ที่เขียนบทความนี้ก็มั่ว
กฏหมายราคาขนมปังละเฮ้ย มีจรรยาบันหน่อย
- ฝรั่งเศสขึ้นภาษีขนมปังและเกลือในช่วง2ปีกอนปฏิวัติซึ่งก็มาซ้ำเติมเท่านั้น หลักๆพี่แกดันไปช่วยหนุนอเมริกาปลดแอกอังกฤษ7ปีจนท้องพระคลังโล่งด้วย เลยต้องหาทางเติมท้องพระคลัง
- มีสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้ช่วงหลายปีนั้นยุโรปมีผลผลิตทางการเกษตรลดลง และมันฝรั่งก็ยังไม่เป็นที่นิยมอยู่
- ถ้าเอายุติธรรม ปัจจุบันฝรั่งเศสที่ไม่ใช่ราชวงศ์แล้วก็เปลี่ยนมาขูดรีดภาษี14แอฟริกาปีละ17ล้านล้านบาท แถมกดราคาทรัพยากรอย่าง ยูเรเนียมไนเจอร์ ฝรั่งเศสเอาฟรีไป97% แถม3%จ่ายกดราคา ตอนนี้แอฟริกาเลยจะปฏิวัติเช่นกัน แค่ไม่ใช่คนในฝรั่งเศสปฏิวัติ
- และเรื่องนี้บทความหัวเรื่อง เขาไม่ได้เน้นเรื่องอื่นที่จะเกี่ยวกับปฏิวัติฝรั่งเศสซะหน่อย เขาแค่พูดถึงตัวจริงของเค้กและขนมปังที่น่าจะเป็นในบทพูดคลาสสิคที่"คาดว่านางน่าจะพูดตอนนั้น" แบบจานโปรด นะ แต่ไม่ได้จะมาบ่นสาเหตุปฏิวัติฝรั่งเศสในตอนนั้น
- พวกผมลากโยงไปนอกเรื่องนอกบทความเขาเองต่างหาก? จะไปว่าคนลงบทความไม่มีจรรยาบรรณอะไรครับ?
หรือท่านหมายถึงบทความของท่านchinด้านล่าง? เขาก็กล่าวแก้ต่างเรื่องของพระมารีอังตัวเน็ตคนเดียวเฉยๆที่ว่าประโยคนี้อ้างว่ามีปีนั้นทั้งที่นางยัง9ขวบ แค่แก้ต่างที่บิดเบือนเรื่องเดียว ซึ่งถ้าจะให้พูดถ้าที่ท่านchinยกมาจริง เท่ากับเราหลงเฟคนิวส์ ใส่ร้ายคนๆนึงว่ามีส่วนทำให้ราชวงศ์ฝรั่งเศสล่มสลายเป็นเหตุผลนึงให้เกิดปฏิวัติ ทั้งที่นางไม่ได้พูด
- คือ ถ้าให้คนนึกถึงประโยคคลาสสิคในการปฏิวัติของฝรั่งเศส พนันว่ามีคนนึกถึงประโยคไม่มีขนมปังก็กินเค็ก ก่อนไปสนเรื่องภาษีขนมปังซะอีก ซึ่งถ้าใช่เท่ากับว่าบางทีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ที่ว่าเครื่องเพชรที่พระนางจะซื้อราคาขนาดซื้อเรือได้ จะจริงรึเปล่าก็ไม่แน่ด้วย
- คือ นางอาจแค่ซวยที่มาแต่งกับพระเจ้าหลุยส์ก็เป็นได้
- แต่ถ้าให้ยุติธรรม ขุนนางส่วนนึงที่มีอำนาจมากก็เสนอนโยบายนี้ให้พระเจ้าหลุยส์ยอมรับและให้ขุนนางไปทำ แต่พอปฏิวัติ ขุนนางที่เป็นคนเห็นด้วยและปฏิบัติตามบางส่วนก็ไปสนับสนุนกลุ่มปฏิวัติ(แต่บางส่วนถึงช่วยก็ถูกตัดหัวอยู่ดี บางส่วน)
- โทษตระกูลเดียวที่เด่นสุดมันง่ายกว่าไปโทษร้อยพันตระกูลที่มีส่วน ขุนนางยุคนั้น ประชาชนก็ไม่ได้เลือก และสุดท้ายคณะปฏิวัติเองลุแก่อำนาจก็สังหารประชาชนตายมากกว่าประชาชนที่ตายในสงครามปฏิวัติหลายเท่าเลยละครับ ก่อนนโปเลียนมา