[quote/]
[quote/]
ถ้าเทียบก็เหมือนกับเรียนวิชาการสมัยนี้นั่นแหล่ะ
ถ้าย้อนเวลากลับไป 1000 ปี สมมุติ อยู่เมืองคล้ายๆยุคมองโกลครองเมือง
เจอคนข้างบ้านโดนทหารมองโกลฆ่าตายแล้วยึดลูกเมียไป.....
คือถ้าอยู่ในสังคมแบบนั้น มันก็คงรู้สึกแหล่ะว่าถ้ามีวิชาก็กระทืบทหารมองโกลแล้วเผ่นได้
แต่ถ้าไม่มีลูกเมียก็โดน....
หลายเรื่อง ประเทศมันเลยมีการฆ่ากันปรกติ
เพราะงั้นคนมันเลยต้องฝึกวิชาป้องกันตัว
ยิ่งเด็กยิ่งดี
โดยเฉพาะเรื่องที่โลกนั้นเต็มไปด้วยคนที่มีพลังล้างเมืองแบบนั้น
มุกที่นักศึกษาเริ่มอ่อนแอน่าจะมาจากสมัยราชวงศ์ซ้อง
สมัยขงจื้อ การขับรถและการยิงธนูยังนับเป็นวิชขาบังคับของสายขงจื้อเลยว่างั้น

พระเอกสัประยุทธทะลุห้าถือว่าโชคดีมากๆที่ได้เกิดในตระกุลที่มีวิชาฝีมือ หากเป็นลูกชาวนาคงลำบากกว่านั้นเอามากๆ
แค่เจอหมาป่าปีศาจตัวเดียวบุกหมู่บบ้านก็ตายได้แล้ว
มีคนวิเคราะห์เมหือนกันว่า ราชวงศ์ที่เห้นว่าใหญ่โตในเรื่องอื่นๆ เทียบกับสำนักลึกลับแล้วยังด้อยกว่าในโลกที่เน้นวรยุทธ
[quote/]
ดาบมีได้ครับ แต่แพงกว่าบ้านอีก สมัยนี้ปืนยังหาง่ายกว่าดาบสมัยก่อนเยอะ ฃาวบ้านหันไปใฃ้ไม้คมแฝกแทน
คุณงามความดีของจิ๋นซีฮ่องเต้ มีดเล่มเดียวใช้สิบครัวเรือน
[quote/]
เป็ไปได้ครับที่ชาวบ้านจะถือดาบก็พวกโจรหรือแก็งนักเลงนอกกฏหมายไง
เรือ่งอุ้ยเสี่ยบวป้อบอกประมาณว่า
พวกค้าเลกือเถื่อน อยู่าดีกินดี มีนักบู๊ อาวุธก็พร้อมว่างั้น
สมัยก่อนชาวบ้านไม่รับอนุญาตให้มีดาบครับผม ในนิยายจีนหรือญี่ปุ่นพวกที่ชาวบ้านเดินถือดาบถือหอกกันสบายๆนี่เป็นไปไม่ได้ครับ เต็มที่ก็มีแค่มีดกับไม้เท่านั้นเองขนาดมือปราบของจีนก็ไม่ได้พกดาบกันทุกคนนะครับเพราะเหล็กมันแพง(ฮา)
เห้นว่าทางเทคนิคใช้ระบบลูกสืบต่อตำแหน่งพ่อน่ะครับ
ว่าหากพ่อเกษียณลุกก้ณับข้าวของสืบต่อๆกันมา
ไม่น่าจะมีใครมีเงินพอที่จะวื้ของใหม่สักเท่าไร
ไม่ต้องต่างโลกหรอกครับ
ถ้าหากว่าไปอยู่ในสถานที่ ที่การรักษากฏหมายไม่ดี ยังไงก็ต้องป้องกันตัวเองและครอบครัวให้ได้เป็นอย่างน้อย
คนสมัยก่อนเรียนมวยเรียนดาบ ไม่ใช่เพราะเป็นงานอดิเรก แต่เพราะเป็นความจำเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่ง
พวกนิยายอิเซไก ทั้งหลายไม่สมจริงอย่างมาก
เพราะความจริงพวกชาวบ้านธรรมดา ผู้ชายทุกคนจะต้องเรียนมวยเรียนดาบขั้นพื้นฐานเป็นอย่างต่ำ
