- ผมควรบริจาคไตให้พี่ไหม?
- ใช่ ตรงตามตัวอักษรของหัวข้อเลยล่ะ
- พี่ชายผมโรคอ้วนกับเบาหวาน ส่วนหัวใจทำงานได้8-90%เพราะเคยเส้นเลือดตีบใส่สเตรนจ์หลอดเลือดหัวใจ เบาหวานมันทำให้ไตทำงานหนักบวกกับเคยเป็นไข้เลือดออกทำให้=โรคแทรกซ้อนจนระบบรวนจนไตเสื่อมเร็ว บวกกับไม่ค่อยกินยาครบตรงเวลาและกินตามอยาก
- ปีหน้า"ต้อง"เริ่มฟอกไตละเตรียมขยายเส้นเลือดเจาะ แต่อีกทางเลือกคือเปลี่ยนไต
- ถ้าจะเอาไตบริจาคคนอื่นมันก็นานแถมอาจไตไม่เข้ากัน แม่ก็คล้ายๆจะกดดันว่าถ้าไงผมให้ไตพี่ข้างนึงไหม
- ส่วนตัวคือ ไม่อยาก เพราะความสัมพันธ์ตอนนี้พี่เราไม่แย่แต่ก็แนวต่างคนต่างอยู่
- อย่างที่บอก ที่ถึงขั้นนี้คือพี่ไม่ดูแลสุขภาพตัวเองเลยเป็นโรคอ้วนตั้งแต่20 เพิ่ง30ก็เริ่มเบาหวานละ กินยาก็ให้แม่จัดให้แต่ก็กินไม่ครบไม่ตรง ห้ามกินนั่นก็แอบกิน เพราะเขาไปทำงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึงกลับทีเลยคุมการทานอาหารและยาพี่ชายไม่ได้จนมีส่วนให้อาการหนัก
- จะกลายเป็นว่าต่อให้ไตเราเข้ากันได้กว่าไตบริจาคคนอื่น พี่ชายผมก็อาจทำไตเราเสียเปล่า เพราะเบาหวานเขาก็หนักอยู่ ยาหลายตัวก็กระทบการทำงานไต ไปเร็วอยู่ดี ต่อให้ไม่มีปัญหาไต ด้านหัวใจ เบาหวาน พี่ยังไม่ค่อยดูแลให้ดีเลย
- และเราเองก็จะไม่เต็ม100อีก เงินก็ไม่ค่อยมี พี่ยังพอเบิกค่ายาได้เพราะเป็นข้าราชการ แต่ผมไม่ ถ้าบ้านรวยไม่ต้องห่วงเรื่องเงินผมคงไม่คิดมากนัก
- อย่าหาว่าเห็นแก่ตัวนะ คือ ผมก็เครียดเรื่องสุขภาพตัวเองนะ หลายสิบปีดูยาย แม่ กับพี่ ทุกคนผลัดไปหาหมอจนเห็นใครซัก1-2คนไปหาหมอแทบทุกอาทิตย์ กินยาเบาหวาน ความดัน หัวใจ เรียกว่ากรรมพันธ์ฝ่ายแม่ และเฝ้าตอนพวกเขาผ่าหัวใจกันทั้ง3คนด้วย
- หรือต่อให้ผมออกไปทางกรรมพันธ์สายของพ่อ ญาติฝ่ายพ่อก็สายมะเร็ง หลายคนเลย
- ตอนนี้โดยรวมปอดกับหัวใจผมยังดีแต่ค่าไขมันในเลือดสูง หมอเลยให้ยาลดไขมันมากินบอกไม่ต้องรอป่วย ( อนึ่งการกินยาลดไขมัน/น้ำตาลในเลือดอาจทานได้แม้ยังไม่ป่วยเป็นเบาหวานโรคอ้วนแต่ควรกินที่หมอแนะนำหรือสั่งให้ การซื้อยาตามร้านขายยาเองอาจผิดตัวแพ้หรือเกิดผลข้างเคียงต่างไปแต่ละบุคคล)
- แต่แค่ตอนนี้ยังดี ไม่ได้หมายความว่าปีหน้าหรืออนาคตกว่านั้น ผมจะยังสุขภาพดีอยู่เหมือนเดิม