[quote/]
- ฮ่า ลืมไปว่ามู้นี่ก็เคยถูกท่านก่อตั้งนี่นะ อุตส่าห์อยากเพลาๆไม่ไปด้านมู้โน้นซักพักเพราะโดนท่านโชคดำเตือนแล้วแท้ๆ 
- ผมไม่ได้ชอบเห็นผู้มีอำนาจมากกว่าบุกผู้มีอำนาจน้อยกว่า
- แต่ไอ้คนพูดแบบนี้ชอบมองแต่สงครามที่ตัวเองเข้าข้างอีกฝ่ายที่ก็ก่อสงครามกับชาติที่อ่อนแอกว่าเหมือนกันนะ แค่เพราะชาติที่โดนมหาอำนาจรุกรานนะ ปกครองไม่ถูกใจท่านท่านเลยไม่สนเท่านั้น
- 30ปีหลังโซเวียตล่มโซเวียตก็ไม่ได้ไปบุกใครจนยูเครน ในขณะที่อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และอื่นๆมีส่งทหารไปลุยในชาติที่อ่อนแอกว่า"ไม่เว้นแม้แต่ปีเดียว"
- หรือตั้งแต่ก่อตั้งอเมริกามา อเมริกาว่างเว้นทำสงครามนอก-ในอยู่7ปีมั้ง
- ถ้าคุณโอเคกับสังคมปลาใหญ่กินปลาเล็กของฝ่ายนึง ไม่ว่าเขา ก็เหมือนเห็นดีกับเห็นดีกับสังคมปลาใหญ่กินปลาเล็กแหละครับ ถ้าว่าก็ต้องว่าทั้งหมดอย่ามาว่าแค่ประเทศที่ไม่ถูกใจ
- อย่างที่ว่า คนตะวันตกไม่ใช่ทุกคนยังไม่เห็นฝ่ายตะวันตกดีเลิศ แล้วท่านที่ไม่ใช่คนตะวันตกมาอวยว่าทำไรไม่มีผิดนี่ =ท่านผิดแล้ว
- แล้วตอนเยอรมันนี่แล้วไงครับ? เวลาเดียวกับที่ท่านว่าอังกฤษตอนนั้นยังครองอาณานิคมกว่า40ประเทศเลยมั้ง(พม่าโดนผนวกเป็นแค่รัฐนึงของบริติชอินเดีย ฝรั่งเศสก็ครองแบ่งแอฟริกาใต้และอินโดจีนข้างไทย(ลาว กัมพูชา เวียดนามสิ้นสภาพ)
- ณ.ตอนนั้นที่ท่านว่าเยอรมันไม่รู้จักพอ ในโลกมีเหลืออยู่แค่"4ชาติรวมไทย"ด้วยที่ยังไม่โดนตกเป็นอาณานิคมของตะวันตก ตามที่ตะวันตกยุคหลังบอกเอง อย่ามาเถียงว่าไทยเราตกเป็นอาณานิคมไปแล้วลัะ ไปเถียงตะวันตกแทน
- ถ้าเอาตามท่านว่าท่านก็เชียร์พวกปลาใหญ่กินปลาเล็กตัวพ่อเลยนะ
30 ปี รัสเซียไม่บุกใคร ตลกเหอะครับ
รัสเซียบุกอัฟกานิสถาน แถมบุกเข้าก่อนเมกาเสียอีก ตั้งแต่ปี 1979 จนถึง 1989
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%95%E2%80%93%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9F%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99แล้วคุณสุทธชาก็ภูมิใจเหลือเกินนะครับที่เชื่อว่าไทยไม่ตกเป็นอาณานิคม จริงเหรอครับ? แน่ใจเหรอครับ?
สนธิสัญญาบาวริ่งเขียนว่าอะไรครับ?
1.คนในบังคับอังกฤษจะอยู่ภายใต้อำนาจควบคุมของกงศุลอังกฤษ (นี่คือการมอบสิทธิสภาพนอกอาณาเขตครั้งแรกของไทยตอนนั้นชื่อว่าสยาม)
ความหมายของ สิทธิสภาพนอกอาณาเขตคืออะไรครับ? ทราบมั้ย?