เพราะชาวบัานต้องเจอทั้งเสือทั้งโจร นอกจากนี้ ผู้ชายทุกคนต้องหัดเดินป่า หาของป่า แกะรอย ล่าสัตว์
เพราะคนเราไม่ได้กินแต่ข้าว ป่าเป็นแหล่งที่มาของอาหารส่วนใหญ่เลย
ดังนั้นหากสมจริง พวกที่อิเซไก จะอ่อนแอกว่าชาวบ้าน ไม่ใช่เพราะร่างกาย แต่เพราะสามัญสำนึก(เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ)
เอาง่ายๆ พวกเราคนเมืองเจอขี้หมาในป่าจะมีกี่คนที่ จะจิ้มขึ้นมาดม
หากเป็นสมัยก่อนที่มีหมาป่าเป็นฝูงๆ เจอขี้หมาในป่าแต่ไม่รู้ว่าใหม่หรือเก่า วันถัดไปเราอาจจะกลายเป็นขี้หมากองใหม่เสียเอง
พรานป่าเกงๆชิมขี้หมาแล้วบอกได้ว่าใหม่เก่าแค่ไหน แต่สามาัญสำนึกพวกเราส่วนใหญ่ยังไงก็ไม่ทำ
พวกอิเซไกจะได้เปลียบจริงๆก็ต้องได้รับพรขั้นครึ่งเทพอะไรแบบนั้นเลย ไม่งั้นก็ต้องสกัดดินประสิวกับฟอสฟอรัสออกมาทำดินปืนได้เอง
ถ้าแค่ความรู้ครึ่งๆกลางๆบอกตามตรงว่าตายอย่างเขียด
ขึ้นอยู่กับว่ามีพลังพิเศษอะไรแบบไหนด้วยล่ะครับ
อย่างคนที่อาจจะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างน้อยก้มีวินัยบในตนเองที่จะฝึกซ้อมทุกวันได้ หากการฝึกซ้อมนั้นมันแสดงให้เราเห็นได้จริงว่าขั้นหนึ่งของสะสมปราณต่างกับขั้นสองของสะสมปราณ
หรือวิชาเวทย์แนวของรูดี้เกิดขชาตินี้พี่ต้องเทพ
คนตะวันตกก็เล่นมุกว่าต่างกับรูดี้ ที่เป็นคนสนใจในร่างกายมนุษย์อยู่แล้วกำลังศึกาาเรือ่งร่างกายมนุษย์ ทำให้ใช้เวทย์รักษาได้แต่หมายความวว่าก็ใช้เวทย์สั่งตายได้เช่นกัน
เพราะรู้เรือ่งอวัยวะคนดีกว่าคนในยุคนั้นๆ
แน่นอนันเป็นมุกว่า นั่นคือคนตะวันตกที่เข้าคอร์สวิศวกรรมการศึกษาตะวันตกที่เน้นเรื่องการค้นคว้าวิจัยมาแล้ว
เลยมีเคล้ดลับในงานวิจัยด้านวิศวกรรมต่างๆ
ต่างกับแนวโอตาคุตกงาน
....
ผมแซวในนิยายของผมล่ะครับว่า
เทพธิดาอิเซไค
มักให้พลังดกงกับชาวญี่ปุ่น
เพระาชาวญฐี่ปุ่นติดนิสัยทำตามกฎแม้มีพลังมากแค่ไหนก็จะมไ่ทำลายกฎของโลกนั้นๆ
ให้พลังพระเอกจีนคงไล่ฆ่าทุกคน
ให้พลังคนอเมริกัน คงเข็นกิโยติตออกมาไล่ฆ่าขุนนางในเรื่องเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพด้วยความรวดเร้วแน่นอน
ไปเจอมุกคนอเมริกันเขียนใน 4chan
ประมาณว่า แนวคิดอมเริกันต่างกับยุโรปกับญี่ปุ่น ว่าไม่สามารถทนคุกเข่าให้พวกขุนนาง faggot .นต่างโลกได้อย่างแน่นอนแค่คิดก็โทโหแล้วว่างั้น
เทพธิดาเลยเลือกอ้วนโอตาคุ ตกงาน เพระามีพลังมากพอแ่จะไม่เปลี่ยนแปลงโลกนั้นอย่างชาวอเมริกันหรือชาวจีน