ถ้าเรื่ออ้อย ผมจะเล่าเรื่องที่ไม่ใช่วิชาการให้ฟัง เพราะมีคนมาด่าให้ฟัง สมัยก่อน
อ้อย ในตลาด จะมีอยู 2กลุ่มหลักๆ คือ อ้อยโรงงาน กับอ้อยที่ไม่ใช่อ้อยโรงงาน
อ้อยโรงงานคืออ้อยที่คนปลูกมีสัญญาซื้อขายกับโรงาน ซึ่งโรงงานทำไว้เพื่อ Secure คำสั่งซื้อ เพราะหากเกิดเรื่องไม่มีคนปลูกอ้อย ไม่มีน้ำตาลส่งให้คำสั่งซื้อโดนฟ้องตาย
กลุ่มนี้จะได้ราคาดีสุด แถมตัดแบบไม่เผา ได้ค่าลดคาร์บอนอีกไรล่ะเท่าไรไม่แน่ใจ
พใกนึ้โรงงานน้ำตาลช่วยดูแลเยอะ มีให้ใช้ยันรถตัดอ้อย บางคนปลูกเยอะ
ซื้อรถตัดอ้อยของตัวเองสะดวกกว่า ซึ่งกลุ่มนึ้ไม่มัปัญหาเรื่องเผา เพราะโรงงาน เขาช่วยดูแลเยอะ เพื่อคุณภาพน้ำตาล
กลุ่มที่2 คือพวกที่ไม่ใช่อ้อยโรงงาน ปลูกแล้วเแาไปส่งชั่งขายให้โรงงานกันเอง
ไม่ได้มีสัญญา ประกันราคาจากโรงงาน พวกนี้แหละปัญหา
และที่เป็นปัญหาคือ โรงงานก็ต้องเลี้ยงกลุ่มนี้เอาไว้ด้วย (ต้องรับซื้อนี่แหละ)
เพราะ พวกนี้ ตัวทำกำไร ยิ่งมีเยอะ ยิ่งซื้อได้ถูก กำไรดีกว่า อ้อยโรงงาน
ส่วนใหญ่คนปลูกไม่ได้มีเครื่องมือครบ หรือมีการช้วยเรื่องการตัดของโรงงาน ไม่มีเงินอุดหนุนตัดแบบ
ไม่เผา ปลูกเองตัดเอวขายเอง ราคาตามโรงงานตั้ง ซึ่งถ้าบอกว่าห้ามไม่รับ
งวดต่อๆ ไปกลุ่มนี้ไม่มีใครปลูกเลยล่ะก็ โรงงานร้อนคูดล่ะ เพราะกลุ่มอ้อยโรงงาน แม่งเล่นตัวได้เพราะ ไม่มีใครอื่นนอกจากพวกกุ ที่จะปลูกอ้อยส่งโรงงานเอ็ง
เรื่องเผายีงไงก็แก้ไม่ได้ง่ายๆ หลอกยกเว้น รัฐต้องลงมาแก้ตรง หารถตัดอ้อย ให้มีพอกับ คนปลูก
ไม่งั้นไม่มีทางแก้ได้ โรงงานต้องการคนปลูก ห้ามเผา คนปลูกอยู่ไม่ได้ สะเทือนคะแนน สส. สจ. อบต ทั้งหลาย แพ้กัน คะแนนเดียว ก็แพ้นะ
แถวบ้านเคยเห็นแพ้กัน ไป 3 คะแนน