มันคือสภาพที่ได้รับการยกเว้นกฎหมายของประเทศนั้นๆ
กล่าวคือ ถ้าคนอังกฤษหรือคนในอาณานิคมอังกฤษทำผิดอะไร ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เขาขึ้นศาลของประเทศของเขาเอง
หลายคนคงคิดว่า ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา แต่อย่าลืมว่าอำนาจอธิปไตยเนี่ยมันประกอบด้วยอะไรครับ? บริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ
สมมุติว่าคนอังกฤษดักตีหัวคนสยามในสมัยนั้น แล้วตำรวจจับ ปรากฎว่ามันขึ้นศาลไทยไม่ได้นะครับ
ม้นต้องขึ้นศาลอังกฤษครับ แล้วคิดสิว่าเวลาเกิดข้อพิพาทฝ่ายใครจะได้เปรียบ ศาลอังกฤษก็มีสิทธิจะเข้าข้างคนอังกฤษและในบังคับอังกฤษ
ดังนั้นเขาสามารถตีหัวคนไทยฟรีๆ โดยที่ไม่ผิดอะไรเลย
นั่นหมายความว่า ประเทศของคุณไม่สามารถใช้อำนาจอธิปไตยที่เรียกว่าตุลาการได้แล้ว ประเทศของคุณไม่มีอำนาจอธิปไตยแล้ว
ดังนั้นในทางพฤตินัย เราเสียเอกราชไปแล้วครับ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้คนรุ่นหลังต่อมาต้องดิ้นรนหาทางแก้ไขสนธิสัญญาบาวริ่งไงครับ
2.ประเทศสยามไม่มีอำนาจในการกำหนด Rate ภาษีและค่าธรรมเนียมตามผู้ปกครองของสยามได้เอง ต้องเก็บตามที่ตกลงกับอังกฤษ ยกเลิกภาษีปากเรือต่างๆ
นี่ก็อีกเช่นกันว่า ประเทศไทยได้เสียอำนาจอธิปไตยในส่วนของบริหารไปแล้ว เพราะอำนาจการเก็บภาษีเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร
3.คนในบังคับอังกฤษมีสิทธิในการเช่าซื้อระยะยาว(Lease) ที่ดินต่างๆ ในไทย และคนอังกฤษและในบังคับของอังกฤษยังสามารถเดินทางเข้าออกสยามได้อย่างอิสระโดยมีหนังสือรับรองจากกงศุลเท่านั้น
(ไม่ต้องขอ VISA) และอังกฤษก็เช่าซื้อที่ดินไปทำเป็นสนามม้าต่างๆ อย่างที่เรารู้จัก
4.พ่อค้าอังกฤษและในบังคับของอังกฤษสามารถซื้อขายกับพ่อค้าเอกชนในสยามได้โดยที่ไม่มีตัวกลางอย่างท้องพระคลัง(น่าจะเป็นข้อดีข้อเดียว)
5.รัฐบาลสยามมีอำนาจในการยับยั้งการส่งออกสินค้า เช่น ข้าว เกลือ และปลา ในกรณีสยามเกิดขาดแคลนอาหาร
หลักๆก็ 5 ข้อนี้ แต่ประเด็นสำคัญ คือ ข้อ 1 ถึง ข้อ 3 ที่มันแสดงให้เห็นว่าต่อให้เราจะบอกว่าสยามไม่เสียเอกราช แต่ในทางพฤตินัยเราเสียเอกราชไปแล้ว
เราไม่มีอำนาจอธิปไตยในการบริหารประเทศสยามแล้ว อำนาจตุลาการเราไม่มี อำนาจบริหารในการกำหนดภาษีเองก็ไม่มี
ดังนั้นอังกฤษก็ตีพุงสบายแฮ ไม่ต้องส่งทหารเข้าไปรบ แต่ก็เสมือนได้อาณานิคมแล้วโดยทางพฤตินัย
เพราะคนกำหนด Rate ภาษีของไทยทั้งหมด คือ อังกฤษ จะตัดสินกฎหมายถูกผิดก็ขึ้นกับศาลอังกฤษ
Everything in Siam ถูกกำหนดโดยคนอังกฤษ ของคนอังกฤษและเพื่อคนอังกฤษ
แล้วเช่นนี้ยังจะอ้างเหรอว่าสยามไม่เสียเอกราช?
