ้งเชื้อชาติเดิม
ไม่งั้นก็ไปซะ
คุณ
@DDAvatar อาจจะเข้าใจผิดนะครับ
เรื่องที่กษัตริย์ไทยกังวลเรื่องคนจีนอพยพเข้ามา อันนี้ไม่จริงนะครับ กลับกันในความเป็นจริงคือตรงกันข้ามครับ
กษัตริย์ไทยโดยเฉพาะในสมัย ร.3-ร.5 ชอบคนจีนที่อพยพเข้ามาเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าเอามาใช้เป็นแรงงานในการปลูกข้าวครับ
โดยเฉพาะกับที่ดินของคลองชลประทานที่พึ่งขุดใหม่อย่างรังสิต นครนายก พวกคลอง 1 2 3 ... เดิมเป็นพื้นที่นาของพวกเจ้าขุนมูลนายลูกท่านหลานเธอเพื่อส่งออกข้าวไปต่างประเทศ
แล้วแรงงานจีนนั้นมีราคาถูกกว่าใช้ระบบไพร่ครับ เพราะ ถ้าคุณใช้ไพร่ หมายถึงคุณต้องเลี้ยงข้าวไพร่ แถมไพร่ไม่มีแรงจูงใจทำงานด้วย สู้จ้างแรงงานจีนที่อพยพมาดีกว่าครับ
แม้มาถึงรัชสมัย ร.5 ที่มีการตรากฎหมายอั้งยี่ ซึ่งอั้งยี่ แปลว่า สมาคมลับของคนจีน เหตุผลคือระแวงคนรวมตัวเยอะๆครับ สมัยร.5 กบฎเยอะครับ
แต่ก็ยังนิยมใช้แรงงานจีนเช่นเดิมครับ เพราะมันถูก เพียงแต่เพราะสนธิสัญญาบาวริ่งที่ทำให้เอกชนสามารถค้าขายกับต่างชาติโดยไม่ผ่านท้องพระคลังอีกแล้ว
ทำให้คนจีนเริ่มลืมตาอ้าปาก บางคนก็เป็นเจ้าสัวแล้วก็ดำรงเป็นตระกูลเจ้าสัวใหญ่จนถึงปัจจุบัน(ตระกูลคนจีนที่รวยๆ ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วง ร.5)
การ Anti คนจีนจริงๆจังๆ คือ เริ่มในสมัยพระยามโนปกรณ์นิติธาดาครับ
พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเป็นคนร่างกฎหมายภัยคอมมิวนิสต์ขึ้นเป็นครั้งแรกครับ
จริงๆ ก็เพื่อกลั่นแกล้งอ.ปรีดีนั่นแหละ แต่ก็หางเลขใส่คนจีนไปด้วยในคราวเดียว