ไม่ควรบ้าสิทธิมนุษย์ชนมากเกินไป ควรเอาความปลอดภัยมาก่อน เป็นบทเรียนสำคัญเลย
[quote/] ที่สมัยนี้มันปลอดภัยขึ้นเพราะว่า การคมนาคมกับการสื่อสารดีขึ้นต่างหากล่ะครับ สมัยก่อนฆ่าล้างบ้านไปกว่าข่าวจะไปถึงคนอื่นหรือตำรวจบางทีเป็นเดือน สมัยนี้มีมือถือกันทุกคนไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็รู้กันทั่วแล้วละครับ อาวุธปืนก็มีราคาถูกลงเดี๋ยวนี้คนไทยมีปืนในครอบครองเฉลี่ย 10 คน มีปืนอยู่ 4 คน ส่วนสมัยก่อนแทบจะ 1 ในร้อยที่มีปืน โจรมันเลยกล้าไงครับเพราะไม่ต้องกลัวจะถูกยิงสวน
ไม่ต้องบ้ามากก็ได้ งั้นผมเล่าอะไรให้ฟัง ไม่ต้องสนสิทธิอะไรก็ได้ กลับไปอยู่แบบยุคก่อนๆ
สมัยก่อนโจรผู้ร้าย สมัยเผ่าสียานน สะกดถูกป่าววะ
เขาจัดการผู้ร้าย หรือคนที่รัฐไม่ถูกใจยังไงน่ะเหรอ
ยิงทิ้งไง ญาติกันสมัยก่อนเป็น********* ต้องรับงานพวกนี้ แต่แกไม่ยอมทำต่อล่ะ เลยโดยบีบให้ออก
กลับไปอยู่ในยุคปลอดภัยแบบสมัยก่อนดีไหมนะ
ผมบอกไปหลายหนแล้วว่า พวกคุณอยู่ในที่สบายๆ คิดว่าโลกนี้มันมีแต่สายรุ้งกับยุนิคอน
ย้ายออกมาอยู่บ้านทุง ชายขอบๆ ห่างไกลซะบ้าง สิ เดียวก็รู้เองแหละว่ามันเป็นไง
บางทีมีแม้แต่ข่าวลือใน ว** ออกมาด้วยนะเพราะผมเคยบอกแล้วว่า
คนระดับล่างๆ นี่น่ะไปเป็นลูกน้องเจ้าพ่อ ที่ไหนที่หนึ่งก็ไม่ใช่น้อยๆ
อย่านึกว่าเขาไม่รู้กันว่า เรื่องไหนใครทำอะไรไว้
ญาติ กันลูกแกก็เคยทำงานใฟ้พวกนายพล *****
งานปกตินี่แหละไม่ใช่งานเถื่อน เรื่องใน *** นี่รู้เห็นมาไม่น้อย
เงินดีแต่อยู่ไม่ไหว
ผมเองก็ยังเพิ่งรู้ไม่นานว่าคนแถวบ้านนี่ก็ลูกน้องนักการเมืองดัง
พูดชื่อไปคงรู้จักกันนั่นแหละ เพราะทีวีพูดถึงบ่อย
ปัญหาเรื่อง นี้ คือญี่ปุ่นกำหนดขอบเขตุเสรี เกินไป ไปดูฝั่งยุโรปอเมริกาได้เลย
งานที่มีบุคคลสาธารณะไป นี่ มีรั้วแค่ไหนก็อยู่แค่นั้น นักข่าวยังไม่เดินว่อนแบบเมืองไทยด้วยซ้ำ
เพราะผิดคิวขึ้นมาโดนการ์ดกระทืบเอาได้ง่ายๆ สมัยก่อนมีประจำพวกการ์ดดารา ต่อยแฟนคลับ เพราะเข้ามาใกล้เกินระยะ แต่ไม่ค่อยออกข่าวทางบ้านเรา
ยิ่งนักการเมือง นี่ก็พอกัน เลยรั้วมา นี่เขาพุ่งเข้าชาร์จเลย เพราะอาวุธทางบ้านเขามันหาได้ง่ายกว่าทางเอเชีย
สรุป มันมีขอบเขต แต่ขอบเขตมันปรับลดมาอยู่ในระดับที่ไม่ปลอดภัยแล้วต่างหาก